“ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไรแล้ว”
เฟิงเหลยถิงโบกมือ พร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตา พยายามทำตัวเองให้นิ่ง ยังพูดเยาะเย้ย “ร้องไห้ต่อหน้าเด็กอย่างหนู คนแก่อย่างฉันรู้สึกขายหน้านิดหน่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ พ่ออยากร้องก็ร้อง ไม่ขายหน้าสักนิด ” อันที่จริงเฉินฮวนฮวนรู้สึกว่านายท่านเป็นคนจิตใจดี อย่างน้อยก็สำนึกผิด เสียใจเป็น เพียงแต่เป็นคนเจ้าชู้เกินไป
แต่เธอย้อนคิดไป ที่พูดกันว่าลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ถ้างั้นเฟิงหานชวน จะเป็นคนเจ้าชู้ตัวพ่อแบบนั้นหรือเปล่า ?
“ฮวนฮวน รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงเลือกหนู ?” เวลานี้เฟิงเหลยถิงสงบลงแล้ว บนใบหน้ามีรอยยิ้มเผยออกมา
“เลือกหนู ?” เฉินฮวนฮวนมึนงงและสงสัยเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะสุ่มเหรอ?
ใครยอมแต่งก็คนนั้น ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงเธอหรอกมั้ง ?
ถ้าหากพูดว่าเลือกเธอ ถ้าหากตอนนั้นเฉินซินโหรวยอมแต่งงาน ถ้างั้นก็เป็นเฉินซินโหรวไม่ใช่เหรอ ?
มองความคิดของเฉินฮวนฮวนออก เฟิงเหลยถิงยิ้มจางๆ พยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องเป็นหนู แต่มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นหนู”
“หา ?” เฉินฮวนฮวนมึนเข้าไปใหญ่
“แม่ของหนูเป็นผู้หญิงที่เก่งคนหนึ่ง” เฟิงเหลยถิงลุกขึ้นเอามือไขว้หลัง เดินไปข้างหน้าต่างช้าๆ
เฉินฮวนฮวนเดินตามไปด้วย เอ่ยถามอย่างรีบร้อน “คุณพ่อรู้จักแม่ของหนูเหรอคะ ?”
“ไม่ถึงกับรู้จัก” เฟิงเหลยถิงส่ายหน้า
เฉินฮวนฮวนเดิมที่รู้สึกตื่นเต้น แต่ชั่วพริบตาก็หม่นหมองลง ท่านแม่รู้จักแม่เธอมาก่อน
“ปีนั้น ฉันยังทำงานที่เฟิงซื่อกรุ๊ป ตอนยังไม่ได้ปลดเกษียณ ฉันรู้ว่ามีบริษัทเล็ก ๆ ชื่อเฉินซื่อกรุ๊ปแห่งหนึ่ง เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นหญิงสาวคนหนึ่งก่อตั้งขึ้น ชื่อซูอวิ้น” เฟิงเหลยถิงนึกย้อนไป
“ใช่ค่ะ แม่หนูชื่อซูอวิ้น ท่านชื่อซูอวิ้น”
ความสงบภายในใจของเฉินฮวนฮวนก็เด้งขึ้นมา เธอพยักหน้ารั่วๆ นัยน์ตาเอ่อล้น เหมือนอีกเดี๋ยวก็จะล้นออกมา
นานมากแล้ว ที่เธอไม่ได้ยินชื่อแม่จากปากของคนอื่น
คุณยายเธอชื่อซูหมิงจู แม่เธอชื่อซูอวิ้น
“ปีนั้น ฉันชื่นชมเฉินซื่อกรุ๊ปที่ซูอวิ้นก่อตั้ง ลูกน้องฉันถึงขั้นแนะนำให้ฉันร่วมงานกับพวกเขา แต่ฉันอยากจะสังเกตต่อไปอีกหน่อย ถึงอย่างไรเวลานั้นเฉินซื่อกรุ๊ปก็เป็นแค่บริษัทเล็ก คุณสมบัติยังไม่ถึงขั้นนั้น ”
“ฉันอยากรอให้เฉินซื่อกรุ๊ปใหญ่โตขึ้นอีกหน่อย ก็จะเอ่ยร่วมงานด้วย แต่คิดไม่ถึง ต่อมาผลประกอบการพวกเขาไม่ก้าวหน้า หลังจากนั้นก็ถดถอยลงเรื่อย ๆ ฉันให้ลูกน้องไปถามสถานการณ์มา”
“ใครจะไปคิด ที่แท้ซูอวิ้นตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ไปนานแล้ว บริษัทมีสามีของเธอ หรือก็คือเฉินเจี้ยนหมินดูแล สุดท้ายเฉินซื่อกรุ๊ปก็ไม่ดีขึ้นอีกเลย”
“ช่วงก่อนหน้านี้ ฉันได้ยินว่าเฉินซื่อกรุ๊ปใกล้ล้มละลาย ขอเงินลงทุนไปทั่ว ฉันรู้มาว่าเฉินเจี้ยนหมินมีลูกสาวสองคน เลยมีความคิดอะไรนิดหน่อย”
“ ตอนนั้นฉันคิด ลูกสาวของซูอวิ้น คงไม่แย่แน่นอน มีโอกาสนี้พอดี ขอมาเป็นลูกสะใภ้ฉันดีกว่า”
“จะว่าบังเอิญก็ได้ ฉันเพิ่งรู้ว่าเด็กสาวคนหนึ่งไม่ได้เกิดจากซูอวิ้น แต่ลูกสาวของซูอวิ้นแต่งเข้าตระกูลเฟิงจริงๆ”
เฟิงเหลยถิงจริงจังมาก และบอกเล่าเหตุผลเรื่องนี้อย่างจริงใจ ตอนที่เขาหันหลังกลับ พบว่าบนใบหน้าของเฉินฮวนฮวนเต็มไปด้วยน้ำตาแล้ว
“ฮวนฮวนร้องไห้ทำไม ?” เฟิงเหลยถิงตกใจเล็กน้อย รีบร้อนไปดึงกระดาษทิชชูสองสามแผ่น ยื่นให้เฉินฮวนฮวน พูดว่า “รีบเช็ดน้ำตา อย่าให้เจ้าสามเห็นเข้า”
เขารู้เจ้าสามตอนนี้ใส่ใจเฉินฮวนฮวนเป็นพิเศษ หากถูกเจ้าสามเห็นว่าเขาทำฮวนฮวนร้องไห้ คงมองพ่ออย่างเขาด้วยอารมณ์โมโห
“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ ขอบคุณ คุณพ่อมากๆ” เฉินฮวนฮวนเช็ดน้ำตา แต่น้ำตาก็ไหลมาไม่หยุด
มันทำให้เฟิงเหลยถิงร้อนใจมาก
เดิมทีอยากปลอบใจเฉินฮวนฮวน ให้เธอไม่ต้องโทษพวกเขา ให้เธออยู่ที่ตระกูลเฟิงอย่างสบายใจ
แต่คิดไม่ถึง เขากลับทำเฉินฮวนฮวนร้องไห้ ยังร้องไห้หนักขนาดนี้
“ไม่ต้องขอบคุณฉัน ฉันต้องขอบคุณหนู เป็นหนู เพราะเป็นหนู เจ้าสามของตระกูลเราถึงยอมแต่งงาน” เฟิงเหลยถิงรีบร้อนเกือบจะหลุดปากพูดออกไปแล้ว
รอรู้ตัวอีกที เขาก็รีบปิดปากตัวเองไว้
“เพราะหนู ?” เฉินฮวนฮวนนิ่งอึ้งไป
เธอคิดว่า ไม่ว่านายท่านจะจัดเตรียมผู้หญิงยังไง เฟิงหานชวนคงยอมทดลองแต่งงาน ไม่ใช่เป็นเพราะเธอหรอกมั้ง
เธอไม่มีตรงไหนที่ดึงดูดคนเป็นพิเศษ และไม่มีเสน่ห์อะไร หากมีเสน่ห์จริง เยี่ยจิ่งเฉินคงไม่นอกใจไปหาเฉินซินโหรวแล้ว
“ไม่ ๆ ไม่ ความหมายของฉันคือ หนูเป็นคนจิตใจดีมาก เห็นแล้วน่าเอ็นดูเป็นพิเศษ เจ้าสามคงรู้สึกว่าเธอดีเหมือนกันถึงไม่ได้โต้แย้งอะไรฉัน”
เฟิงเหลยถิงตาล่อกแล่ก รีบพูดอธิบาย “ไม่อย่างงั้น ตามนิสัยของเจ้าสาม หากไม่พอใจเธอล่ะก็ ก็จะให้คนไปเอากระเป๋าของเธอโยนออกไปแล้ว”
“อุ๊บส์” เฉินฮวนฮวนขำ กับท่าทางเฟิงเหลยถิงที่รีบร้อนอธิบาย
เธอพยักหน้า พูดว่า “ที่จริงคุณพ่อเข้าใจลูกชายของพ่อดี”
ก่อนหน้านี้เฟิงหานชวนเกือบไล่เธอออกไปจริงๆ อีกนิดเดียวเธอก็จะเป็นคนพเนจรอยู่ข้างถนนแล้ว
“หะ ? ก่อนหน้านี้เขาเคยโยนกระเป๋าเธอ ?” เฟิงเหลยถิงขมวดคิ้ว ทำไมเขาไม่รู้เรื่องนี้ ?
