ตอนที่ 209 แต่งงานเชื่อมไมตรี

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 209 แต่งงานเชื่อมไมตรี
เซียวรั่วเจียงก็เป็นห่วงคุณหนูใหญ่เช่นเดียวกัน ทว่า หากเขากลับไปเช่นนี้คงอธิบายกับคุณหนูใหญ่ไม่ได้

ไป๋ชิงเจวี๋ยรู้ถึงความลำบากใจของเซียวรั่วเจียงจึงกล่าวขึ้น “บอกพี่หญิงใหญ่ว่าข้าเป็นห่วงพี่หญิงใหญ่จึงบังคับให้เจ้ากลับไป! บอกนางว่าข้าอยู่กับเซียวเซียนเซิงย่อมมีคนคอยปกป้องข้า ทหารหน่วยกล้าตายอยู่กับข้าที่นี่ไม่มีประโยชน์อันใด หากข้ามีความจำเป็นต้องใช้คน ข้าจะส่งคนไปขอกำลังคนจากพี่หญิงใหญ่แน่นอน!”

กล่าวจบ ไป๋ชิงเจวี๋ยยัดป้ายหยกใส่มือเซียวรั่วเจียง เขาออกมานานไม่ได้จึงกระซิบข้างหูของเซียวรั่วเจียงเสียงแผ่วเบา “แม้เซียวเซียนเซิงผู้นี้จะอ้างว่าเขาเป็นพ่อค้าจากแคว้นเว่ย ทว่า จากที่ข้าสังเกตดูแล้ว ฐานะของเขาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เขาต้องมีความเกี่ยวข้องกับต้าเยี่ยนแน่ๆ เจ้าจงกำชับพี่หญิงใหญ่ให้ระวังเซียวเซียนเซิงผู้นี้ไว้ด้วย!”

ไป๋ชิงเจวี๋ยอยู่ข้างกายเซียวหรงเหยี่ยนไม่นาน บัดนี้เขาแน่ใจเพียงสองเรื่องนี้เท่านั้น…ส่วนเรื่องอื่นเขายังสืบได้ไม่แน่ชัดสักเท่าใด

เซียวรั่วเจียงกำหมัดรับคำ “คุณชายเจ็ดวางใจได้ขอรับ ข้าจะไปรายงานคุณหนูใหญ่ให้ขอรับ!”

“ฝากเจ้าดูแลพี่หญิงใหญ่ด้วย! บอกพี่ชายของเจ้ากับเสิ่นชิงจู๋…จงหาตัวเสี่ยวจิ่ว[1] ให้พบให้ได้!” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ น้ำเสียงของไป๋ชิงเจวี๋ยสะอื้นเล็กน้อย

ตอนนั้นไป๋ชิงเจวี๋ยและไป๋ชิงอวิ๋นได้รับคำสั่งให้บุกโจมตีเมืองหลวงของซีเหลียง ทว่า กลับโดนดักซุ่มโจมตีระหว่างทาง ในฐานะพี่ชายเขาควรปกป้องน้องชายเก้าไป๋ชิงอวิ๋นอย่างสุดกำลัง ทว่า…เขาได้รับบาดเจ็บ ไป๋ชิงอวิ๋นเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดทหารต้าจิ้นธรรมดาให้เขาในช่วงคับขัน ผลักเขาร่วงลงแม่น้ำจิง จากนั้นหลอกล่อทหารซีเหลียงไปอีกทาง ดังนั้นเขาจึงรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

ไป๋ชิงอวิ๋นกล่าวว่า ท่านปู่เคยตั้งกฎเอาไว้…บุตรอนุปกป้องบุตรภรรยาเอก!

