บทที่ 245 ของเหลวเสวียน

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 245 ของเหลวเสวียน

เกี่ยวกับคำเตือน “เจตนาดี” ของเหมียวหยุนจื่อนั้น มู่เซิ่งยิ้มและพยักหน้า”ถ้าคุณชนะได้ ผมก็ไม่ต้องขึ้นเวทีแน่นอน”

มู่เซิ่งไม่ใช่คนชอบแข่งขัน ถ้าไม่ใช่เพราะช่วยเหยาเผิง เขาคงไม่มาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้หรอก ดังนั้นหากเขาสามารถไม่ขึ้นเวที แน่นอนว่าเขาจะไม่ขึ้นไปที่เวทีแน่นอน

ประหยัดแรงหน่อย และเป็นผู้ชมไม่ดีเหรอ?

“หึ ถือว่าคุณเป็นคนเจียมตัวนะ”หลังจากที่เหมียวหยุนจื่อส่งเสียงอย่างเย็นชา เขาก็หยุดพูดและเอนหลังลงบนเก้าอี้โดยหลับตาลง

สำหรับเขา มู่เซิ่งคือเจ้านายของเหยาเผิง ดังนั้นเขาจึงต้องไว้หน้าเขา แน่นอน มันแค่ไม่ฉีกหน้าเขาเท่านั้น ยังไงซะ เป็นปรมาจารย์บู๊และยังเป็นปรมาจารย์บู๊ระดับกลาง ไปที่ไหนก็มีแต่คนอยากได้ไม่ใช่หรือ?

เช่นนี้ รถค่อยๆขับเข้าไปในคฤหาสน์ชานเมือง

บริเวณใกล้เคียงของคฤหาสน์นี้ เต็มไปด้วยผักและผลไม้ทุกชนิด ข้างนอกยังมีเรือนกระจกหญ้าและตระกูลเบอร์รี่ มันให้ความรู้สึกเหมือนฟาร์ม

“คุณมู่ เรามาถึงแล้ว สภาพแวดล้อมที่นี่ค่อนข้างแย่ คุณอย่าถือสานะ บริษัทของเราจะจัดการประชุมในหอการค้า คุณมู่ คุณจะไปไหม?”เหยาเผิงถามหลังจากออกมาจากรถ

การประชุมในหอการค้าครั้งนี้เป็นกลุ่มนักธุรกิจที่หารือเกี่ยวกับวิธีการกระจายค่าใช้จ่ายในต่างประเทศในครั้งนี้ มู่เซิ่งไม่มีอารมณ์ที่จะเข้าร่วม ดังนั้นเขาจึงโบกมือของเขา”คุณไปก่อนเถอะ”

“ได้ครับ”

เหยาเผิงพยักหน้าและจากไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เหมียวหยุนจื่อลงจากรถแล้ว เขาก็ขี้เกียจไปสนใจมู่เซิ่ง และเดินตรงกลับไปที่ห้องด้วยท่าทางเหมือนคนไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก สำรวมตน

เหลือเพียงมู่เซิ่งเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ที่เดิม

“คุณผู้ชายท่านนี้ โปรดตามผมมา”

ในเวลานี้ บริกรคนหนึ่งออกมายืนข้างๆมู่เซิ่งและพูดว่า

“เราได้เตรียมอาหารเย็นไว้ให้ท่านด้วย ส่วนวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็น ท่านสามารถเลือกได้จากสวนผัก ผักเหล่านี้เราปลูกเองทั้งหมด”

มู่เซิ่งชำเลืองมองและพบว่าสวนผักนั้นค่อนข้างใหญ่ และมีผักหลากหลายชนิดที่ปลูกอยู่ในนั้น สีสันสดใสชวนน้ำลายสอ

“คิดไม่ถึงว่า เจ้าของคฤหาสน์ของพวกคุณน่าสนใจทีเดียว”มู่เซิ่งยิ้มและพูด

“ใช่ เจ้าของคฤหาสน์ของเราชอบทุกอย่างที่ปลูกในท้องที่ นอกจากผักแล้ว เรายังปลูกอย่างอื่นเองอีกด้วย”บริกรพูดพร้อมชี้ไปที่ภูเขาครึ่งลูกซึ่งอยู่ห่างออกไป ซึ่งมีต้นสีเขียวอยู่ด้านบน

