ตอนที่ 55 โคจรพลังธรรมชาติ

Game of the World Tree

(T/N: มีการปรับคำแปลเล็กน้อยนะคะ เดินลมปราณ –> โคจรพลัง // ปราณ –> เวท)

“การโคจรพลัง?”

หลี่มู่และเดมาเซียล้วนชะงักเมื่อได้ยินดังว่า

แววตาของเดมาเซียพลันฉายแววตื่นเต้น

“ไอ้นี่มันวิชาลับเหมือนในเกมอื่นใช่ป่ะ!”

นกกาเหว่าพิจารณาศิลาจารึกในมืออย่างรอบคอบ พยักหน้าครั้งหนึ่ง แล้วจึงส่ายศีรษะเป็นเชิงปฏิเสธ

“ไม่ค่ะ เหมือนจะเป็นวิธีฝึกพลังเวทมากกว่า…”

“นั่นไง! วิชาลับจริงด้วย!!”

เดมาเซียตบเข่าฉาดด้วยความตื่นเต้น

สายอาชีพนักรบต้องใช้พลังเวทในการเรียกใช้ทักษะบางส่วน การฝึกพลังเวทจึงมีประโยชน์ต่อเดมาเซียในระดับหนึ่ง

“ฝึกพลังเวท?”

หลี่มู่ตาเป็นประกายเช่นเดียวกับสหายของตน

พลังเวทถือเป็นขุมพลังของดรูอิด

“แต่ว่า เราทำได้แค่อ่านมันแบบคร่าว ๆ นะคะ ยังไงลองไปหาอลิซเพื่อถามรายละเอียดเชิงลึกดีกว่าค่ะ”

นกกาเหว่ากล่าว

เอลฟ์สาวลังเลอยู่ครู่นึ่ง ก่อนจะถามขึ้นด้วยความเอียงอาย

“คือ… ถ้าอลิซช่วยถอดความหมายจารึกพวกนี้แล้วถ่ายทอดวิชาให้… รบกวนช่วยสอนเราด้วยได้ไหมคะ?”

หลี่มู่และเดมาเซียสบตากัน ก่อนจะตอบกลับพร้อมยิ้มกว้าง

“แน่นอน!”

เอลฟ์หนุ่มทั้งสองต่างมุ่งหน้าไปหาอลิซด้วยความเร่งรีบ

ภายในห้องโถง ณ วิหารแห่งธรรมชาติ

“วิธีโคจรพลัง?”

นักบวชสาวหยุดการทำความสะอาดรูปปั้นเมื่อได้ยินเรื่องเล่าจากหลี่มู่

อลิซหันมามองเอลฟ์หนุ่ม พลางรับศิลาจารึกมาพิจารณาอย่างละเอียด

เธอเผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปีติหลังจากที่ผ่านไปครู่หนึ่ง

“สิ่งนี้คือวิธีโคจรพลังจริงด้วยค่ะ! มันคือวิชา “โคจรพลังธรรมชาติ” ที่สูญหายไปในอดีต! สามารถใช้พัฒนาพลังจนถึงช่วงระดับเงินขั้นสูงเลยค่ะ! วิชานี้มีประสิทธิภาพสูงมาก ช่วยเพิ่มพลังเวทแถมยังเพิ่มความเข้ากันได้กับพลังธรรมชาติค่ะ!”

เป็นวิชาโคจรพลังจริงด้วย! แถมยังใช้ได้จนกว่าจะถึงระดับเงินขั้นสูง!

หลี่มู่และเดมาเซียรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก

พวกเขาทราบว่าเลเวลสูงสุดในเกมเวอร์ชันปัจจุบันคือเลเวล 40 ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของระดับเหล็กขั้นสูง!

ถ้าวิชานี้สามารถใช้ได้จนถึงระดับเงินขั้นสูง นั่นหมายถึงการที่พวกเขาจะใช้วิชานี้ได้จนถึงเวอร์ชันถัดไป!