“ปะ เปล่า เขาไม่เคยโยนกระเป๋าหนู” เฉินฮวนฮวนส่ายหน้า
“งั้นก็ดี งั้นก็ดี หากโยนกระเป๋าเธอจริง ฉันกลัวว่าเธอจะแค้นใจเขา” เฟิงเหลยถิงรู้สึกเหมือนโรคหัวใจตัวเองกำเริบ
ตอนนี้เขาแค่อยากเห็นสองคนนี้เดินไปพร้อมกัน มีชีวิตที่ดี มีหลานชายตัวอ้วนหรือหลานสาวที่น่ารักให้เขา
แบบนั้น ซินหรุ่ยที่อยู่ยมโลกรับรู้ ก็คงจะชื่นใจเหมือนกัน
“ไม่มี ไม่มี ตอนนี้พวกเราถือได้ว่า…อยู่กันได้ดี”เฉินฮวนฮวนก็ไม่รู้ควรตอบยังไง พูดตะกุกตะกัก
ถึงอย่างไรเรื่องทดลองแต่งงานแบบนี้ ให้ท่านรู้แล้ว คงเสียใจแน่นอน
“ซินหรุ่ยรู้เข้า ต้องมีความสุขแน่นอน” เฟิงเหลยถิงยิ้มออกมาอย่างชื่นใจ
ซินหรุ่ย…เฉินฮวนฮวนเรียกในใจหนึ่งรอบ
นี่คงเป็นชื่อแม่ของเฟิงหานชวนมั้ง ?
ทำไมข้างในลึกๆ เธอรู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นหูแปลกๆ
เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหน
เห็นสีหน้าสงสัยของเฉินฮวนฮวน เฟิงเหลยถิงพูดอธิบาย “ซินหรุ่ยเป็นชื่อแม่ของเจ้าสาม เรื่องของเธอเจ้าสามคงบอกหนูไปแล้ว ฉันก็ไม่พูดต่อแล้ว”
เฉินฮวนฮวนอ้าปากกำลังคิดจะถามให้แน่ชัด แต่ก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม
อันที่จริงเรื่องเกี่ยวกับแม่ของเฟิงหานชวน เฟิงหานชวนไม่เคยบอกเธอ เพียงแค่ยอมรับสถานะลูกนอกสมรส เธอก็ไม่ได้ถามต่อ
ตอนนี้ เธอกับเฟิงหานชวนมีความสัมพันธ์แบบทดลองการแต่งงาน ดังนั้นเธอรู้สึกว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องถามมากขนาดนั้น มันกลับทำให้ตัวเองดูกระตือรือร้น อยากอยู่ที่ตระกูลเฟิง
ในความเป็นจริง เธอคิดจะออกไปแล้ว
“ฮวนฮวน แม้ว่าซินหรุ่ยไม่อยู่แล้ว แต่เธออยู่ในยมโลก อวยพรให้พวกหนูมีความสุขแน่นอน ”
เฟิงเหลยถิงพูดถึงไป๋ซินหรุ่ย รู้สึกตื้นตันใจ เขาดึงมือเฉินฮวนฮวน น้ำเสียงสะอึกสะอื้นเล็กน้อย
เฉินฮวนฮวนนิ่งอึ้ง
ที่แท้ แม่ของเฟิงหานชวนตายไปแล้ว
ที่แท้ เธอกับเขาต่างเป็นเด็กที่สูญเสียแม่เหมือนกัน