“เฟิงหานชวน ฉันหนาว”
เธอรู้ว่าตัวเองเพิ่งจะเข้าใจผิดไป ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าพูดอีกว่าเฟิงหานชวนมีแผนอื่น จึงพูดได้แค่ว่าเธอหนาวและต้องการห่มผ้าห่ม
น้ำเสียงที่อ่อนลงเนื่องจากความตึงเครียดทำให้เฟิงหานชวนควบคุมตัวเองได้ยากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความไว้วางใจที่เขาสร้างขึ้นมาให้กับเฉินฮวนฮวน เขาไม่สามารถทำลายด้วยมือของเขาเองได้ ดังนั้นเขาจึงต้องอดทนต่อแรงกระตุ้นและห่มผ้าห่มให้เธอ
เมื่อเฟิงหานชวนก้มลงไปเพื่อช่วยคลุมผ้าห่มให้เธอ เขาเลื่อนใบหน้าของเขามาตรงหน้าของเธอ เสียงทุ้มๆแฝงไปด้วยความอ่อนโยนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง: “วางใจได้ เราแค่นอนบนเตียงเดียวกัน ผมไม่ได้มีแผนอย่างอื่นหรอก”
“อื้มๆ”เฉินฮวนฮวนตอบเสียงเบาและพยักหน้าเล็กน้อย แก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในเวลานี้เฟิงหานชวนช่างดูอ่อนโยน อบอุ่นมาก และดูแลดีมาก นอกจากนี้เขาห่มผ้าห่มให้เธอโดยปราศจากความรู้สึกที่อยากจะล่วงเกินเหมือนแต่ก่อน
เมื่อมองไปยังท่าทางที่เหมือนนกตัวน้อยๆของเฉินฮวนฮวนแล้ว ในใจของเฟิงหานชวนก็รู้สึกมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม การเสียสละที่เขาทำเริ่มมีผลแล้ว
เขายื่นมือออกไปลูบหน้าผากของเธอสองครั้งแล้วพูดดด้วยน้ำเสียงทุ้มๆว่า: “ราตรีสวัสดิ์”
“ราตรีสวัสดิ์”เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปากอย่างเขินอาย หัวใจของหญิงสาวดูเหมือนจะเริ่มเต้นแรงขึ้น
เฟิงหานชวนปล่อยเธอและนอนลงข้างๆ จู่ๆก็ดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่างออก จากนั้นเขาก็หันกลับมาทางเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนที่กำลังนอนอยู่ เธอหันหน้าไปบนเพดาน เธอตระหนักถึงการกระทำของเฟิงหานชวน เธอจึงตัดสินใจหันหน้าไปทางเขาและเธอก็ได้เห็นเฟิงหานชวนที่นอนอยู่ข้างๆกำลังมองมาที่เธออยู่
“ทะ ทำไมเหรอ?”เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเลยพูดติดอ่าง
ไม่ได้บอกว่าราตรีสวัสดิ์ไปแล้วเหรอ? ทำไมเฟิงหานชวนยังคงมองเธออยู่?
เฉินฮวนฮวนรู้สึกประหม่าจริงๆ นับได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอนอนกับผู้ชายบนเตียงเดียวกัน?
ไม่สิ เธอปฏิเสธความคิดนี้ทันที
เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนนี้เธอเคยนอนเตียงเดียวกันกับเฟิงหานชวนไปแล้ว แต่เฟิงหานชวนแกล้งทำเป็นเฟิงเฉินเหยี่ยน แต่ตอนนั้นในห้องไม่ได้เปิดไฟ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้รู้สึกประหม่าเหมือนในตอนนี้
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอนอนบนเตียงร่วมกับผู้ชายอย่างอย่างถูกต้องและเหมาะสม
“ฮวนฮวน แม้ว่าเราจะเป็นคู่ทดลองแต่งงานกัน แต่อย่างไรก็เป็นความสัมพันธ์แบบสามีและภรรยา คุณเรียกชื่อผมตลอด คิดว่ามันเหมาะแล้วเหรอ?”เฟิงหานชวนถามอย่างโน้มน้าวใจเพื่อให้เฉินฮวนฮวนเอาเรื่องนี้ไปคิดเอง
เฉินฮวนฮวนตกตะลึง เธอรู้ว่าเฟิงหานชวนนั้นพูดถูก แต่เธอ…
“ฉันไม่รู้ว่าจะเรียกคุณว่าอะไรดี”เธอตอบตามความจริง
“คุณสามารถเอาไปคิดๆดูก็ได้ ใช้ชื่อที่มีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้นเรียกเท่านั้น”เฟิงหานชวนยิ้มเล็กน้อยที่มุมริมฝีปาก เขาจ้องไปที่ดวงตาของเฉินฮวนฮวนและเอ่ยเบา ๆ
เฉินฮวนฮวนเกาหัว สิ่งนี้ทำให้เธอตกตะลึงจริงๆ สิ่งที่เฟิงหานชวนต้องการจะสื่อคือให้เธอช่วยเขาคิดชื่อเรียกกันและกันใช่ไหม?
เธอไม่เคยใช้มันมาก่อน และเธอเองก็ไม่มีประสบการณ์ด้วย เมื่อก่อนตอนที่เธอคบกับเยี่ยจิ่งเฉิน เธอก็แค่เรียกชื่อของเยี่ยจิ่งเฉินหรืออาเฉินเท่านั้น
“อาชวน?”เฉินฮวนฮวนโพล่งออกมา แต่หลังจากที่เธอพูดจบ เธอรู้สึกว่าชื่อนี้ฟังดูแปลกๆอยู่หน่อย
พูดตรงๆ มันดูฟังเรียกยาก
แน่นอนว่าสีหน้าของเฟิงหานชวนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นดูเคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบชื่อนี้
“ฉันขอคิดใหม่แล้วกัน”เฉินฮวนฮวนรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว
“คนอื่นเรียกผมว่า เฮียสาม คุณชายสาม หานชวน พี่สาม อาสาม….”เฟิงหานชวนพูดอย่างตั้งใจพูดอย่างละเอียด แล้วสุดท้ายก็พูดว่า: “สำหรับคุณ มันจะต้องแตกต่างออกไป”
เฉินฮวนฮวนเกือบจะพูดคำว่า “สามี” ไปแล้ว แต่คำพูดของเฟิงหานชวนเมื่อสักครู่ ดูเหมือนว่าไม่ต้องการให้เธอเรียกเขาว่าสามีอะไรทำนองนั้น
เขาน่าจะต้องการคำที่ใหม่ๆไม่เหมือนใคร
“ฉันจะคิดเกี่ยวกับมัน”เฉินฮวนฮวนใช้ความคิดและขมวดคิ้ว
อย่างไรก็ตาม สีหน้าครุ่นคิดของเธอทั้งหมดอยู่ในสายตาของเฟิงหานชวน ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกมีความสุข
เพราะสิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าเฉินฮวนฮวนจริงจังกับเรื่องนี้มาก และยังพิสูจน์ได้อีกว่าเธอเห็นคุณค่าของเขา
“เฟิงหานชวน คุณ…คุณช่วยแนะนำฉันหน่อยได้ไหม?”เฉินฮวนฮวนคิดไม่ออกเลยพูดตามความจริง: “ฉันไม่มีประสบการณ์เรื่องชื่อเล่นจริงๆ อื้ม…”
เธอยังพูดไม่จบแต่ริมฝีปากของเธอก็ดันถูกกดด้วยนิ้วยาวๆของเขาเสียก่อน ทำให้เธอไม่สามารถพูดต่อได้อีก หลังจากนั้นเธอจึงมองไปยังผู้ชายตรงหน้าของเธอด้วยสายตาที่งุนงง
“ค่อยๆคิด ไม่ต้องรีบ”เฟิงหานชวนพูดอย่างใจเย็น: “ไม่ต้องนึกถึงอดีต เรียกว่าสามีไปก่อนก็ได้”
เฉินฮวนฮวน: “???”