เป็นเคล็ดวิชาที่แกร่งกล้ายิ่งนัก!!

“งั้น.. ผมขอถามนิดนึง เราจะได้สิ่งใดจากการส่งมอบแผ่นจารึกนี้? จะว่าไป พอจะถ่ายทอดวิชานี้ให้พวกเราได้ไหมครับ?”

เอลฟ์หนุ่มพากันถามด้วยความคาดหวัง

อลิซจ้องมองแผ่นศิลาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายศีรษะเบา ๆ

“ไม่มีทางเรียนวิชานี้เลยค่ะ เพราะจารึกในส่วนของข้อมูลสำคัญมันเลือนลางเกินไป ข้าจึงไม่สามารถทำความเข้าใจเนื้อหาของเคล็ดวิชานี้ และสำหรับรางวัล… ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน พวกท่านจะทราบเมื่อบวงสรวงสิ่งนี้แด่พระมารดาค่ะ”

หลังจากที่ได้สนทนากับเหล่าผู้ถูกเลือกอยูหลายวัน อลิซได้รับรู้ว่าพวกเขาและพระมารดามีความรูปแบบความสัมพันธ์บางอย่าง… คล้าย ๆ กับการแลกเปลี่ยน

เมื่อผู้ถูกเลือกทำภารกิจลุล่วงตามเป้าหมาย พระมารดาจะมอบพลังให้กับพวกเขา

สิ่งนี้ทำให้อลิซเข้าใจสาเหตุที่บรรดาผู้ถูกเลือกต่างทุ่มเททำงานอย่างหนัก แม้พวกเขาจะดูไม่ค่อยศรัทธาในพระมารดา

ผู้ถูกเลือกส่วนใหญ่มีความกระหายในพลังอย่างแรงกล้า พวกเขาต่างปรารถนาในความแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกมนุษย์

“อ๋า… ไม่ได้เหรอ…”

หลี่มู่และเดมาเซียดูห่อเหียวโดยพลัน

อลิซชะงักอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นความผิดหวังของหลี่มู่ ก่อนจะกล่าวขึ้นมาด้วยความลังเล

“…พระมารดาอาจจะซ่อมแซมจารึกพวกนี้ได้นะคะ ในระหว่างการบวงสรวง อาจจะลองภาวนาเพื่ออธิษฐานให้ท่านช่วยซ่อมให้ค่ะ”

อลิซชำเลืองมองหลี่มู่พลางลอบคิดบางสิ่ง

บางที… นี่อาจจะเป็นโอกาสให้เหล่าผู้ถูกเลือกยอมรับในพลังแห่งธรรมชาติ แล้วกลายมาเป็นสาวก…

อธิษฐานต่อเทพธิดา?

หลี่มู่และเดมาเซียจ้องมองกันและกันอย่างตื่นเต้น

เอลฟ์หนุ่มทั้งสองไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกเผยแผ่ความเชื่ออย่างแนบเนียน

เดมาเซียขยับตัวเข้ามาข้างหลี่มู่และกระซิบด้วยความลิงโลด

“เควสเนื้อเรื่องแหงพี่มู่! เอาชื่อเสียงของชั้นในฐานะผู้เริ่มเควสหลักเป็นประกัน! ดีไม่ดีรางวัลจะเป็นเคล็ดวิชาอันนี้!”