“ชา?” มู่เซิ่งผงะ เจ้าของคฤหาสน์ปลูกทุกอย่างจริงๆ

“ใช่ ชา เจ้าของคฤหาสน์ของเราชอบดื่มชามาก เพราะคุณภาพดิน คุณภาพของชาทั่วทั้งเทือกเขาในนี้จึงดีที่สุด แต่ปริมาณไม่มากนัก โดยทั่วไปจะใช้เฉพาะสำหรับดื่มหรือบริการแขก”บริกรพูดอีกครั้ง

“เจ้าของคฤหาสน์ของพวกคุณชอบรสชาติดั้งเดิมมาก อาหารทะเลก็เลี้ยงไว้เองในทะเลสาบใช่ไหม?”มู่เซิ่งอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อเดินผ่านสระน้ำขนาดใหญ่

บริกรยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว”เจ้าของคฤหาสน์ของเรามีความคิดนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้นำไปใช้ เพราะดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดปกติกับทะเลสาบเทียมแห่งนี้ มันไม่สามารถเลี้ยงอะไรได้เลย แม้แต่พืชน้ำก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ดังนั้น เมื่อเวลาผ่านไปทะเลสาบแห่งนี้จึงถูกทิ้งร้างไว้ที่นี่”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”มู่เซิ่งพยักหน้าอย่างเข้าใจ

ในขณะที่พูด เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทะเลสาบและพบว่าทะเลสาบนั้นแปลกจริงๆ แค่เข้าไปใกล้ๆ กระบี่กระหายเลือดที่แขนของเขาก็รู้สึกถึงความรู้สึกเย็นยะเยือกอย่างสุดจะพรรณนา

ทะเลสาบแห่งนี้ไม่ธรรมดา!

เขามีลางสังหรณ์ว่า ใต้ทะเลสาบ ต้องมีอะไรอยู่แน่ๆ

เมื่อรู้สึกถึงกระบี่กระหายเลือดที่กระสับกระส่ายอยู่ในแขนของเขา มู่เซิ่งอยากจะลงไปดูจริงๆ แต่มันไม่ปกติที่จะกระโดดลงไปในทะเลสาบต่อหน้าบริกรโดยตรง ดังนั้นเขาจึงไม่กระโดดลงไป

“มีคนมาที่นี่เยอะไหม?”มู่เซิ่งถาม

“ไม่มากนัก ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางไปโรงยิมด้านหลัง ดังนั้นยกเว้นแขกสองสามคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ มีไม่กี่คนที่ผ่านที่นี่”บริกรกล่าว

“โอเค ผมเข้าใจแล้ว”มู่เซิ่งพยักหน้าและกลับเข้าไปในห้อง

แต่หลังจากกลับมาที่ห้อง มู่เซิ่งรู้สึกไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้เลย

ตั้งแต่เขาได้กระบี่กระหายเลือดมา นี่เป็นครั้งแรกที่กระบี่กระหายเลือดรู้สึกกระสับกระส่าย เขามั่นใจว่าสิ่งนี้จะช่วยกระบี่กระหายเลือดได้

กระบี่กระหายเลือดเป็นอาวุธที่ยอมเยี่ยมสำหรับการฆ่าคน เขาอาศัยกระบี่กระหายเลือดเพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤตการณ์ต่างๆ หากเขาสามารถยกระดับคุณภาพได้ ความหวังของมู่เซิ่งที่จะเอาชีวิตรอดก็จะเพิ่มขึ้นหากเขาพบกับอันตรายในอนาคต

เขาเดินไปมาในห้องสองสามครั้ง และเมื่อถึงเวลากลางดึก เขาก็ออกจากห้องอย่างเงียบๆ และมาที่ทะเลสาบ

บริเวณรอบๆไม่มีใครเลย ดังนั้นมู่เซิ่งจึงไม่รีบกระโดดลงไปในทะเลสาบ แต่ยื่นมือของเขาลงไปในทะเลสาบเพื่อทดสอบ

มันเย็นมาก!

ความรู้สึกเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่างตามฝ่ามือในทันที ทำให้มู่เซิ่งสั่นสะท้านไปทั้งตัว

แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกก็คือ ในแขนของเขาร้อนขึ้นเรื่อยๆ

“มีอะไรอยู่ในทะเลสาบนี้กันแน่?ผมว่า ต้องลงไปดูเองดีกว่า”

มู่เซิ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง วางโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆไว้ข้างๆ แล้วกระโดดลงไปในทะเลสาบโดยไม่ลังเล

ทันทีที่เขาลงไปในน้ำ เขารู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกเสียดแทงทั่วร่างกายของเขา ความรู้สึกนี้เย็นยิ่งกว่าตอนที่เขาซุ่มซ่อนอยู่ใต้น้ำแข็งหนาในหน่วยมังกร อุณหภูมิต่ำมากจนร่างกายของเขากำลังจะแข็ง

โชคดีที่มู่เซิ่งได้ก้าวเข้าไปในนักเสวียนแล้ว และสามารถปล่อยพลังเสวียนได้ทั่วทั้งร่างกาย ประกอบกับกระบี่กระหายเลือดที่แขนของเขาที่แผ่ความร้อนออกมา สิ่งนี้ทำให้มู่เซิ่งพยุงตัวเองได้

มู่เซิ่งโผล่หัวขึ้นจากน้ำ หายใจเข้าลึกๆแล้วดำลงไปอีกครั้ง

ในเวลานี้ ท้องฟ้ามืดมากจนยื่นห้านิ้วออกไปในน้ำก็มองไม่เห็นแล้ว แต่ในความมืด มู่เซิ่งสามารถมองเห็นแสงสลัวๆเหมือนหิ่งห้อย และอากาศที่เย็นยะเยือกก็แผ่ออกมาจากจุดนั้น

ที่ก้นทะเลสาบเท่านั้นที่เขาสามารถเห็นว่าหิ่งห้อยที่ส่องแสงนั้นเป็นสายน้ำที่ส่องสว่างเป็นพิเศษ ซึ่งมีออร่าของพลังงานที่เข้มข้น

“ที่แท้มันเป็นของเหลวเสวียนจำนวนมาก ตามความเข้มข้นนี้ น่าจะเป็นระดับที่ 9 มั้ง? คิดไม่ถึงว่าผมจะโชคดีขนาดนี้ ที่ได้พบกับของเหลวเสวียนที่นี่”

มู่เซิ่งแอบคิดในใจ เขาเคยเห็นของเหลวพิเศษนี้ใน”ตำราทองตำนานเสวียน” เรียกว่าของเหลวเสวียน และเป็นของเหลวพิเศษที่สามารถช่วยนักเสวียนและอาวุธเสวียน

นักเสวียน ก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ แต่ของเหลวเสวียนนั้นจะมีผลกับนักเสวียนระดับสูงหรือแม้แต่ปรมาจารย์เสวียนระดับสูงกว่าเท่านั้น เนื่องจากนักเสวียนที่มีระดับต่ำเกินไปไม่สามารถต้านทานพลังงานของของของเหลวเสวียนได้

นอกจากนักเสวียนแล้ว ของเหลวเสวียนยังมีความสามารถในการปรับสภาพอาวุธและยกระดับคุณภาพของอาวุธได้ แต่จำเป็นต้องเป็นอาวุธเสวียน

“หรือว่า กระบี่กระหายเลือดนี้เป็นอาวุธเสวียน?”

มู่เซิ่งไม่สามารถหาข้อมูลของกระบี่กระหายเลือดได้เลย ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะมีมาตรฐานในการตัดสินกระบี่กระหายเลือด ตอนนี้ดูแล้ว คิดไม่ถึงว่ากระบี่กระหายเลือดจะเป็นอาวุธเสวียน

สิ่งนี้ทำให้เขาได้รับประโยชน์ที่คาดไม่ถึง

“ในเมื่อผมเป็นคนค้นพบมัน ของเหลวเสวียนนี้ก็เป็นของผม”มู่เซิ่งดึงกระบี่กระหายเลือดออกจากแขนของเขา และสอดกระบี่กระหายเลือดเข้าไปในของเหลวเสวียนอย่างช้าๆ ตามวิธีใน “ตำราทองตำนานเสวียน”

ด้วยการหายใจเพียงครั้งเดียว เขาก็รู้สึกถึงพลังงานอันทรงพลังที่หลั่งไหลเข้ามาในกระบี่กระหายเลือด

อย่างไรก็ตาม

ในวินาทีถัดมา จู่ๆก็มีบางอย่างเกิดขึ้น…