ตอนที่ 423 สาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ (2) ตอนที่ 424 สาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ (3)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 423 สาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ (2) / ตอนที่ 424 สาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ (3)
ตอนที่ 423 สาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ (2)

“มีบางสิ่งที่ข้าพูดไปแล้วเมื่อเช้านี้ แต่เนื่องจากมีศิษย์ใหม่ที่เข้ามาเรียนในช่วงบ่ายนี้ ข้าก็อยากพูดเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยว่าเมื่อเข้ามาในสาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณแล้ว ก็ควรเคารพกฎของสาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ เมื่อเป็นลูกศิษย์ของสาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณแล้วก็ต้องพยายามเพื่อเกียรติของสาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ อย่าออกไปสร้างปัญหา มิฉะนั้นข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าอย่างแน่นอน อีกอย่างคือข้าเป็นเพียงอาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเจ้า มิใช่ท่านอาจารย์ของพวกเจ้า ในสำนักศึกษาเฟิงหัวคนที่ยอมสั่งสอนและแนะนำพวกเจ้าตลอดไปจนถึงวันที่พวกเจ้าออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัวเท่านั้นที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นท่านอาจารย์ของพวกเจ้า” ในขณะที่เฉียนหยวนเหอกล่าวสายตาของเขาก็มองไปทางจวินอู๋เสีย

เมื่อเห็นสีหน้าที่ไร้อารมณ์ของจวินอู๋เสีย เขาก็ยิ่งขมวดคิ้ว

“ข้าไม่สนว่าลูกศิษย์ของเราในที่นี้ผู้ใดมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอาจารย์ท่านอื่นในสำนักศึกษา แต่เมื่อเจ้าเข้ามาในสาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณแล้วเจ้าก็เป็นส่วนหนึ่งของสาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ หากมีความคิดอื่นก็ออกไปจากที่นี่ซะ อย่าได้มาเสียเวลา สาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณไม่ขาดแคลนคน หากใครใช้อำนาจบางอย่างเพื่อประโยชน์บางอย่างก็ขอบอกไว้เลยว่ามันเสียเวลาและไร้ประโยชน์”

แม้ว่าเฉียนหยวนเหอจะไม่ได้เอ่ยชื่อออกมา แต่ทุกคำที่เขาพูดออกมากลับชี้ตรงไปที่จวินอู๋เสีย

เมื่อชายหนุ่มเหล่านั้นได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็ต่างหัวเราะในใจ

อาจารย์ที่ปรึกษาท่านนี้ของพวกเขาเป็นคนพูดตรงและไม่ชอบคนที่ใช้เส้นสายมากที่สุด

ตอนนี้ดูเหมือนว่าจวินอู๋เสียได้เข้าบัญชีดำของเฉียนหยวนเหอแล้ว

ถูกกีดกันจากชายหนุ่มเหล่านั้นและไม่เป็นที่ชื่นชอบของอาจารย์ที่ปรึกษา ชีวิตในสำนักศึกษาของจวินอู๋เสียเรียกได้ว่าแย่สุดๆ หากเป็นผู้อื่นคงไม่สามารถรับมือกับข่าวลือนี้ได้แล้วออกจากสถานที่เลวร้ายแห่งนี้ทันที แต่จวินอู๋เสียกลับไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ ยังคงนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ

สิ่งที่คนเหล่านี้พูดไม่ได้มีความหมายอะไรกับนางเลย สามารถพูดได้ว่า นอกจากฟังความรู้ที่จำเป็นแล้วจวินอู๋เสียก็ไม่ได้ฟังเสียงของคนเหล่านี้เลย

นางอยู่ในโลกเล็กๆ ของนาง

หลังจากที่เฉียนหยวนเหอพูดตักเตือนจวินอู๋เสียแล้ว เขาก็เริ่มอธิบายวิธีการฝึกฝนวงแหวนภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้าย

ในฐานะบุคคลที่มีวงแหวนภูติวิญญาณประเภทพฤกษา วิธีการฝึกฝนวงแหวนภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายนั้นไม่เหมาะสมกับจวินอู๋เสียโดยสิ้นเชิง หลังจากนางนั่งฟังคำสอนของเฉียนหยวนเหออยู่ตรงมุมห้องตลอดทั้งบ่ายและในที่สุดนางก็เข้าใจ

