ตอนที่ 201 การประลองเริ่มต้นขึ้น
หนานหนานตกตะลึงกับการกระทำของเขา เด็กชายรีบเก็บมือของตนกลับมา และมองดูเขาด้วยความประหลายใจ “ทำอะไรน่ะ? ข้าบอกว่านั้นคือท่านแม่ของข้านะ”
“เจ้า เจ้ามั่นใจเช่นนั้นหรือ?” เย่ฮ่าวหรานสูดหายใจลึก เมื่อสักครู่ชายหนุ่มชี้นิ้วไปที่อวี้ชิงลั่ว และเมื่อครู่นี้เด็กชายบอกว่าอวี้ชิงลั่วเป็นมารดาของตน
หรือว่า…
ไม่หรอกกระมัง เจ้าเด็กคนนี้คือลูกชายของอวี้ชิงลั่วอย่างนั้นหรือ?
เป็นลูกชายของอวี้ชิงลั่วกับท่านพี่ห้า!
เด็กผู้ที่เขานั้นอยากจะพบมาโดยตลอดแต่กลับไม่เห็นแม้เงา
หนานหนานดูถูกท่าทางเสียมารยาทเช่นนี้ของเขาเป็นอย่างมากเสียจริงๆ แต่ก็ยังพยักหน้าจริงจัง “อื้ม ข้ามั่นใจเป็นอย่างมาก งั้นท่านลองดูสิ ปิ่นปักสีเขียวผมบนศีรษะของแม่ข้า ที่ข้าจ่ายเงินไปจำนวนมากเพื่อซื้อให้นาง ไอ้หยา ท่านไม่รู้เลยหรือว่าเวลานั้นข้าเป็นที่รักเป็นอย่างมาก แต่ท่านแม่บอกว่าวันเกิดของนาง ในฐานะของลูกต้องมีของขวัญให้กับมารดาถึงจะถูก โดยเฉพาะของที่ไม่มีใครเหมือน ข้าท่องไปตามสถานที่ในเจียงเฉิงมามากมาย จึงหาปิ่นปักผมอันนั้นที่ไม่ว่าจะที่ไหนก็ไม่เคยเห็นมาก่อนพบน่ะ อ้อ และโชคดีที่วันนี้ท่านแม่ปักปิ่นอันนั้นมา ไม่เช่นนั้นข้าก็คงไม่รู้จักนาง ”
ไม่นึกเลยว่าต้องอาศัยปิ่นปักผมอันเล็ก ๆ จึงจะดูออกว่าเป็นมารดาของตน เย่หลานเฉิงหันศีรษะไปอย่างเงียบ ๆ เขาเองก็หมดคำพูด ครั้งก่อนที่พระราชวังนั้นใช่ว่าจะไม่สมเหตุสมผลนักในเรื่องที่ท่านน้าชิงมากระซิบข้างหู ครั้งก่อนที่มองไม่ออก เขาก็คิดว่าหนานหนานจะได้รับบทเรียนและเรียนรู้มันแล้ว ไม่คิดว่าครั้งนี้จะยังมองไม่ออกอยู่ดี
ริมฝีปากของเย่ฮ่าวหรานกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง ชายหนุ่มรู้สึกว่าสวรรค์กลั่นแกล้งตนเป็นอย่างมาก จิตนาการของเขาพังทลายลงแล้ว ในหัวใจของเขาคิดว่าเด็กคนนี้จะเหมือนกับท่านพี่ห้าที่ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็สามารถศึกษาสี่ตำราห้าคัมภีร์จนเป็นเด็กอัจฉริยะและแตกฉานอย่างสมบูรณ์เสียอีก
นิสัยของเด็กคนนี้ช่างแตกต่างกับสิ่งที่เขาคาดคิดไว้เป็นอย่างมาก ท่านพี่ห้าเองก็บอกอย่างชัดเจนว่าเด็กคนนั้นเฉลียวฉลาด แต่พึ่งจะผ่านมาได้ไม่นาน กลับพบว่านอกจากการกิน…ที่ดูจะมีประสิทธิภาพมากกว่าผู้อื่น แต่เรื่องอื่น ๆ เมื่อมองดูแล้วกลับไม่เหมือนท่านพี่ห้าเสียจริง ๆ
ถูกต้องแล้ว คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้จักแม่ของตนที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต
เมื่อชายหนุ่มคิดถึงตรงนี้แล้วเขาก็ได้กระโดดลงไป
หนานหนานมองดูเรือนผมยุ่งเหยิงที่กำลังตกระลงมาด้วยท่าทางไร้เดียงสา เด็กชายพูดพล่ามพลางยัดองุ่นเข้าปาก จึงค่อยหันศีรษะและก้มลงไป
“แม่ของข้าอยู่ แน่นอนว่าจะต้องไม่มีปัญหาใด ๆ ” เขาก็แค่บอกน่ะ มีคนกล้าที่จะสวมรอยใช้ชื่อของแม่ตนเอง เหตุใดท่านแม่จึงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย แต่กลับรออยู่ที่นี่เสียอย่างนั้น
ดีมาก เช่นนั้นต่อไปข้าจะเพียงดูละครอย่างตั้งใจ หลังจากนั้นค่อยไล่ตีให้เป็นสุนัขตกน้ำไปเลย
เย่ฮ่าวหรานยังคงมีความรู้สึกที่รับไม่ได้เล็กน้อย ยังอยากที่จะสอบถามหนานหนานว่าพี่ห้าเป็นบิดาของเขาหรือไม่ อยากสอบถามถึงเหตุผลของการเข้าวังและกลายเป็นสหายของเย่หลานเฉิง และยังต้องการจะสอบถามฮ่องเต้ว่ารู้จักตัวตนของเขาไหม และยังอยากจะถาม…
ชายหนุ่มมีคำถามมากมายที่ยังไม่เข้าใจ แต่เขาเองก็ไม่สามารถทนรอได้ การทดสอบต่อไปได้เริ่มขึ้นแล้ว
เย่ฮ่าวหรานพยายามตั้งสติ ทำได้เพียงแค่เก็บคำถามเอาไว้ภายหลัง คอยจับตามองเรื่องราวในโรงเตี๊ยมตอนนี้น่าจะดีกว่า เพราะการชี้แจงต่อเสด็จพ่อหลังจากนี้นับเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า
“ผ่าง!” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา เถ้าแก่ที่อยู่ชั้นล่างได้ยืนอยู่บนลานประลองแล้ว ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของเขามีหมอเสิ่นผู้แสดงสีหน้าท่าทางยโสโอหังและอวี้ชิงลั่วที่มีสีหน้าเย็นชา
การตีฆ้องของเถ้าแก่ทำให้ผู้คนทั้งหมดในโถงนั้นเงียบเสียงลง
“ทุกท่าน ขอขอบพระคุณที่ไม่ทอดทิ้งกัน การที่ข้าจัดการประลองครั้งนี้ขึ้นมาคงจะทำให้ทั้งเมืองหลวงสั่นสะเทือนและหลั่งไหลกันมาที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ ของข้า ทำให้โรงเตี๊ยมเยว่หมิงมีชีวิตชีวาขึ้นมา ท่านอ๋อง ท่านเสนาบดีฝั่งขวา ข้าน้อยขอบพระคุณท่านอ๋องและใต้เท้าที่ให้ความกรุณาและสนับสนุน มอบหมายให้ข้าน้อยเป็นคนกลางในการประลองครั้งนี้ มาเป็นตัวแทนอธิบายให้ทุก ๆ ท่านเข้าใจ ทุก ๆ ท่านได้โปรดวางใจ แน่นอนว่าข้าจะอธิบายอย่างยุติธรรมและเป็นกลาง”
เถ้าแก่ว่าพลางก็ชี้ไปทางอีกด้านหนึ่ง เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันดัง “ส่วนท่านใดที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการตัดสินผู้แพ้ผู้ชนะในครั้งนี้ พวกเราได้เชิญอดีตหัวหน้าหมอหลวงมารับหน้าที่ในวันนี้แล้ว ข้าเชื่อว่าจะไม่มีข้อขัดแย้งใด ๆ ”
สิ้นเสียงของเขา ก็พบว่ามีชายชราเคราสีขาวค่อย ๆ เดินเข้ามาทางนี้ด้วยแววตาและฝีเท้าอันฮึกเหิม
เขาเดินรุดหน้าเข้าไปหาเย่ซิวตู๋และหลี่จื่อฟานก่อน และโค้งคำนับด้วยความเคารพ ก่อนเดินขึ้นลานประลองไป
เย่ซิวตู๋พยักหน้ารับอย่างไร้อารมณ์ ทว่าเกิดความรู้สึกแปลกใจขึ้นมา ท่านหมอเริ่นออกจากตำแหน่งหัวหน้าหมอหลวงไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน แม้จะกล่าวว่ากำลังวังชาและสุขภาพของเขาเป็นเรื่องยากที่จะมารับหน้าที่ ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็มีเรื่องไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้
