ตอนที่ 175

God of Fishing

Chapter 175: เมื่อคุณชนะคุณก็ชนะ

ทุกคนมองไปที่หานเฟยด้วยสายตาแปลกๆที่จากนั้นก็ไปที่บ้านต้นไม้ของเซียเสี่ยวจานพลางกลืนน้ำลายเป็นครั้งคราว

ลู่เสี่ยวไปขมวดคิ้วเล็กน้อย“พวกเขากําลังมีความรักหรอ? ยังไม่เร็วเกินไปหรอ!”

ทันใดนั้นเขาก็เห็นเซียเสี่ยวจานปรากฏตัวขึ้นโดยสวมชุดสไตล์ดั้งเดิมสีขาวและสีแดง ร่างกายท่อนบนของเธอแต่งกายด้วยชุดสีขาวลายดอกไม้สีแดงที่แขนเสื้อคอเสื้อและกระดุมร่างกายส่วนล่างของเธอสวมกระโปรงสั้นสีแดงขนาดเล็กเผยให้เห็นเรียวขาขาวเรียวยาวของเธอ

จางซวนหยูอ้าปากค้าง “ว้าว..”

จางซวนหยูจ้องไปที่เซียเสี่ยวจานพร้อมตบแขนหานเฟย “เฟยเฟยมาเปิดร้านเสื้อผ้ากันเถอะ!เราสามารถทําได้ดีกว่าที่หอคอยหลิงหลงได้แน่นอนเราสามารถขายเสื้อผ้าได้ในราคาไข่มุกคุณภาพปานกลางตัวละ 5,000 เม็ด…”

หานเฟยเย้ยหยัน “ไม่เอา”

จางซวนหยูเดาะลิ้นของเขา “เซียเสี่ยวจานทําไมผมของคุณถึงหลวม? สิ่งนั้นที่อยู่บนหัวของคุณคืออะไรหรอ”

หานเฟยทําอะไรไม่ถูกนี่คือกบติดผมหงอนประดับมุกสีม่วงทองและอัญมณีของฉัน! เธอจะวางมันไว้บนหัวของเธอตรงๆได้ยังไง?! คุณไม่สนใจเรื่องความงามเหรอ?

เซียเสียวจํานฮัมเพลง “ฉันไม่รู้ว่าจะใส่มันอย่างไรนี่นา ฉันต้องอธิบายให้นายฟังหรอ? หานเฟยมาช่วยฉันแก้ผมด้วย”

สายตาของทุกคนเริ่มแปลกอีกครั้ง

จางซวนหยูพึมพํา “นี่ต้องไม่ใช่ครั้งแรกแน่”

เลอเหรินกวงพยักหน้า “ไม่อย่างแน่นอน”

ลู่เสี่ยวไป: “ ”

จางซวนหยูถูมือของเขา “เสี่ยวไปู่คุณต้องการให้ฉันช่วยแก้มัดผมของคุณมั้ย?”

ลู่เสี่ยวไปมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ไปให้พ้น”

หานเฟยปืนเข้าไปในบ้านต้นไม้ของเซียเสี่ยวจานและถามว่า “ปกติแล้วคุณไม่ได้จัดทรงผมให้ดีเลยเหรอ?”

“ไม่ฉันไม่รู้ว่าจะจัดทรงผมอย่างไร…”

เซียเสี่ยวจานเล่นกับบหงอนและถือฟูสีแดงไว้ในมือ

หานเฟยถอนหายใจ “ดูสิ่งที่ฉันทํา ฉันจะสอนคุณเพียงครั้งเดียวนะ”

หลังจากนั้นไม่นานหานเฟยก็ทําผมที่ยาวของเซียเสี่ยวจานถักไว้ทั้งสองข้าง

“คุณเข้าใจหรือมั้ยเนี่ย”

เซียเสี่ยวจ้านกระพริบตา “…น่าจะ!”

“เอาล่ะตอนนี้ฉันจะเลิกถักเปียของคุณ แขวนพู่สีแดงไว้เหนือหูซ้ายแล้วมัดฟูสองข้างที่ปลายผมเปียคุณจะเห็นว่านี่คือวิธีที่คุณต้องใช้ทําผมเปีย”

หานเฟยพูดต่อเสร็จแล้ว คุณเข้าใจมั้ย?”

เซียเสี่ยวจ้านตะลึง “อ๊ะ…เข้าใจ!”

จากนั้นเซียเสี่ยวจานก็จับติ่งหูของเธอและพูดว่า “ฉันไม่ได้เจาะหู”

หานเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม “งั้นก็แทงเข้าไป”

เซียเสี่ยวจานส่ายหัว “ไม่นั่นจะเจ็บ ฉันทําไม่ได้”

หานเฟยทําอะไรไม่ถูก “ถ้าฉันทําให้คุณก็จะเจ็บเหมือนกัน!”

