ตอนที่ 447 คนไม่รู้คุณคน ตอนที่ 448 ต้าหวงที่คอยเก็บรวงข้าว

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ตอนที่ 447 คนไม่รู้คุณคน

ซ่งเหล่าเกินเองไม่ใช่ว่าอยากตกลงรวมหัวทำเรื่องเล็กๆ นี้ด้วย แต่ยังต้องรักษาคำพูดในเรื่องที่พนันกับซ่งอิงไว้ก่อนหน้านี้อยู่ หากซ่งอิงพูดอะไรเขาก็จำเป็นต้องเชื่อฟัง ผู้ที่เป็นปู่อย่างเขาผู้นี้ ก็แทบเหมือนๆ กับหลานชายแล้วด้วยซ้ำ

“ไอ้คนไร้มโนธรรม! นี่ข้าทำไปเพื่อใครกันเล่า!” เจียวซื่อจะบ้าคลั่งแล้วก็ว่าได้

ไฉนสามีจึงรังเกียจนางเสียได้เล่า!

“ใช่ เจ้าทำเพื่อข้า แต่…ข้าก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ก็ต้องมีหน้ามีตาบ้างสิ? เจ้าดูอย่างพี่ใหญ่ มักจะมีเงินเหลือใช้ติดมืออยู่เสมอ ก่อนหน้านี้พี่รองใช้ชีวิตยากลำบากเช่นกัน แต่พี่สะใภ้รองก็ไม่เคยขาดตกบกพร่องต่อเขาในแง่ของการกินและอาภรณ์ที่สวมใส่ ส่วนข้าเล่า?” ซ่งอิ๋นซานถอนหายใจ “ผู้ชายในหมู่บ้านยืนรวมกัน ข้ายังรู้สึกอับอายที่จะเขยิบเข้าไปรวมตัวด้วย เกรงกลัวว่าเสื้อผ้าที่ตัวเองสวมใส่จะมีกลิ่น…”

“…” เจียวซื่อมองเขาอย่างตะลึงงัน

“ก่อนหน้านี้ทางด้านหมู่บ้านข้างๆ ได้ยินว่าข้ามีทักษะฝีมือ อยากจะจ้างข้าไปทำกังหันน้ำ แต่เมื่อข้าไป คนเขาก็ส่งข้ากลับมาอีก ข้าลองสืบถามดูจึงได้รู้ว่า คนเขากล่าวว่าที่ข้าสวมใส่…ดูไม่เหมาะสม ดูไม่เหมือนคนมีทักษะฝีมือดี อย่างไรเสียคนที่ทักษะฝีมือดีก็ต้องหาเงินได้ไม่น้อย คงไม่ถึงขั้นแม้แต่เสื้อผ้าก็ยังดูเก่ากรังขนาดนี้” ซ่งอิ๋นซานพูดไปเรื่อยเปื่อย

“แล้วยังมีครั้งหนึ่ง เป็นคนในตัวอำเภออยากจะทำเตียงที่เป็นสินเดิมให้ลูกสาวสักตัว แต่ก็เพราะมองเห็นข้าดูซอมซ่อ จึงเอางานให้คนอื่น…” ซ่งอิ๋นซานกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง

เจียวซื่อได้ยินดังกล่าวถึงกับงุนงงทำอะไรไม่ถูก

การสวมอาภรณ์ที่ดูไม่ดี ยังทำให้…ยังทำให้สามีตนหาเงินได้น้อยลงไปด้วยหรือ!

“เช่นนั้น เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี เจ้าไม่ได้อธิบายหรือว่าครอบครัวเรามีลูกชายสามคน ดังนั้นต้องประหยัดหน่อย…” เจียวซื่อกล่าวอย่างร้อนใจ

“คนเขากล่าวว่า กับตัวเองยังสละให้ไม่ได้ นี่ก็คงอดไม่ได้ที่จะต้องลอบลดทอนวัสดุในการทำงานด้วยเป็นแน่” ซ่งอิ๋นซานกล่าวขึ้นอีกครั้ง

คำพูดนี้ เป็นบิดาเขากล่าวไว้

ทางด้านพี่รองนั่นต้องการคนช่วยงาน เดิมทีภรรยาเขาจะได้ไปทำด้วย แต่ท้ายที่สุดกลับไม่ได้ให้ไป เขาก็เลยถามไถ่บิดาดู ผู้เฒ่าซ่งบอกกล่าวตามความเป็นจริง และเขาก็รู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ค่อนข้างทำร้ายความรู้สึกไม่น้อยทีเดียว จึงไม่ได้บอกกล่าวกับเจียวซื่อ

ขณะนี้เจียวซื่อยังมัวสนใจร้องห่มร้องไห้อยู่ได้อีกที่ไหนกัน

ครั้นนึกถึงว่าเพราะตนเองประหยัดจึงชวดเงินไปแล้วจำนวนมาก ก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวในใจเสียยิ่งกว่าอะไร!