*****
ทันใดนั้น ก็มีแสงสีขาวแวบเข้ามาในความคิดของเธอ จู่ๆความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในหัวของเอ เธอรีบดึงมือของเฟิงหานชวนออกไปทันทีและถามว่า: “อาหาน ชื่อนี้เป็นอย่างไร?”
ในชื่อเฟิงหานชวนที่คนอื่นเรียกเขา ดูเหมือนว่าไม่มีชื่อดังกล่าว และ “อาหาน” ก็ฟังดูดีทีเดียว
สีหน้าของเฟิงหานชวนดูชะงักไปในทันที
เนื่องจากสายตาของเฉินฮวนฮวนที่จ้องมองไปที่ท่าทางของเฟิงหานชวน เธอจึงสังเกตเห็นสิ่งที่ผิดปกติของเฟิงหานชวน
ชื่อนี้ไม่เป็นไรใช่ไหม? หรือว่าชื่อนี้จะมีความหมายพิเศษกับเฟิงหานชวน หรือเป็นชื่อที่ไม่สามารถบอกใครได้?
อาหานไม่ใช่ชื่อที่เฟิงหานชวนเพิ่งจะพูดออกมาอย่างนั้นเหรอ แต่ทำไมเฟิงหานชวนถึงมีการแสดงออกเช่นนี้
เฉินฮวนฮวนไม่รู้ว่าจะถามเพิ่มดีไหม อย่างไรก็ตามเธอไม่ใช่ภรรยาที่แท้จริงของเฟิงหานชวน แม้ว่าเธอจะมีทะเบียนสมรส แต่ความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างทั้งสองก็เป็นเพียงแค่การทดลองแต่งงานเท่านั้น
ถ้าการทดลองแต่งงานมันไม่โอเค ก็ต้องไปที่สำนักทะเบียนเพื่อหย่า
“งั้นเปลี่ยนเถอะ ฉันจะคิดใหม่”เฉินฮวนฮวนหลับตาลง ใจเธอลอยเล็กน้อย
เฟิงหานชวนรับรู้ได้ว่าเฉินฮวนฮวนใจลอย เขารู้สึกได้ว่าเฉินฮวนฮวนน่าจะชอบชื่อนั้นมาก
เขาต่อสู้กับความคิดในหัวของเขา จากนั้นในที่สุดเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และใบหน้าของเขากลับมาสงบอีกครั้ง: “งั้นก็อาหาน ชื่อนี้ดีแล้ว”
เฉินฮวนฮวนได้ยินว่าเสียงที่เฉยของเฟิงหานชวน มันไม่ใช่ความเฉยที่สงบนิ่ง แต่กลับเป็นความเฉยชาที่ดูเยือกเย็น
เธอสามารถมั่นใจได้ว่าเฟิงหานชวนในตอนนี้อารมณ์ไม่ดี
“ชื่อนี้มีความหมายกับคุณใช่ไหม? ถ้าคุณไม่ชอบก็เปลี่ยนดีกว่า ฉันจะไม่เรียกว่าอาหาน ช่างมันเถอะ”เธอรีบพูดด้วยความสงสัยและความอยากรู้ เลยถามออกไป
เฟิงหานชวนชะงักไปครู่หนึ่งและยื่นมือออกไปเพื่อจับแก้มของเฉินฮวนฮวน
เดิมทีเฉินฮวนฮวนต้องการที่จะหลบแต่เธอก็ไม่ได้ทำ เธอมองไปที่ชายตรงหน้าเธอโดยไม่กะพริบตา
ชื่อ “อาหาน” มีความหมายอย่างไรกับเฟิงหานชวน?
เหตุใดเฟิงหานชวนจึงรู้สึกไม่ดีเมื่อได้ยินสองคำนี้?
คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเฉินฮวนฮวนและดูเหมือนจะมีความรู้สึกไม่สบายเกิดขึ้นในใจของเธอ
ไม่น่าจะใช่เพราะผู้หญิงหรอก!
ผู้หญิงที่แอบชอบ?
แฟนคนแรก?
แฟนเก่า?