นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 78 ไปพรุ่งนี้เลย
ภายในความทรงจำเจ้าของเดิม โจวซ่านเย่คนนี้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนก็ช่วยเหลือที่บ้านไม่มาก เหล่าไท่ไท่มายืมอาหารด้วยตนเอง นางก็ให้เหล่าไท่ไท่มาแค่ธัญพืชถุงเล็ก จากนั้นก็ไม่ช่วยเหลืออะไรที่บ้านอีก
สำหรับพี่สาวรองคนนี้ โจวกุ้ยหลานไม่ค่อยพอใจ
เหล่าไท่ไท่ถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ เจ้าก็รู้ว่าถึงแม้ซ่านเย่จะแต่งงานไปอยู่ในตำบล แต่สามีของนางก็เป็นแค่คนทำบัญชี มีลูกสามคนที่ต้องเลี้ยงดู เลี้ยงดูครอบครัวใหญ่ของตนเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ชิวเซียงไปแล้วก็ลำบาก”
ยังไงก็ลูกสาวตนเอง เหล่าไท่ไท่ยังไว้หน้า ต่อให้นางที่เป็นแม่ ลูกสาวคนรองของตนเองก็ยังต้องสิ้นเปลืองหนึ่งอีแปะ ลูกสาวของเจ้าคุณหนูผิวหนังนุ่มนวลขนาดนี้ จะได้อยู่อย่างสบายหรือ?
สีหน้าหลี่ซิ่วยิงเปลี่ยนไปอย่างย่ำแย่ อดกลั้นความโมโหไว้ แล้วค่อยพูดขึ้นว่า “ต่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ลำบากแค่ไหน ก็ไม่ถึงขั้นเลี้ยงข้าวลูกผู้ลูกน้องหญิงของตนไม่ได้มั้ง? ชิวเซียงก็ไม่ได้จะอยู่นาน หากมีคนที่เหมาะสม ก็จะแต่งงานไปเลย”
หลี่ซิ่วยิงคนนี้…..
โจวกุ้ยหลานไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาพูด ช่างลำบากใจคนอื่นยิ่งนัก
อย่าว่าแต่พี่สาวรองในความทรงจำของนางที่ขี้เหนียว ต่อให้เป็นนางเอง ก็ไม่ชอบให้ใครมาอาศัยอยู่ที่บ้านของตน ไม่สะดวกอย่างที่สุด ทำไมนางถึงพูดออกมาได้อย่างไม่เกรงใจขนาดนี้?
“ตอนที่นางแต่งงาน ข้าช่วยเหลือทุกอย่าง ตอนนี้งานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้องหญิงของนาง นางจะช่วยบ้างไม่ได้หรือ?”หลี่ซิ่วยิงเห็นเหล่าไท่ไท่ไม่พูดอะไร สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมพูดขึ้น
พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว โจวเหล่าไท่ไท่จึงไม่พูดห้ามอะไรอีก เพียงพูดขึ้นว่า “งั้นพวกเจ้าวางแผนจะไปเมื่อไหร่ ข้าจะได้ฝากคนไปบอกซ่านเย่”
โจวชิวเซียงที่อยู่ด้านข้าง รีบเงยหน้าขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “รออีกช่วงระยะหนึ่ง….”
เพิ่งพูดยังไม่ทันเสร็จ หลี่ซิ่วยิงก็พูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า “ทำไมจะต้องรออีกช่วงระยะหนึ่ง? นี่ก็ใกล้ปีใหม่แล้ว ถึงปีใหม่เจ้าก็อายุสิบหกแล้ว รอต่อไปอีกเจ้าก็กลายเป็นสาวแก่แล้ว”
เจ้าเด็กคนนี้ ยังคิดถึงสวีฉางหลินคนนั้นอีกหรือ
นายพรานแบบนั้นจะคู่ควรกับนางหรือ? สมองคิดอะไรอยู่
แม่ของตนเองพูดแบบนี้ โจวชิวเซียงหน้ามุ่ย มองดูโจวกุ้ยหลานอย่างโกรธแค้น แล้วก็ก้มหน้าปักผ้าต่อ
แม่พูดถูก ต่อให้ชอบพี่ฉางหลินขนาดไหน คราวนี้นางต้องคิดถึงอนาคตของตนเอง อยู่กับพี่ฉางหลิน จะต้องเป็นกังวลว่าจะไม่มีกินอยู่ทุกวัน…..
