ตอนที่ 260 ไม่หวังอะไรตอบแทน

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 260 ไม่หวังอะไรตอบแทน

ตอนที่ 260 ไม่หวังอะไรตอบแทน

เมื่อหุยซู่เห็นว่าบอสของเขามีใบหน้าที่บูดบึ้งหลังจากวางสายโทรศัพท์ เขาเลยไม่กล้าปริปากถามสิ่งใดออกไป อีกทั้งยังพยายามขยับตัวหนีออกจากที่นั่นด้วยก้าวเล็ก ๆ

แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกไปไม่กี่ก้าว เขาก็ได้ยินบอสของเขาถามด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยและผิดหวัง

“ที่ฉันให้นายไปหารถบ้าน หาได้หรือยัง?”

หุยซู่หยุดนิ่งทันทีและรายงานว่า “หาได้แล้ว ผมกำลังจะรายงานให้คุณทราบ เป็นรถบ้านก่อนวันสิ้นโลก ซึ่งมีความยาว 13 เมตร ผมให้เขานำรถมาจอดที่โรงรถของเรา คุณจะไปดูหน่อยไหม?”

ใบหน้าของกู้หมิงฉืออ่อนลงเล็กน้อย “อืม ฉันจะไปดู”

รถบ้านนี้ยังมีสภาพดีอยู่ 60-70% ลักษณะคล้ายกับรถบัสทั่วไปก่อนวันสิ้นโลก แต่สูงกว่าเล็กน้อย ตัวรถสีเงินมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยบนพื้นผิว แต่หากไม่สังเกตก็แทบจะมองไม่เห็น

กู้หมิงฉือมองไปที่รอยขีดข่วนนั้นแล้วครุ่นคิด

เขากำลังจะนำมันไปมอบให้คนอื่น จะให้มีข้อบกพร่องที่ชัดเจนแบบนี้ได้อย่างไร

“ไปหาคนมาซ่อมรถภายนอก”

หุยซู่ไม่เข้าใจว่าเจ้านายของเขาจุกจิกไปทำไม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ตอบรับอย่างช่วยไม่ได้

กู้หมิงฉือเปิดประตูรถและขึ้นไป ด้านขวามือคือห้องคนขับ และด้านซ้ายมือคือห้องนั่งเล่นขนาดเล็กที่มีโซฟา โต๊ะน้ำชา และชั้นวางทีวี

เสียอย่างเดียวว่าเฟอร์นิเจอร์ดูไม่ใหม่ และฝุ่นเยอะไปหน่อย ทีวีก็พังใช้งานไม่ได้

หุยซู่กลัวว่าเขาจะไม่พอใจจึงรีบอธิบายว่า “อันที่จริงรถคันนี้ไม่ค่อยได้ใช้งานมากนัก ผมได้ยินมาว่าคู่หนุ่มสาวซื้อมันเพื่อขับไปเที่ยวที่ต่าง ๆ กันเอง แต่หลังจากซื้อไม่ถึงเดือนก็ต้องเจอกับวันสิ้นโลก ทั้งคู่เสียชีวิตและรถถูกทิ้งในสถานีให้บริการ”

และในเวลา 20 ปีที่ผ่านมาก็ไม่มีใครที่สามารถครอบครองมันได้นาน เนื่องจากมันสิ้นเปลืองน้ำมันและไฟฟ้ามากเกินไป อีกทั้งมันก็มีความหรูหรามาก รถคันนี้มีการเปลี่ยนมือมาสองครั้งและสุดท้ายมันก็ถูกทิ้งไว้เฉย ๆ มันไม่ได้ใช้งานมากนัก ที่มันดูเก่าเพราะไม่มีการบำรุงรักษาเท่านั้น ผมจะให้พี่น้องของเราช่วยคนทำความสะอาดและซ่อมแซมทั้งภายในและภายนอก และมันจะสามารถดูใหม่เอี่ยมได้อย่างแน่นอน”

กู้หมิงฉือตอบว่า ‘อืม’ ด้วยความพึงพอใจ และถัดไปด้านในเป็นห้องครัวขนาดเล็กซึ่งรองรับได้เพียงสองคน แต่มีเตา ตู้เก็บของ และแม้แต่เครื่องดูดควัน

เมื่อลองเปิดใช้งาน ก็พบว่ามันยังใช้ได้อยู่

หุยซู่โค้งคำนับ “ยังใช้ได้”

กู้หมิงฉือพยักหน้าและเดินต่อไปข้างในคือห้องนอน ซึ่งมีเตียงคู่ และมีตู้เก็บของอยู่ที่ผนังอีกด้าน

บนเตียงนั้นเปลือยเปล่ายังไม่มีเครื่องนอน มีฝุ่นเกาะเป็นชั้น ๆ และมีใยแมงมุมเกาะตามมุมห้อง

