วินาที​ที่​ถูก​ชุย​อี้​และ​อีก​สอง​คน​เข้ามา​รุมล้อม​ ​ปฏิกิริยา​แรก​ของ​เจียง​จั้น​ก็​คือ​หันหลัง​กลับ​ ​ปล่อย​ให้​คน​เหล่านั้น​ซัด​มาที​่​ตน​ ​ก่อน​จะ​หันไป​ตะโกน​บอก​กับ​คนขับรถ​ว่า​ ​“​จง​รีบ​ไป​!​”

วินาที​นี้​เขา​จึง​ได้รับ​รู้​ถึง​ความหวาดกลัว​อย่างแท้จริง

เขา​แทบ​ไม่มี​เรี่ยวแรง​เหลือ​แล้ว​ ​หากว่า​ไอ้​สารเลว​พวก​นี้​รู้​ว่าน​้​อง​สาวอ​ยู่​ใน​รถ​ล่ะ​ก็​ ​เขา​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ตามมา​ ​เมื่อ​คิดได้​ดังนั้น​ ​เหงื่อ​อัน​เย็นเยือก​ของ​เจียง​จั้น​ก็​ไหล​ลงมา​ ​เขา​ไม่ได้​รู้สึก​ถึง​ความเจ็บปวด​ที่​ต่อย​มายัง​หลัง​ของ​เขา​เลย​ ​ได้​แต่​หันไป​ตะโกน​บอก​กับ​คนขับรถ​ว่า​ ​“​รีบ​ไป​เร็ว​!​”

คนขับรถ​อายุ​มาก​แล้ว​ ​เขา​ตอบสนอง​ค่อนข้าง​ช้า​ ​หลังจาก​เจียง​จั้น​กำชับ​อยู่​สองครั​้ง​ในที่สุด​ก็​ยก​แส้​ขึ้น​ตี​เพื่อ​กระตุ้น​ม้า​แก่​ให้​เดินหน้า​ไป​ ​ทันใดนั้น​เอง​ ​ผ้าม่าน​สีเขียว​ดุจดั่ง​ไม้​ไผ่​ก็​ถูก​เปิด​ขึ้น​ ​เผย​ให้​เห็น​ใบหน้า​สดใส​ของ​หญิงสาว​ที่นั่ง​อยู่​ด้านใน​ ​“​พี่​รอง​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​”

น้ำเสียง​ของ​หญิงสาว​อัน​นุ่มนวล​ดัง​ขึ้น​ ​ทำให้​ชุย​อี้​และ​อีก​สอง​คน​ชะงัก​ลง​ ​ก่อน​จะ​ทำ​สีหน้า​สนใจ​ขึ้น​มา​ ​“​โอ้​ ​ใน​รถ​มี​คน​ด้วย​หรือ​”

เจียง​จั้น​หันหลัง​กลับมา​แล้ว​กล่าว​อย่าง​ดุดัน​ว่า​ ​“​ชุย​อี้​ ​เจ้า​อย่า​ได้​เข้าใกล้​น้องสาว​ข้า​ ​มิเช่นนั้น​ข้า​จะ​เอา​เจ้า​ตาย​แน่​”

แท้จริง​แล้ว​ชุย​อี้​ไม่ได้​นับว่า​เป็น​พวก​บ้ากาม​หรือ​มัก​ใน​โลกีย์​แต่อย่างใด​ ​ต่อให้​พบ​กับ​เจียง​ซื่อ​ซึ่ง​รูปร่าง​งดงาม​ดุจดั่ง​นาง​สวรรค์​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​ไม่​ถึงขนาด​ก้าว​ขา​ไม่​ออก​ ​แต่ทว่า​บัดนี้​สีหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความ​เจ้าเล่ห์​ ​เนื่องจาก​เขา​ได้​เที่ยว​รังแก​ผู้อื่น​เสีย​จน​เชี่ยวชาญ​ว่า​ตน​ทำท่า​ทาง​เช่นไร​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​จะ​หวาดกลัว​ ​ในเมื่อ​เจียง​จั้น​เป็นห่วง​เป็น​ใย​น้องสาว​คน​นี้​นัก​ ​ถ้าเช่นนั้น​เขา​จึง​ตั้งใจ​กับ​ลงมือ​จาก​น้องสาว​สุดรัก​สุด​หวง​เพื่อให้​บทเรียน​ที่​ไม่มีวัน​ลืม

“​จับ​มัน​เอาไว้​!​”​ ​ชุย​อี้​กล่าว​ประโยค​นั้น​ขึ้น​ ​จากนั้น​ชายหนุ่ม​อีก​สอง​คน​ก็​เข้ามา​จับ​เจียง​จั้น​เอาไว้​อย่างว่า​ง่าย