โจวกุ้ยหลานลูบหูของตนเอง ไม่เข้าใจสายตาโจวชิวเซียงที่หันมามอง พวกนางคุยกันถึงเรื่องแต่งงาน แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับนาง?
“งั้นพี่สะใภ้อยากจะทำยังไง?”เหล่าไท่ไท่ก็ขี้เกียจพูดวนไปวนมา จึงถามขึ้นมาตรงๆ
หลี่ซิ่วยิงรอคอยประโยคนี้อยู่แล้ว ลงมาจากที่นั่ง คว้าจับมือเหล่าไท่ไท่ พร้อมพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “น้องสะใภ้ พรุ่งนี้เจ้าก็ส่งชิวเซียงไปเลยไหม ก่อนที่อากาศจะหนาว”
พรุ่งนี้?
โจวชิวเซียงรีบหันไปมองแม่ของตนอย่างตื่นเต้น
“แม่ ข้ายังไม่ได้เก็บของเลยนะ”
นางไม่ได้เห็นพี่ฉางหลินมาตั้งหลายวันแล้ว พรุ่งนี้ก็จะไปแล้ว งั้นเมื่อไหร่นางถึงจะได้กลับมา? ไม่แน่นางอาจจะได้แต่งงานอยู่ในตำบลแล้ว ยังไงนางก็ต้องได้ร่ำลาพี่ฉางหลินสิ
หลี่ซิ่วยิงเบิกตาโต พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าจะไปรู้อะไร รีบไปจะได้รีบสบายใจ เจ้ามีเสื้อผ้าไม่กี่ชุดเอง แม่ช่วยเจ้าเก็บ ตกลงตามนี้แหละ ไปพรุ่งนี้เลย”
โจวเหล่าไท่ไท่ที่อยู่ด้านข้างนั้น ไม่พูดแทรกอะไรเลย แต่เวลานี้นางก็ขี้เกียจที่จะพูดเยอะ จึงพูดตอบตกลงว่า “ได้ งั้นเราก็ไปกันพรุ่งนี้เลย”
โจวกุ้ยหลานฟังแล้วก็รู้สึกดีใจ หากโจวชิวเซียงแต่งงานไปอยู่ในตำบลแล้ว สำหรับนางถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว มีผู้หญิงที่คอยคิดจะจับสามีของนางลดลงคนหนึ่ง แทบอยากที่จะฉลองทั่วทั้งแผ่นดิน
โจวชิวเซียงโกรธโมโหจนตาแดง โยนผ้าปักทิ้งไป แล้วก็ฟุบลงบนโต๊ะ
“ป้าใหญ่ ข้าขออวยพรให้น้องชิวเซียง ได้คู่ครองที่ดีโดยเร็ว?”โจวกุ้ยหลานยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้น
หลี่ซิ่วยิงดีใจ ราวกับลูกสาวตนเองจะได้แต่งงานไปอยู่ในตำบลแล้ว รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ป้าขอบคุณเจ้าด้วย และขอให้เจ้ามีลูกไวๆ”
พวกเขาพูดคุยกันอีกสักพัก โจวกุ้ยหลานค่อยพูดถึงเรื่องที่จะยืมโถ หลี่ซิ่วยิงรีบพาพวกเขาเข้าไปในครัว เพิ่งเข้าไป ก็เจอหวังหยู่ชุนอยู่ข้างใน
สีหน้าหลี่ซิ่วยิงมืดลงทันที พร้อมพูดตำหนินางว่า “เจ้ามาอยู่ในครัวอีกทำไม? แอบหาของกินอีกแล้วหรือ?”
“เปล่าแม่ ไข่กับอาหารแม่ก็ล็อกไว้หมดแล้ว ข้าจะขโมยอะไรได้?”
