ในเวลานี้เมฆที่ลุกไหม้บนขอบฟ้าได้ย้อมทั้งท้องฟ้าจนกลายเป็นสีแดง งดงามราวกับภาพวาดที่สวยงามที่สุดภาพหนึ่ง
ณัฐณิชาก้มหน้าลง ผมยุ่งเล็กน้อย ชุดสูทราคาแพงคลุมอยู่บนไหล่ที่บอบบางของเธอทำให้ดูหนาไปเล็กน้อย ท่าที่เธอกำลังก้มหน้าดูอ่อนโยนอย่างมาก
“เรา เรากลับตอนนี้เลยมั้ย?” ณัฐณิชากัดริมฝีปากถามขึ้น
เธอไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว แค่ยังอยู่ที่นี่ก็จะนึกถึงใบหน้าของรเณศขึ้นมา ธราเทพพยักหน้า บอกคนขับรถให้ขับรถเข้ามา และเป็นฝ่ายเปิดประตูรถด้านหลังให้ณัฐณิชา ณัฐณิชารู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยในทันที
เมื่อก่อนธราเทพเป็นคนที่สูงส่งเย่อหยิ่งทะนงตัวนี่นา?
วันนี้เป็นอะไรไปถึงเปิดประตูรถให้กับตัวเอง? แต่ณัฐณิชาก็รู้ว่าเขาน่าจะกลัวว่าตัวเองยังคงจมอยู่ในความกลัวเมื่อสักครู่นี้ ขอบตาร้อนผ่าว มุดเข้าไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่รถวิ่งอยู่บนทางด่วนอย่างมั่นคง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะธราเทพอยู่ข้างๆหรือเปล่า ใจที่แบกเอาไว้มาตลอดกลับได้รับการปลอบโยน สงบลงอย่างไม่คาดคิด
“กลับบ้าน” ธราเทพพูด
“ธราเทพ…คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันถูกพามาที่นี่?” ณัฐณิชาเอียงหัวคิด เมื่อกี้ตอนที่ถูกรเณศเสียมารยาทใส่ เธอเกือบจะนึกว่าตัวเองจะต้องจบอยู่ที่นี่แล้วจริงๆ
“บนโลกนี้ยังมีเรื่องที่ผมไม่รู้งั้นหรอ?” ธราเทพถาม
“…มีสิเยอะแยะเลย อย่างเช่นถ้าคุณรู้ล่วงหน้าว่าฉันจะถูกรเณศลักพาตัวไป ถ้างั้นคุณก็ไม่ต้องมาไกลถึงขนาดนี้หรอก——เอ่อ ขอโทษ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
ณัฐณิชาจู่ๆก็ตระหนักถึงอะไรขึ้นมาได้ รีบปิดปากอย่างรวดเร็ว
เธอเพียงแค่อยากจะโต้แย้งโดยจิตใต้สำนักก็เท่านั้น แต่ไม่ได้จะบ่นโทษเรื่องที่ธราเทพประมาททำให้ตัวเองถูกลักพาตัวเลย!
ธราเทพเพียงแค่มองเธออย่างเย็นชา ราวกับจะบอกว่า เห็นแก่ที่วันนี้คุณได้รับความไม่ยุติธรรมผมถึงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคุณ
บนถนนต่อมาณัฐณิชาก็เข้าใจไม่พูดจาแล้ว สี่สิบนาทีต่อมารถจอดนิ่งที่หน้าประตูวิลล่า ณัฐณิชาเปิดประตูรถลงไป รออยู่ครู่หนึ่งไม่เห็นธราเทพลงมา เห็นเขาเหมือนกับกำลังรับสั่งอะไรอยู่กับคนขับรถ
“ไปได้แล้ว”
ธราเทพลงจากรถเห็นว่าเธอยังคงรออยู่ข้างนอก เลิกคิ้วขึ้น ตรงเข้าไปโอบไหล่ของณัฐณิชาเดินไปในบ้าน
เอ่อเอ่อ……ใครสามารถบอกเธอได้บ้าง ว่าการกระทำที่อ่อนโยนอย่างกะทันหันเช่นนี้คืออะไร?
ใบหน้าเล็กๆของณัฐณิชาแดงขึ้นมาชั่วขณะ แต่ยังคงตามไปอย่างเชื่อฟัง แม่บุญสิตาเห็นทั้งสองคนกลับมาดึกขนาดนี้เลยถามคำถามเพิ่มอีกสองสามคำถาม ณัฐณิชาไม่รู้จะตอบอย่างไร เป็นธราเทพที่พูดออกมาว่า “บริษัทยุ่งนิดหน่อย”
“แบบนี้นี่เอง แต่ว่าก็ต้องดูแลสุขภาพด้วยสิคะ โดยเฉพาะร่างเล็กๆของนายหญิงควรจะต้องบำรุงหน่อย วันนี้ฉันต้มซุปไก่ด้วยนะคะ” แม่บุญสิตาไปยกอาหารอย่างร่าเริง ณัฐณิชามองไปที่ธราเทพอีกครั้ง
จู่ๆก็พบว่า ธราเทพที่จริงแล้วไม่ได้เย็นชาเหมือนอย่างที่เห็น…
ผู้ชายคนนี้ บางทีอาจจะอ่อนโยนกว่าภาพลักษณ์ภายนอกของเขา
หลังจากแม่บุญสิตาจัดวางอาหารเสร็จแล้ว ณัฐณิชาก็ก้มหน้าทานอาหาร เงยหน้าขึ้นมามองธราเทพเป็นครั้งคราว ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่หน้าตาดี ฐานะครอบครัวก็ดีประวัติก็ดี ทันใดนั้นก็เข้าใจขึ้นมาว่าทำไมผู้หญิงพวกนั้นถึงมาพัวพันเขา
ธราเทพที่เป็นแบบนี้ นี่มันลูกรักพระเจ้าชัดๆ? !
“ไม่กินข้าวดีๆ มองผมทำไม?” ธราเทพพูดขึ้นอย่างกะทันหัน ณัฐณิชาถึงกับสำลักข้าวคำหนึ่งที่เพิ่งจะยัดเข้าในปาก ถลึงตาจ้องเขา
ธราเทพยื่นน้ำให้แก้วหนึ่ง ณัฐณิชาประทับใจจนร้องไห้ขี้มูกโป่งทันที
ผู้ชายคนนี้ จำเป็นต้องมีที่บ้านจริงๆ !