ยามที่บุตรภรรยาเอกและบุตรอนุตกอยู่ในอันตรายพร้อมกัน บุตรอนุต้องปกป้องบุตรภรรยาเอกด้วยชีวิต

ไป๋ชิงอวิ๋นคือบุตรอนุ ไป๋ชิงเจวี๋ยคือบุตรภรรยาเอก ดังนั้น…ไป๋ชิงอวิ๋นจึงสละชีพของตัวเองเพื่อเปิดทางรอดให้แก่เขา

แม้นี่จะเป็นกฎของตระกูล ทว่า ในฐานะพี่ชาย ไป๋ชิงเจวี๋ยรู้สึกผิดต่อไป๋ชิงอวิ๋นเป็นอย่างมาก ได้แต่หวังว่าไป๋ชิงอวิ๋นจะยังมีชีวิตรอดปลอดภัย

เขาอยู่ข้างกายของเซียวหรงเหยี่ยน รับรู้แล้วว่าเมืองหลวงของซีเหลียงกำลังวุ่นวาย จักรพรรดิของ

ซีเหลียงถูกลอบปลงพระชนม์ พระธิดาองค์โตของซีเหลียงขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีแทน

ดังนั้น ไป๋ชิงเจวี๋ยจึงเดาว่านี่อาจเป็นฝีมือของไป๋ชิงอวิ๋น

ชายหนุ่มได้แต่หวังว่าหลังจากที่ไป๋ชิงอวิ๋นลงมือสังหารแล้ว เขาจะเผื่อทางรอดไว้ให้ตัวเองหลบหนีออกมาอย่างปลอดภัย

เซียวรั่วเจียงตัดสินใจทิ้งทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่งไว้ให้ไป๋ชิงเจวี๋ยสิบคนโดยพลการเพื่อไม่ให้ไป๋ชิงเหยียนต้องเป็นกังวล เมื่อแยกกับไป๋ชิงเจวี๋ยแล้ว เขาจึงรีบนำคนมุ่งไปยังโยวหวาเต้าที่อยู่ในแคว้นซีเหลียง

หลังจากกองทัพต้าจิ้นได้รับชัยชนะในวันที่สิบสี่ เดือนสอง ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ทหารที่คุ้มกัน

เมืองผิงหยางสามหมื่นนายและกองทัพสี่หมื่นนายที่นางมีอยู่แล้วมุ่งหน้าไปสร้างค่ายทหารที่โยวหวาเต้า บัดนี้คงเดินทางไปถึงที่นั่นแล้ว

ซีเหลียงนำกองทัพเจ็ดแสนนายบุกไปยังแคว้นต้าจิ้นอย่างเอิกเกริก ทุกแคว้นต่างหลบหลีก ไม่มีผู้ใดกล้าเผชิญหน้ากับกองทัพที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ทว่า สงครามที่หนานเจียง ซีเหลียงและหนานเยี่ยนพ่ายแพ้ย่อยยับ จักรพรรดินีของซีเหลียงขึ้นครองราชย์ อ๋องทั้งหกร่วมกันก่อกบฏ อวิ๋นพั่วสิงไม่กล้าสู้รบกับต้าจิ้นต่อ เขารีบนำทหารซีเหลียงที่เหลืออยู่ไม่ถึงแปดหมื่นนายกลับไปยังอวิ๋นจิงเมืองหลวงของซีเหลียงเพื่อสังหารอ๋องทั้งหก คุ้มครองจักรพรรดินีขึ้นครองราชย์ จบศึกวุ่นวายในเมืองหลวง…หรือที่ถูกจารึกไว้ว่าความวุ่นวายในอวิ๋นจิง

ความวุ่นวายในซีเหลียงเพิ่งสงบลง อวิ๋นพั่วสิงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากไทเฮาเป็นแม่ทัพใหญ่ฝู่กั๋ว กลายเป็นบุคคลที่โด่งดังที่สุดในแคว้นซีเหลียง

ทว่า สงครามที่หนานเจียงซึ่งถือเป็นสงครามครั้งอัปยศของอวิ๋นพั่วสิงกลับกลายเป็นสงครามที่เลื่องลือไปทั่วทุกแคว้น

ไป๋ชิงเหยียนหลานสาวคนโตของไป๋เวยถิงซึ่งมีเพียงกองทัพต้าจิ้นห้าหมื่นนาย กองทัพไป๋หนึ่งหมื่นนาย รวมทั้งหมดเป็นหกหมื่นนาย กลับเอาชนะกองทัพที่ร่วมมือกันของหนานเยี่ยนและซีเหลียง สังหารทหารยอมจำนนของซีเหลียงจนไม่เหลือแม้แต่ผู้เดียว สมญานามแม่ทัพแห่งการสังหารของไป๋ชิงเหยียนดังกระฉ่อนไปทั่วหล้า

