ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 35
เจนสันพยักหน้ากลับไปตามเดิม
โรงเรียน ซิตี้เซ้าท์ มอนเตสซอรี่
เด็กน้อยร็อบบี้จ้องมองไปยังโรงเรียนที่ดูหรูหราโอ่อ่าตรงหน้า ก่อนที่นัยน์ตาจะทอประกายแสงแห่งความตื่นเต้นออกมาชัดเจน “ที่นี่คือโรงเรียนของพวกเด็กรวย ๆ สินะ?”
เมื่อหนุ่มน้อยก้าวเท้าเข้ายังยังโรงเรียนด้านหน้า ก็มีเพื่อนนักเรียนสองสามคนเดินผ่านกระแทกไหล่ของเขาไป เด็กพวกนั้นคงคิดว่าร็อบบี้น้อยคือเจนสันผู้เงียบครึมซึ่งง่ายต่อการกลั่นแกล้ง
พวกเขาเริ่มเคลื่อนตัวมาล้อมร่างของร็อบบี้ไว้ ก่อนเอ่ยกลั้วหัวเราะ “นี่พวกนายดูสิ ไอ้เด็กประหลาดมันมาเรียนอีกแล้ว”
ร็อบบี้น้อยเริ่มมีน้ำโห นี่คงเป็นวิธีที่พวกนายรุมแกล้งเจนสันสินะ
เจนสันคือพี่น้องของเขา ร็อบบี้จะไม่ยอมให้ใครมาแกล้งเจนสันเด็ดขาด
เด็กชายพุ่งเข้าใส่กลุ่มเพื่อนร่วมห้องอย่างไม่เกรียงกลัว ก่อนคำรามเสียงดัง “ขอโทษเดี๋ยวนี้!”
ทว่าเด็ก ๆ เหล่านั้นกลับหัวเราะออกมาเสียงดัง หนึ่งในเด็กที่ดูตัวสูงใหญ่ และยากที่จะต่อกรกว่าเด็กคนอื่นก้าวเท้าออกมาพร้อมใช้มือผลักร็อบบี้อย่างแรง พลางเต๊ะท่าคุกคามขู่ขวัญร็อบบี้น้อยให้กลัว “นี่ไอ้ขี้แพ้ ถ้านายอยากให้พวกเราขอโทษ ก็คลานมากอดขาขอร้องฉันสิ”
ร็อบบี้นั้นได้เรียนศิลปะการต่อสู้อย่าง เทควันโด้มาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ทำให้ร่างกายของเขาค่อนข้างแข็งแรง เด็กชายไม่แม้แต่จะขยับหลบเมื่อเด็กร่างยักษ์พุ่งเข้ามาผลักตน
โดยปกติเมื่อไหร่ก็ตามที่เจนสันพาตัวเองมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ เขามันจะค่อย ๆ พาตัวเองหลบออกมาจากความวุ่นวายตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทว่า ยิ่งหนีมากเท่าไหร่ เด็กกลุ่มนี้ก็ยิ่งแกล้งเขาหนักขึ้นกว่าเดิม
เพราะแบบนี้จึงทำให้เกิดวงจรแย่ ๆ แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งที่เจนสันมาโรงเรียน กลุ่มเด็กเกเรพวกนี้จะคอยดักเล่นงานเขาเสมอ เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกเริ่มอัดแน่นขึ้นจนเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังและต่อต้านการมาโรงเรียน
ทว่าร็อบบี้น้อยกลับต่างออกไป ร็อบบี้มีนิสัยที่เข้มแข็ง แน่วแน่ เจ้าตัวชอบที่จะได้เล่นกับเพื่อน และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับร็อบบี้คือเมื่อโรงเรียนเริ่มกลายเป็นที่ ๆ น่าเบื่อ ไม่มีอะไรให้ทำ
