“การต่อสู้ระหว่าง 2 กลุ่มของพวกนายตอนนี้มันมากเกินไปและเริ่มส่งผลกระทบต่อสถาบันโดยรวมแล้ว ตอนนี้และที่นี่เราต้องยุติมัน”
แองเจลิน่าพูดด้วยน้ำเสียงที่สะกดจิตแต่ไพเราะ แม้แต่ผมยังต้องยอมรับเลยว่าเธอมีความได้เปรียบในด้านน้ำเสียงที่ทำให้คนอื่นมีแนวโน้มที่จะรับฟังเธอ
ผมพยักหน้าให้กับคำพูดของเธอเช่นเดียวกับรอน เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มและพูดต่อ
“เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน สิ่งที่เราต้องทำก็แค่ตัดสินใจว่าจะยุติเรื่องนี้อย่างไร”
หลังจากพูดเช่นนั้นจบ เธอก็เงียบลง ใบหน้าของเธอมองสลับไประหว่างรอนกับผม
ความเงียบไม่กี่วินาทีเกิดขึ้นก่อนที่จะมีปีศาจที่ยืนอยู่ข้างหลังรอนพูดขึ้นมา
“การสู้รบจนถึงขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อทั้ง 2 ฝ่ายแล้วยังส่งผลให้มีการชิงดีชิงเด่นและความเกลียดชังระหว่างมนุษย์และปีศาจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อคำนึงถึงสถานะของหัวหน้ากลุ่มทั้ง 2 แล้ว โอกาสที่จะเกิดปัญหาทางการเมืองก็ใกล้เข้ามาเช่นกัน”
หลังจากที่ปีศาจพูดจบก็ไม่มีใครปฏิเสธคำพูดของเขา และคนที่พูดต่อคืออเล็กซ์ที่เดินขึ้นมาข้างหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูด
“ผมเห็นด้วยกับคำพูดของคุณ มันทำให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน แล้วคุณจะเสนอให้ยุติ ‘การต่อสู้’ ของเรายังไงหล่ะ?”
ปีศาจที่พูดก่อนหน้านี้พยักหน้า ขณะที่ดวงตาสีดำสนิทของเขาเพ่งไปที่อเล็กซ์
“เนื่องจากการต่อสู้ลุกลามไปถึงระดับดังกล่าว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ไขด้วยวิธีที่สงบสุขอย่างสมบูรณ์ พวกเราปีศาจจึงให้ความสำคัญกับความแค้นเป็นอย่างสูง”
พูดจบเขาก็หยุดครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ
“จะว่ายังไงถ้าเราจัดการแข่งขันเล็กๆ กันหล่ะ?”
“คุณมีอะไรในใจงั้นเหรอ?”
อเล็กซ์ถาม
“การล่าแบบนอร์มาดิก”
“โอ้?”
“!!”
ทุกคนที่ได้ยินก็ถอยกลับไปครู่หนึ่ง การล่าแบบนอร์มาดิกหรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อการล่ามรณะ เป็นการแข่งขันกันที่เหล่าปีศาจคิดค้นขึ้นมา มันถือเป็นเกมโปรดของพวกเขาเลย
เกมนี้เล่นง่ายมากนั่นคือให้ผู้แข่งขัน 2 คนจะถูกโยนเข้าไปในโลกๆ หนึ่ง พวกเขาจะได้รับข้อมูลพื้นฐานว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน และสิ่งที่พวกเขาต้องทำคือตามล่าอีกฝ่าย
แต่ความแตกต่างตรงที่ๆ พวกเขาจะถูกส่งไปนั้นอยู่ในสภาพสุดขั้วซึ่งแม้แต่การเอาชีวิตรอดก็ยังยาก
ใช่แล้ว…ในเกมนี้ความแข็งแกร่งมีความสำคัญ แต่มากกว่านั้นคุณจะต้องรู้วิธีเอาชีวิตรอดด้วย ในเกมนี้ความแข็งแกร่งเป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้สภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ฆ่าคุณได้แล้ว
มันเป็นกีฬาที่กระหายเลือดมากของพวกปีศาจ ซึ่งพวกเขาเพลิดเพลินจนสุดใจ
‘พวกมันต้องการสร้างชัยชนะที่น่าจดจำสินะ’
เมื่อเห็นสีหน้าของพวกปีศาจแล้ว ผมก็รู้ว่าในเกมนี้พวกมันย่อมได้เปรียบอยู่บ้าง พวกมันใช้กำลังอย่างโจ่งแจ้ง แต่แล้วยังไงหล่ะ?
ผมหันไปมองแองเจลิน่าที่ยิ้มอยู่ก่อนจะพูดออกมา
“เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นเพียงคนกลางสินะ?”
“เปล่า?”
เธอตอบด้วยรอยยิ้มอันน่าสะพรึงกลัวที่ทำให้เย็นยะเยือกจนไปถึงกระดูกสันหลัง
ผมยิ้มขณะเอนตัวลงบนเก้าอี้ ทำให้ท่าทางผ่อนคลายมากขึ้นขณะตอบ
“ให้ผมเดานะ ถ้าผมปฏิเสธ เธอจะจับมือกับรอนและนำปีศาจทั้งหมดมากดดันพวกเราให้ถูกทำลายสินะ?”
“ใช่”
เธอตอบอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มหน้าด้านบนใบหน้าของเธอ
ผมไม่สะทกสะท้าน แต่กลับหัวเราะเบาๆ ขณะที่มองดูทั้งรอนและแองเจลิน่า
“ปีศาจนี่มันเจ้าเล่ห์และอันตรายจริงๆ”
“ขอบคุณที่ชม”
แองเจลิน่าพูดด้วยรอยยิ้ม แต่แล้วเธอก็สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้ใส่ใจโดยไม่รู้ตัว มันเป็นเพียงข้อเท็จจริงง่ายๆ ที่ว่ารอนกำลัง….เงียบอยู่
ทุกคนที่รู้จักรอนน่าจะบอกได้ว่าความภาคภูมิใจของเขาเป็นสิ่งที่ฝังแน่นอยู่ในกระดูกของเขา และเขาจะไม่มีวันยอมให้ใครเป็นผู้นำมันไปจากเขา แต่ตอนนี้เขากลับนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเงียบๆ ราวกับสูญเสียความสามารถในการพูดไป
ทุกคนต่างจับตามองหันไปหารอนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเงียบๆ ใบหน้าของเขาสงบอย่างน่าขนลุก
“เจ้าชายรอน นายมีอะไรจะพูดไหม?”
แองเจลิน่าถามด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว ขณะเดียวกันผมก็ได้แต่นั่งพักผ่อนบนเก้าอี้แล้วมองรอนที่กำลังมองผมอยู่
ผมเห็นว่าในดวงตาของเขามีการต่อสู้ดิ้นรนเกิดขึ้น มีบางอย่างบังคับให้เขาคิดให้หนักขึ้นในการเลือกของเขา และผมก็ถึงรู้เหตุผลข้อดี
คุณจะเห็นข้อดีของการมีองค์กรที่ปกครองโลกใต้ดินทั้งหมดก็คือความลับไม่สามารถซ่อนไว้จากผมได้ แม้แต่คนที่ดูบริสุทธิ์ที่สุดก็ยังมีความลับซ่อนอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือสิ่งหนึ่งที่พวกเขาทำโดยที่บุคคลนั้นไม่ต้องการให้โลกรับรู้
ทีนี้จะเกิดอะไรขึ้นหากบุคคลที่ควบคุมศาสนาที่ทรงพลังทั้ง 2 แห่งมีความสัมพันธ์กับบุคคลซึ่งปกครองโลกใต้ดินทั้งหมดหล่ะ? คำตอบนั้นง่ายมาก…
ความลับของทั้งโลกจะอยู่ในฝ่ามือของเขา
ผมนั้นรู้ดีกว่าใครๆ ว่าการมีข้อมูลที่ถูกต้องสามารถเปลี่ยนแปลงกระแสการต่อสู้ได้อย่างไร และตอนนี้ผมก็กำลังกุมจุดอ่อนของเจ้าชายแห่งอาณาจักรปีศาจ ผู้ซึ่งจะเป็นจักรพรรดิและผู้ปกครองในอนาคตอยู่
ผมกุมชีวิตของลูกวัย 2 ขวบที่เกิดระหว่างเขากับป้าของเขาไว้ในมืออยู่
ใช่แล้ว รอนกำลังมีความสัมพันธ์กับป้าของตัวเองอยู่ ก็ไม่ใช่ว่าผมจะไปตัดสินพวกเขาได้แต่ที่แย่กว่านั้นคือเธอแต่งงานแล้วและคนที่ถูกเรียกว่าลูกก็คือลูกของสามีเธอ
ถ้าข่าวนี้รั่วไหลออกไปป้าของเขาก็คงจะตาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีสิ่งหนึ่งที่ปีศาจเกลียดที่สุดก็คือการอยู่อาศัยกับคนสารเลว โดยเฉพาะการที่ต้องไปเลี้ยงลูกให้กับคนที่ไม่ใช่ลูกของตัวเอง ไม่มีความอัปยศใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการที่สามีของป้าคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขามีอำนาจและมีอิทธิพลในแบบของเขาเอง จริงๆ แล้วนี่เป็นเพียงการบลัฟฟ์ เป็นเรื่องจริงที่ผมกำลังแบล็กเมล์เขา แต่ผมไม่คิดที่จะทำร้ายเด็กหรอกนะ แม้ว่าผมจะเย็นชาและโหดเหี้ยมมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่อยู่บนโลกนี้ แต่ผมยังคงมีเส้นที่ผมจะไม่ข้ามไปอยู่
ผมจะไม่ทำร้ายเด็กๆ ไม่ใช่โดยตรงอยู่แล้ว ท้ายที่สุดหากผมเปิดเผยข้อมูลนี้ชีวิตเด็กคนนั้นก็คงจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันจะกลายเป็นเรื่องที่รุนแรงกว่านี้ ไม่ว่าในกรณีใดถ้ารอนปฏิเสธข้อเรียกร้องของผม ผมก็ไม่สนใจที่จะเผยแพร่ข้อมูลนี้
สิ่งที่ฉัน ‘แบล็กเมล์’ เขาก็คือข้อเท็จจริงที่ว่าข้อมูลนี้ ‘อาจ’ แพร่กระจายออกไปได้
ถ้าเขาปฏิเสธก็ช่างมันเถอะ ผมจะหาทางอื่น อันที่จริงรอนเป็นคนดี(คนดีอะไร NTR เมียคนอื่นฟะ) ไม่ควรมีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่เขาจะคาดคิดได้อย่างไรว่าคนที่มีอิทธิพลระดับเดียวกับผมจะมีตัวตนอยู่ได้? และด้วยเหตุนี้ผมจึงเป็นคนขี้โกงในโลกนี้
“เจ้าชายรอน?”
แองเจลิน่าเรียกทำให้รอนหลุดจากความคิด
เขาหันมามองผมก่อนที่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมาเขาจะพูดขึ้น
“ฉันและกลุ่มของฉันขอถอนตัวออกจากการต่อสู้ครั้งนี้ เราไม่ปรารถนาให้เกิดความขัดแย้งอีกต่อไป”
คำพูดของเขาดังไปถึงทุกคนและทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างไม่สิ้นสุด ส่วนผมหน่ะเหรอ? รอยยิ้มอันซ่อนเร้นผุดขึ้นมา
‘เสร็จหล่ะ’
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต