บทที่ 279 หัวใจของข้า

ภูเขาและป่าไม้ราวกับถูกน้ำหมึกย้อมเอาไว้ ต้นไม้สูงตระหง่านเชื่อมต่อท้องฟ้าและผืนดิน ดวงดาวและดวงจันทร์บนท้องฟ้าสะท้อนอยู่ในน้ำ คลื่นในน้ำทำให้ทิวทัศน์ที่สวยงามแยกออกจากกัน และพวกมันก็กลับมารวมกันอีกครั้ง

เผยยวนถือไฟฉายที่จี้จือฮวนมอบให้ มือข้างหนึ่งจูงนางเดินไปข้างหน้า

ตอนนี้ภูเขาด้านหลังมีคนเดินเข้า ๆ ออก ๆ จนกลายเป็นถนนเส้นหนึ่งไปแล้ว อากาศเริ่มเย็นลง แต่ไม่ต้องกลัวงูและแมลงที่ไม่มีตาจะคลานมาที่ขา

ฝ่ามือของเผยยวนทั้งใหญ่และแข็งแรง ยามที่พานางเดินขึ้นไปข้างบน จี้จือฮวนก็รู้สึกปลอดภัยอย่างน่าประหลาด

ไกลออกไป แสงไฟของหมู่บ้านตระกูลเฉินเหลือเพียงแค่จุดเล็ก ๆ จี้จือฮวนหันกลับไปมอง ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว นั่นคือบ้านของพวกเขา

บางครั้งก็มีนกตกใจกระพือปีกขึ้นมา พร้อมกับเสียงลมในป่า

เผยยวนนำเสื้อคลุมที่เตรียมมาคลุมบนศีรษะให้นาง “กลางคืนอากาศเย็น แต่ใกล้จะถึงแล้ว”

จี้จือฮวนเริ่มสังเกตถึงอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะความชื้นในอากาศ แฝงไปด้วยลมอุ่น ๆ นางเหงื่อออกเล็กน้อย ชุดด้านในที่เป็นผ้าบาง ๆ แนบไปกับร่างกายทำให้ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไรนัก

“ถึงแล้ว” เผยยวนเอ่ยขึ้น จากนั้นก็ปิดไฟฉายและแหวกพุ่มไม้ด้านหน้า เมื่อครู่มีแสงจันทร์และแสงจากไฟฉายอยู่ จี้จือฮวนจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าด้านในมีอีกดินแดนหนึ่งซ่อนอยู่

มีตะกร้าไม้ไผ่ส่องแสงแขวนอยู่บนกิ่งไม้ด้านใน ภายในมีแร่ที่เปล่งประกายเล็กน้อย หิ่งห้อยจำนวนมากบินวนอยู่ทั่วบริเวณ บวกกับแสงจันทร์ทำให้คนสามารถมองเห็นถนนได้แม้ในเวลากลางคืน

ตั้งแต่เผยยวนค้นพบสถานที่แห่งนี้เขาก็สั่งให้คนตัดไม้ไผ่เพื่อทำรั้วแล้วล้อมด้วยผ้าสักหลาดอีกชั้น และสร้างกระท่อมไม้หลังเล็ก ๆ เอาไว้ข้าง ๆ เมื่อลงไปตามกระดานไม้เรียบลื่นนั่น ก็จะสามารถเข้าไปอาบน้ำด้านในได้

“เจ้าทำไว้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?” นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้แล้วเสร็จได้ภายในวันเดียว

เผยยวนไม่ได้พูดอะไร เพราะเขาอยากทำให้นางประทับใจ

รอหิมะตกที่นี่ก็จะสวยงามมากยิ่งขึ้น จากในกระท่อมไม้หลังเล็กสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหมู่บ้านตระกูลเฉินและด้านล่างภูเขาได้ทั้งหมด หิมะสีขาวโพลน ผิงไฟ ชมทิวทัศน์ จิบชาอยู่ด้านใน ก็ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง

“ในกระท่อมข้าเตรียมเสื้อผ้าทั้งหมดเอาไว้แล้ว” เผยยวนเปิดประตูไม้ของกระท่อม หยิบตะกร้าไม้ไผ่ออกมาจากด้านใน จี้จือฮวนเห็นว่ามีเหล้าดอกท้อหนึ่งกา และมีไข่ไก่อีกสองสามฟอง

ก่อนหน้านี้นางเคยบอกเผยยวนว่า เมื่อก่อนเวลาเดินทางนางจะกินไข่ต้มในน้ำพุร้อน ดูเหมือนว่าเขาจะจดจำมันเอาไว้ในใจ

เขาเอาน้ำพุร้อนใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่ จากนั้นก็ปล่อยให้ไข่แช่อยู่ในนั้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “เจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ มีอะไรก็เรียกข้า”

ท่ามกลางหมอกควันสลัว ๆ เผยยวนปลดสายคาดเอวออก แขวนเสื้อผ้าของตัวเองไว้บนกิ่งไม้ที่โน้มลงมาอย่างส่ง ๆ เผยให้เห็นรูปร่างที่ดึงดูดใจคน

เสื้อผ้าที่เตรียมเอาไว้ในกระท่อม พูดตรง ๆ ก็คือผ้าห่อตัวหนา ๆ ชั้นหนึ่ง จี้จือฮวนคิดว่าแม้ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเขาจะชัดเจนแล้ว แต่การอาบน้ำด้วยกันมันก็ดู…

แต่ไม่นานนางก็สงบสติอารมณ์ลงได้ ด้วยรูปร่างของเผยยวน อีกทั้งอากาศวันนี้ก็ยังเป็นใจ กินเนื้อสักคำไม่ติดคอเสียหน่อย

แม้แต่เหล้าเขาก็เตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว จี้จือฮวนคิดได้ดังนั้นก็เปิดประตูออกมา

ไม่ได้สวมผ้าเกาะอกเช่นนี้นานแล้ว จี้จือฮวนจึงรู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไรนัก หลังจากเข้าไปในรั้วไม้ไผ่และเห็นเผยยวน ทั้งสองคนต่างคนก็ต่างตกตะลึง

ท่ามกลางหมอกควันที่ลอยอบอวล ใบหน้าหล่อเหลาของเผยยวนกลายเป็นพร่ามัว กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกายราวกับแกะสลักเอาไว้ก็มิปาน ร่องหน้าท้องที่ชัดเจนแต่ไม่ได้ดูน่ากลัวจนเกินไป หยดน้ำไหลลงมาตามไหล่ของเขาก่อนจะหยดลงไปในน้ำ

เผยยวนกลืนน้ำลายลงคอ เดิมทีเขาต้องการจะบอกว่ายังมีน้ำพุร้อนอีกบ่ออยู่ทางด้านหลัง เดิมคิดว่าจะแยกกันแช่ แต่ตอนนี้เขาอ้าปากไม่ขึ้นแล้วจริง ๆ

หากพูดออกไป มิเท่ากับเป็นการทำลายทัศนียภาพหรอกหรือ?

ผมยาวสลวยของจี้จือฮวนถูกม้วนไว้บนศีรษะ มีไรผมย้อยลงมาที่ข้างแก้มประปราย เนื่องจากออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้เรือนร่างของนางยิ่งมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัดขึ้น โดยเฉพาะส่วนที่ถูกไอความร้อนจนทำให้ผ้าเปียกชื้น ใบหน้าที่ปกติมักจะเย็นชาก็แดงระเรื่อขึ้นมา ราวกับสาวน้อยอย่างที่หาดูได้ยาก แฝงไว้ด้วยเสน่ห์ที่เป็นธรรมชาติ

ขาที่เรียวยาวเผยออกมาตามการเคลื่อนไหวของนาง และค่อย ๆ จมลงไปในน้ำ

บ่อน้ำพุร้อนไม่ใหญ่มากนัก เพราะเดิมทีเผยยวนตั้งใจจะยกบ่อใหญ่ให้นาง ตอนนี้ทั้งสองคนจึงเบียดกันอยู่ในบ่อเล็ก ๆ โดยไม่มีใครพูดอะไร

บรรยากาศชวนอึดอัด จี้จือฮวนกำลังจะถามว่าไข่ต้มได้ที่หรือยัง แต่น้ำกลับกระเพื่อมอย่างรุนแรง น้ำหยดหนึ่งไหลลงมาจากผมของเขาและตกลงบนไหล่ของนาง ทำให้ใจนางสั่นเล็กน้อย

มือที่เปียกชื้นของเผยยวนเชยคางเล็ก ๆ ของนางขึ้น ก่อนจะประกบจูบอย่างอ่อนโยน

แต่ไม่นานจี้จือฮวนก็รู้ว่านี่เป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด บุรุษที่ค่อย ๆ วางแผนทีละขั้น หากเหยื่อติดกับแล้วก็จะกัดอย่างแรงราวกับเสือที่เฝ้ารอเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น และไม่มีทางปล่อยให้หลุดไปได้

