แม้แต่เหลียนป๋อยังรู้ว่าเวลาของเขาใกล้หมดลงแล้ว

เมื่อเวลาหมดลงความแข็งแกร่งของเขาจะกลับคืนสู่ระดับ 5 สูงสุดขั้นปรมาจารย์

ฟุ่บ!

เขาได้สูดลมหายใจเข้าลึก ร่างของ เหลียนป๋อ ได้วูบไหวหายไป ดาบหยานหลิงในมือ ได้วาดฟันออกไปอย่างรวดเร็ว

ฟวั่บ!

เหนือศีรษะของ หวู่บ๋อเหวิน คมดาบที่รุนแรงของเหลียนป๋อ ได้วาดฟันไปยังศีรษะของอีกฝ่าย

ดาบหยานหลิงที่อาบชโลมไปด้วยปราณแท้จริงทั้งหมดภายในร่างกายทำให้แรงกดดันมหาศาลถาโถมใส่ หวู่บ๋อเหวิน

คลื่นพลังที่สามารถกลืนกินทุกสรรพสิ่งทำให้ หวู่บ๋อเหวิน รู้สึกหวาดกลัว

“ไม่ดีแล้ว!”

ใบหน้าของ หวู่บ๋อเหวินได้เปลี่ยนไปอย่างมาก

“ทักษะดาบจงซาน!”

ฟวุ่บ!

หวู่บ๋อเหวิน ได้ใช้ทักษะที่ทรงพลังที่สุดของเขาใบดาบยาวที่สร้างขึ้นจากปราณแท้จริงได้เข้าปะทะกับดาบของเหลียนป๋อ

เพร้ง!

เพียงพริบตา ดาบยาวของ หวู่บ๋อเหวิน ก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ เศษดาบได้กระจัดกระจายไปทั่วพื้น

พลังงานดาบที่เหลือได้พุ่งเข้าใส่ร่างกายของ หวู่บ๋อเหวินโดยตรง

ตู้ม!

ร่างของ หวู๋บ่อเหวิน ได้ถูกซัดกระเด็นลอยไปไกล แต่คราวนี้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะเขาได้หยิบโล่สวรรค์ขึ้นมา

พลังงานดาบที่เหลือทั้งหมดของ เหลียนป๋อ ได้ถูกปิดกั้นโดยโล่อันนี้

ดวงตาของ เหลียนป๋อ เบิกกว้างขึ้น การโจมตีเมื่อครู่นี้คือทั้งหมดที่เขามี เขาไม่คิดเลยว่า หวู่บ๋อเหวิน จะมีสมบัติเช่นนี้

ตอนนี้เวลาของเขาใกล้จะหมดลงแล้ว ด้วยปราณแท้จริงในร่างกายย่อมไม่เพียงพอที่จะใช้การโจมตีที่ทรงพลังเมื่อครู่นี้อีก

การแสดงออกของ ลู่เฟิง ก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน

นี่คือสิ่งที่เขากังวล ปกติแล้วยอดฝีมือของนิกายใหญ่ย่อมมีสมบัติป้องกันตัว

แต่นี่ในกรณีที่เขาคิดว่าเป็นผลลัพธ์ที่เลวร้าย ใครจะไปคิดว่า จะแก่นี่จะมีสมบัติป้องกันตัวอยู่จริง ๆ

ถ้าหวู่บ๋อเหวิน ใช้การป้องกันทั้งหมดยื้อเวลาต่อไป สถานการณ์ของลู่เฟิงจะแย่ลงมาก

หวู่บ๋อเหวิน ถอนหายใจออกมาด้วยความโลงอก โชคดีที่การป้องกันของเขาขัดขวางการโจมตีของ เหลียนป๋อได้

แต่เมื่อเขาหันหลับไปมอง และเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาตายหมด เขาก็มองไปที่ ลู่เฟิงด้วยความโกรธ”ลู่เฟิง เรื่องวันนี้ไม่จบแค่นี้แน่ รอข้ากลับไปถึงนิกายดาบวิญญาณก่อนเถอะ ข้าจะกลับมาคิดบัญชีนี้ภายหลัง!”

