บทที่ 133 วันละสามครั้ง จำได้ใช่มั้ย

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

“เสร็จแล้ว”

รอจนถูกธราเทพปล่อยออก ณัฐณิชาถึงรู้สึกได้ว่าตัวเองคิดเลอะเทอะอีกแล้ว

เธอรีบออกจากอ้อมแขนของธราเทพ กลับพบว่าเมื่อกี้หัวเข่าที่เปลือยเปล่าของตัวเองสัมผัสโดนหน้าท้องของเขา ยิ่งหน้าแดงมากขึ้นจนไม่รู้จะเอามือและเท้าไปวางไว้ตรงไหนดี

“วันละสามครั้ง จำได้ใช่มั้ย?” ธราเทพทำไมจะไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของเด็กสาวตัวเล็กๆ แต่เขานึกว่าณัฐณิชายังคงตื่นเต้นกับเรื่องเมื่อตอนบ่าย เลยไม่ได้คิดมาก กลับเอาครีมวางไว้บนฝ่ามือของเธอแทน

ณัฐณิชาพยักหน้าอย่างงุนงง ก็เห็นธราเทพลุกขึ้นจากเตียง

“คุณ คุณจะไปไหน? คุณไม่นอนหรอ?”

ณัฐณิชาจู่ๆก็ถามออกมาอย่างรีบร้อนเล็กน้อย ธราเทพขมวดคิ้วเบาๆ เขามองกลับมา ณัฐณิชารีบโบกมืออย่างรวดเร็ว “นั่น ฉันหมายความว่าตอนนี้มันดึกมากแล้วน่ะ”

เมื่อกี้เธอพูดอะไรไป?

ทำไมจู่ๆก็มีองค์ประกอบที่คลุมเครือเพิ่มขึ้นในอากาศ?

“ผมจะไปไหน…จำเป็นต้องรายงานคุณด้วยหรอ?” ธราเทพเหมือนจะพูดออกมาโดยไม่ได้ไตร่ตรอง ณัฐณิชาหน้าเหวอเล็กน้อย รีบอธิบายไปเรื่อย แต่ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น จากนั้นก็ได้ยินธราเทพพูดอย่างสบายๆว่า “คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พักผ่อนเถอะ ผมจะไปเคลียร์งานที่ห้องหนังสือ”

“……อ่อ ถ้าอย่างนั้นราตรีสวัสดิ์”

ณัฐณิชาหน้าแดง ไม่กล้ามองธราเทพอีก จนเสียงปิดประตูดังเข้ามา เธอถึงจะสงบลง

เดี๋ยวนะ ถ้าอย่างนั้นเมื่อกี้ธราเทพกลับมาเพื่อเอายามาให้ตัวเองงั้นเหรอ? ไม่ๆๆ เขาน่าจะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าแปรงฟัน เลยเอายามาให้ตัวเองด้วยก็แค่นั้นแหละ

ณัฐณิชาเธอคิดอะไรอยู่เนี่ย?!

เมื่อก่อนนอนอยู่บนเตียงกับธราเทพก็ไม่รู้สึกอะไร แต่ว่าวันนี้เหมือนกับว่ามีหมัดอยู่ใต้ก้นอย่างไรอย่างนั้น ทำเอาซะไม่ว่ายังไงเธอก็นอนไม่หลับ……

อีกเดี๋ยวธราเทพก็จะกลับมา เธอจะเผชิญหน้ากับเขายังไง?

……ณัฐณิชาคิดไปคิดมา ก็ค่อยๆผล็อยหลับไป

ห้องหนังสือ เข็มนาฬิกาชี้ไปที่11โมงแล้ว ธราเทพสวมชุดอยู่บ้านสีเทาอ่อน ผมดำขลับย้อยลงมาปรกหน้าผาก ดูนุ่มนวลกว่าปกติขึ้นมาเล็กน้อย

เขาเปิดคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ เปิดวิดีโอคอล ด้านคอมพิวเตอร์ของภานรินทร์เห็นธราเทพที่เป็นแบบนี้ก็ตะลึงไปพักหนึ่ง แต่ก็รีบรายงานกลับตามปกติ: “จัดการเรียบร้อยแล้วครับ รเณศจะไม่กลับมาอีกแน่นอนครับ ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลัง……”

“คือนภสรณ์?”

ภานรินทร์พยักหน้า

ความจริงแล้วเรื่องที่นภสรณ์ทำลับหลังไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ นภสรณ์เป็นฝ่ายยื่นเรื่องขอเข้ามาแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ปเอง ช่วงสองสามวันนี้ก็ดูสงบสุขเกินไป

ธราเทพนวดหว่างคิ้วเล็กน้อย “หาคนไปจับตาดูเธอไว้”

“ครับ ท่านประธาน ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง…” ภานรินทร์หยุดไปสักพัก “ผมได้ยินมาว่านายหญิงอยู่ที่บริษัทไม่ค่อยจะดีนัก เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆแยกตัวออกห่างจากเธออย่างเห็นได้ชัด เหมือนว่าช่วงนี้นายหญิงจะเป็นทุกข์เพราะเรื่องนี้มาตลอด”

ภานรินทร์เป็นคนของบริษัทท่านประธาน ดังนั้นข่าวข้างล่างจึงลอยเข้ามาถึงหูของเขายากมาก

แต่ว่าถึงอย่างไรณัฐณิชาก็เป็นภรรยาท่านประธาน เขาจึงต้องใส่ใจสักหน่อยอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ไม่ต้องสนใจ” ธราเทพพูด “เป็นถึงคุณหญิงตระกูลทวีศักดิ์ทินโชติ เรื่องพวกนี้ถ้าจัดการไม่ได้ เธอก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่เคียงข้างผม” นัยน์ตาของธราเทพลึกล้ำ

……

วางสายวิดีโอคอลกับภานรินทร์ เวลาก็ได้ผ่านไปยี่สิบนาทีแล้ว ธราเทพปิดโน้ตบุ๊ค กลับไปที่ห้องนอน เขาเห็นณัฐณิชากำลังนอนแผ่หงายหลังอยู่บนเตียงคู่

ต้องบอกว่า ท่านอนของเธอ……ทำให้ไม่กล้ายกย่องจริงๆ

ธราเทพขมวดคิ้ว เดินเข้าไปไม่รู้ว่าจะลงมืออย่างไร สุดท้ายก็ห่อผ้าห่มบีบแขนของเธอแล้วผลักไปอีกด้านหนึ่ง เสียงดัง “เพี๊ยะ” ณัฐณิชาที่กำลังจมอยู่ในฝันหวานเอื้อมมือออกมาตีเข้าที่แขนของธราเทพ

สีหน้าของธราเทพเข้มขึ้นไปอีก แต่เมื่อเห็นรอยแดงบนคอไปถึงบนข้อมือของเธอ ก็ทนเอาไว้ ถอดรองเท้าและเอนตัวลงนอนบนเตียงที่มีขนาดไม่ค่อยใหญ่