ไหล่ของเขาผึ่งผาย เมื่อดันตัวนางเข้ามาในอ้อมแขน จี้จือฮวนจึงรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งถึงความหนุ่มแน่นและแข็งแรงของเขา ท่าทางที่สง่างามและเกิดมามีหน้าตาหล่อเหลา เมื่อหรี่ตาลงเล็กน้อยจึงเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างยากที่จะต้านทานได้ เวลานี้ลมหายใจของเขาผสมกับลมหายใจของนางจนปั่นป่วนไปหมด

ขาของเขาสั่นเทาเล็กน้อยก่อนที่ทั้งสองจะแยกออกจากกัน ยังคงมีหยดน้ำติดอยู่ที่ริมฝีปาก เขาหัวเราะเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ มุมปากของเขายกขึ้น แม้แต่หางตาของเขาก็ยังเต็มไปด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

“แม้ว่าข้าจะยังจูบไม่หนำใจ แต่เจ้าไม่ยอมหายใจเลย ข้าจึงกลัวว่าเจ้าจะขาดใจตายไปเสียก่อน” เผยยวนพูดด้วยเสียงแหบพร่า แต่น้ำเสียงนั่นช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก เขาจงใจพูดออกมาอย่างชัดเจน เพื่อให้นางได้ยินชัด ๆ

ขณะที่จี้จือฮวนคิดว่าเขาจะทำขั้นต่อไปนั้น

แต่เขาเพียงแค่กอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน เพื่อให้นางฟังเสียงหัวใจที่เต้นสม่ำเสมอของเขาอยู่อย่างนั้น

นางฝังใบหน้ากับหน้าอกของเขาอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเสียงของเขาก็ดังขึ้นมา “ได้ยินหรือยัง?”

นางเอ่ยถามเสียงเบา “ได้ยินอะไร?”

“หัวใจของข้า”

น้ำเสียงที่จริงใจเช่นนี้ของเขาราวกับกำลังตอกย้ำความจริงที่อยู่ในใจ ไม่ใช่พูดเพราะสถานการณ์ในตอนนี้พาไป

ทันใดนั้นแขนเรียวทั้งสองข้างของจี้จือฮวนก็โอบหลังคอของเขา ดึงให้เขาโน้มตัวลงมา จากนั้นก็จูบลงที่กระดูกไหปลาร้าของเขาเบา ๆ

ลมหายใจของเผยยวนกระชั้นขึ้นในพริบตา เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ทุกอย่างตกอยู่ในการควบคุมของจี้จือฮวนอย่างสมบูรณ์แล้ว

มือของเขาเริ่มกดลงที่เอวของนางอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้นางต้องเชิดหน้าอกขึ้น ปลายนิ้วเรียวของเขาไล่ไปตามกระดูกไขสันหลังของนาง โดยแฝงอาการสั่นเทาไว้เล็กน้อย

ราวกับกำลังดีดพิณ

น้ำเสียงของเผยยวนเคล้าไปด้วยความกระตือรือร้น ทว่าเพียงพริบตาต่อมาก็อ่อนโยนลง “ได้หรือไม่?”

จี้จือฮวนหลุบตาลงเล็กน้อย ทั้ง ๆ ที่ก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน แต่มือกลับวางอยู่ที่เอวและหน้าท้องของเขา รู้สึกว่าสัมผัสเช่นนี้ช่างดีจริง ๆ ดังนั้นนางจึงไม่ได้ตอบอะไร

เผยยวนราวกับรู้คำตอบของจี้จือฮวน ใบหน้าจึงเผยความละอายออกมาเล็กน้อย “ข้าไม่เอาไหนเอง แต่อารมณ์ปรารถนายากจะห้ามได้จริง ๆ”

จี้จือฮวนเลิกคิ้วขึ้น การสนทนาที่ไม่ได้เรื่องระหว่างคนทั้งสองยิ่งดูคลุมเครือมากขึ้น

ภายใต้ผิวน้ำที่ระยิบระยับนางคล้ายกำลังยั่วยวน เผยยวนเลียริมฝีปากเล็กน้อย “เช่นนั้นเจ้าจะทักทายมันหรือไม่?”

เขาเอ่ยถามถึงสองครั้ง จี้จือฮวนจึงเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ “เจ้าถามข้าหรือ?”

เผยยวนทำท่าทางไร้เดียงสา “อืม ข้าเชื่อฟังฮูหยินทุกอย่าง”

.

.

.