หวังหยู่ชุนพูดอย่างเอาใจ มือทั้งสองข้างกลับไขว้อยู่ข้างหลัง
ท่าทีแบบนี้ ใครมีตามองก็รู้ว่าในมือของนางมีของ แต่โจวกุ้ยหลานไม่สนใจ คิดถึงจุดประสงค์ที่ตนมาในวันนี้ จึงรีบพูดขึ้นว่า “ป้าใหญ่ ข้ารีบกลับไปดองหัวไชเท้า โถของท่านอยู่ที่ไหน ข้าไปเอาเองก็ได้”
“ดองหัวไชเท้าอะไร?”หวังหยู่ชุนตอบรับทันที
โจวกุ้ยหลานพูดในสิ่งที่ตนเตรียมมาแล้วออกมาว่า“หัวไชเท้าที่บ้านข้าโตหมดแล้ว ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึงจะเก็บมาดองไว้ แบบนี้จะได้เก็บไว้กินกับข้าวตอนฤดูหนาว”
พูดเสร็จ สายตาหันไปมองหวังหยู่ชุนอย่างไม่ได้ตั้งใจ
หวังหยู่ชุนเลียริมฝีปากของตน ถามขึ้นมาอย่างรอคอยว่า “หัวไชเท้าดองอร่อยไหม?”
“อร่อย อร่อยมาก แต่เสียดายข้าทำได้ไม่ดี”โจวกุ้ยหลานพูดตอบขึ้นมาอย่างเป็นนัย
“กินกินกิน รู้จักแต่กิน บ้านโจวของเราทำไมถึงได้มีลูกสะใภ้อย่างเจ้า”หลี่ซิ่วยิงโกรธจนแทบจะชี้หน้าด่าหวังหยู่ชุน
ลูกสะใภ้ที่ขี้เกียจเห็นแต่กิน แต่งงานเข้ามาเพื่อทำให้นางโกรธโมโหเท่านั้น
หวังหยู่ชุนหดคอลง เดินอ้อมไปหลบด้านข้างเตาไฟ
หลี่ซิ่วยิงก็ไม่อยากสนใจนาง ชี้ไปที่โถที่อยู่ตรงมุม พร้อมพูดขึ้นว่า “อันนี้ไม่พอ?”
“พอแล้ว”โจวกุ้ยหลานมองพิจารณาดู โถอันนั้นสูงกว่าครึ่งคน บวกกับโถของแม่ของนาง เพียงพอแล้ว
ทั้งสองแม่ลูกยกโถแล้วเดินกลับไปที่บ้านตระกูลโจว กว่าจะขนมาถึงบ้านตระกูลโจว ทั้งสองคนนั่งพักสักครู่
โจวกุ้ยหลานเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก พร้อมถามเหล่าไท่ไท่ว่า “แม่ให้ชิวเซียงไปอยู่บ้านพี่สาวรอง พี่สาวรองจะยอมหรือ?”
“ไม่ยอมแล้วจะทำยังไงได้? ป้าใหญ่คิดเรื่องนี้ไว้แล้ว ยังไงก็ต้องจะทำให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะต้องนินทาบ้านเราลับหลังอย่างแน่นอน”
โจวเหล่าไท่ไท่ก็หอบเหนื่อย พูดตอบแล้วก็ลุกไปเทน้ำดื่ม
โจวกุ้ยหลานหวนคิดถึงนิสัยของหลี่ซิ่วยิง แล้วก็รู้ว่าเหล่าไท่ไท่พูดความจริง
แต่เมื่อคิดว่าโจวชิวเซียงไปกินฟรีอยู่ฟรีบ้านพี่สาวรอง ถึงตอนนั้นพี่สาวรองจะไม่เกลียดเหล่าไท่ไท่แย่หรือ?
นางยังไม่ทันพูดว่าอะไร เหล่าไท่ไท่ก็พูดขึ้นมาก่อนแล้วว่า “พี่สาวรองของเจ้าเป็นคนยังไง? นางจะยอมให้ตนเองเสียเปรียบหรือ? เจ้ารอดูไปเถอะ ข้าส่งชิวเซียงไป ผ่านไปไม่กี่วันชิวเซียงก็จะกลับมาเอง”
โจวกุ้ยหลานเชื่อมั่นในคำพูดของเหล่าไท่ไท่ พี่สาวรองของนางคนนี้ตั้งแต่แต่งงานออกไปแล้ว ก็กลัวพวกนางทั้งบ้านจะไปรบกวน ปกติก็แทบไม่ได้เจอ ปีใหม่ก็รีบมารีบกลับ พอกลับมาก็บ่นว่าจน กลัวโจวเหล่าไท่ไท่จะเอ่ยปากขอยืมอาหาร