ตอนที่ 232 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 3

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 232 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 3

สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จักรพรรดิก็ได้รับผลการตรวจสอบจากทีมนักวิจัย

ทันทีที่เห็นผลการตรวจสอบ น้ำชาที่จิบอยู่ก็แทบจะพุ่งออกมาด้วยความตกตะลึง

“ของเหลวในท่อต่อขาของเอเลี่ยนตั๊กแตนงั้นเหรอ? มันคืออะไร?” จักรพรรดิจ้องมองผลการรายงานอย่างละเอียดถี่ถ้วน “ของเหลวนั้นทำปฏิกิริยาทางเคมีกับต้นอ้อยจนแปรสภาพเป็นพลังงานงั้นเหรอ?”

“องค์หญิงสามเป็นคนรับสั่งให้เทของเหลวจากเอเลี่ยนตั๊กแตนลงไปที่ไร่อ้อยสินะ” เมื่อจักรพรรดิอ่านข้อความดังกล่าว ปากของเขาก็เปิดกว้างเกินกว่าใคร

รู้สึกภาคภูมิใจไม่ไหว!

เขารู้ดีว่าจะต้องมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับลูกสาวสุดที่รักของเขา ใครเล่าจะมานั่งขายเนื้อเอเลี่ยนตั๊กแตนเช่นนี้ ยกเว้นลูกสาวของเขา? ของเหลวจากเอเลี่ยนตั๊กแตนจะถูกค้นพบได้อย่างไรหากเนื้อตั๊กแตนไม่ถูกขายออกไป?

แม้แต่เอเลี่ยนเกอหลัวยังถูกฝีมือการทำอาหารของลูกสาวดึงดูด หึหึ!

ทุกอย่างล้วนมีเหตุผล และเกี่ยวข้องกับลูกสาวของเขา! หึหึหึ!

จักรพรรดิฮัมเพลงอย่างภาคภูมิใจ ลุกขึ้นยืนด้วยความพอใจ และส่งสัญญาณคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์หาลูกสาว เขาต้องการพูดคุยกับลูกสาวสักสองสามคำและมอบรางวัลให้แก่เธอ!

ขณะเดียวกันสวี่หลิงอวิ๋นกำลังนอนหลับอยู่บนยานอวกาศ โดยมีโอคาซีนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านข้าง

ทันทีที่คอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ปลุกสวี่หลิงอวิ๋นจนตื่น เธอก็ตอบรับทางวิดีโอด้วยอาการงุนงง และเหลือบมองใบหน้าของผู้เป็นพ่ออันเป็นที่รักที่ปรากฏอยู่ด้านหน้า

เขากำลังจะกล่าวคำหวานสองสามคำเมื่อเห็นว่าลูกสาวที่กำลังหลับใหลมีใบหน้าสับสน แต่สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไปเมื่อมือคู่หนึ่งของผู้ชายก็เอาผ้าห่มมาคลุมให้ลูกสาว

“โอคาซีเหรอ?! ทำไมเจ้าไม่กลับไปต่อสู้กับเอเลี่ยนบนดาวเคราะห์ของเจ้าซะ?!” ตอนนี้จักรพรรดิดูเหมือนหมูตอนที่กำลังโค้งตัวลงไปเคี้ยวผักกาดขาว แสดงท่าทางอย่างโกรธจัด

โอคาซีก็ทำอะไรไม่ถูก และหันเครื่องคอมพิวเตอร์เข้ามาหาตนเอง “กระหม่อมจะไปส่งองค์หญิงสามที่สถาบันก่อน แล้วค่อยกลับไปที่ดาวเคราะห์เลขที่เอหกหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“ฮึ่ม! เดี๋ยวก็ถึงแล้ว!” จักรพรรดิฟึดฟัด

สวี่หลิงอวิ๋นยืดตัวนั่งตรง และจ้องมองพ่อผู้แก่ชราในคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ด้วยสายตาง่วงเหงาหาวนอน “เสด็จพ่อ ทำไมถึงโทรมาหาลูกอีกล่ะเพคะ?”

“โอ้ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่พ่อไม่ได้เจอหน้าลูกนานแล้วไม่ใช่เหรอ?!” สีหน้าของจักรพรรดิเปลี่ยนไปในทันที ทั้งที่ก่อนหน้าเขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดทักทายโอคาซี แต่กลับทักทายลูกสาวด้วยรอยยิ้มที่แสดงถึงความรัก

“ลูกรัก บ่ายนี้ลูกจะกลับมาบ้านไหม? อีกสองวันลูกพี่ลูกน้องวินเซอร์จะแวะมาเยี่ยมเราที่บ้าน ถึงตอนนั้นลูกมาอยู่เป็นเพื่อนวินเซอร์ดีไหม?”