หลังจาก พูดเสร็จ เขาก็หันหลังกลับไป

หวู่บ๋อเหวิน ไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งของ เหลียนป๋อ มีเวลาจำกัด

ในความคิดของเขา ความแข็งแกร่งของเหลียนป๋อ สูงมาก แม้เขาจะมีสมบัติสวรรค์ระดับต่ำป้องกันตัว แต่เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะต้านทานเหลียนป๋อได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานที่นี้เป็นส่วนสำคัญสุดของพระราชวัง ข้างนอกย่อมมีทหารองค์รักษ์มากกว่า 200,000 นายคอยคุ้มกันอยู่ หากถูกอำนาจของกองทัพคุกคามแม้จะเป็นยอดฝีมือขั้นราชาศักดิ์สิทธิ์ยังต้องหวาดกลัว

เดิมเขาคิดจะมาสังหาร ลู่เฟิง โดยที่กองทัพไม่สามารถตอบสนองได้ทัน จากนั้นก็ช่วย ประมุขน้อยออกไป

แต่เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะลงเอยแบบนี้

ภายใต้ลู่เฟิง มียอดฝีมือขั้นราชาศักดิ์สิทธิ์ อยู่ด้วย

นี่มันขัดขวางแผนการทั้งหมดของเขา

ตอนนี้เขาไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป

ลู่เฟิง มองไปที่ หวู่บ๋อเหวิน ที่กำลังหันหน้าหนี เขารู้สึกตกตะลึง เจ้าเฒ่านี่โง่หรือไม่ ? มีสมบัติป้องกันระดับสวรรค์แท้ ๆ แต่กลับคิดวิ่งหนี

แต่ก็ช่างเถอะ!

ลู่เฟิง ได้ยิ้มจาง ๆ ออกมา

“ส่งคำสั่งให้ จางฮั่น สอยเจ้าเฒ่านั่นให้ร่วงลงมา!”

“ขอรับ!”

ทหารเงา ได้รับคำสั่ง และได้ส่งข่าวออกไปทันที เขาได้ดึงแตรออกมาส่งเสียงและเป่ามัน

นี่มันเป็นสัญญาณที่บอกให้ จางฮั่น พร้อมโจมตี

หวู่บ๋อเหวิน ที่กำลังหนีอยู่บนท้องฟ้านั้นได้ยินเสียงแตร เขารู้สึกตกใจอย่างมาก

แต่เขาก็ถอนหายใจออกมา นี่มันเป็นแตรสัญญาณ โชคดีที่เขาหลบหนีออกมาเร็วไม่งั้นหากกองทัพมารวมตัวกันเขาจะลำบากอย่างมาก

เพราะเขารู้ว่า ภายใต้เงื้อมมือของ ลู่เฟิง มีแม่ทัพที่มีความสามารถมากมาย หากกองทัพนับแสนนายบุกมาหาเขามันย่อมทำให้เขาไม่สามารถต่อต้านได้เลย

ตอนนี้เขาได้หลบหนีออกมาแล้วคงไม่เป็นไร

“ฮึ่ม,ลู่เฟิง อาณาจักรหนานหยาน รอก่อนเถอะ นิกายดาบวิญญาณของข้า ไม่ปล่อย เจ้าและอาณาจักรหนานหยานของเจ้าไปแน่ หากพวกเราไม่ได้ทำลายเจ้า พวกเราจะไม่ขอเรียกตัวเองว่านิกายใหญ่ที่สุดทางตะวันตกเฉียงใต้ของหยูโจว!”

หวู่บ๋อเหวิน ได้กร่นด่าออกมาอย่างเย็นชา ร่างของเขาได้วูบไหวและกำลังจะหายไป

แต่ทว่า ในทิศที่ หวู่บ๋อเหวิน หลบหนีไปนั้น จางฮั่น ได้นำทหารองค์รักษ์ 200,000 นายมาดักรออยู่ที่นี่

ในหมู่พวกเขามีพลธนูชั้นยอดมากกว่า 50,000 นาย แต่ละคนมีลูกธนูปราณอยู่ในมือ

นอกจากนี้ยังมีทหารมากกว่า 5,000 นายที่ควบคุมเกาทันฑ์ และปรับมุมองศารอให้ หวู่บ๋อเหวิน บินออกมาจากวัง

ในไม่ช้า จางฮั่น ก็เห็นเงาปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า เขาได้ดึงดาบออกมาจากเอวและตะโกนขึ้น”สอยมันลงมา!”