“เช่นนั้นไว้เดี๋ยวข้า เดี๋ยวข้าทำเสื้อผ้าให้เจ้าแล้วกัน…” เจียวซื่อรีบบอกกล่าว

“ไม่รีบร้อน ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้คำนึงถึงตัวเจ้าเองเป็นอันดับแรกเถิด” ซ่งอิ๋นซานมองนางแวบหนึ่ง “กิ๊บดอกไม้กระดาษนี้ที่ลูกสาวทำ เจ้าอยากประดับมันหรือไม่”

เจียวซื่อมองดอกไม้นี้อย่างพินิจ เหมือนกับของจริงอย่างไรอย่างนั้น ช่างสวยงามเหลือเกิน

นี่หากประดับเอาไว้ จะต้องดูสดใสมีชีวิตชีวาอย่างแน่นอน!

แต่นางผิวคล้ำ ประดับมันก็อาจจะดูไม่เข้าท่าเท่าไร

แต่ยังคงพยักหน้าตกลง อย่างไรเสียนี่ก็เป็นน้ำใจของบุตรสาว นี่เพิ่งเรียนกับเอ้อร์ยาไปได้กี่วันก็ทำดอกไม้ประดับผมได้แล้ว ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ!

แน่นอนละว่า ดอกไม้นี้เป็นผลจากการชี้แนะขั้นตอนการทำทั้งหมดโดยซ่งอิง มิเช่นนั้นซานยาก็ไม่อาจทำออกมาสำเร็จได้

“เช่นนั้น…เราก็ทำตามพี่สะใภ้ใหญ่พี่สะใภ้รองเช่นนั้นแล้วกัน! พรุ่งนี้ข้าจะเข้าตัวอำเภอ สั่งตัดเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เจ้าสักสองสามตัว ระยะนี้หาเงินได้บ้างแล้วเช่นกัน จึงเพียงพอใช้จ่ายอยู่” ซ่งอิ๋นซานกล่าวขึ้นอีกครั้ง

“เช่นนั้นมิได้หรอก ทำงานเหน็ดเหนื่อยจะตาย เพิ่งหาเงินได้เท่านั้น ใช้จ่ายไปก็ไม่เหลือกันแล้วพอดี?!” เจียวซื่อรู้สึกเพียงเป็นอะไรที่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิต “เดี๋ยวก็ต้องยุ่งอยู่กับงานไร่นาแล้ว มีเวลามาแต่งเนื้อแต่งตัวที่ไหนกัน รอให้บรรดาลูกๆ สร้างครอบครัวมีงานการมั่นคงแล้วค่อยว่ากันเถอะ!”

“…” ซ่งอิ๋นซานเบิกตาเล็กน้อย “ลูกๆ เราต่างก็ไม่อยากแต่งเมียแล้ว หากเจ้ายังไม่ปรับเปลี่ยนอีก ภายภาคหน้าก็เลิกหวังไปเลยว่าจะได้อุ้มหลาน เจ้ามองดูพี่สะใภ้ใหญ่สิ ตอนที่ทำงานก็สวมผ้าคลุมกันเปื้อนเอาไว้ชั้นนอก ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใดเลยสักนิด งานไร่งานสวนก็แค่ระยะเดียวเท่านั้น งานหนักข้าจัดการเอง เจ้าทำงานเบาๆ ไปก็พอ ไม่ทำให้เสื้อผ้าชุดใหม่เสียหายไปได้หรอก!”

“เมียคนอื่นเขาเหมือนกับดอกไม้ก็ไม่ปาน มีเพียงของข้าที่เหมือนวัว พูดออกมาก็มีแต่จะชวนให้คนหัวเราะเยาะ!” ซ่งอิ๋นซานกัดฟันแน่นทำใจกล้า ก่อนกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง

เจียวซื่อได้ยินดังกล่าวก็หยิกซ่งอิ๋นซานเข้าไปหนึ่งที

รังเกียจที่นางอัปลักษณ์หรือ! ไอ้คนไม่รู้คุณคน!