เจ้ายักษ์อ้วนคนเดิมก้าวเท้าออกมาหาร็อบบี้ก่อนจะยื่นเหยียดขาของตน นิ้วป้อมชี้ลงไปที่ลงไปด้านล่างก่อนจะออกคำสั่ง “ไอ้ขี้แพ้ คลานมาซะ แล้ววันนี้ฉันจะปล่อยนายไป”
ร็อบบี้น้อยเหวี่ยงกระเป๋าเป้ลงบนพื้นทันควัน
เด็กคนอื่น ๆ ต่างพากันคิดว่าเด็กชายจะก้มตัวลงไปคลานกอดขาหัวหน้าแก็งตัวอ้วน พวกเขาจึงพากันปรบมือส่งเสียงร้องเชียร์เสียงดัง “คลานเลย คลานเลย คลานเลย…”
ทว่าทุกเสียงกลับต้องเงียบลงอย่างฉับพลัน จากภาพลูกเตะย่อสกัดขาคู่ต่อสู้ของร็อบบี้ ผลที่ตามมาคือร่างอ้วนของหัวโจ๋กที่พลาดท่าล้มลงไปนอนกับพื้นในเพียงลูกเตะเดียวเท่านั้น ก่อนที่จะเริ่มร้องไห้ออกมาทันที
เมื่อเห็นว่าหัวหน้ากลุ่มพลาดท่า เด็กคนอื่น ๆ จึงห้อมล้อมร็อบบี้ไว้ แทบจะเป็นห้าต่อหนึ่ง มันคือที่หมาของคำว่าหมาหมู่ ร็อบบี้สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะปล่อยลุกเตะออกไปอีกครั้งจนทำให้ห้าคนนั้นล้มลงไปนอนร่ำไห้ไม่ต่างจากเด็กยักษ์อ้วน
เด็กชายเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าเป้นักเรียนขึ้นมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะเอ่ยปากขู่เสียงแข็ง “ที่ฉันไม่เคยโต้ตอบพวกนายไม่ใช่เพราะว่าฉันกลัว ฉันแค่ไม่อยากมีเรื่อง ถ้าพวกนายเรียกฉันว่าไอ้ขี้แพ้อีก นายเจอดีแน่ ฉันจะไม่บอกครู ฉันจะใช้หมัดของฉันจบเรื่องกับพวกนายเอง”
การโต้กลับด้วยหมัดและลูกเตะของร็อบบี้สร้างบาดแผลให้เด็กทั้งกลุ่มทั้งกายและใจ จมูกที่แดกเถือก ใบหน้าที่ช้ำบวม ทั้งหมดต่างพากันร้องไห้ไปฟ้องคุณครู
ร็อบบี้น้อยแลบลิ้นใส่พลางเอ่ย “ใครกันแน่ที่เป็นไอ้ขี้แพ้?”
เขารู้สึกว่าตัวเองได้ช่วยทำลายบรรยากาศแย่ ๆ ให้เจนสันไปแล้ววันนี้ และยังสงสัยเหลือเกินว่ากลุ่มขาโจ๋พวกนี้จะยังกล้าเข้ามาตอแยรังควาญเจนสันอยู่ไหม
ไม่นานนัก เด็กน้อยก็โดนเรียกไปพบคุณครูที่ห้อง
ดวงตาคมของคุณครูเต็มไปด้วยความกังวล สิ่งที่เธอเกรงกลัวคืออำนาจของครอบครัวเด็กอ้วนและแก็งเด็กโจ๋ซึ่งค่อนข้างมีอิทธิพล ซึ่งต่างออกไปจากเจนสัน ผู้ซึ่งเข้ามาใช้ชีวิตในโรงเรียนด้วยพื้นเพของครอบครัวที่เรียกได้ว่า ธรรมดาสามัญ เธอจึงเลือกที่จะเทน้ำหนักไปที่เจนสันแทน
“เจนสัน ทำไหมถึงทำร้ายเพื่อน?” ครูสาวหันไปถามเจนสันด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก
ขณะที่เด็กน้อยร็อบบี้กำลังคิดหาเหตุผลดี ๆ เขากลับได้ยินเสียงครูถอนหายใจออกมา เธอบ่นพึมพำพลางหายใจ “เด็กอย่างเธออยู่ที่นี่ต่อไปก็มีแต่จะสร้างปัญหา”
“เจนสัน โทรหาผู้ปกครองของเธอ บอกให้พวกเขามาพบฉันที่โรงเรียน” คุณครูเอ่ยตัดสินก่อนบอกให้เขาโทรหาพ่อกับแม่