ตอนที่ 276 ใจดำอำมหิต
ตอนที่ 276 ใจดำอำมหิต
ดวงตาของถังเล่อแดงขึ้นทันที อีกด้านหนึ่งเขาก็รู้สึกละอายใจและอีกด้านหนึ่งรู้สึกซาบซึ้งใจ
ส่วนคนอื่น ๆ ก็รีบคว้าเสบียงเหล่านั้นไว้ ภายในสามวินาที ของทั้งหมดก็ถูกแบ่งออกไปจนหมด
เว่ยเสียงปฏิเสธที่จะเข้าไปแย่งเสบียงเหล่านั้นด้วย แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่สิ่งที่พวกเขาได้รับ
สวีฉีให้เสบียงพวกเขามามากมาย!
และเมื่อพิจารณาจากใบหน้าที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา ดูเหมือนว่าเสบียงในกระเป๋านี้จะไม่ใช่สิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าหามายากเย็น
หญิงแซ่ซูมีน้ำใจมากพอที่จะแจกจ่ายเสบียงงั้นเหรอ?
ถังเล่อไม่สนใจสายตาของเขาเลย จากนั้นคลายเกลียวขวดน้ำ และกระดกน้ำไปกว่าครึ่ง จากนั้นเขาก็แบ่งปันให้พี่น้องคนอื่น ๆ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ พี่น้องที่เหลือก็นำสิ่งที่พวกเขาเพิ่งจัดสรรไปแบ่งปันกัน แต่เว่ยเสียงเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้รับ
ใบหน้าของเว่ยเสียงเปลี่ยนสี ใบหน้าพลันซีดเซียวลงอย่างเห็นได้ชัด
สหายผู้มีความอาวุโสน้อยคนหนึ่งทนไม่ไหวเลยพูดออกมาว่า
“พี่เว่ย ตอนที่พี่พาพวกเราออกมา พี่พูดถึงพี่ใหญ่สวีไม่ดีมากมาย เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่พี่ยังสัญญากับเราว่าตราบใดที่ติดตามพี่ออกมา เราจะได้มีที่อยู่ดี ๆ อาศัย มีกินมีใช้ไม่ขาด และมีสาว ๆ มาคอยปรนนิบัติ”
“ตอนนี้เราต้องการให้พี่ใหญ่สวีฉีช่วยเราเกี่ยวกับเสบียงช่วยชีวิตเหล่านี้ ในเมื่อพี่ดูถูกเหยียดหยามพี่ใหญ่สวีฉี งั้นสิ่งของเหล่านี้พวกเราก็จะไม่แบ่งมันให้พี่แล้วกัน เพื่อที่พี่จะไม่ต้องรู้สึกขวางหูขวางตา”
ถังเล่อและคนอื่น ๆ ยังคงนิ่งเงียบ
ตอนนี้พวกเขาเสียใจที่ตัดสินใจออกมากับเว่ยเสียง
สำหรับเสบียงชุดนี้ เถ้าแก่แซ่ซูมอบให้พวกพี่ใหญ่สวีฉี ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
พวกเขาถึงกับต้องตกตะลึง เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาได้ฟังคำยุยงของเว่ยเสียง โดยบอกว่าเถ้าแก่ซูเป็นคนโหดเหี้ยมที่จะไม่ปฏิบัติต่อคนของถานหย่งอย่างดีเป็นแน่
ยิ่งถังเล่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโกรธมากเท่านั้น เขาพูดกับพี่น้องคนอื่น ๆ ว่า
“มีใครจะออกไปกับฉันเพื่อไปติดตามพี่ใหญ่สวีฉีไหม”
ทุกคนล้วนลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงความเต็มใจ ยกเว้นเว่ยเสียง
เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสวีฉี และไม่เคยทำให้สวีฉีขุ่นเคือง
และพวกเขาก็ไม่มีปัญหากับมี๋อู้มากนัก ตอนนั้นที่พวกเขาเลิกตามหามี๋อู้ เป็นเพราะพวกเขาทำตามคำสั่ง แต่พวกเขาไม่ได้ออกไปต่อต้านหรือขับไล่มี๋อู้เหมือนที่เว่ยเสียงทำ
ส่วนเนี่ยซือป๋อ…พวกเขายอมรับว่ารังแกเขาไม่มากก็น้อย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงเกินไป
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกอายมากนักที่จะบากหน้าไปหาสวีฉี
เว่ยเสียงหัวเราะเยาะ “สวีฉีน่ะเหรอ เขาไม่ได้เป็นคนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจ”
ถังเล่อกำหมัดแน่น “งั้นพวกเราไปหาเถ้าแก่ซูกันเถอะ”
เว่ยเสียงพบว่ามันไร้สาระยิ่งกว่า
“คิดจริง ๆ เหรอว่าเถ้าแก่ซูจะยอมรับพวกนาย? ผู้หญิงน่ะผูกใจเจ็บจะตาย ตอนนั้นพวกนายเลือกที่จะไม่อยู่กับเธอเอง ตอนนี้ต้องการหันหลังกลับไปเพื่อให้คนดูถูกเหยียดหยามว่าหน้าไม่อายเหรอ”
ที่เขาพูดก็มีเหตุผล
ถังเล่อรู้สึกเสียใจจริง ๆ! เขารู้สึกว่ามาถึงทางตันในชีวิตเพราะเชื่อในคำหลอกลวงของเว่ยเสียง
การไปขอความเห็นใจจากซูเถา มีความเสี่ยงที่จะขายหน้า แต่ก็ดีกว่านั่งเฉย ๆ แล้วกัน! เพราะว่าเสบียงที่ได้มา น่าจะอยู่ได้สูงสุดเพียงสองวันเท่านั้น
สุดท้ายพวกเขาก็ต้องตายด้วยความอดอยาก และกลายเป็นวิญญาณที่ตายภายใต้ปากของซอมบี้ในตอนกลางคืน
ถังเล่อหนักแน่นและเพิกเฉยต่อคำพูดของเว่ยเสียง
“พวกเราเก็บข้าวเก็บของกันเถอะ แล้วรีบมุ่งหน้าสู่ซินตู มีคนมากมายเข้าร่วมประชุม ระหว่างทางเราต้องได้พบกองคาราวานสักขบวนมาช่วยเหลือเราแน่! และเมื่อเราได้พบพี่ใหญ่สวีฉีก็ค่อยขอให้เขาพาเราไปขอโทษเถ้าแก่ซู ดีไม่ดีถึงเวลานั้นพวกเราอาจจะได้ถุงเสบียงคนละถุงเหมือนที่พี่ใหญ่สวีฉีได้รับก็ได้!”
ทุกคนรู้สึกกระตือรือร้นมากจนไม่สามารถแม้แต่จะสนใจครอบครัวเติ้งสามคนที่นอนอยู่บนพื้นได้ พวกเขาเก็บข้าวของและเตรียมตัวออกไป
เว่ยเสียงมองดูอย่างเย็นชา ใบหน้าของเขาแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน
ฟางเหยียนรู้สึกว่าชีวิตของสามีเธอกำลังเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ ในที่สุดเธอก็วางร่างของเขาลงด้วยความกลัว และไปรั้งถังเล่อไว้ พร้อมขอร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เสี่ยวถัง พาพวกเราไปด้วยนะ เหล่าเติ้ง เขา เขา…”
ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ ร่างกายของเติ้งเฉิงเย่ค่อย ๆ แข็งทื่อ และอุณหภูมิร่างกายของเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
เติ้งจื่อเสวียนดูเหมือนจะรู้สึกบางอย่างในใจของเธอ ร่างกายสั่นสะท้านพูดไม่ออก
หัวใจของถังเล่อเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาหันไปมองบอสเติ้งและถอนหายใจอีกครั้ง ให้ตายเถอะ!
เขาสะบัดมือออกและลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับกับครอบครัวนี้อีก
เขาพอจะรู้จักนิสัยใจคอของผู้หญิงอย่างฟางเหยียนอยู่บ้าง จิตใจของผู้หญิงคนนี้เล็กกว่าปลายเข็ม ใจร้ายและหยิ่งยโส
หากเธอกล่าวโทษใครบางคนที่ทำให้บอสเติ้งเสียชีวิต เธอจะไม่ยอมแพ้และปล่อยคน ๆ นั้นไปอย่างแน่นอน
นอกจากนี้เธอยังมีลูกสาวที่กำลังจะแต่งงานกับหัวหน้าจั๋วในซินตู คนตัวเล็กอย่างถังเล่อไม่ต้องการเป็นศัตรูกับหัวหน้าซินตู
ถังเล่อวิ่งหนีไป
คนอื่นไม่ได้โง่ เมื่อพวกเขาเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาก็วิ่งหนีไปพร้อมกับสิ่งที่พวกเขามี
เว่ยเสียงซึ่งยืนแข็งอยู่ตรงนั้น พร้อมกับแม่ลูกครอบครัวเติ้งที่ยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ และร่างของเติ้งเฉิงเย่ถูกทิ้งไว้ในจุดนั้น
เติ้งจื่อเสวียนไปตรวจลมหายใจของพ่อเธออย่างกล้าหาญ…
ใบหน้าของเธอซีดลง ขาแข้งอ่อนแรง และก็ทรุดตัวลงบนพื้น เธอหวาดกลัวเกินกว่าจะร้องไห้ออกมาได้
ฟางเหยียนตะเกียกตะกายเพื่อดูมัน เธอตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่งและน้ำตาไหลออกมา
เว่ยเสียงหนึ่งในผู้อาวุโสที่สุดในสิบคนกำลังจะจากไปเช่นกัน แต่เติ้งจื่อเสวียนก็คว้าตัวเขาไว้
“นายจะไปไหนไม่ได้! พ่อของฉันจ้างนายมาให้คุ้มกันพวกเรา นายต้องส่งพวกเราไปที่ซินตูอย่างปลอดภัยเดี๋ยวนี้!”