หลังจากนั้นสักครู่

ที่บ้านต้นไม้ของเซียเสี่ยวจาน

เซียเสี่ยวจานร้องว่า “โอ้ย…หานเฟยนายกําลังทําร้ายฉันหรอ ฉันจะฆ่านาย”

“อย่าขยับสิ นี่เป็นครั้งแรกของคุณนะและแน่นอนคุณจะต้องเลือดออก แต่มันจะไม่เป็นอีก”

เซียเสี่ยวจ้านคร่ำครวญ “นายอ่อนโยนกว่านี้ไม่ได้เหรอ?”

“ฉันเป็นคนอ่อนโยนมากอยู่แล้ว ถ้าฉันทําอย่างนุ่มนวลกว่านี้มันจะไม่สามารถเข้าไปได้นะ”

ใต้ต้นไม้

พวกเขาทั้งสามเบิกตากว้างและมองขึ้นพร้อมกระพริบตา

จางซวนหยูกลืนน้ำลาย “เราควรปล่อยให้พวกเขาอยู่สองคนมั้ย”

เลอเหรินกวงดูสับสน “ฉันไม่ค่อยเข้าใจ พวกเขากําลังพูดเกี่ยวกับอะไรน่ะ?”

ลู่เสี่ยวไปก็ดูงงงวยเช่นกัน “ทําไมเธอถึงต้องมีเลือดออกถ้าแค่แก้ผมของเธอ”

จางซวนหยูพูดไม่ออก งี่เง่าน่าสองคนนี้! พวกเขาไม่รู้อะไรเลย!

หลังจากนั้นสักครู่

หานเฟยวิ่งออกไปและบ่นว่า “ฉันจะไม่เจาะหูให้เด็กผู้หญิงอีกในอนาคต พวกเขาเอาแต่จําจี้จี้จี้”

“พรู้ด…”

จางซวนหยูตกใจ แค่เจาะหู?! แล้วทําไมคุณถึง…พูดแบบนั้นเล่า?!

ภายในครึ่งนาทีเซียเสี่ยวจานก็กระโดดออกจากบ้านต้นไม้และทุกคนก็เบิกตากว้าง เธอมีผมเปียสองข้างที่ปลายพู่ห้อยขนปุยสองอัน มีพู่สีแดงติดกับหูซ้ายของเธอซึ่งเข้ากันได้ดีกับต่างหูสีแดงของเธอ เธอสวมเสื้อสี ขาวแขนกว้างและกระโปรงจีบสีแดง ช่างเป็นผู้หญิงตัวเล็กน่ารักจริงๆ ! เมื่อเธอกระโดดลงมาก็จะได้ยินเสียงกริงจากข้อมือและศีรษะของเธอ

จางซวนหยมองไปที่ลู่เสี่ยวไป “เฮ้! หานเฟยทําไมคุณถึงปฏิบัติต่อเด็กสาวทั้งสองคนแตกต่างกันขนาดนี้

ลู่เสี่ยวไปไม่ได้ยินสิ่งที่จางซวนหยูพูดและก้าวไปข้างหน้าอย่างอยากรู้อยากเห็น “เสี่ยวจ้านคุณสวมอะไรอยู่ในมือของคุณหรอ”

เซียเสี่ยวจานยิ้ม “สร้อยข้อมือกระดิ่งน่ะ”

“หานเฟยทําต่างหูสีแดงด้วยหรอ”

“ใช่! เขาไม่ได้ทําให้คุณเหรอ? ว้าว เสื้อผ้าสีขาวของคุณดูสวยจัง!”

แต่ลู่เสี่ยวไปหันไปหาหานเฟยและยื่นมือออกไป “สร้อยข้อมือกระดิ่ง!!”

หานเฟย: “???”

หานเฟยทําอะไรไม่ถูก “คุณสองคนมีนิสัยใจคอต่างกัน สร้อยข้อมือเส้นนั้นไม่เหมาะกับคุณ มันไม่เข้ากับอารมณ์เย็นชาและห่างเหินของคุณ… คุณต้องการสร้อยข้อเท้าไหม”

“สร้อยข้อเท้าหรอ?”

หานเฟยหยิบกําไลข้อเท้าเส้นเล็กออกมา สิ่งนี้เตรียมไว้สําหรับ เซียเสี่ยวจานแต่เนื่องจากเซียเสี่ยวจานสมาธิสั้นเธออาจจะหักข้อเท้าได้ในไม่กี่นาที

แต่สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับลู่เสี่ยวไปเขาจึงผูกมันไว้ที่ข้อเท้าข้างหนึ่งของเธอ ทันทีที่เธอเดินกําไลข้อเท้าก็สั่น

เซียเสี่ยวจ้านก็หน้ามุ่ยเช่นกัน “ของฉันอยู่ไหนล่ะ?”

“คุณไม่ต้องการมันหรอก คุณจะพังมันในไม่กี่นาที!”