หลี่มู่เกิดความคาดหวังอย่างยิ่งยวดเมื่อได้ฟังเดมาเซีย

เขามีความเห็นคล้ายคลึงกับสหายของตน

เอลฟ์หนุ่มทั้งสองพยักหน้าอย่างเห็นพ้องต้องกัน

“ถ้าเช่นนั้น คงต้องรบกวนคุณอลิซช่วยเตรียมวงเวทบวงสรวงครับ”

หลี่มู่ไหว้วานอลิซด้วยความเคารพ

นักบวชสาวพยักหน้ารับคำ

“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”

การที่สาวกและเทพอยู่ในภพเดียวกัน จะมีข้อดีอย่างมหาศาลต่อพลังงานที่จำเป็นต้องใช้ในการบวงสรวง

อีฟสามารถรับการบวงสรวงด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ในปริมาณน้อย และเหล่าสาวกก็สามารถบวงสรวงด้วยพลังในปริมาณน้อยเช่นกัน

ตราบใดที่อีฟยังไม่เบื่อหน่าย เหล่าสาวกย่อมสามารถบวงสรวงได้ทุกวัน

อลิซวาดวงเวทบวงสรวงภายในเวลาอันสั้น

เธอภาวนาแด่มหาพฤกษา และรอการตอบกลับของเทพธิดา…

อีฟสัมผัสได้ถึงการสั่นสะเทือนของกลุ่มแสงเมื่ออลิซเริ่มการภาวนา จึงหยุดซ่อมแซมลูกแก้วกักเก็บวิญญาณ ก่อนจะเบนความสนใจมาด้วยความฉงน

“อลิซ? กำลังจะบวงสรวงอะไรมาน่ะ?”

ความตื่นเต้นบังเกิดในใจของอีฟ

“หรือว่า… พวกผู้เล่นจะเจอบางสิ่งในโบราณสถาน?”

คิดได้ดังว่า อีฟจึงเปิดช่องทางบวงสรวงเพื่อรับเครื่องสังเวยจากนักบวชแห่งธรรมชาติ

แสงพลันปะทุขึ้นวูบหนึ่ง พร้อมกับแผ่นศิลาจำนวนมากที่ปรากฏขึ้นในห้วงมิติปัจเจกของเทพธิดา

“เหะ? แผ่นหิน?‘

อีฟอุทานพลางตรวจสอบพวกมันด้วยความสนใจ

“เขียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเอลฟ์ล่ะค่ะ!”

เทพธิดารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“เอ๋? เขียนเกี่ยวกับวิธีพัฒนาพลังด้วย!”

อีฟรู้สึกตื่นเต้นระคนยินดีเมื่อได้เห็นเนื้อความในจารึกแผ่นหนึ่ง

แม้เนื้อหาเกี่ยวกับการโคจรพลังในศิลาจารึกแผ่นนี้จะขาดหายไปบางส่วน แต่อีฟสามารถซ่อมแซมมันได้อย่างง่ายดายด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของตน แถมกระบวนการนี้ยังใช้พลังแค่เพียงเล็กน้อย

นอกจากนี้ อีฟยังสามารถพัฒนาวิธีโคจรพลังที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้วิธีในจารึกมาเป็นต้นแบบ!

แต่เทพธิดาเลือกที่จะยังไม่สร้างมันขึ้นมาในเวลานี้ เนื่องจากเลเวลของบรรดาผู้เล่นยังไม่สูงพอที่จะใช้งานมัน การฟื้นฟูเคล็ดวิชาโคจรพลังสำหรับการใช้งานของผู้เล่นจึงใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่ถึง 1 แต้มเท่านั้น

คิดได้ดังนั้น อีฟจึงเริ่มจ่ายพลังออกไป และเคล็ดวิชาก็ถูกฟื้นฟูในทันที

ทั้งสองคน เก่งมากค่า–!!

อีฟพึงพอใจอย่างยิ่งยวดเมื่อเห็นแผ่นศิลาที่ลอยอยู่เบื้องหน้า

เทพธิดากวาดมือเพื่อใช้พลังศักดิ์สิทธิ์อย่างใจกว้าง…

หน้าต่างแจ้งเตือนจากระบบพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหลี่มู่และเดมาเซีย เนื้อความระบุว่าพวกเขาทั้งสองคนได้บรรลุเป้าหมายของภารกิจ และได้รับรางวัลเป็นค่าประสบการณ์ 3,000 หน่วยกับค่าผลงานอีก 500 แต้ม

“จ– จบแล้ว?”