ที่แปลกไปกว่านั้นคือ หลังจากที่ท่านหมอเริ่นท่านนี้ออกจากสำนักแพทย์ เขาก็ไม่ได้ออกไปไหนมาไหน ถึงแม้ว่าในเมืองหลวงจะได้ยินชื่อของเขาอยู่บ้าง แต่ก็ยากที่จะรู้ว่าเขาอาศัยอยู่ที่ใดหรือพบเห็นคนของเขา
แต่วันนี้เขาเริ่มปรากฏสู่สายตาของผู้คน ดูเหมือนว่าฉายาหมอปีศาจจะยังคงดึงดูดผู้คนอยู่ จนอดีตหัวหน้าสำนักหมอหลวงที่ใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อการรักษาเองก็ถูกดึงดูดให้ปรากฏตัวเช่นกัน
ดวงตาของเย่ซิวตู๋เป็นประกายและไม่อาจหยั่งรู้ได้ เขาค่อย ๆ หยิบแก้วชาข้างมือขึ้นมาจิบให้ชุ่มคอ หลังจากนั้นก็มองไปที่ลานประลอง
ท่านหมอเริ่นกล่าวทักทายกับเถ้าแก่ เขามองดูอวี้ชิงลั่วที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาได้ยินท่านหมอเจียงลูกศิษย์ของตนบอกว่าแม่นางผู้นั้นสามารถรักษาผู้ป่วยโรคติดต่อได้ทั้งรายใหญ่และรายเล็กในช่วงเวลาสั้น ๆ สมควรที่จะยืนอยู่ในตำแหน่งทางด้านหน้า
มองดูอารมณ์และแววตาแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ง่าย
ครั้นมองดูไม่กี่ครั้ง หมอเริ่นก็เบนสายตากลับมา
หมอเสิ่นไม่พอใจเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วและจ้องมองท่านหมอเริ่นเขม็ง และอดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจออกมา คนผู้นี้หมายความว่าอย่างไรกันถึงไม่ได้แม้แต่จะมองเขา เดี๋ยวก่อนเถิด รอให้เขาชนะการแข่งขันนี้ หลังจากที่กลับพระราชวังเพื่อเป็นผู้นำของสำนักแพทย์หลวง เขาก็จะหาข้ออ้างรื้อถอนสำนักการแพทย์ซิงเซิ่งที่ก่อตั้งโดยลูกศิษย์ของเขาอย่างแน่นอน จะคอยดูว่าเขายังมีต้นทุนอะไรที่จะมาหยิ่งผยองในที่แห่งนี้
“ทุก ๆ ท่าน” เสียงของท่านหมอเริ่นหนักแน่นขึ้น ทำให้ดูภูมิฐานเหมาะสมกับวัยของเขา “หมอ เดิมมีไว้เพื่อรักษาความเจ็บป่วยและช่วยชีวิต และพวกเขาคือผู้ที่ต่อสู้กับชีวิตและความตาย การจะเป็นหมอหนึ่งคน สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาผู้ป่วยและช่วยชีวิตผู้ป่วยให้เร็วที่สุด ดังนั้นหูตาต้องรวดเร็วและยาที่เหมาะสมคือสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก วันนี้ พวกเราจะแบ่งเป็นสามขั้นตอนในการประลองการรักษาของท่านหมอเสิ่นและแม่นางชิง”
ผู้คนที่อยู่ด้านล่างลานประลองต่างเห็นพ้องต้องกัน ทุกคนต่างจับจ้องสายตาดูคนไม่กี่คนบนลานประลอง พวกเขารอมานานพอสมควรแล้ว จนตอนนี้ต่างก็อดทนรอไม่ไหว “ท่านหมอเริ่น รีบบอกกติกามาเสียที อย่าได้รอช้า ”
ท่านหมอเริ่นพยักหน้าและค่อย ๆ โบกมือ หลังจากนั้นตามมาด้วยเด็กชายจากสำนักแพทย์ซิงเซิ่งเดินถือไหสองใบออกมาทีละคน เขาก้าวขึ้นบันไดและวางไหไว้บนโต๊ะต่อหน้าท่านหมอเสิ่นและอวี้ชิงลั่ว
…………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หนานหนานเอ๊ย นั่นแม่นะจำไม่ได้เหรอ เกิดหลงทางขึ้นมาจะหาแม่เจอไหมเนี่ยฮึ
จะมีการประลองอะไรกันบ้างน้า
ไหหม่า(海馬)