“ขอรับ!”

พลธนูทั้งหมด ได้เล็งลูกศรปราณขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

เพียงพริบตาเดียว ท้องฟ้าทั้งหมดก็ปกคลุมไปด้วยศรปราณ

“บ้าเอ้ย!”

หวู่บ๋อเหวิน ที่เห็น ลูกศรจำนวนมากเขาตะโกนออกมาอย่งตื่นตระหนก

ลูกศรปราณนับหมื่นทรงพลังมากเกินไปแม้จะเป็นยอดฝีมือขั้นราชาศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ย่อมถูกระงับด้วยพลังของลูกศรปราณ

หวู่บ๋อเหวิน ได้ใช้ทุกอย่างมีเพื่อหลบหนีอย่างไม่ลังเล

แต่ความเร็วของ ลูกศรปราณนั้นก็รวดเร็วอยู่ดีเพียงพริบตาเดียวมันก็แทงทะลุส้นเท้าของเขา

จากนั้นพลังของลูกศรปราณก็ไหลเข้าสู่ร่างของ หวู่บ๋อเหวิน โดยตรง

หวู่บ๋อเหวิน มีพลังปราณในร่างกายที่แข็งแกร่งมาก แต่เมื่อต้องถูกลูกศรปราณที่มีความสามารถหยุดปราณนั้นทำให้การควบแน่นพลังปราณของเขาถดถอยลง

“เวรเอ้ย!”

แม้จะถูกลูกศรปราณโจมตี แต่ยอดฝีมือขั้นราชาศักดิ์สิทธิ์ ย่อมไม่ถึงแก่ชีวิตโดยง่าย มันแค่ส่งผลต่อการควบคุมพลังปราณเท่นั้น

ตอนนี้ ร่างของ หวู่บ๋อเหวิน หยุดชะงักเมื่้อถูกลูกศรโจมตีใส่

เพียงชั่วครู่ ท้องฟ้าก็ปกคลุมไปด้วยศรปราณอีกครั้ง

เขาไม่สามารถหลบหนีไปได้แม้อยากจะหนีก็ตาม

เขาได้หยิบดาบออกมาอย่างไม่เต็มใจและกวัดแกว่งดาบเพื่อต้านทานลูกศรเหล่านี้

ฟุ่บ!

เสียง แหวนอากาศ ได้ดังมาจากใต้เท้าของ หวู่บ๋อเหวิน

เขามองเห็น ศรไม้ขนาดใหญ่ ที่ถูกทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก

เพียงพริบตาเดียว ศรไม้เหล่านั้นก็พุ่งมาถึงตำแหน่งของเขา

ฉึบ!

ฉึบ!

ฉึบ!

เสียงเฉือดเฉือนสามอันได้เจาะไปที่เนื้อหนังของ หวู่บ๋อเหวิน ศรขนาดใหญ่สามอันได้ปักอยู่บนร่างกายของเขา

พลังที่ หวู่บ๋อเหวิน ปลดปล่อยออกมา เริ่มทำให้เขาควบคุมไม่ได้

ตอนนี้เขาตกเป็นเป้าของศรพลังปราณโดยสมบูรณ์

“ม่ายย!”

หวู่บ๋อเหวิน กรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวช ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เขาไม่สามารถปล่อยพลังปราณออกมาต้านทานลูกศรปราณเหล่านี้ได้อีกต่อไป

เขาทำได้เพียงมองดูลูกศรปราณนับไม่ถ้วนแทงทะลุร่างกายของเขา

ลูกศรปราณมากกว่าสิบดอกได้แทงทะลุร่างของ หวู่บ๋อเหวิน

ร่างของเขา ได้ร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าโดยตรง

ส่วนตำแหน่งนั้นอยู่นอกพระราชวังด้านหน้ากองทัพองค์รักษ์