จางซวาหยูและเลอเหรินกวงสบตากันอย่างเศร้า ๆ เราไม่มีมั่งหรอ

เพื่อที่จะได้เข้ากับคนเหล่านี้หานเฟยก็ไปเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม เมื่อทั้งห้าคนยืนอยู่ด้วยกันในชุดใหม่พวกเขามั่นใจว่าทุกคนจะหันหมามองแน่นอน

ร่างสามร่างปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและลงที่พื้น

เสี่ยวฉานถือซองผ้าไว้ในมือ และจ้องไปที่พวกเขาทั้งห้าคนด้วยความตกตะลึง

เหวินเหรินหยูพุ่งไปข้างหน้า “คุณซื้อเสื้อผ้าแบบนี้แบบเสี่ยวจานกับเสี่ยวไปที่ไนหรอ? พวกมันราคาเท่าไหร่? นักออกแบบชื่อดังคนไหนสร้างให้”

ลู่เสี่ยวไปกล่าวอย่างเรียบเฉย “หานเฟยทําพวกมันขึ้นมาเอง”

เซียเสี่ยวจานถามว่า “คุณเหวินเหรินคุณคิดอย่างไรกับเสื้อผ้าของฉัน”

เซียเสี่ยวจานชูสร้อยข้อมือที่เธอเพิ่งได้มาต่อหน้าเหวินเหรินยู

เหวินเหรินยผลักมือเธอออกและเดินตรงไปที่หานเฟย “คุณทําเสื้อผ้าได้ไหมหรอ? แล้วก็เครื่องประดับด้วยหรอ?”

หานเฟยมีลางสังหรณ์ไม่ดีในขณะที่เขาตอบอย่างประหม่า “ฮ่าฮ่า ทําได้นิดหน่อยแค่นิดหน่อย”

เหวินเหรินยูเลิกคิ้ว “คุณคิดว่าเสื้อผ้าแบบไหนที่เหมาะกับฉันหรอ? คุณคิดว่าสีดําเหมาะกับฉันไหม?แต่มันไม่สามารถเป็นสีดําล้วนมันดูร้ายแรงเกินไป แล้วถ้าจะผสมสีแดงมันจะเป็นอย่างไร…”

“อะแฮ่ม…คุณเหวินเหรินคุณกําลังทําอะไรอยู่?” เฒ่าไปตัดเธอออก

ในที่สุดเหวินเหรินยูก็จําได้ว่าทําไมเธอถึงมาที่นี่ เธอมองหานเฟยอย่างลึกซึ้งก่อนที่จะยืนหันหลังกลับ

เสี่ยวฉานยิ้ม เขาไม่เคยเห็นนักเรียนที่มีความสามารถมากมายแบบนี้มาก่อน น่าสนใจ

เสี่ยวฉานมองพวกเขาอย่างภาคภูมิใจ “เนื่องจากคุณประสบความสําเร็จในการชนะหนึ่งร้อยครั้งต่อเนื่องในสนามประลงทะเลครามตอนนี้คุณมีสิทธิ์ได้รับซองผ้าที่สอง อย่างไรก็ตามคุณยังมีข้อบกพร่องหลายประการตัวอย่างเช่นเซียเสี่ยวจานในการประลองคุณได้อัญเชิญอโรวาน่ายักษ์ของคุณทําไมคุณยังต้องต่อสู้กับอีกฝ่ายในระยะประชิดล่ะ?ผลก็คือคุณโดนวางยาจนเกือบตกเวทีไม่น่าขายหน้าเหรอ?และคุณจางซวนหยูคุณเอาแต่สนใจกับผู้เก็บเกี่ยววิญญาณฉันรู้สึกละอายใจแทนคุณจริงๆ..”

จางซวนหยูตอบกลับ “เขาก็เป็นนักรบวิญญาณด้วยเช่นกัน! และเขาเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสูงนา”

เสียวฉานเย้ยหยัน “คุณกล้าพูดได้อย่างไร? ทําไมคุณไม่ถามตัวเองว่าทําไมคุณถึงอ่อนแอขนาดนี้”

เสี่ยวฉานหันกลับมาหาพวกเขาทั้งหมด “คราวนี้ผลงานของคุณถือว่าอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น!มีนักเรียนเพียงหนึ่งในสิบอันดับแรกจากสามสถาบันเท่านั้น จะเป็นอย่างไรถ้าทีมอื่นประกอบด้วยนักเรียนชั้นนําล่ะ?แล้วโอกาสที่คุณจะชนะคืออะไร? คุณจะจัดการทั้ง 36 เมืองด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?บลาบลา…”

เสี่ยวฉานพูดต่อไปจนเขาเหนื่อยเขาจึงมองไปที่เฒ่าไปและถามว่า “อยากพูดอะไรกับพวกเขามั้ย?”

เฒ่าไปพยักหน้าและกล่าวว่า “เมื่อคุณชนะคุณก็ชนะ ไม่สําคัญที่จะกล่าวถึงมันอีก ตอนนี้ฉันจะถามคุณสองสามคําถาม”