ไม่มีสิ่งใดที่เหมือนกันระหว่างวงแหวนภูติวิญญาณที่มีประเภทต่างกัน เดิมทีนางต้องการเรียนรู้ความรู้ที่เกี่ยวกับวงแหวนภูติวิญญาณและพลังวิญญาณในสำนักศึกษาเฟิงหัว แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับทำให้นางผิดหวังมาก

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์สำหรับนางเลย

หลังจากอดทนมาตลอดทั้งบ่าย จวินอู๋เสียก็ลุกขึ้นและเดินออกไปทันทีโดยไม่สนใจใบหน้ามืดครึ้มของเฉียนหยวนเหอ

เมื่อเห็นลูกศิษย์ที่เขาไม่ชอบเดินออกจากห้องด้วยท่าทางที่ไม่เคารพเขาเลย เฉียนหยวนเหอจึงทำได้เพียงเดินออกจากห้องด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เขาคิดไว้ในใจว่าพรุ่งนี้เขาจะสั่งสอนลูกศิษย์ที่ไม่เคารพอาจารย์คนนี้ให้ได้

แต่ว่า…

นอกจากวันแรกแล้ว จวินอู๋เสียก็ไม่เคยไปที่สาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณอีกเลย!

จวินอู๋เสียไปหาฟ่านจิ่นและฟ่านจัวในคืนนั้น แล้วยืมเรือนในลานไม้ไผ่จากสองพี่น้องหลังหนึ่ง จากนั้นนางก็ย้ายออกมาจากห้องพักของนางแล้วอาศัยอยู่ที่นั่นถาวรเลย

การกระทำแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของจวินอู๋เสียทำให้หลายคนตกใจเป็นอย่างมาก นอกจากลูกศิษย์และอาจารย์ที่ปรึกษาที่รอ ‘สั่งสอน’ จวินอู๋เสียอยู่ที่สาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณงุนงงแล้ว แม้แต่อิ่นเหยียนก็ยังงุนงงเป็นเวลานานเมื่อเห็นเตียงที่ว่างเปล่านั้น

ทุกคนต่างเตรียมวิธีการทำให้จวินอู๋เสียลำบากใจไว้มากมายแต่กลับถูกทำลายโดยจวินอู๋เสีย

………..

ตอนที่ 424 สาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ (3)

เนื่องจากการหายตัวไปของจวินอู๋เสีย เฉียนหยวนเหอได้ไปร้องเรียนกับท่านอาจารย์ใหญ่หลายต่อหลายครั้ง แต่เรื่องนี้ถูกกู้หลีเซิงยับยั้งไว้ เมื่อเขารู้ว่าจวินอู๋เสียไม่เพียงแต่ไม่ไปสาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณแต่นางยังย้ายออกจากห้องพักด้วย เรื่องนี้ทำให้กู้หลีเซิงรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก

จวินอู๋เสียอยู่ในลานป่าไผ่กำลังจดจ่ออยู่กับการค้นคว้าทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณ

หลังจากที่นางรู้ว่าการฝึกฝนวงแหวนภูติวิญญาณประเภทอื่นไม่มีประโยชน์สำหรับนาง นางก็ทุ่มพลังงานและความคิดทั้งหมดให้กับทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณ เพราะนางต้องการทำทุกอย่างนี้ให้สำเร็จโดยเร็วที่สุดเพื่อให้บัวหิมะซังอวี้ฟื้นตัวโดยเร็ว

การใช้ชีวิตอยู่ในเรือนโดยที่ไม่ออกไปไหน ทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกราวกับว่าได้ย้อนกลับไปยังวันที่อยู่ในจวนหลินอ๋อง ช่วงเวลานั้นนางหลอมโอสถวิเศษอยู่ในห้องปรุงยาตลอดทั้งวัน

แม้ว่าจวินอู๋เสียจะ ‘หายตัวไป’ แต่ข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับนางกลับไม่ได้หายไปด้วย

ตามกฎของสำนักศึกษาเฟิงหัว ไม่อนุญาตให้ลูกศิษย์ขาดเรียนโดยไม่มีเหตุผล แต่จวินอู๋เสียกลับขาดเรียนเป็นเวลาเกือบเดือน เฉียนหยวนเหอก็ได้ไปร้องเรียนกับอาจารย์ใหญ่บ่อยมากขึ้น แม้ว่าจะไม่มีผลอะไร แต่เรื่องนี้ก็ได้แพร่กระจายไปในหมู่ลูกศิษย์

เริ่มจากการเข้าสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณแทนที่คนอื่น หลังจากนั้นก็คิดว่าตัวเองสำคัญจนไม่สนใจอาจารย์ที่ปรึกษาของสาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ ต่อมาก็ละเมิดกฎของสำนักศึกษาแต่ตอนนี้นางก็ยังไม่ถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัว!

สิ่งที่จวินอู๋เสียทำแต่ละอย่างนั้นยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงมากขึ้น แม้ว่านางจะไม่รู้ตัว แต่ตอนนี้นางได้กลายเป็น ‘คนดัง’ ของสำนักศึกษาเฟิงหัวอย่างแท้จริงแล้ว

และแม้แต่ฟ่านจิ่นก็โดนหางเลขไปด้วย

เพราะการปกป้องจวินอู๋เสียก่อนหน้านี้ของฟ่านจิ่น ทำให้ทุกคนโยนเรื่องที่จวินอู๋เสียละเมิดกฎของสำนักศึกษาแต่กลับไม่ถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาไปให้ฟ่านจิ่น กล่าวหาว่าฟ่านจิ่นใช้สถานะของตัวเองกดดันอาจารย์ที่ปรึกษาในสำนักศึกษาให้จวินอู๋เสียอยู่ต่อ แม้ว่าลูกศิษย์ในสำนักศึกษาจะไม่กล้าด่าว่าฟ่านจิ่นต่อหน้า แต่ลับหลังเขาคำเคารพและชื่นชมเมื่อก่อนได้หายไปแล้ว ตอนนี้เมื่อพูดถึงฟ่านจิ่นทุกคนต่างเต็มไปด้วยคำเยาะเย้ยดูถูก

ฟ่านจิ่นไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขายังคงไปทานอาหารที่ลานป่าไผ่อยู่บ่อยครั้ง และบางครั้งเขาก็นำเรื่องที่น่าสนใจในสำนักศึกษาไปเล่าให้จวินอู๋เสียและฟ่านจัวฟัง แต่เขาไม่เคยพูดถึงตัวเองและแบกรับเรื่องทุกอย่างไว้คนเดียว

วันนี้หลังจากที่ฟ่านจิ่นฝึกฝนเสร็จ เขาก็เดินจากไปด้วยรอยยิ้มโดยที่ไม่ใส่ใจสายตาแปลกๆ ที่มองมา

ไม่ไกลกันนัก ศิษย์พี่หนิงค่อยๆ เดินออกมาจากด้านหลังต้นไม้และด้านข้างนางยังมีอิ่นเหยียนยืนอยู่

“เจ้าค้นพบหรือยังว่าจวินเสียหายไปไหน” ศิษย์พี่หนิงขมวดคิ้วแล้วกล่าวถาม เดิมทีนางวางแผนไว้ว่าจะใช้จวินอู๋เสียจัดการฟ่านจิ่น แต่ไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะปรากฏตัวในสาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณแค่ครึ่งวันแล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย สิ่งนี้ทำให้แผนการทั้งหมดของนางถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี

อิ่นเหยียนส่ายหัวอย่างขมขื่น

ศิษย์พี่หนิงกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “แล้วทางหลี่จื่อมู่เป็นอย่างไร”

อิ่นเหยียนกล่าวว่า “หลี่จื่อมู่เขา…อยู่ในสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณไม่ค่อยดีนัก”

“เป็นไปได้อย่างไร” ศิษย์พี่หนิงชะงักเล็กน้อย หลี่จื่อมู่เป็นลูกศิษย์คนเดียวที่กู้หลีเซิงรับในปีนี้จะไม่ดีได้อย่างอย่างไร

“มิใช่ว่าอาจารย์ไม่ดีกับเขา อาจารย์อดทนกับเขามากและมักจะให้คำแนะนำกับเขาเป็นการส่วนตัว และยังให้หนังสือบางเล่มที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อนให้หลี่จื่อมู่ดู แต่ดูเหมือนว่าหลี่จื่อมู่จะไม่เหมาะกับการฝึกฝนทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณ ครึ่งเดือนแล้วเขายังไม่สามารถแปลงพลังวิญญาณได้เลย” ในขณะที่อิ่นเหยียนกล่าว สีหน้าของเขาแสดงความสับสนออกมา

……….