พริบตาเดียว การถือกำเนิดของเทพแห่งการสังหารทำให้แคว้นต้าจิ้นแข็งแกร่งและไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามารุกรานอีก

ในขณะเดียวกัน จู่ๆ ต้าเยี่ยนก็นำกองทัพบุกรุกแผ่นดินหนานเยี่ยนโดยอ้างว่าจะปฏิรูปการปกครองของหนานเยี่ยนให้เป็นแบบเดียวกันทั้งแผ่นดิน ทุกที่ที่ต้าเยี่ยนเดินทางไปถึง ชาวบ้านที่ถูกการปกครองแบบเดิมของหนานเยี่ยนกดขี่มานานต่างลุกขึ้นมาต่อสู้กับทหารคุ้มกันเมือง เปิดเมืองต้อนรับกองทัพต้าเยี่ยนอย่างเต็มใจ

ด้านหนึ่ง ทหารยอดฝีมือของหนานเยี่ยนถูกสังหารจนราบเรียบอยู่ที่เหยากวน อีกด้านมีแผนการอันแยบยลของเซียวหรงเหยี่ยน

ทหารของหนานเยี่ยนโดนกดขี่ด้วยการปกครองแบบเก่ามานานเช่นเดียวกัน พวกเขาแทบไม่มีกำลังใจในการรบ ยิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับเซี่ยสวิน แม่ทัพยอดฝีมือคนใหม่ที่รบไม่เคยแพ้ผู้ใดของต้าเยี่ยนต่างก็ยิ่งหวาดกลัว หนานเยี่ยนสำหรับเซี่ยสวินจึงเป็นหนทางที่ราบรื่นมาก

หนานเยี่ยนขอความช่วยเหลือจากทุกแคว้นแต่ก็ล้วนโดนปฏิเสธ ทุกแคว้นรับรู้ว่าหนานเยี่ยนสูญเสียใจของราษฎรไปแล้ว ต้าเยี่ยนรบโดยอ้างว่าจะปฏิรูปการปกครองใหม่จึงได้ใจและได้รับการสนับสนุนจากราษฎร ทุกแคว้นจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จักรพรรดิของหนานเยี่ยนไม่ยอมแบกหน้าไปขอร้องแคว้นต้าจิ้นซึ่งเป็นแคว้นที่ไม่อยากเห็นหนานเยี่ยนกลับมายิ่งใหญ่มากที่สุด แคว้นต้าจิ้นยิ่งไม่มีเหตุผลในการออกรบ ทุกแคว้นจึงได้แต่มองการสูญสลายของแคว้นหนานเยี่ยนที่ใกล้เข้ามาทุกที

ปลายเดือนสอง จักรพรรดินีของซีเหลียงส่งคณะทูตมาเจรจาสงบศึกกับแคว้นต้าจิ้น องค์รัชทายาทแคว้นต้าจิ้นที่นำทัพมาออกรบในครั้งนี้เป็นผู้ต้อนรับ เป็นดังที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวไว้ แบ่งดินแดน ชดใช้ค่าเสียหาย ทว่า ซีเหลียงไม่มีตัวประกัน ดังนั้นซีเหลียงจึงส่งหลี่เทียนฟู่น้องสาวแท้ๆ ของจักรพรรดินีมาแต่งงานเชื่อมไมตรีกับแคว้นต้าจิ้นแทน

ผู้ที่ติดตามมากับคณะทูตในครั้งนี้ นอกจากหลี่เทียนฟู่ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ของจักรพรรดินีแล้วยังมี

เหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยที่มีความดีความชอบในการคุ้มครองจักรพรรดินีในช่วงโกลาหลอีกด้วย

วันที่สิบสี่ เดือนสอง หลังจากรบชนะกองทัพซีเหลียงที่พ่ายแพ้ย่อยยับ จนถอยทัพหนีกลับไปยังซีเหลียงแล้ว ไป๋ชิงเหยียนนำกองทัพต้าจิ้นบุกเข้าไปตั้งค่ายที่โยวหวาเต้าซึ่งอยู่ในแคว้นซีเหลียง สถานที่นี้คือจุดอันตรายที่เกิดจากภัยธรรมชาติของซีเหลียง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับชิวซานกวนของซีเหลียงพอดี

