บทที่ 105 นอนกับผมอีกสักหน่อย

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

จิตใต้สำนึกของเฉินฮวนฮวน บอกให้เธอคว้าคอเฟิงหานชวนเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของเธอ

ร่างของเธอจึงไม่หงายหลังลงไป

“คุณดึงฉันทำไม?” เมื่อเธอได้สติกลับมาอีกครั้ง เธอปล่อยมือทั้งสองข้าง และจ้องเฟิงหานชวนแล้วเอ่ยถาม

เฟิงหานชวนไม่ตอบ เขาเพียงเอื้อมมือไปหยิบยาในมือของเธอ แล้วโยนลงบนตู้ข้างเตียง ก่อนจะเสียงแผ่วเบา “ไปนอนเถอะ”

  

ขณะที่พูด เขาอุ้มเฉินฮวนฮวนมายังอีกด้านหนึ่งของเตียง เดิมเป็นบริเวณที่เฉินฮวนฮวนนอน

“เดี๋ยวก่อน แต่ว่ายาของคุณ…” เฉินฮวนฮวนงุนงงเล็กน้อย และถามขึ้นว่า “คุณไม่ทาแล้วเหรอ?”

  

“ตอนนี้ยังไม่มีปัญหา พรุ่งนี้ค่อยดู” เฟิงหานตอบอย่างเรียบเฉย ก่อนจะตัวนอนลงไป และเอื้อมมือไปห่มผ้า

เฉินฮวนฮวน “???”

  

“ผมนับสาม นอนลงไปแล้วหลับ ไม่อย่างนั้นผมไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรออกมา” น้ำเสียงของเฟิงหานชวนยังคงเจือความคุกคามและความอดกลั้น

เมื่อเฉินฮวนฮวนได้ฟังประโยคสุดท้ายก็รีบนอนลงแล้วห่มผ้า เธอเอ่ยถามอย่างอึ้งๆ “คุณไม่ทายา ไม่เป็นอะไรจริงๆ เหรอ?”

  

ก่อนหน้านี้เฟิงหานชวนพูดเหมือนว่าร้ายแรงมาก ทว่าเขากลับฆ่าตัวตายโดยการไม่ทายา นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย?

  

เวลานี้เฉินฮวนฮวนถึงกับงงไปเลยจริงๆ

  

“พักฟื้นครึ่งเดือน รอคุณกลับมาจากฝึกอบรม คุณจะได้ทดลองประสิทธิภาพของมันหน่อย” น้ำเสียงของเฟิงหานชวนไม่มีความหยอกล้อใดๆ เลยแม้แต่น้อย กลับจะพูดปกติเสียด้วยซ้ำ

ทว่าเฉินฮวนฮวนฟังออกว่า นี่ไม่ใช่คำพูดจริงจังอะไรเลย นี่…นี่มันลวนลาม! ชัดๆ!

  

“ฉันไม่ต้องการ!” เฉินฮวนฮวนตอบด้วยความโกรธเคือง แล้วพลิกตัวนอนตะแคง หันหลังให้เฟิงหานชวน

  

เดิมทีเธอยังเป็นห่วงสถานการณ์ของเฟิงหานชวนมาก ทว่าคำพูดของเฟิงหานชวนเมื่อสักครู่สกปรกโสมมเกินไป เธอไม่อยากพูดกับเขาแล้ว

  

เธอพบว่า เฟิงหานชวนก็เป็นผู้ชายผิดปกติคนหนึ่ง!

“โกรธแล้ว?”

  

ในเวลานี้เอง เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นข้างใบหูของเธอ จากนั้นเธอก็ถูกโอบล้อมด้วยความอุ่นร้อน

  

“เฟิงหานชวน คุณออกไปหน่อย เตียงนี้ใหญ่มากนะ คุณไม่จำเป็นต้องเบียดฉัน!” เฉินฮวนฮวนใช้มือดันแผ่นอกของชายหนุ่ม

  

“คุณลืมแล้วเหรอ? ตอนนี้เราทดลองแต่งงานกัน จำเป็นต้องนอนกอดกันนอนนะ” เฟิงหานชวนจับมือของหญิงสาวเอาไว้ ริมฝีปากบางคลอเคลียอยู่บริเวณติ่งหูของเธอ และเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบว่า “นอนกอดกันกลมเกลียวได้หรือไม่ได้ คือกุญแจสำคัญของความสำเร็จในการทดลองแต่งงาน”

  

