บทที่ 93 คุณคือภรรยาของผม

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“ที่จริงคุณรังเกียจฉัน คุณคิดว่าฉันไม่คู่ควรกับอาเหยี่ยนเพราะว่าฉันไม่บริสุทธิ์”

เฉินฮวนฮวนมองไปที่ชายตรงหน้าเธอด้วยสายตาที่แน่วแน่พร้อมกับน้ำเสียงที่หนักแน่น เธอเดาไม่ผิดและไม่มีทางเดาผิด

“ไม่ใช่!”เฟิงหานชวนปฏิเสธทันที

เขายังพูดไม่ทันจบ แต่เฉินฮวนฮวนก็ชิงพูดเสียก่อน เธอยังคงพูดเหมือนกับว่าเขารังเกียจเธอมาก

“โอเค ฉันจะออกห่างจากอาเหยี่ยน แต่คงต้องรออีกครึ่งเดือนหลังจากนี้”เฉินฮวนฮวนสูดลมหายใจและพูดอย่างจริงจัง: “ฉันจะต้องเข้าฝึกในเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันจะไปฝึกครึ่งเดือน และพรุ่งนี้ฉันต้องเตรียมสัมภาระแล้ว ตอนนี้ฉันเลยไม่มีเวลาไปหาห้องเช่า”

“ดังนั้น เฟิงหานชวน เมื่อฉันกลับมาจากค่ายฝึก ฉันจะออกไปหลังจากหาห้องเช่าได้ แบบนี้โอเคไหม?”

“แบบนี้คุณพอใจหรือยัง?”

เธอรู้สึกว่าเฟิงหานชวนพุ่งเป้ามาที่เธอตลอด มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะอยู่ในบ้านตระกูลเฟิงต่อไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอจะเข้าร่วมแข่ง และถ้าเธอออกมา และหลังจากที่เธอโด่งดังจนร่ำรวยแล้ว เธอก็จะสามารถจัดการกับคนตระกูลเฉินได้ด้วยตัวของเธอเองได้

ทั้งนายท่านเฟิง เฟิงเฉินเหยี่ยน เฉินนานาและแม่บ้าหลี่ ทุกคนปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี ที่จริงแล้วเธอค่อนข้างสบายใจที่จะอยู่ที่นี่

แต่เฟิงหานชวนไม่ยอมให้เธออยู่ต่อ

เนื่องจากเขาไม่อนุญาตให้เธออยู่ เธอก็ต้องออกไป ไม่เช่นนั้นคงจะเกิดความขัดแย้งมากมายขึ้นในอนาคต

เฟิงหานชวนตะลึง

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? เธอจะไปมะรืนนี้ แถมยังต้องออกไปเป็นเวลาครึ่งเดือน?

ยิ่งไปกว่านั้นหญิงเจ้ากรรมคนนี้ยังบอกว่าเมื่อเธอกลับมาจากค่ายฝึก เธอจะออกจากบ้านตระกูลเฟิง แถมยังมาถามเขาอีกว่าเขาพอใจหรือยัง?

“เฉินฮวนฮวน คราวหน้าเวลาที่ผมพูด คุณอย่าขัดจังหวะได้ไหม?”เฟิงหานชวนขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาดูโกรธเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปและคว้าหมอนจากแขนของผู้หญิงตรงหน้าทันที

เขาพยายามอดกลั้นอารมณ์โกรธไว้และโยนหมอนลงบนพื้น

ทันใดนั้นสายลมเย็นก็พัดผ่านร่างกายของเธอ เธอกอดตัวเองโดยไม่รู้ตัว

“อาสาม คุณแก่กว่าฉันมาก ฉันคิดว่าการที่ฉันเรียกชื่อคุณคงไม่ดี ฉันตกลงที่จะไปแล้ว ดังนั้นช่วยโปรดกลับไปที่ห้องของคุณเถอะ”เฉินฮวนฮวนหลับตาลง น้ำเสียงของเธออ่อนลง ความสุภาพของเธอแสดงถึงความเหินห่าง

สำหรับเธออยู่ที่ไหนก็มีค่าเท่าเดิม เพราะอย่างไรเธอก็ไม่มีญาติอยู่แล้ว

เธอไม่ต้องการทะเลาะกับเฟิงหานชวนอีกแล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยเกินไป ตั้งแต่มาที่บ้านตระกูลเฟิง ความขัดแย้งระหว่างเธอกับเฟิงหานชวนก็ไม่เคยหยุดเลย