มีห้องน้ำในห้องนอน สถานที่ค่อนข้างกว้างและสะอาดถ้าไม่นับว่ามีฝุ่นเกาะอยู่

เมื่อมองโดยรวม กู้หมิงฉือพอใจและรู้สึกว่าของขวัญที่เขาจะมอบให้ซูเถาไม่น่าจะด้อยไปกว่าสือจื่อจิ้น

เขาทำการเปรียบเทียบด้วยตัวเองแล้ว แต่ว่าซูเถาคงไม่ต้องการเปรียบเทียบมัน

แม้จะเห็น ‘รถบ้านคันใหญ่’ จอดอยู่ที่ประตู เธอก็คิดว่าคงมีกลุ่มคนลงมาบุกรุกที่ของเธอ

และในที่สุดหุยซู่ผู้มีเหงื่อเต็มตัวก็ลงมาจากรถ

สือจื่อจิ้นผู้ที่มือข้างหนึ่งถูกพันด้วยผ้าพันแผลที่ยืนอยู่ข้างซูเถา จ้องมองไปที่เขาตาไม่กะพริบ

หุยซู่รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ และอยากที่จะปลีกตัวกลับไป

เขากัดฟันใจดีสู้เสือพยายามรักษาท่าทีและพูดออกไป

“เถ้าแก่ซู บอสกู้ของเราได้ยินว่าคุณกำลังจะไปซินตู คงไม่สะดวกที่จะพาคนกลุ่มใหญ่เดินทางไป เขาจึงมอบรถบ้านนี้ให้คุณ ซึ่งมีทั้งห้องนอนและห้องครัว รองรับคนได้เยอะ พร้อมกับเปลี่ยนหน้าต่างด้านนอกทั้งหมดให้คุณแล้ว เป็นกระจกกันกระสุน”

สือจื่อจิ้นจ้องมองเขาด้วยสายตาที่จริงจังมากขึ้น

หุยซู่รู้สึกถึงความอันตราย หากแต่ก็ไม่ไดเผยความกลัวออกมา

เนื่องจากเขาเป็นตัวแทนของบอสกู้

ถ้าเขาถอย บอสกู้ก็ต้องจบ!

เขาไม่สามารถทำให้บอสกู้ของเขาเสียหน้าต่อหน้าคู่แข่งได้

ซูเถาไม่ทันได้ตั้งตัว เธอมองรถอย่างสำรวจแล้วถามว่า

“กู้หมิงฉือต้องการขายต่อให้ฉันในราคาเท่าไหร่? ไม่สิ เขาต้องการอะไรกันแน่”

เพราะว่ารถนี้เป็นรถที่ดีจริง ๆ และเธอต้องการที่จะซื้อมัน แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะนำรถนี้มามอบให้ฟรี ๆ

เพราะปกติแล้วกู้หมิงฉือชอบเอาเปรียบเธอ บางทีเขาอาจต้องการได้บางอย่างจากเธอก็ได้

อีกอย่างในมือเธอก็มีของดีมากมาย อะไรทำให้เขาให้สิ่งนี้กับเธอ

ทันใดนั้นหุยซู่ก็พูดเสียงดัง “บอสกู้ของพวกเราบอกว่าเขามอบสิ่งนี้ให้คุณ!!”

เสียงนั้นดังมากจนไม่เพียงแต่สือจื่อจิ้นเท่านั้นที่ได้ยินอย่างชัดเจน แต่ยังรวมถึงผู้เช่าของเถาเหยางที่ผ่านไปผ่านมาอีกด้วย และนั่นก็ทำให้ผู้คนต่างก็จ้องมองมาที่พวกเขา

เฉินซี เฉินหยางยกเครื่องสื่อสารขึ้นเพื่อถ่ายทอดสดไปให้จงเกาอี้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่คลินิก

เมื่อได้ยินดังนี้ จงเกาอี้ก็อดไม่ได้ที่จะไปดูฉากนั้นด้วยตัวเอง

ซูเถาถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วถามอย่างระมัดระวัง

“เขาคิดจะทำอะไร?”

คนที่ชอบข่มขู่ลักขโมยอย่างเขา ไม่น่าจะมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

เขาต้องการที่จะให้ของสิ่งนี้กับเธอฟรี ๆ และมาหวังผลประโยชน์จากเธอทีหลังหรือเปล่า?