แต่อย่างไรก็ตาม คำพูดของซ่งอิ๋นซานนับว่าส่งผลไม่น้อย เมื่อก่อนเขามักจะไม่รังเกียจเจียวซื่อที่ทำตัวเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังสนับสนุนนิสัยที่ตระหนี่ถี่เหนียวของเจียวซื่ออีกด้วย ยามนี้เอ่ยคำพูดแรงๆ สองสามประโยค เจียวซื่อจึงรู้สึกต่างออกไป

ตอนที่ 448 ต้าหวงที่คอยเก็บรวงข้าว

สำหรับเจียวซื่อ สามีเป็นท้องนภาของนาง อีกทั้งสามีตนซื่อสัตย์เสมอมา บัดนี้เอ่ยคำพูดประเภทนี้ออกมาได้ เช่นนั้นเห็นได้ชัดว่าอดทนจนเหลืออดแล้ว ไม่แน่ว่า…นางจะทำให้สามีอับอายขายหน้าแล้วจริงๆ!

ศักดิ์ศรีของผู้ชายเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง เมื่อเสียหน้าหลายๆ ครั้งเข้า ไม่แน่ว่าเมื่ออยู่ภายนอกก็อาจสรรหาคนที่ชวนสำราญใจ…

เมื่อคิดเยี่ยงนี้ เจียวซื่อก็กัดฟันเล็กน้อย และท้ายที่สุดก็พยักหน้าตกลง

ซ่งอิ๋นซานไม่เสียดายเงินแต่อย่างใด หลายวันมานี้ทำเหลียงผีเก็บหอมรอมริบได้บ้างแล้ว นอกจากนั้นยังมีเงินที่ได้จากการทำเครื่องเรือนหนึ่งชุดจากก่อนหน้านี้ ปัจจุบันมีเงินให้ใช้จ่ายได้กว่าสองตำลึงเงิน

ซ่งอิงพูดให้เขาเข้าใจได้ว่า การทำเช่นนี้เพื่อลูกชายทั้งสามคนของซ่งอิ๋นซาน

ดังนั้นซ่งอิ๋นซานจึงตัดสินใจเด็ดขาด เข้าตัวอำเภอไปซื้ออาภรณ์ชุดใหม่ให้บุตรชายสองคนแล้วนำไปส่งให้ โดยเฉพาะตอนนี้อากาศหนาวเย็นแล้ว ยิ่งต้องสวมเสื้อผ้าหนาๆ หน่อย เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ใช้จ่ายเงินไปเกลี้ยงเกลา

เดิมทีเสื้อผ้าไม่ได้ราคาแพงขนาดนี้ แต่ทางด้านบ้านสามนี้แทบจะต้องจัดหาเสื้อผ้าเข้ามาใหม่ทั้งหมด นี่จึงใช้จ่ายเงินไปมากหน่อย

หลังขนสิ่งของกลับมา เจียวซื่อเกือบล้มทั้งยืน

อย่างไรก็ตาม ไม่มีให้เวลานางครุ่นคิดอะไรมากมายเช่นกัน

เพราะแต่ละครัวเรือนเริ่มลงมือเก็บเกี่ยวธัญพืชกันแล้ว

ทั่วทั้งหมู่บ้านเริ่มลงนา

ซ่งอิงมีที่ดินเยอะ ที่นาสิบเอ็ดหมู่ล้วนปลูกข้าวเอาไว้ทั้งหมด ขณะนี้ล้วนเติบโตเต็มที่แล้ว ซ่งอิงแวะเวียนไปดูข้าวในที่ดินแต่เนิ่นๆ แล้ว เมล็ดข้าวเต็มเปลือก น่าจะให้ผลเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง

ไม่เพียงแค่บ้านนาง ครอบครัวอื่นในหมู่บ้านต่างก็เปี่ยมไปด้วยความหวังสำหรับผลผลิตปีนี้เช่นกัน

“ช่างประหลาดจริงๆ ปีนี้สภาพอากาศไม่ได้แตกต่างจากสองปีก่อนนี่? เห็นแมลงก็ค่อนข้างมากทีเดียว แต่นึกไม่ถึงว่าต้นข้าวจะออกรวงค่อนข้างดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก!” ผู้คนจำนวนไม่น้อยล้วนอดรำพึงรำพันไม่ได้

ซ่งอิงคลี่ยิ้ม

แน่นอนว่าสาเหตุเป็นเพราะ นางเชิญปีศาจกบเจียวมาคอยกินแมลงอย่างไรเล่า

แต่ทว่า…

บรรยากาศของหมู่บ้านซิ่งฮวาปีนี้ดูคล้ายจะสดใสกว่าในความทรงจำของเจ้าของร่างเมื่อก่อนมาก

ขณะนี้ทั่วทั้งหมู่บ้านเต็มไปด้วยบรรยากาศชื่นมื่น แต่ละครอบครัวล้วนยุ่งตัวเป็นเกลียว เมื่อก่อนซ่งอิงไม่เคยทำงานไร่สวน แต่มีความทรงจำของเจ้าของร่าง ดังนั้นท่วงท่าถือเคียวในขณะนี้ก็ดูเป็นงานเป็นการเช่นกัน