“คุณ…” เฉินฮวนฮวนหมดคำพูดที่จะโต้แย้งเขาแล้วจริงๆ เธอพยายามยื่นศีรษะออกไปข้างหน้า เธอไม่อยากเข้าใกล้เฟิงหานชวน

  

ทว่า จนสุดท้ายลำคอของเธอก็ยาวมาก เธอเคลื่อนไปข้างหน้าหนึ่งนิ้ว เฟิงหานชวนก็ตามมาหนึ่งนิ้ว สุดท้ายเธอก็ถูกเฟิงหานชวนแอบอิงแนบแน่น

เฉินฮวนฮวนเลือกที่จะยอมแพ้ในที่สุด

  

“เด็กดี นอนเถอะ” เสียงของเฟิงหานชวนแหบแห้งลง

เฉินฮวนฮวนเงียบ จากนั้นเธอก็หลับตาแน่น

  

ผ่านไปไม่นาน หญิงสาวในอ้อมกอดของเขาก็หายใจอย่างสม่ำเสมอ เฟิงหานชวนรู้ว่าเธอหลับไปแล้ว

เธอหลับไปแล้ว ทว่าเขาทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ ร่างนุ่มหอมอยู่ในอ้อมกอดของเขา ค่อนข้างยากที่จะทนได้

เดิมทีเขาอยากจะหลอกให้เธอช่วยทายาให้ตัวเอง ทว่าต่อมาเขาก็ล้มเลิกแผนการ เพราะว่าตอนนี้เขาไม่สามารถสัมผัสเธอได้ หากเธอยินยอมช่วยเขาทายาจริง เขากลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ

  

จนถึงตอนนี้ สถานการณ์ก็ยากเกินกว่าจะรับมือได้แล้ว

  

ดังนั้น เขาถึงได้พักเรื่องทายาเอาไว้ก่อน

  

นี่ถึงเป็นความสัมพันธ์ที่เปิดเผยของพวกเขา คืนแรกของการอยู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยา เขาใจร้อนเกินไปไม่ได้

  

โบราณกล่าวไว้ว่า ใจร้อนรีบกินเต้าหู้ร้อนไม่ได้*

  

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฟิงหานชวนถอนหายใจเล็กน้อย และเงยหน้าขึ้นหอมแก้มของหญิงสาว หลังจากนั้นเขาก็หลับตาลง

ค่ำคืนที่นอนหลับฝันดีคืนหนึ่ง

……

เช้าวันรุ่งขึ้น

เฉินฮวนฮวนถูกปลุกให้ตื่นจากความร้อน

  

เมื่อเธอตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองยังคงถูกเฟิงหานชวนกอดเอาไว้แน่น อิริยาบถนี้ทำให้เธอหายใจไม่ออกเล็กน้อย

ถือโอกาสขณะที่เฟิงหานชวนเหมือนยังหลับอยู่ เฉินฮวนฮวนไม่แม้แต่จะหันไปมอง ก็เอื้อมมือไปคว้าแขนของเฟิงหานชวนที่พาดอยู่บนเอวเธอ

  

เธอค่อยๆ ยกแขนของเฟิงหานชวนขึ้น กำลังจะเอามือของเขาออกไป ทันใดนั้น เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มส่งผ่านมายังข้างใบหูของเธอ

  

“ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงแหบพร่ามีเสน่ห์ของชายหนุ่มเพียงสองคำ ก็ยากที่จะต้านทานเสน่ห์ของเขาได้

ทว่า เฉินฮวนฮวนตะลึงตาค้าง เธอคิดว่าเฟิงหานชวนกอดเธอไม่ขยับเขยื้อน เพราะว่าเขายังไม่ตื่น คิดไม่ถึงว่าเขาจะตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน

  

เธอเอามือของเขาออกแล้วลุกขึ้นนั่ง

เธอหันกลับไปมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ เฟิงหานชวนยังไม่ได้ลุกขึ้นนั่ง ทว่าเขานอนตะแคงมาทางเธอ มือข้างหนึ่งวางอยู่บนหมอน กำลังมองมาที่เธออย่างจดจ่อ

  

“วันนี้วันอาทิตย์ คุณอยากนอนก็นอนต่ออีกหน่อยเถอะ ฉันตื่นก่อน ฉันจะพยายามล้างหน้าบ้วนปากให้เสียงเบาที่สุด จะได้ไม่รบกวนคุณ” เฉินฮวนฮวนหันกลับไป แล้วเหยียดขาจะก้าวลงจากเตียง ทว่าแขนของเธอกลับถูกดึงไว้เสียก่อน