เมื่อหุยซู่มองไปที่สือจื่อจิ้น เขาก็ต้องรีบมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว และเริ่มพูดคำพูดของกู้หมิงฉือออกมาอย่างรวดเร็ว

“ไม่ทำไมหรอก บอสกู้ของพวกเราไม่ใช่ว่ารู้จักใครก็จะส่งของขวัญไปให้คนนั้น ถ้าเถ้าแก่ซูอยากได้อะไร ก็แค่บอกบอสของเรา เขาไม่หวังอะไรตอบแทนจากการให้อะไรคุณ”

พูดจบเขาก็วิ่งหนีไป

เฉินซีพูด ‘ว้าว’ ทันที

ถึงเธอจะยังเด็ก แต่เธอก็เหมือนจะได้กลิ่นอะไรบางอย่าง จงเกาอี้ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่มองดูสถานการณ์นี้ เกือบจะพ่นน้ำออกจากปากของเขา

ซูเถาตกตะลึง เธอมองเขาลงจากรถ แล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้าสือจื่อจิ้น เธออ้าปากค้างจนพูดไม่ออก

ทันใดนั้น สือจื่อจิ้นก็หัวเราะเบา ๆ

ประกาศสงครามสินะ?

เขาคิดว่าเหลยสิงจะเป็นคนแรกที่ประกาศสงครามกับเขา

สือจื้อจิ้นลูบหัวเธอ และพูดกับเธอหลังจากที่เขาลงจากรถแล้ววิ่งหนีไป “เก็บมันไว้เถอะ ทิ้งไปก็เสียดาย”

ซูเถาทำท่าฟึดฟัด เธอหันหน้ามาหาสือจื่อจิ้น บีบมือตัวเองแน่นและอดไม่ได้ที่จะถามเขาว่า

“กู้หมิงฉือหมายความว่ายังไง”

สือจื่อจิ้นไม่อยากให้ซูเถาเข้าใจความหมายของกู้หมิงฉือ จากนั้นเขาก็ตอบเธอโดยมีสีหน้าที่เรียบเฉย ราวกับว่าเรื่องนี้มันไม่มีความหมายอื่นแฝง

“เขาอาจจะมีบางอย่างที่อยากได้ความช่วยเหลือจากคุณนั่นแหละ เพราะการให้ของขวัญล่วงหน้าจะทำให้ง่ายต่อการขอเงื่อนไขในภายหลัง ไม่ต้องคิดมากหรอก”

ซูเถามองเขาอย่างสงสัย

สือจื่อจิ้นถามเธอกลับว่า “มันจะมีความหมายอื่นได้ยังไงกันล่ะ? เขาหวังผลประโยชน์มาโดยตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ไปเถอะ พวกเราขึ้นไปดูกัน”

ซูเถายังคงมีความกังวล แต่เมื่อเห็นว่าเขาเปิดประตูรถแล้ว เธอจึงเก็บเรื่องนี้ไว้ในหัว

ช่างมันเถอะ กู้หมิงฉือจะขออะไรก็ได้ที่เขาต้องการ และเธอก็จะช่วยหากว่ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรง

เมื่อเห็นการตกแต่งในรถ ความสนใจของซูเถาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

รถคันนี้เป็นบ้านเคลื่อนที่ที่ตกแต่งอย่างดี!

หลังจากลองสำรวจดูอย่างถี่ถ้วน สือจื่อจิ้นก็คิดว่าเขารู้วิธีขับ และเมื่อตรวจสอบการทำงานและเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ก็พบว่าไม่มีปัญหาอะไรเขาจึงพยักหน้ายืนยัน

“รถคันนี้ไม่เลว คุณสามารถอยู่ในนี้ได้ระหว่างทาง และเมื่อคุณลงจากรถ ก็เพียงแค่ขอให้ฟางจือนำรถไปเก็บในมิติ”

หลังจากพูดจบ เขาก็เอื้อมมือไปแตะตามจุดต่าง ๆ และพบว่าไม่มีฝุ่นเลย เห็นได้ชัดว่ามันถูกทำความสะอาดอย่างระมัดระวังก่อนส่งมอบ

การกระทำในครั้งนี้ของกู้หมิงฉือ ดูจะใส่ใจกับมันมาก

สือจื่อจิ้นหรี่ตาของเขาลงเล็กน้อย

ซูเถาชอบมันมาก เธอสัมผัสไปแต่ละจุด และในที่สุดก็ขอให้คนขับรถตรงเข้าไปในเถาหยางและหยุดจอดไว้ริมถนนหลักชั่วคราว

และเธอก็ขอให้ป้าคังเรียกป้าทำความสะอาดสองคนมาวางเครื่องนอนบนเตียงใหญ่

จัดการทำความสะอาดผ้าปูโซฟาใหม่ในห้องนั่งเล่นและทีวีใหม่ที่อยู่บนผนัง

ห้องครัวขนาดเล็กมีหม้อและกระทะแล้ว

ตู้เย็นสองประตูขนาดใหญ่เต็มไปด้วยขนม เครื่องดื่ม ไอศกรีม และอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่เธอโปรดปราน ซึ่งสามารถอุ่นก่อนรับประทานได้