จะได้เลิกตามติดโอคาซีคนนี้เสียที!

พ่อผู้แก่ชราจ้องมองลูกสาวด้วยสายตาโศกเศร้า น้ำตาของเขาแทบจะเอ่อล้นออกมาเมื่อครุ่นคิดว่าลูกสาวกำลังจะแต่งงานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า!

ฮึ่ม! มันคงดีกว่านี้หากไม่มีลูกสาว ต้องมานั่งจ้องมองลูกสาวแต่งเข้าบ้านของคนอื่นตาปริบ ๆ ฮือ ๆๆ!

“ลูกพี่ลูกน้อง?” สวี่หลิงอวิ๋นระลึกความทรงจำในสมองและนึกถึงเด็กคนหนึ่งที่มีอายุประมาณสิบสองถึงสิบสามปี สวมใส่ชุดกระโปรงเจ้าหญิงด้วยใบหน้าเย่อหยิ่งราวกับนกยูงรำแพนหาง ลูกพี่ลูกน้องวินเซอร์ที่ได้รับการยกย่องจากทุกคนว่ามีรูปลักษณ์ที่สง่างามสมกับการเป็นองค์หญิงน่ะเหรอ?

นั่นคือการผสมผสานระหว่างการเสแสร้งทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์กับการอ้อร้อต่างหาก!

แน่นอนว่านี่คือการรับรู้ของเจ้าของร่างเดิมที่มีต่อลูกพี่ลูกน้องคนนี้ หลังจากผ่านมาหลายปี ไม่รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องผู้สง่างามและมีสติปัญญาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

“เธอมาที่นี่ทำไมเพคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นขมวดคิ้ว เธอไม่มีความอดทนพอที่จะเข้าร่วมงานสังสรรค์ของชนชั้นสูงอย่างพวกงานเลี้ยงน้ำชา งานการแสดง และอื่น ๆ

แล้วไหนจะงานเลี้ยงน้ำชายามบ่าย งานเลี้ยงติ่มซำ งานเต้นรำหน้ากาก…แค่ได้ยินชื่อเธอก็รู้สึกเวียนหัวแล้ว แม้แต่สมองยังพร่ามัว

“วินเซอร์ได้ยินว่าลูกกำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ เธอเลยเดินทางมาเชียร์ลูก!” เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิยังคงปลาบปลื้มหลานสาวคนนี้อยู่ เขาคิดว่าหลานสาวมีมารยาทงามเช่นเดียวกับสะใภ้ของตนเองที่เป็นหญิงสาวที่ยอดเยี่ยม

แม้จะแย่กว่าลูกสาวของเขาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไป ยังพอดูได้

คนที่ยอดเยี่ยมจะดีมากขึ้นเมื่ออยู่กับคนที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน มันคงจะดีกว่านี้หากสวี่หลิงอวิ๋นเรียนรู้ที่จะไม่วิ่งเตร็ดเตร่ไปทั่วและเต็มใจจะอยู่กับพ่อแม่ตลอดเวลาเช่นเดียวกับวินเซอร์!

ตั้งแต่ลูกสาวของเขาตั้งสติได้ เธอก็ไม่เคยหยุดเดินทางไปไหนอีกเลย เดี๋ยวไปดาวเคราะห์นี้บ้าง เดี๋ยวไปดาวเคราะห์นั้นบ้าง แม้แต่ตอนที่อยู่ในสถาบัน เธอยังเอาแต่นอนที่หอพักและไม่ยอมกลับมาบ้าน ผู้เป็นพ่อได้แต่เฝ้ารอคอยการกลับมาของลูกสาวตลอดทั้งวันทั้งคืน

“ก็ได้เพคะ ลูกเข้าใจแล้ว” สวี่หลิงอวิ๋นไม่มีทางเลือก

เธอมีลักษณะเหมือนเด็กหนุ่มที่หยาบโล้น และไม่สามารถเข้ากันได้กับหญิงสาวประเภทที่แต่งหน้าละเอียดอ่อน ย่างก้าวเป็นขั้นเป็นตอนราวกับเดินอยู่บนดอกบัว จ้องมองทุกอย่างด้วยความสวยงาม

และลูกพี่ลูกน้องวินเซอร์ก็เป็นแบบอย่างที่ดีเช่นนั้นท่ามกลางหมู่องค์หญิง เธอมีกฎระเบียบที่เข้มงวดทั้งการกินและการเดิน การได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับเธอช่างเป็นช่วงเวลาที่เหน็ดเหนื่อย! สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับเริ่มจินตนาการช่วงเวลาที่ต้องอยู่กับเธอ

เธอดื่มน้ำลงอึกใหญ่ทีเดียวรวด ขณะที่คนอื่นค่อย ๆ จิบน้ำทีละนิด บางทีเธออาจจะต้องสวมใส่เสื้อผ้าให้เข้ากับชุดน้ำชาโดยเฉพาะด้วยหรือเปล่า?

โอคาซีจ้องมองท่าทีวิตกกังวลของเธอ และกล่าวอย่างขบขัน “เป็นอะไรไปครับ? ไม่มีความสุขที่ลูกพี่ลูกน้องของท่านมาที่นี่เหรอครับ?”

“จะมีความสุขอะไรล่ะคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นวางสายจากคอมพิวเตอร์และโน้มตัวเข้าไปในอ้อมกอดของแฟนหนุ่ม “พี่วินเซอร์กับฉันไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แค่คิดว่าตอนนี้ฉันจะต้องอยู่กับเธอ ฉันก็ปวดหัวจะตายแล้วค่ะ”

“ให้ไปฆ่าเอเลี่ยนสักสองตัวในสนามรบยังดีกว่าอีก!”

โอคาซีลูบหัวเธอ “หากไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปสิครับ ยังไงซะท่านก็ต้องเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่อยู่แล้ว”

สวี่หลิงอวิ๋นส่งเสียง ‘อืม’ ออกมาอย่างหงุดหงิด

ไม่ว่าเธอจะต้องการหรือไม่ ลูกพี่ลูกน้องของสวี่หลิงอวิ๋นก็มาถึงหลังจากที่เธอกลับไปยังสถาบันได้เพียงแค่สองวัน

พี่ชายใหญ่และพี่ชายรองมาพบกับลูกพี่ลูกน้อง รวมถึงไคกี พี่ชายของวินเซอร์หรือองค์หญิงแห่งจักรวรรดิเหมยรุ่ยก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน

สวี่หลิงอวิ๋นสวมใส่ชุดสีน้ำเงินเข้มที่ขับผิวของเธอให้ขาวใสดุจดังหิมะ ลิปสติกสีชมพูอ่อนแต่งแต้มอยู่บนริมฝีปาก ดวงตากลมโตคู่สวยกำลังเฉิดฉาย

ขณะเดียวกันองค์หญิงวินเซอร์ช่างดูงดงามยิ่งนัก

เธอสวมใส่ชุดกระโปรงยาวสีเบจ และสวมหมวกทรงสูงขนาดเล็กไว้บนศีรษะ อ่อนโยนและนุ่มนวลดุจสายน้ำ คิ้วทั้งสองเป็นทรงได้รูปสง่างาม

สำหรับไคกี เขามีความหล่อเหลาที่เป็นหนึ่งเดียว ถึงเขาจะรูปหล่อเอาการ ทว่าเขายังคงห่างไกลกับโอคาซีและแลนเซล็อต

“ยินดีต้อนรับหลานชาย!” จักรพรรดิลุกขึ้นยืนในที่ของเขา และทรงยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อมองดูพี่ชายและน้องสาวเดินเข้ามาและถวายความเคารพแก่เขา

“พวกเจ้าโตกันไวเหลือเกิน วินเซอร์ ถึงเวลาหาแฟนได้แล้วนะ! ฮ่า ๆ!” จักรพรรดิกล่าวติดตลกเมื่อเขามองดูองค์หญิงวินเซอร์ผู้ผอมเพรียว

จักรพรรดินีที่อยู่ด้านข้างแอบหยิกสามีเบา ๆ ไร้สาระอะไรเช่นนี้!

ก่อนจะดึงตัววินเซอร์ผู้แสนขี้อายมาด้านข้าง “มาเถอะ เราป้าหลานมาคุยกันดีกว่า ส่วนไคกี ไปคุยกับพี่น้องทั้งสองเถอะจ้ะ!”

ไคกีพยักหน้าอย่างสง่างาม “ได้ฮะ ท่านป้าสุดที่รัก”

สวี่หลิงอวิ๋นกัดฟันกรอด! เจ้าเล่ห์เสียจริงนะ!