เอลฟ์หนุ่มทั้งสองต่างตื่นตะลึงเมื่อเห็นข้อความจากระบบ

“ช่องทางบวงสรวงยังเปิดอยู่นะคะ พระมารดาจะได้ยินคำภาวนาของพวกท่าน อธิษฐานเร็วค่ะ”

นัยน์ตาของหลี่มู่ฉายแววขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงของอลิซ

เขานั่งคุกเข่าลงด้วยท่าทางที่เห็นจากนักบวชสาว ปลายนิ้ววาดสัญลักษณ์ของพระมารดาแห่งธรรมชาติในระดับอก พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ขอสรรเสริญพระมารดาแห่งธรรมชาติ เทพธิดาแห่งสรรพชีวิต ผู้ปกครองแห่งปวงเอลฟ์ – อีฟ อึกก์ดราซิลล์! ท่านเทพธิดาผู้งดงามและสูงศักดิ์ โปรดช่วยพวกเราฟื้นฟูเคล็ดวิชาโคจรพลังธรรมชาติ และถ่ายทอดวิชานั้นให้กับพวกเราด้วยเถิด!”

อีฟได้ยินคำขอของหลี่มู่ผ่านความว่างเปล่า

เทพธิดาชะงักเล็กน้อยพลางไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

อีฟลอบยิ้มเมื่อเห็นท่าทางการภาวนาที่จริงจังของหลี่มู่

“พวกนายนี่… ปรับตัวกันเร็วจริงนะ”

ถึงแม้การกระทำของหลี่มู่จะเป็นการแสดง ทว่าสีหน้าท่าทางของเขาดูราวกับเหล่าสาวกผู้ศรัทธา

ต่อให้หลี่มู่ไม่ได้อธิษฐานออกมา อีฟก็ตั้งใจว่าจะมอบเคล็ดวิชานี้ให้กับบรรดาผู้เล่นเมื่อตนได้ปรับปรุงพวกมันจนเสร็จ

อีฟไม่กังวลว่าการถ่ายทอดวิชาที่ใช้บ่มเพาะพลังในโลกของซากัสจะส่งผลต่อสถานการณ์ในฝั่งดาวเคราะห์สีน้ำเงิน

เนื่องจากฝั่งดาวเคราะห์น้ำเงินมีระดับพลังงานที่น้อยเกินกว่าจะใช้สนับสนุนการบ่มเพาะพลัง ซึ่งถ้านำการโคจรพลังนี้ไปใช้ในโลกอีกฝั่ง อย่างมากก็คงเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายเท่านั้น

แน่นอนว่าผู้เล่นจำเป็นต้องจ่ายค่าผลงานเพื่อเรียนเคล็ดวิชานี้

อีฟตั้งใจว่าจะนำวิชาเข้าไปบรรจุไว้ในร้านแลกเปลี่ยน แต่เมื่อหลี่มู่ขอให้ตนช่วยถ่ายทอดวิชาให้ อีฟจึงตัดสินใจมอบวิชาให้กับผู้เล่นทั้งสองในฐานะที่เป็นผู้ค้นพบมัน

“ผลงานนี้ใหญ่หลวงนัก ควรค่าแก่การปูนบำเหน็จเจ็ดขั้นค่ะ–”

อีฟแปลเคล็ดวิชาโคจรพลังธรรมชาติให้เป็นภาษาจีนและส่งพวกมันเข้าสู่จอเกมของเดมาเซียและหลี่มู่ ก่อนจะเปิดใช้ระบบแลกเปลี่ยนเคล็ดวิชาพร้อมกับระบบช่วยฝึกฝนอย่างเป็นทางการ

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

T/N: ถ้าตามสูตรเกมจีน ยิ่งโคจรตามที่สูง ๆ ก็ยิ่งได้ EXP เยอะค่ะ

ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ

Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _