บทที่ 330 การต่อสู้ที่ยากลำบาก
บทที่ 330 การต่อสู้ที่ยากลำบาก
ตอนก่อนหน้านี้ตงโกวจีหยางได้หลอมยาแปลก ๆ เอาไว้มากมาย และหนึ่งในยาแปลก ๆ เหล่านี้ก็คือยาเพิ่มระดับพลัง! แต่คนที่มีพลังวรยุทธต่ำต้อยนั้นไม่กล้าที่จะลองกินมัน เพราะถ้าทำไม่ดีมันก็จะกลายเป็นยาพิษ
ทว่าโป๋อีกู่กลับไม่ค่อยใส่ใจ อาศัยพลังวรยุทธสูงส่งของเขา ยาแค่นี้เขากินมันได้สบาย ๆ เมื่อเป็นแบบนี้เขาก็ได้กลายเป็นหนูทดลองยาที่ดีที่สุดของตงโกวจีหยาง ในตอนแรกโป๋อีกู่ลำบากจนแทบพูดไม่ออก เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็โชคดีที่โป๋อีกู่ผ่านมันมาได้
ทว่าสิ่งที่เขาได้รับตอบแทนกลับมาก็คือพลังวรยุทธ เขาเลื่อนขั้นพลังเข้าสู่ขั้นราชันดาราระดับสูงสุดมาอย่างงุนงง บอกได้เลยว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง แต่มันก็มีเรื่องแย่ ๆ อยู่เพราะขั้นราชันดารากับขั้นจักรพรรดิดาราต่างกันมากหลังจากที่เขากินยาต่าง ๆ เข้าไปมากมาย มันก็ไม่มีผลอะไรกับเขาอีก
แม้โป๋อีกู่จะเป็นเพียงขั้นราชันดาราระดับสูงสุด แต่พลังดวงดาวในร่างกายของเขาก็ไม่น้อยไปกว่าขั้นจักรพรรดิดารา ดังนั้นเขาเลยสามารถรับมือกับขั้นจักรพรรดิดาราได้หลายคนพร้อมกัน
ถ้าสู้กันจริง ๆ ขั้นจักรพรรดิดารา 2-3 คนรุมก็ยังไม่อยู่ในสายตาของเขาเลย แต่ว่าน่าเสียดายที่เขาต้องสู้กับขั้นจักรพรรดิดาราถึง 5 คน ไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้เขาจะยังมีโอกาสรอดชีวิตอีกหรือไม่
ชายหัวล้านเองตอนนี้ก็กำลังโดยจือซินใช้ดาบยาวไล่ฟันอย่างดุดัน ชายหัวล้านรู้ตัวดีว่าถ้าถูกดาบยาวนี้ฟันลงไป ร่างกายของเขาคงถูกตัดเป็นสองท่อน เขาได้แต่หลบดาบของจือซิน
จือซินที่เห็นอีกฝ่ายเอาแต่หลบก็ตัดสินเด็ดขาด ว่าแล้วร่างกายของเธอก็ถอยไปด้านข้างอย่างฉับพลัน ก่อนจะเอาดาบสั้นเป็นฐานเหยียบพุ่งเข้าไปฟันชายหัวล้าน หากถูกดาบยาวฟันชายหัวล้านต้องตายอย่างแน่นอน!
ตอนนี้จือซินไล่ต้อนชายหัวล้านได้แล้ว ชายหัวล้านยิ่งถอยก็ยิ่งเสี่ยง ถ้าชายหัวล้านโดนเข้าไปไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัส จือซินเลยยิ้มออกมา
แต่การโจมตีครั้งสุดท้ายมักจะเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายที่ไม่อาจคาดเดาเสมอ
ชายหัวล้านที่ถอยออกมา แววตาเย็นยะเยือก บนใบหน้าของเขาไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเผยถึงความเหี้ยมเกรียม! จากนั้นชายหัวล้านก็หายวับไปเสียเฉย ๆ และเขาก็ปรากฏตัวที่ห่างออกไป 4-5 เมตร!
ทว่าในตอนนี้ใบหน้าของชายหัวล้านย่ำแย่มาก ทั้งใบหน้าซีดเผือก เลือดไหลอาบไม่มีทีท่าจะหยุดไหล แต่เขาก็สามารถหลบดาบของจือซินได้แล้ว
“วิชากิเลนทะยาน เป็นไปไม่ได้ วิชากิเลนทะยานเป็นเคล็ดวิชาลับของคนในนิกายกิเลน ไม่บอกให้คนนอกรู้เด็ดขาด แกไปเรียนมาจากที่ไหน” จือซินโกรธจนไม่รู้จะระบายออกมายังไง วิชากิเลนทะยานเป็นวิชาที่มีแค่คนภายในนิกายที่รู้และต้องเป็นตำแหน่งผู้พิทักษ์ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะสามารถฝึกฝนมันได้ ถ้าพลังวรยุทธ์ต่ำต้อยฝึกไปก็อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
นิกายตั้งกฎห้ามฝึกฝนวิชานี้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตไม่ใช่เพราะหวงวิชา แต่กฎข้อนี้มีไว้เพื่อรักษาชีวิตของลูกศิษย์ในนิกาย
วิชากิเลนทะยานดูเผิน ๆ เหมือนเป็นสุดยอดวิชา มันเหมือนการเคลื่อนที่แบบเทเลพอร์ต แต่ถ้าพลังไม่กล้าแข็งมาฝึกวิชานี้ล่ะก็ มันจะอันตรายมาก เหมือนกับชายหัวล้านในตอนนี้ที่ทั้งร่ายกายเต็มด้วยเลือดและใบหน้าที่ซีดเผือก
ตอนนี้ชายหัวล้านพลังลดลงไป 4-5 ส่วน ถ้าเป็นผู้อาวุโสของนิกายกิเลนใช้วิชานี้เองผลลัพธ์แบบนี้ก็จะไม่เกิดอย่างแน่นอน!
และเพราะเหตุนี้เอง จือซินเลยยิ้มออกมา เมื่อมองใบหน้าซีดเผือดของชายหัวล้าน เธอสามารถเดาได้ว่าคนที่สอนวิชากิเลนทะยานให้ชายหัวล้านต้องเป็นหนึ่งในผู้ทักษ์อย่างแน่นอน ไม่งั้นชายหัวล้านคงไม่มีทางรู้ใช้วิชานี้ได้อย่างแน่นอน
“เป็นไง ฉันสามารถใช้วิชากิเลนทะยานของนิกายพวกเธอได้ ตกใจใช่ไหมล่ะ! ฉันขอบอกเลยว่ายังมีสิ่งที่ฉันรู้อีกเยอะเลยล่ะ รอให้วันนี้ฉันได้ส่งเธอไปลงนรกก่อน และฉันจะบอกเธอหน้าหลุมศพ ฮ่าฮ่าฮ่า” ชายหัวล้านหัวเราะอย่างเย่อหยิ่ง
“เดิมที่อาศัยพลังวรยุทธของเราสองคน ฉันจะฆ่าแกคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ใครใช้ให้แกใช้วิชาของนิกายกิเลน! อยู่ดีไม่ว่าดีรนหนหาที่ตาย แกไม่แปลกใจหรือว่าทำไมพันปีที่ผ่านมานิกายกิเลนของพวกเราถึงไม่มีคนทรยศเลย” พอพูดถึงตรงนี้จือซินก็หัวเราะเสียงดัง
ชายหัวล้านใบหน้าแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดถึงเรื่องนี้เลย เขารีบพูดออกมา “คิดจะโกหกฉันยังเร็วไปสิบปี” หลังจากพูดจบในมือของชายหัวล้านก็ชักดาบออกมาแล้ววิ่งไปฟันจือซินอย่างบ้าคลั่ง
“ในเมื่อแกหนหาที่ตายงั้นฉันก็จะสนองให้แกเอง!” ทันทีที่จือซินพูดประโยคนี้จบ มือทั้งสองก็ผสานอินอย่างต่อเนื่องแล้วพูดออกมา “ระเบิด”
จากนั้นจือซินก็ยื่นมือไปทางชายหัวล้าน ชายหัวล้านร่างกายสั้นไหวยังไม่ทันที่เขาจะตอบสนองอะไร ร่างกายก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างฉับพลัน! ร่างกายของชายหัวล้านระเบิดแยกเป็น 4-5 ส่วน ชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์กระจายเต็มพื้น ดูแล้วโหดเหี้ยมเกินทน
หลังจากนั้นขั้นจักรพรรดิดาราหลายคนก็ใจสั่นสะท้าน ใครจะคิดว่าผู้หญิงอย่างจือซินแค่พูดคำว่าระเบิดคำเดียว ชายหัวล้านก็ร่างระเบิดตายอย่างง่ายดาย ทว่าต่อมาพวกเขาก็คิดออกว่าบางทีสาเหตุที่ทำให้ชายหัวล้านร่างระเบิดต้องเกี่ยวข้องกับที่เขาใช้วิชากิเลนทะยานอย่างแน่นอน
คนเหล่านี้คาดเดาไม่ผิด ตอนที่ใช้วิชาของนิกายกิเลน ภานในร่างกายจะรวมตัวกันกลายเป็นมายากิเลน มายากิเลนนี้มีชื่อเรียกอีกย่างว่าเมล็ดพันธุ์กิเลน และถ้าคน ๆ นั้นทรยศล่ะก็ ร่างกายก็จะระเบิด ขั้นตอนนี้มีเพียงแค่ผู้อาวุโสในนิกายกิเลนเท่านั้นถึงจะสามารถใช้ได้
และเพราะเหตุนี้เองทำให้หลายพันปีมานี้นิกายกิเลนไม่มีใครหักหลังนิกายเลยแม้แต่คนเดียว เพราะทุกคนรู้ว่าเมื่อทรยศก็รอเวลาตายได้เลย ชายหัวล้านไม่รู้เรื่องภายในของนิกาย เพราะคนที่ถ่ายทอดวิชาให้กับเขา เป็นเพียงแค่ระดับผู้พิทักษ์ ตำแหน่งที่ต่างกันทำให้ไม่อาจรับรู้เรื่องราวภายในนิกายได้อยู่แล้ว!
หลังจากทั้ง 5 คนเห็นฉากนี้ ต่างก็พากันกัดฟันกรอด จากนั้นก็เผาไหม้ลมปราณของตัวเองเพิ่มระดับพลังวรยุทธให้สูงขึ้น ในความคิดพวกเขาคือเมื่อมีหนี้ก้อนใหญ่ก็ต้องจ่าย พวกเขาต้องฆ่าสองคนนี้ให้ได้ ไม่งั้นก็คงไม่อาจดับความโกรธแค้นในจิตใจลงได้
พอเห็นทั้ง 5 คนเผาไหม้ลมปราณอย่างกะทันหัน โป๋อีกู่และจือซินก็ขมวดคิ้ว การเผาไหม้ลมปราณแบบนี้มันร้ายแรงมาก เพราะในขณะที่วรยุทธ์ของพวกเขาเพิ่มขึ้น พวกเขาก็จะได้รับผลกระทบที่ใหญ่หลวงตามมาด้วย การทำแบบนี้จะทำให้วรยุทธของพวกเขาไม่สามารถเพิ่มระดับได้อีกแล้วตลอดชีวิต!
การที่คนเหล่านี้เผาไหม้ลมปราณตัวเอง เพราะพวกเขาพร้อมที่จะตายท่ี่นี่ แต่โป๋อีกู่และจือซินไม่ยอมทำเช่นนั้น อาศัยพรสวรรค์และอายุของพวกเขา พวกเขายังมีโอกาศอีกมากมาย พวกเขายังมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต จะมายอมเผาไหม้ลมปราณตัวเองแบบคนโง่พวกนี้ได้ยังไง