ความก้าวหน้าด้านข้าวสารธัญพืชของราชวงศ์ต้าติ้งถือว่าไม่เลวทีเดียว เมืองยงแถบนี้ นิยมทำนาข้าวเป็นที่สุด ส่วนข้าวฟ่างและลูกเดือยมีบ้างประปราย แน่นอนว่าหากเป็นพื้นที่อื่น สภาพอากาศแตกต่างออกไป การปลูกพืชผลก็ย่อมไม่เหมือนกัน

เมืองยง ทำนาข้าวสลับข้าวสาลี ที่ดินดอนจะปลูกถั่วเหลือง เทียนไช่[1] มันฝรั่งและมันเทศเป็นหลัก มีบางครอบครัวปลูกหม่อนและกัญชาเอาไว้เช่นกัน ทว่าหมู่บ้านซิ่งฮวาแถบนี้หลักๆ แล้วยังคงยึดนาข้าวเป็นหลัก หม่อนและกัญชาเป็นส่วนน้อยนิด

เห็นเพียงสีเหลืองทองอร่ามหนึ่งผืน ซ่งอิงและหนิวต้าลี่โค้งตัวลงเริ่มลงมือทำงาน

แรกเริ่มระดับความเร็วของทั้งสองคนช้ามาก

อย่างไรเสียก็ไม่คุ้นเคยกับงานประเภทนี้จริงๆ

หญิงที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงยังอดหัวเราะใส่ซ่งอิงไม่ได้ แล้วยังจะส่งเสียงตะโกนบอกกล่าวอีกว่า ไว้พวกนางตัดต้นข้าวเสร็จแล้วจะมาช่วยซ่งอิงอีกแรงเป็นแน่…

อย่าว่าแต่คนไร่นาข้างๆ เลย ก็ขนาดทางด้านตระกูลซ่งก็ตัดสินใจแล้วว่าไว้เก็บต้นข้าวครอบครัวตนเองเสร็จ ก็จะมาช่วยทางด้านซ่งอิงนี้สักหน่อย

แต่หลังครึ่งวันเช้าผ่านไป สถานการณ์ก็แตกต่างจากเดิม

ซ่งอิงรู้สึกว่าตนแสร้งชักช้าลีลามากเกินไปแล้ว

ส่วนหนิวต้าลี่ก็หาเคล็ดลับในการทำงานเจอแล้ว

มือหนึ่งโน้มรวบต้นข้าวเข้าด้วยกัน อีกมือหนึ่งใช้เคียวเกี่ยวเพียงเบาๆ รวงข้าวหย่อมหนึ่งก็ถูกตัดลงมาแล้ว ไม่นานนัก รวงข้าวก็ทับถมกันกลายเป็นหนึ่งกองเล็กๆ ซึ่งในเวลานี้เอง ต้าไป๋จะลากรถเข็นไม้กระดานเดินเข้ามา หนิวต้าลี่หอบมันขึ้นมาเหมือนเป็นของเบาๆ ต้นข้าวที่รวมๆ กันไว้สองกองใหญ่หนักขนาดนั้นก็เป็นอันขึ้นไปอยู่บนรถเป็นที่เรียบร้อย!

ไม่ต้องใช้คนควบรถเกวียน ไม่ต้องใช้คนกระตุ้น ต้าไป๋ขยับกีบของมัน หันหลังกลับนำรวงข้าวกลับบ้าน

เมื่อไปถึงในบ้าน ภูตโสมอาศัยจังหวะที่คนอื่นไม่ได้สนใจ งอกรากฝอยยาวเฟื้อยออกมาแล้วลากต้นข้าวเข้ามาในลานบ้าน นอกจากนั้นยังมีปีศาจกบเขียวที่แอบมาช่วยงานด้วยอีกแรงเช่นกัน

เมื่อรถเกวียนคันนั้นโล่ง ต้าไป๋ก็ค่อยมาอีกครั้ง

ในแปลงนาบ้านไหนๆ ต่างก็มีรวงข้าวที่หล่นตามพื้นทั้งนั้น ด้านหลังผู้ใหญ่ที่ทำงานกันอยู่ ส่วนใหญ่จึงมีแม่นางสาวน้อยในครอบครัวคอยตามเก็บรวงข้าว

ทว่าด้านหลังซ่งอิงและหนิวต้าลี่ มี…ไก่ คอยเก็บรวงข้าว

———————————-

[1] เทียนไช่ (甜菜) คือ บีตรูต หรือชื่ออื่นเช่น ผักกาดฝรั่ง ผักกาดแดง