องค์รัชทายาททราบว่าคณะทูตของซีเหลียงเดินทางมาถึงชิวซานกวนแล้ว เขาจึงนำคณะทูตของต้าจิ้นมายังโยวหวาเต้า

วันนี้ไป๋ชิงเหยียนนำแม่ทัพทุกคนมารอต้อนรับองค์รัชทายาทอยู่ที่ริมแม่น้ำจิง องค์รัชทายาทลงเรือมาก็เห็นไป๋ชิงเหยียนในชุดเกราะยืนรอต้อนรับเขาอยู่ที่ริมแม่น้ำพร้อมกับบรรดาแม่ทัพทั้งหลาย องค์รัชทายาทอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก

“ดูเหมือนว่าเราจะทำให้ไป๋ชิงเหยียนมาเป็นพวกเราได้แล้วสินะ” องค์รัชทายาทหัวเราะออกมาเบาๆ

ฟางเหล่าลูบเคราของตัวเองพลางพยักหน้ายิ้มๆ “พ่ะย่ะค่ะ! ขอแสดงความยินดีกับองค์ชายที่ได้แม่ทัพที่เก่งกาจเช่นนี้มารับใช้ บัดนี้ทุกแคว้นล้วนกล่าวกันว่าไป๋ชิงเหยียนคือเทพสังหารมาจุติ ผู้ใดได้ยินชื่อนางต่างก็หวาดกลัวจนตัวสั่น มีบุคคลเช่นนี้จงรักภักดีต่อองค์ชาย ภายภาคหน้าคงไม่ต้องกังวลเรื่องแถบชายแดนอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินซ่างจื้อเดินตามอยู่ด้านหลังสุดโดยไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินนำเข้ามาด้วยท่าทีองอาจ เขาจึงลอบถอยหายใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ถือว่ารักษาชีวิตของไป๋ชิงเหยียนไว้ได้แล้ว

“ไป๋ชิงเหยียนคารวะองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!” ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น

“แม่ทัพไป๋รีบลุกขึ้นเถิด!” องค์รัชทายาทรีบก้าวเข้าไปแสร้งทำเป็นประคองไป๋ชิงเหยียน “ครั้งนี้หนานเยี่ยนร่วมมือกับซีเหลียงรุกรานแคว้นต้าจิ้นของเรา โชคดีที่มีแม่ทัพไป๋ แคว้นต้าจิ้นจึงได้รับชัยชนะเช่นนี้”

“กระหม่อมมิบังอาจรับความดีความชอบพ่ะย่ะค่ะ ชัยชนะในครั้งนี้…มาจากการร่วมแรงร่วมใจของทหารต้าจิ้นทุกๆ คน! กระหม่อมรู้สึกซาบซึ้งที่องค์ชายมอบตราทัพให้กระหม่อมใช้โดยไม่หวาดระแวงมากกว่าพ่ะย่ะค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างถ่อมตน องค์รัชทายาทยิ่งดีใจจนยิ้มไม่หุบ พยักหน้าพลางเดินไปด้านหน้าพร้อมกับไป๋ชิงเหยียน “ชนะแต่ไม่ทะนง แม่ทัพไป๋สมกับเป็นหลานสาวคนโตแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงจริงๆ แม่ทัพไป๋วางใจเถิด กลับไปครั้งนี้ เราจะทูลขอให้ฝ่าบาทพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้แม่ทัพไป๋แน่นอน”

“องค์รัชทายาท หลังจากชนะศึกและเสร็จสิ้นเรื่องการเจรจาสงบศึกแล้ว ไป๋ชิงเหยียนจะกลับไปยังบ้านเกิดที่เมืองซั่วหยางพร้อมกับสตรีตระกูลไป๋พ่ะย่ะค่ะ”

ฉินซ่างจื้อลอบพยักหน้าน้อยๆ โดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น ตระกูลไป๋ในตอนนี้ควรจะถอยอย่างกล้าหาญ คุณหนูใหญ่ไป๋ทำถูกต้องแล้ว

ได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวเช่นนี้ องค์รัชทายาทชะงักฝีเท้าลงทันที

———————————————

[1] เสี่ยวจิ่ว สรรพนามเรียกทายาทในตระกูลซึ่งอยู่ในลำดับที่เก้า