ตอนที่ 79-2 งูขาว

ร่างกายของหลี่หมินเต๋อขยับเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้น และกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า:

“ทุกปีท่านแม่ของข้าจะทําบะหมี่อายุยืนหนึ่งชามสําหรับวันเกิดของข้า ซึ่งนางจะทําเอง…”

หลี่เว่ยหยางพยุงให้เขาลุกขึ้นนั่งและพิงหมอนนุ่ม ๆ

“แล้วตอนนี้เจ้าต้องการบะหมี่อายุยืนหรือ?”

หลี่เว่ยหยางกล่าวขณะที่รอยยิ้มกระจายไปทั่วใบหน้าของนาง

“ใช่”

เขาพยักหน้าเบา ๆ

“ฝีมือการทําอาหารของข้ามค่อยดีนัก ซึ่งมันมีดีเท่ากับพ่อครัวของบ้านตระกูลหลี่ แต่การทําบะหมี่อายุยืนไม่ใช่ประเด็น หลังจากที่เรากลับไปแล้วข้าจะทําให้เจ้าเอง”

หลี่หมินเต๋อยิ้มกว้างแต่ใบหน้าของเขาเริ่มซีดลง ซึ่งหลี่เว่ยหยางรู้อยู่ในใจว่าอาการของเขาไม่ดีสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แสดงความเปลี่ยนแปลงใด ๆ บนใบหน้าของนาง

“ตอนนี้ข้ายังมิต้องการไปนอน เจ้าช่วยอยู่คุยเป็นเพื่อนได้หรือไม่?” นางกล่าว

หลี่หมินเต๋อลืมตาขึ้นและพยักหน้า

หลี่เว่ยหยางเงยหน้าขึ้นอย่างแยบยลและกล่าวว่า

“เราเล่นเกมกันดีหรือไม่?”

หลี่หมินเต๋อมองนางด้วยสายตาที่จริงจังพร้อมกับกล่าวว่า

“ข้ามิใช่เด็กแล้ว”

“มิว่าเจ้าจะอายุเท่าใด เจ้าจะต้องชอบเกมนี้อย่างแน่นอน”

หลี่เว่ยหยางหัวเราะเบา ๆ ขณะที่ความมั่นใจเปล่งประกายในดวงตาของหญิงสาว

“ข้าจะแสดงให้ดูมันเป็นการแสดง…”

“การแสดง?”

หลี่หมินเต๋อกล่าวซ้ํา

หลี่เว่ยหยางยิ้มและเผยมือที่ว่างเปล่าต่อหน้าหลี่หมินเพื่อเบา ๆ จากนั้นนางก็เดินไปรอบคอของเขาและทันใดนั้นดอกโบตั๋นก็ปรากฏขึ้นในมือของนาง

ทันใดนั้นดวงตาของหลี่หมินเต๋อก็เบิกกว้างขึ้นในขณะที่เฝ้าดูต่อไปด้วยความประหลาดใจ

จากนั้นหลี่เว่ยหยางได้ประสานมือตนเองและดอกโบตั๋นในมือก็หายไป

หลี่หมินเต๋อกําลังจะเอ่ยถามว่านางทําได้อย่างไร แต่เมื่อหลี่เว่ยหยางยกมือขึ้นดอกโบตั๋นในแขนเสื้อของนางก็กลายเป็นนกพิราบและบินไปรอบ ๆ ห้องสองรอบก่อนที่มันจะบินหายไปในสายฝน

“ท่านเรียนรู้สิ่งนี้เมื่อใด?”

หลี่หมินเต๋อรู้สึกประหลาดใจ

“ข้าจะบอกเจ้าพรุ่งนี้”

หลี่เว่ยหยางมองเขาด้วยรอยยิ้ม

หลี่หมินเต๋อต้องการเอ่ยถามมากกว่านี้ แต่ทันใดนั้นชายในชุดสีเทาก็เดินเข้ามาโดยไม่รู้ตัวและกล่าวว่า:

“เป็นเพียงกลเม็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น หากนายน้อยต้องการดูอีก บ่าวสามารถแสดงให้ท่านดูได้ทุกเมื่อที่ท่านต้องการ”

เขารู้ดีว่าหลี่หมินเต๋อไม่ชอบให้เรียกตําแหน่ง ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเป็นคําอื่นแทน แต่หลี่หมินเต๋อยังคงขมวดคิ้ว

“ข้าบอกให้เจ้าออกไปมิใช่หรือ?”

ชายในชุดสีเทาถอนหายใจ

“นายน้อย หากบ่าวมิอยู่เฝ้าก็จะมิสามารถวางใจได้”

เขารู้สึกว่าเด็กสาวผู้นี้มีพลังมากเกินไป และกลัวว่านายน้อยของเขาจะถูกนางครอบงํา

หลี่หมินเต๋อจ้องมองใบหน้าของเขา แม้ว่าเขาจะอายุน้อย แต่การแสดงออกที่น่าเอ็นดูของเขาได้หายไปแล้วและเผยให้เห็นความเย็นชาเข้ามาแทนที่

หลี่เว่ยหยางถอนหายใจอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าบุคลิกของฮูหยินสามจะเย็นชา แต่นางก็ให้ความสําคัญกับหลี่หมินเต๋อเป็นอย่างมาก ดังนั้นชีวิตของเขาในตระกูลหลี่จึงมั่นคงมาก

โชคไม่ดีที่การเสียชีวิตของฮูหยินสามทําให้เขาสูญเสียบุคคลเพียงผู้เดียวที่เขาสามารถพึ่งพาได้ไป และเป็นการยากที่จะก้าวต่อไปในบ้านตระกูลหลี่

นอกจากนี้เขายังฉลาดและมีความพากเพียร เขาแสดงตนไร้เดียงสาและอ่อนแอต่อหน้าผู้อื่น เพื่อหลอกลวงศัตรูของเขา บางทีคืนนี้นางอาจจะได้เห็นนิสัยที่แท้จริงของเขาอีกด้านหนึ่ง

ทันใดนั้นงูสีขาวก็เลื้อยเข้ามาทางหน้าต่าง ซึ่งมันเลื้อยเข้ามาจากด้านนอก และหลี่เว่ยหยางเห็นก่อนขณะที่สีหน้าของนางเปลี่ยนไป

อย่างไรก็ตามชายในชุดสีเทาไม่แปลกใจเลยและเดินหน้าไปพร้อมกลับยื่นมือออกไปและปล่อยให้งูเลื้อยขึ้นไปบนฝ่ามือของตนเอง

หลี่เว่ยหยางเฝ้าดูเขาอย่างสงสัยและรู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เพราะนางเคยได้ยินเรื่องลึกลับของคนที่ฝึกงให้เป็นผู้ส่งสาร

แต่ไม่เคยเห็นมันกับตาตนเองเช่นนี้ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ควบคุมได้ยากมากและสามารถฉกกัดผู้อื่นได้ง่าย ซึ่งอาจทําให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้

โดยที่บริเวณคอของงูตัวนี้มีริบบิ้นและมีจดหมายเหน็บอยู่ โดยชายในชุดสีเทาหยิบมันออกมา และอ่านอย่างระมัดระวัง

จากนั้นเขาไปที่เชิงเทียนเพื่อเผามันและหยิบริบบิ้นออกมาอย่างระมัดระวัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเขียนอะไรจากนั้นเขาก็ผูกมันกลับไปที่คอของงูตัวนั้นทันที

หลี่เว่ยหยางมองดูตัวเล็กตัวนี้ซึ่งมีลักษณะบางกว่าตะเกียบไม้ไผ่หายไปจากหน้าต่าง ขณะที่ความสนใจได้โผล่ขึ้นมาบนใบหน้าของนาง

หลี่หมินเพื่อไม่ได้สนใจงู แต่เมื่อเห็นหลี่เว่ยหยางดูสนใจเขาจึงกล่าวเบา ๆ ว่า:

“งูตัวนี้….เจ้าเลี้ยงมันอย่างไร?”

ชายในชุดสีเทารู้สึกประหลาดใจและแสดงสีหน้าหนักใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่หมินเต๋อ กล่าวกับเขาด้วยน้ําเสียงที่อ่อนโยน ซึ่งทําให้เขาไม่แน่ใจว่าจะตอบสนองอย่างไรจึงรีบกล่าวว่า:

“นั่นคือบีหยางที่ข้าเลี้ยงดูมา นายน้อยดูสิ”

เขาปลดกระเป๋าที่เอวของตนเองและส่งมันให้อย่างระมัดระวัง

“มียาลับอยู่ในกระเป๋านี้ ซึ่งมนุษย์มิสามารถตรวจจับกลิ่นนี้ได้ แต่มีเพียงบีหยางเท่านั้นที่สามารถตรวจจับได้”