เฉินฮวนฮวนหันกลับมาอย่างไม่มีทางเลี่ยง กำลังจะถามเขาว่ามีเรื่องอะไร ทว่าเฟิงหานชวนกลับออกแรงดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมอกของเขา

  

ในขณะที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างทั้งร่างของเธอนอนคว่ำอยู่บนร่างของเฟิงหานชวน ทั้งสองคนแทบจะแนบชิดติดกัน

และทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น เธอก็มองเห็นคางของเฟิงหานชวน เหนือคางเป็นจมูกที่โด่งเป็นสัน จากนั้นก็เป็นดวงตาลึกล้ำคู่นั้น

เมื่อเฉินฮวนฮวนกำลังจะลุกขึ้น มือทั้งสองข้างชายหนุ่มก็โอบรัดรอบเอวของเธอไว้แน่น หลังจากนั้นเธอก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้เลย

  

“คุณบอกว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ตื่นเช้าขนาดนี้มาทำอะไร? วันนี้มีธุระเหรอ?” เฟิงหานชวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย และถามอย่างตั้งใจ

  

อันที่จริงเขาไม่ค่อยแน่ใจตารางงานของเฉินฮวนฮวน ดังนั้นเขาจึงอยากถามให้ชัดเจน

  

“เอ่อ…” เฉินฮวนฮวนนิ่งไปชั่วขณะ หลังจากนั้นเธอก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวไปมาแล้วกล่าวว่า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ตื่นเช้า ฉันไม่มีนิสัยนอนขี้เกียจบนเตียง”

เดิมทีวันนี้เธอตั้งใจจะไปช้อปปิ้ง เพราะเธอต้องเตรียมเสื้อผ้า เธอไม่สามารถสวมเสื้อผ้าเก่าๆ ของตัวเองไปฝึกอบรมได้อีก จะทำให้บริษัทและเกาเหวินขายหน้า

ทว่า เมื่อนึกถึงเสื้อผ้ามากมายที่เฟิงหานชวนให้เธอ เธอรู้สึกว่าแผนช้อปปิ้งนี้คงต้องยกเลิกเสียแล้ว

  

หลังจากนั้น ดูเหมือนว่าเธอไม่มีเรื่องอะไรต้องทำแล้ว เพราะเธอก็ไม่ต้องไปทำงานที่ร้านชานมแล้ว

จู่ๆ เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกไม่ค่อยชิน ชีวิตของเธอยุ่งอยู่กับงานมาโดยตลอด เธอแทบไม่มีเวลาพักเลยด้วยซ้ำ

  

“ในเมื่อไม่มีธุระ ก็นอนกับผมอีกสักหน่อย” เฟิงหานชวนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย และเอ่ยบอกเสียงแผ่วเบา

เดิมทีเฉินฮวนฮวนตั้งใจจะตอบตกลง ทว่าเธอรู้สึกมาตลอดว่ามีบางอย่างแปลกๆ ในประโยคนี้ แต่เฟิงหานชวนก็พูดเป็นปกติ

  

น่าจะเป็นความหมายตามที่เขาพูดหรอกใช่ไหม?

“งั้นคุณปล่อยฉัน ฉันจะได้นอนหงาย ไม่อย่างนั้นฉันจะนอนยังไง” เฉินฮวนฮวนรีบเอ่ยบอก

  

“ฮวนฮวน วันนี้เป็นวันที่สองของการทดลองแต่งงานของเรา” เมื่อเฟิงหานชวนพูดประโยคนี้จบ เขาก็พลิกตัว แล้วจับเฉินฮวนฮวนกดให้อยู่ภายใต้ร่างของเขา

  

การเคลื่อนไหวเร็วเกินไป เฉินฮวนฮวนไม่ทันได้ตอบสนองอะไร ตรงหน้าเธอก็ปรากฏใบหน้าหล่อเหลาของเฟิงหานชวนแล้ว

“เป็น เป็นวันที่สอง มะ มีอะไรเหรอคะ?” เธอรู้สึกถึงแววตาที่แฝงไว้ด้วยความดุดันของเฟิงหานชวน เธอพูดติดอ่างขึ้นมาเล็กน้อย

*ใจร้อนกินเต้าหู้ร้อนไม่ได้ หมายถึง ต้องอดทนรอคอย เพื่อที่จะทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จลงได้