บทที่ 136 ผมไม่ใช่แต่งงานแล้วหรือไง

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ณัฐณิชายังคงนั่งรถของธราเทพไปบริษัท

ระหว่างทาง เธอกลับไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เอาแต่มองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง หรือเปิดดูโมเม้นต์และ เวยป๋อไปมั่วๆ…

“ทำไม หน้าผมมีอะไรติดอยู่?” ธราเทพพูดขึ้นอย่างกะทันหัน นี่เป็นครั้งที่สิบสองแล้วที่ณัฐณิชามองมาที่ตัวเอง

“ไม่ ไม่ใช่…อะเอ่อ ธราเทพ ทำไมตั้งนานแล้วคุณถึงยังไม่แต่งงานล่ะ?” ณัฐณิชาก้มหน้าลงเล่นเล็บ มือของตัวเอง มือของเธอสวยมาก ขาวเรียว เงยหน้ามองธราเทพเป็นครั้งคราว ราวกับกำลังรอคำตอบจากเขา

แน่นอนสิ ธราเทพอะไรๆก็ดีไปหมด คนแบบเขาสมัยตอนเป็นนักเรียนน่าจะมีผู้หญิงมาจีบหลายคนเลยล่ะ

พอคิดถึงตรงนี้ ณัฐณิชาแม้แต่ตัวเองยังไม่รู้ว่าก้นบึ้งของหัวใจตัวเองมีประกายความหดหู่

“ผมไม่ใช่แต่งงานแล้วหรือไง?”

“คะ?”

“เหอๆ” ธราเทพเหลือบมองณัฐณิชาครู่หนึ่ง ราวกับกำลังมองเด็กโง่ “ที่แต่งงานกับผมเป็นผีงั้นหรอ?”

“พรวด…”

ณัฐณิชาเข้าใจว่าธราเทพหมายถึงอะไร เขินจนหน้าแดงเหมือนมะเขือเทศในพริบตา นิ้วของเธอที่ขยับออกแรงมากยิ่งขึ้น ไม่รู้ว่าดีใจหรือว่าโกรธ พูดอย่างหน้าแดงแจ๋ว่า “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น

คือฉัน…ฉันหมายถึง ก่อนที่คุณจะเจอฉันคุณไม่มีผู้หญิงที่ชอบเลยหรอ? คุณหน้าตาดีมากๆ คงจะมีสาวๆหลายคนตามรุมจีบแน่นอน คุณไม่มีสักคนที่ถูกใจเลยเหรอ?” อีกอย่างทำไมถึงมาทำสัญญาแต่งงานกับเธอล่ะ

ณัฐณิชาเอียงหัวถามอย่างจริงจัง ธราเทพมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาเป็นประกายลึกล้ำที่ณัฐณิชาไม่ทันสังเกตเห็น

“คุณเหมือนว่าจะสนใจเรื่องความชอบพอของผมมากเลยนะ?”

“แค่ก!” ณัฐณิชาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงลุกลี้ลุกลุนเล็กน้อย แต่แค่ถูกดวงตาที่แหลมคมของธราเทพมองมา หัวใจน้อยๆของเธอก็อดไม่ได้ที่จะเต้นตุบๆเร็วยิ่งขึ้น

เธอรีบอธิบายก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้น “ฉันไม่ได้สนใจการใช้ชีวิตส่วนตัวของคุณเลย แต่ตอนนี้เราเป็นสามีภรรยากันใช่มั้ยล่ะ? คุณก็บอกแล้วว่าฉันต้องช่วยคุณกันผู้หญิงคนอื่นที่มาพัวพันคุณ แต่ฉันไม่รู้จักคุณเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วแบบนี้จะหลอกคนอื่นได้ยังไงล่ะ?”

ณัฐณิชาอธิบายอย่างตั้งใจ

ข้างหน้าเป็นสี่แยกไฟแดงพอดี เจอกับไฟแดงธราเทพก็หยุดรถ มองดูณัฐณิชาลึกๆ พยายามจะมองให้เห็นอะไรบางอย่างจากสีหน้าของเธอ แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะมองไม่เห็นอะไรเลย

เขาเลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้คุยบทสนทนานี้อีกต่อไป

ไม่นานรถก็มาถึงนอกประตูแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป ตอนนี้เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนพอดี จะเห็นพนักงานออฟฟิศจำนวนมากในcbdสวมชุดทำงานและรองเท้าส้นสูงเดินผ่านที่นี่ไปอย่างเร่งรีบ พวกเธอบ้างก็ถืออาหารเช้าKFCที่เพิ่งซื้อมาอยู่ในมือ บ้างก็กำลังโทรศัพท์ และบางส่วนก็กำลังก้มหน้าเล่นมือถือ ไม่รู้ว่ากำลังคุยเล่นหรือกำลังจัดการงานอยู่

จากบนตัวของพวกเขา ก็มองออกถึงความคาดหวังในอนาคต

“คืนนี้เลิกงานก่อนเวลาสองชั่วโมง พาคุณไปเข้าร่วมงานเลี้ยง” ธราเทพเตือนขึ้น

“งานเลี้ยงของนายท่านพิเชษฐเหรอ?!” ณัฐณิชาตื่นเต้นดีใจ ก่อนหน้านี้ธราเทพเคยเอ่ยขึ้นมาว่าครั้งนี้จะพาตัวเองไปงานเลี้ยง เธอตั้งตารอที่จะพบนายท่านพิเชษฐมานานแล้ว ถ้าเธอ…เป็นลูกของนายท่านพิเชษฐจริงๆ เธอจะต้องถามแน่นอนว่าทำไมตอนแรกพ่อแม่ถึงทิ้งตัวเองไป

แววตาของธราเทพกลับเป็นประกายสีเทา “อืม”

“ดีจังเลย!” ณัฐณิชานึกไม่ถึงเลยสักนิด เธอพยักหน้าและพูดว่า “ฉันจะรีบเก็บของให้เสร็จโดยเร็วแน่นอน!” พูดจบณัฐณิชาก็รีบไปที่แกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป ใช้บัตรพนักงานรูดบัตร แล้วยืนรอลิฟต์อยู่ข้างๆล็อบบี้ที่ชั้นหนึ่ง