เว่ยเสียงกลอกตา “ไหนคุณว่ามีพี่สาวที่กำลังจะได้แต่งงานกับจั๋วเอ่อร์เฉิงไม่ใช่หรอ”
มันคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับประธานการจัดการประชุมสุดยอดพันธมิตรอย่างจั๋วเอ่อร์เฉิงหรอกใช่ไหม
ตัวเขาเองเป็นผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติที่ทรงพลังในซินตู ซึ่งเขาเป็นผู้ดูแลประชากรนับหมื่นชีวิต นับได้ว่าเขาก็ไม่ธรรมดา
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือปู่ของจั๋วเอ่อร์เฉิงดำรงตำแหน่งสำคัญในฉางจิง และเป็นหัวหน้าเขต
นั่นคือฉางจิงที่ทรงพลังที่สุด มีประชากรมากที่สุด และมีพรสวรรค์อยู่มากมาย ซึ่งผู้ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเขตล้วนมีอำนาจมากกว่าฐานทัพยอดเยี่ยมระดับสามที่อยู่ภายนอกเสียอีก
ถ้ามีโอกาสไปฉางจิง…
เว่ยเสียงจ้องมองที่เติ้งจื่อเสวียนอย่างใกล้ชิด
เติ้งจื่อเสวียนกัดริมฝีปากของเธอแล้วพยักหน้า
“ใช่ พี่สาวของฉันชื่อเติ้งจื่อฉิง หัวหน้าจั๋วมาที่ลั่วหนานของเราเมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาชอบพี่สาวของฉันและพาเธอไปอยู่ที่ซินตูเพื่อกินอยู่อย่างสุขสบาย ก่อนที่เราจะมาที่ซินตูครั้งนี้ พี่สาวของฉันโทรหาเรา แย้มว่าปีนี้กำลังจะหมั้นหมาย”
เติ้งจื่อเสวียนกำลังพูดความจริงและความเท็จ
พี่สาวของเธอเพิ่งโทรมาบอกว่าเธอต้องการลงหลักปักฐานในปีนี้ แต่เธอยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับประธานจั๋ว
เนื่องจากตอนนี้มีหญิงสาวรายล้อมรอบตัวหัวหน้าจั๋วมากเกินไป และพี่สาวของเธอก็ทนไม่ได้ เธอเลยให้ครอบครัวมาที่ซินตูเพื่อจุดประสงค์ในการ ‘บังคับแต่งงาน’
เว่ยเสียงไม่รู้เรื่องเหล่านี้ และเขาตั้งหน้าตั้งตารอมัน
ตอนนี้เขาเป็นคนที่คิดเรื่องราวต่าง ๆ อย่างรอบคอบและเขากระตือรือร้นที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน เขาจะให้ถังเล่อและคนอื่น ๆ เห็นว่าเขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมตั้งแต่แรกหรือไม่!
ให้ซูเถาผู้หญิงไม่ดีคนนั้นดู ว่าเธอพลาดเองที่ไม่ต้อนรับเขา!
เว่ยเสียงตัดสินใจพาสองแม่ลูกครอบครัวเติ้งไปด้วย
สำหรับร่างของเติ้งเฉิงเย่ เขาต้องรีบหาที่ฝังโดยเร็วที่สุด
ฟางเหยียนร้องไห้ราวกับจะขาดใจตาย เหมือนกับว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมา
ในวันสิ้นโลกแบบนี้ สามีคือที่พึ่งพิงของเธอ เป็นกระดูกซี่โครงที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเธอ
เมื่อชายของเธอสิ้นชีวิตแล้ว ในวาระสุดท้ายนี้ เธอจะพึ่งพาใครได้
เติ่งจื่อเสวียนลูบเข้าที่ดวงตาที่แดงก่ำ และปาดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุดของเธอ
“แม่! เรายังมีพี่สาวและ…พี่เขย ถ้าพวกเขาแต่งงานกัน พี่เขยจะไม่ทิ้งเราไว้ลำพังแน่นอน”
เมื่อฟางเหยียนได้ยินสิ่งนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะคว้าฟางช่วยชีวิตได้และพึมพำ
“ใช่ ยังมีพี่สาวของลูกอยู่ และพี่เขยของลูกก็เป็นคนมีความสามารถ ใช่ พ่อของลูกจะตายไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้ ต้องให้พี่เขยของลูกช่วยตามล่าหากลุ่มโจรนั่น แล้วก็พวกคนใจดำอำมหิตที่เห็นคนใกล้ตายแล้วไม่ช่วย พวกเขาทั้งหมดต้องชดใช้ให้กับชีวิตพ่อของลูก!”