เธอคิดว่าความเข้าใจผิดระหว่างพวกเธอนั้นได้รับการแก้ไขแล้ว และก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้ แต่เฟิงหานชวนก็ยังคงไม่ปล่อยเธอ

“กลับห้อง? จะให้ผมไปไหน ที่นี่คือห้องของผม”เมื่อเห็นท่าทางของเฉินฮวนฮวนแล้ว เฟิงหานชวนก็รู้สึกไม่สบายใจ

เฉินฮวนฮวนขมวดคิ้ว เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย ใบหน้าของเธอดูกระสับกระส่ายเล็กน้อย: “อาสาม ฉันสัญญาไปแล้วว่าจะออกไปจากที่นี่ คุณยังต้องการอะไรอีก?”

“ถัดไปเป็นห้องรับรองแขก ที่นี่คือห้องของผม บ้านหลังเก่าเองก็ไม่มีห้องของอาเหยี่ยน”เฟิงหานชวนจ้องไปที่ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างแน่วแน่

อยากวิ่งหนีเหรอ? ไม่มีทาง!

เขาจะบอกความจริงกับเธอตอนนี้

“อะไร?”เฉินฮวนฮวนขมวดคิ้วแน่นมากขึ้น ใบหน้าของเธอดูว่างเปล่า เธอไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่เฟิงหานชวนต้องการจะสื่อได้สักนิดเลย

นี่ไม่ใช่ห้องหอสำหรับอาเหยี่ยนหรอกเหรอ? ทำไมไม่มีห้องสำหรับอาเหยี่ยน?

“เฉินฮวนฮวน ที่นี่มันคือห้องของผม มันคือห้องหอของผมกับคุณตั้งแต่แรกแล้ว”ในที่สุดเฟิงหานชวนก็พูดออกมา

ในตอนนี้เฉินฮวนฮวนรู้สึกสับสนมากกว่าเดิม เธอคิดว่าเฟิงหานชวนรู้สึกร้อนรนมากจนเริ่มพูดเรื่องไร้สาระ?

“คุณคิดว่าครึ่งเดือนที่ฉันพูดไปเป็นข้ออ้างสำหรับการผัดวันประกันพรุ่งเหรอ?ฉันจะไปครึ่งเดือนจริงๆ แล้วอีกครึ่งเดือนถึงจะกลับมา คฤหาสน์ของแม่เองฉันก็ไม่ต้องการแล้ว แถมยังต้องผิดสัญญาระหว่างฉันกับนายท่านเฟิงอีก หรือคุณต้องการให้ฉันไปตอนนี้เลย? ”

เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเฟิงหานชวนถึงเลือดเย็นได้ขนาดนี้ ยอมทนหน่อยสักหน่อยก็ไม่ได้เหรอ?

เฟิงหานชวนกุมหน้าผากของเขา

เขารู้สึกว่าเขาและเฉินฮวนฮวนไม่ได้ไปในทางเดียวกันกับเขาเลย

“เฉินฮวนฮวน คุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ?”เขาก้มตัวเข้าไปใกล้ๆเธออีกครั้ง เกือบจะเอนเข้าไปใกล้ตัวเธอแล้ว เขาค่อยๆพูดทีละคำทีละประโยค: “นี่คือห้องหอของผมกับคุณ ดังนั้นแล้วมันหมายความว่าอะไรล่ะ?”

“ความหมายของประโยคนี้ก็คือคุณกับผมเป็นคู่แต่งงานกันไง”

“บ้า! คุณมันบ้าจริงๆ!”เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอพูดแต่เรื่องไร้สาระ

เธอสงสัยว่าเฟิงหานชวนเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่า? นี่มันบ้าชัดๆ!

“คุณไม่เชื่อผม ใช่ไหม?”เฟิงหานชวนคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้เฉินฮวนฮวนเชื่อในทันที ดังนั้นเขาจึงต้องอธิบายให้ชัดเจน

“คุณมันบ้า ฉันแนะนำให้คุณไปที่โรงพยาบาลบ้า”

“ฮวนฮวน เมื่อคืนคุณก็ดูมีความสุขกับผมนี่ แต่วันนี้คุณกลับมาเรียกผมว่าคนบ้าน่ะเหรอ?”เฟิงหานชวนเปลี่ยนน้ำเสียงให้นิดหน่อย

เฉินฮวนฮวนเบิกตากว้าง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ: “คุณ…คุณพูดอะไร?”

เมื่อคืนที่ผ่านมาในคืนที่มืดมิด ผู้ชายที่นอนอยู่กับเธอ

กลับเป็นเฟิงหานชวน!

เธอคิดว่าเป็นเฟิงเฉินเหยี่ยน จะเป็นเฟิงหานชวนไปได้อย่างไร?

ไม่น่าแปลกใจ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอรู้สึกว่าความรู้สึกนั้นมันคุ้นเคยมาก เพราะเขาคือเฟิงหานชวน

“คุณก็รู้ว่าอาเหยี่ยนไม่ได้กลับบ้านตอนกลางคืน?”เฟิงหานชวนเหยียดมือออกไปและลูบผมของเฉินฮวนฮวน

เฉินฮวนฮวนยังคงตกตะลึง เธอไม่ได้ตอบอะไรออกไปสักคำ

เธอตกตะลึงกับความไร้ยางอายของเฟิงหานชวน!

“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง……”เฉินฮวนฮวนได้สติกลับมาและน้ำตาก็เริ่มล้นเต็มดวงตาของเธอ

เมื่อคืนเธอมองว่าเขาเป็นเฟิงเฉินเหยี่ยนและปฏิบัติกับเขาอย่างดี เมื่อคิดถึงตอนนั้นเธอก็รู้สึกอับอายมาก

เฟิงหานชวนเห็นเธอเป็นอะไร? แกล้งเธอแบบนี้ได้อย่างไร?

น่าเสียดายที่เธอคิดว่าเฟิงหานชวนเป็นคนดี!

“ร้องไห้ทำไม?”เมื่อมองดูท่าทางที่ไม่พอใจของเธอ เฟิงหานชวนก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย เขาใช้นิ้วหัวแม่มือของเขาเช็ดน้ำตาจากมุมตาของเธอเบา ๆ

แต่ตอนนี้เฉินฮวนฮวนร้องไห้หนักมากขึ้นกว่าเดิม

เธอผิดไปแล้ว ทำผิดไปแล้วจริงๆ

เธอคิดว่าทำไมตัวเองจะต้องมาทุกข์ทรมาณอย่างนี้ด้วย!

หลังจากกำจัดหลิวตงรุ่ยออกไปได้แล้ว เงาในคืนนั้นก็สว่างขึ้นด้วยการเอาสร้อยคอของแม่เธอกลับคืนมาได้

แต่ตอนนี้…

มันทำให้เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งออกจากถ้ำหมาป่าและตอนนี้ก็กลับมาเข้าถ้ำเสือแทน

“เฟิงหานชวน คุณกับอาเหยี่ยนเป็นญาติกัน ความสัมพันธ์เป็นอาและหลานกัน ทำไมความผิดชอบชั่วดีของคุณถึงได้แตกต่างกันขนาดนี้?”เฉินฮวนฮวนร้องไห้และบ่นพึมพำ

แม้ว่าเฟิงเฉินเหยี่ยนจะมีข่าวลือมากมาย แต่เมื่อเธอได้เจอกับเขา เธอก็รู้สึกสบายใจมาก เพราะเฟิงเฉินเหยี่ยนไม่เคยล่วงเกินเธอและดูใส่ใจเธอด้วยคำพูดและทุกการกระทำ

เขาดูสดใสและมีชีวิตชีวา ทุกๆการกระทำของเขาก็ดูเป็นสุภาพบุรุษมาก แม้ว่าเขาจะมีผู้หญิงมากมาย แต่อย่างน้อยในแง่ของชีวิต อย่างน้อยเฟิงเฉินเหยี่ยนก็ยังรู้จักผิดชอบชั่วดี

ตรงกันข้าม เฟิงหานชวนกลับ…

“เฉินฮวนฮวน คุณเป็นภรรยาของผมและเป็นอาสามของอาเหยี่ยน!”เฟิงหานชวนยื่นมือออกไปจับไหล่ที่เรียวยาวของหญิงสาวแล้วถอนหายใจ

เขาไม่มีเวลามาสนใจว่าเฉินฮวนฮวนจะยังคงร้องไห้อยู่หรือไม่ เขาเพียงแค่ต้องรีบพูดเรื่องนี้ออกไปสักที