หาก​เป็นเวลา​ปกติ​ทั่วไป​ ​เจียง​จั้น​สามารถ​จัดการ​กับ​ชายหนุ่ม​สอง​คน​นี้​ได้​อย่างง่ายดาย​ ​แต่​เมื่อคืนนี้​หลังจาก​เขา​ดื่ม​สุรา​จน​เมามาย​และ​ตกลง​ไป​ใน​น้ำ​ ​ประกอบกับ​เมื่อ​ตอนกลางวัน​ก็​ถูก​โจมตี​ทาง​ความคิด​เสีย​จน​สมอง​เหนื่อยล้า​ ​ทำให้​เขา​ใน​ตอนนี้​ดู​หมด​เรี่ยวแรง​ ​จะ​เอาแรง​ที่ไหน​ไป​จัดการ​พวก​นี้​เล่า

เมื่อ​เห็น​ว่า​พรรคพวก​อีก​สอง​คน​เข้าไป​จับกุม​ตัว​เจียง​จั้น​แล้ว​ ​ชุย​อี้​ก็ได้​เผยอ​ยิ้ม​ขึ้น​ก่อน​จะ​ยื่นมือ​ออก​ไป​คว้า​บังเหียน

เขา​บังคับ​ม้า​แก่​สีน้ำตาลแดง​ตัว​นั้น​ซึ่ง​ดู​นิสัย​อ่อนโยน​ว่าง่าย​ ​เหมาะสำหรับ​ใช้​ลาก​รถม้า​เป็น​ที่สุด​ ​แต่​บัดนี้​ข้อดี​กลับกลาย​เป็น​ข้อเสีย​อัน​ร้ายแรง

คนขับรถ​ม้า​ไม่เคย​พบ​กับ​การต่อสู้​เช่นนี้​มาก​่อน​ ​เขา​พยายาม​ที่จะ​บังคับ​รถม้า​ไป​ข้างหน้า​แต่​ไม่​เป็นผล​ ​จึง​ทำได้​เพียง​วิ่ง​วน​ไปมา

สีหน้า​ของ​เจียง​ซื่อ​มอง​ไป​ทาง​ชุย​อี้​อย่างสงบ​ ​ดวงตา​ของ​นาง​เป็นประกาย​เยือกเย็น

รนหาที่​ตาย​ชัดๆ

หลังจาก​จัดการ​หยาง​เซิ​่ง​ไฉ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​อีก​สาม​คนที​่​เหลือ​แม้​โทษ​จะ​ไม่​ถึงตาย​ ​แต่​ก็​ควรจะ​ให้​บทเรียน​สักหน่อย​ ​เดิมที​เจียง​ซื่อ​ตั้งใจ​ว่า​จะ​รอ​ให้​เรื่อง​ของ​หยาง​เซิ​่ง​ไฉ​เงียบ​ลง​ไป​สักพัก​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ ​เพื่อ​ป้องกัน​ไม่​ให้​สาม​คน​นี้​ทำ​เรื่องราว​ใด​ให้​เจิน​ซื่อ​เฉิง​สงสัย​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​ทั้ง​สาม​คน​จะ​มาหา​เรื่อง​นาง​ด้วย​ตนเอง​ก่อน

แน่นอน​ว่า​ ​เจียง​ซื่อ​จะ​ไม่​ปล่อย​ให้โอกาส​ที่​ลอยมา​ต่อหน้า​เช่นนี้​ต้อง​หลุดลอย​ไป​ ​การ​ที่นาง​เปิดม่าน​หน้าต่าง​ออก​ไป​เมื่อ​สักครู่​นั้น​เป็น​เพราะ​ตั้งใจ

ชุย​อี้​กระโดด​ขึ้นไป​บน​รถม้า​ ​วินาที​นั้น​มือ​อัน​เรียว​งาม​ของ​เจียง​ซื่อ​ที่อยู่​ใน​เสื้อ​ก็​ยื่น​ออกมา​ ​นาง​สะบัด​เล็บ​เบา​ๆ​ ​ผง​บางอย่าง​ลอย​ออกมา​และ​เข้าไป​ใน​จมูก​ของ​ม้า​แก่​สีน้ำตาลแดง​ตัว​นั้น​ ​และ​มีบาง​ส่วน​ที่​ลอย​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​ชุย​อี้

เจ้า​ม้า​แก่​สีน้ำตาลแดง​ตัว​นั้น​มีนิ​สัย​ที่​อ่อนโยน​ก็​จริง​ ​ก่อนหน้านี้​ต่อให้​มัน​ถูก​คนแปลกหน้า​บังคับ​ก็​ทำได้​เพียง​สะบัด​หาง​ไปมา​อย่างว่า​ง่าย​ ​แต่​เมื่อ​ผง​ปริศนา​นั้น​พุ่ง​เข้าไป​ใน​จมูก​ ​ชั่ว​วินาที​ม้า​แก่​อัน​อ่อนโยน​ก็​กลับกลาย​เป็น​ม้า​ที่​คึกคัก​ดุดัน​ ​มัน​เหยียด​ขา​หน้า​ทั้งสอง​ข้างขึ้น​แล้ว​เตะ​ชุย​อี้​กระเด็น​ลอย​ออก​ไป

เหตุการณ์​เหล่านี้​ดำเนิน​ไป​อย่าง​กระชั้นชิด​ ​ชุย​อี้​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ทำใจ​ก็ได้​กระโดด​ลอยตัว​ออก​ไป​ล้ม​ลง​สู่​พื้น​เหมือน​ท่า​สุนัข​เลีย​ของเสีย​ ​ก่อน​จะ​กระเด็น​กระดอน​ออก​ไป​ไม่เป็นท่า

แต่​เรื่องราว​ยัง​ไม่​จบ​เพียงเท่านี้​ ​ดูเหมือนว่า​ม้า​แก่ตัว​นั้น​จะ​ตั้งเป้าหมาย​มาที​่​ชุย​อี้​ไม่​ลดละ​ ​มัน​เอน​ตัว​ไป​ข้างหน้า​และ​กัด​ไป​ที่​ก้น​ของ​เขา​อย่างแรง

ชุย​อี้​ส่งเสียง​ร้อง​ออกมา​โหยหวน​ ​ลืม​แม้กระทั่ง​ร้องขอ​ความช่วยเหลือ

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​หาก​เปรียบเทียบ​กัน​การ​ที่​ถูก​ม้า​กัด​เมื่อ​ครู่​เจ็บ​กว่า​ถูก​กระแทก​ลงพื้น​เสียอีก

วินาที​นี้​ ​ใน​สมอง​ของ​ชุย​อี้​รู้สึก​ว่า​ไร้สาระ​อย่าง​อธิบาย​ไม่​ถูก​ ​หลังจากที่​เขา​ได้สติ​กลับคืน​มาก​็​ได้​หันไป​ต่อว่า​ ​“​พวก​เจ้า​ยัง​ไม่​มาช​่วย​ข้า​อีก​หรือ​!​”

ชายหนุ่ม​ทั้งสอง​คน​ยืน​ตกตะลึง​ด้วย​ความ​งุนงง​ ​น้ำเสียง​ที่​ชุย​อี้​ตะโกน​ออกมา​เมื่อ​ครู่​ทำไม​พวกเขา​ตื่นขึ้น​จาก​ภวังค์​ ​ก่อน​จะ​ปล่อย​เจียง​จั้น​แล้ว​ตรง​เข้าไป

ม้า​แก่​สีน้ำตาลแดง​ตัว​นั้น​อ้า​ปาก​ออก​แล้ว​หัน​ศีรษะ​มอง​ไป​ยัง​ชายหนุ่ม​ทั้งสอง​คน​ ​ชายหนุ่ม​ทั้งสอง​คนที​่​พุ่งตัว​เข้าไป​จึง​ได้​ถอยหลัง​ออกมา​พร้อมกัน​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​ ​บ่าว​รับใช้​ของ​ทั้ง​สาม​คน​จึง​ได้​รีบ​วิ่ง​เข้าไป​ช่วยเหลือ​หลังจาก​ได้สติ

ก่อนหน้านี้​ล้วน​เป็น​เจ้านาย​ของ​พวกเขา​ที่​ทำตัว​เก่งกาจ​กล้าหาญ​รังแก​ผู้อื่น​ไป​ทั่ว​ ​ดังนั้น​พวกเขา​จึง​มักจะ​ยืน​มองดู​อยู่​ข้างๆ​ ​อย่างสนุกสนาน​เป็นนิสัย​ ​คาดไม่ถึง​เลย​ว่า​จะ​มี​วันนี้​ขึ้น​มา​ได้

ใน​ตอนที่​อวี​้​จิ​่น​เดินทาง​มาถึง​ก็​พบ​ว่า​มี​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​กำลัง​พุ่งตัว​เข้าไป​ใน​อย่าง​รถม้า​ของ​เจียง​ซื่อ​ ​เมื่อ​เขา​เห็น​ฉาก​ตรงหน้า​นี้​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​รู้สึก​โมโห​ยิ่งนัก​แล้ว​รีบ​พุ่งตัว​เข้าไป​เพื่อ​ดึง​เจียง​ซื่อ​ลง​จาก​รถม้า​ ​กอด​นาง​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ก่อน​จะ​วิ่ง​พุ่ง​ไป​ข้างหน้า

ในขณะเดียวกัน​ ​เขา​ก็ได้​เตะ​เข้าให้​ที่​ทอง​ของ​ม้า​ ​เดิมที​ม้า​แก่​ที่​กำลังกิน​หญ้า​อย่าง​มีความสุข​มัน​จึง​ได้​รู้สึก​ถึง​ความเจ็บปวด​ ​ปฏิกิริยา​ตามธรรม​ชาติ​ของ​มัน​จึง​ได้​เคลื่อนตัว​ไป​ด้าน​ข้าง​แล้ว​เหยียบ​ขา​ชุย​อี้​เสีย​จน​หัก​!

อ​๊าก​!​ ​ใน​ครั้งนี้​เสียงร้อง​ของ​เขา​ดังสนั่น​หวั่นไหว​ไป​ทั่ว​ ​ชุย​อี้​เอา​มือ​กุม​ขา​ข้าง​นั้นแล​้​วก​ลิ​้ง​ไปมา​ ​เขา​กลิ้ง​ไป​พลาง​ตะโกน​กำชับ​ว่า​ ​“​ฆ่า​มัน​!​”

บรรดา​บ่าว​รับใช้​จึง​ได้​วิ่ง​เข้าไป​ล้อม​อวี​้​จิ​่น​ไว้

อวี​้​จิ​่​นก​ลับ​กล่าว​ออกมา​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ ​“​จัดการ​พวก​มัน​เดี๋ยวนี้​ ​ต่อให้​ตาย​ก็​ไม่เป็นไร​”

หลง​ต้าน​ที่​ไม่รู้​ว่า​กระโดด​ออกมา​จาก​ไหน​ ​ท่าทาง​สง่างาม​ดุจ​เสือดาว​ของ​เขา​วิ่ง​เข้าไป​ใน​ฝูง​แกะ​น้อย​

อวี​้​จิ​่น​จึง​ได้​ปล่อย​เจียง​ซื่อ​ออก​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​ไม่เป็นไร​ใช่​หรือไม่​”

เจียง​ซื่อ​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​ผม​ซึ่ง​กระจัดกระจาย​ไม่​เป็น​ทรง​แล้ว​กล่าว​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่เป็นไร​”

น่าเสียดาย​เหลือเกิน​ที่​เจ้า​ม้า​เพิ่งจะ​กัด​พวก​นั้น​ไป​ได้​ไม่​กี่​ครั้ง​ ​แต่​เมื่อ​นึกได้​ว่า​ขา​ของ​ชุย​อี้​ถูก​ม้า​เหยียบ​จน​หัก​ ​เจียง​ซื่อ​ก็​รู้สึก​ดีขึ้น​มาบ​้าง​เล็กน้อย​

“​ขอบคุณ​คุณชาย​อวี​๋​ที่​ช่วย​ข้า​ไว้​”

อวี​้​จิ​่​นกำ​ลัง​จะ​กล่าว​บางอย่าง​ออกมา​ ​แต่​เจียง​จั้น​กลับ​พุ่งตัว​เข้ามา​เสียก่อน​ ​แล้ว​กล่าว​ด้วย​ท่าทาง​เหนื่อยหอบ​ว่า​ ​“​พี่​อวี​๋​ชี​ ​โชคดี​เหลือเกิน​ที่​ท่าน​เดินทาง​มาทัน​”

อวี​้​จิ​่น​จึง​กลอกตา​มอง​อย่าง​เงียบๆ

ใน​เวลา​เช่นนี้​เจียง​จั้น​ช่วย​ไป​ยืน​อยู่​เงียบๆ​ ​คนเดียว​ไม่​เป็น​หรือ​ไร​!

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​ก็​มีเสียง​ฝีเท้า​ดัง​ขึ้น​อย่าง​รีบร้อน​ ​“​พวก​เจ้า​ทำ​อะไร​กัน​!​”

ในไม่ช้า​ ​เจ้าหน้าที่​สายตรวจ​ก็​เดินทาง​มาถึง​ ​เขามอง​ไป​ยัง​บรรดา​กลุ่มคน​ที่​กลิ้ง​ไปมา​อยู่​บน​พื้น​ด้วย​ความ​งุนงง

ชุย​อี้​เจ็บปวด​เสีย​จน​แทบจะ​เป็นลม​ ​เขา​ทำท่า​ทาง​อวดเก่ง​และ​เข้าไป​รวมตัว​เป็น​พวก​เดียว​กับ​บรรดา​เจ้าหน้าที่​ที่​เดินทาง​มา​ ​ก่อน​จะ​ตะโกน​ออกมา​ด้วย​ความโมโห​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​ตาย​กัน​หมด​แล้ว​หรือ​ไร​ ​ข้า​คือ​บุตรชาย​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​กับ​แม่ทัพ​ชุย​ ​ข้า​ถูก​คน​โจมตี​เช่นนี้​พวก​เจ้า​ยัง​ไม่​จับ​มัน​อีก​!​”

หนึ่ง​ใน​สายตรวจ​จำ​อวี​้​จิ​่น​ได้​ ​จึง​กล่าว​ออกมา​ด้วย​ความประหลาดใจ​ว่า​ ​“​คุณชาย​อวี​๋​?​”

คน​จาก​ศาลา​ว่าการ​พระนคร​นั้น​รู้จัก​อวี​้​จิ​่น​ดี​ ​แม้​จะ​ไม่รู้​ว่า​เป็น​ผู้ใด​มาจาก​ไหน​ ​แต่​ก็ได้​รับ​ความเคารพ​นับถือ​จาก​ใต้เท้า​เจิน​เป็น​ที่สุด​ ​คาด​ว่า​คง​ไม่ใช่​คนธรรมดา

เมื่อ​พบ​ว่า​คนร้าย​เป็น​คนกันเอง​ ​เจ้าหน้าที่​ก็​รู้สึก​ลังเล​อยู่​สักพัก​ ​แต่​อวี​้​จิ​่​นก​ลับ​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​ไม่แยแส​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ไป​นั่ง​คุย​กันที่​ศาลา​ว่าการ​พระนคร​ดี​หรือไม่​”

“​จับตัว​ไป​ให้​หมด​!​”​ ​หัวหน้า​สายตรวจ​โบกไม้โบกมือ​แล้ว​กำชับ​ ​เขา​ควร​ส่ง​เรื่อง​อัน​ปวดหัว​ยุ่งยาก​นี้​ให้​ใต้เท้า​เจิน​จัดการ​จะ​ดีกว่า

“​พี่​อวี​๋​ชี​ ​น้อง​สี่​ ​ข้า​…​”​ ​ดูเหมือนว่า​เจียง​จั้น​กำลังจะ​กล่าวว่า​ให้​เจียง​ซื่อ​กลับ​จวน​ไป​ก่อน​ ​แต่​ในขณะที่​เขา​เพิ่งจะ​เอ่ยปาก​ออกมา​ ​จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​ท้องฟ้า​หมุน​ ​ร่าง​ของ​เขา​เอน​แล้ว​ล้ม​ลง​ทันที

เจียง​ซื่อ​รีบ​เข้าไป​คว้า​มือ​พี่​รอง​เอาไว้​ ​แล้ว​หันกลับ​ไป​กล่าว​กับ​อวี​้​ชีว​่า​ ​“​ข้า​ขอตัว​พา​พี่​รอง​ไปหา​หมอก​่อน​”

“​ตกลง​ ​ข้า​จะ​ให้​หลง​ต้าน​ไป​กับ​พวก​เจ้า​”

“​คุณชาย​อวี​๋​ ​นี่​มัน​…​”

อวี​้​จิ​่น​หันไป​ขยิบตา​ให้​กับ​สายตรวจ​ ​“​บุคคล​เหล่านี้​ข้า​เป็น​คน​ลงมือ​เอง​ ​ไม่ใช่​พวกเขา​ลงมือ​หรอก​ ​บัดนี้​พวกเขา​แทบจะ​เป็นลม​พับไป​หมด​แล้ว​ ​ต่อให้​แบก​กลับ​ไป​ก็​ไร้ประโยชน์​ ​ถ้า​ใต้เท้า​ต้องการ​จะ​เรียกตัว​ไป​สอบถาม​ ​เมื่อถึง​เวลา​ค่อย​เรียก​ไป​ก็​ย่อม​ได้​”

ชุย​อี้​เห็น​ว่า​บรรดา​เจ้าหน้าที่​กำลังจะ​ปล่อย​เจียง​จั้น​ออก​ไป​ ​เขา​ก็​รู้สึก​โมโห​เสีย​จน​เป็นลม​ล้มพับ

“​เอาเถอะ​ ​ตอนนี้​ผู้​ที่​ได้รับบาดเจ็บ​มาก​สุด​ก็​เป็นลม​ไป​เสีย​แล้ว​ ​ส่ง​พวกเขา​ไป​โรง​หมอก​่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”