บทที่ 266 เริ่มฝึกลูกสาวอย่างจริงจัง

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 266 เริ่มฝึกลูกสาวอย่างจริงจัง

บทที่ 266 เริ่มฝึกลูกสาวอย่างจริงจัง

ฉู่เทียนฮุ่ยจากไปโดยพาจ้านฉีไปด้วย

ก่อนที่เธอจะจากไป เธอได้บอกโจวอี้ว่าให้รักษาความลับของเตาหลอมสยบวิญญาณไว้ ห้ามบอกใครเด็ดขาด

โจวอี้จึงตระหนักได้ว่าเตาหลอมสยบวิญญาณอาจกำลังซ่อนความลับที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นเขาจึงให้คำมั่นสัญญาอย่างจริงจัง และตัดสินใจว่าเขาจะไม่มีทางบอกใครแน่นอน

นกแก้วที่พ่นไฟได้ถูกฉู่เทียนฮุ่ยพาตัวไปด้วย

ตอนนี้จึงเหลืออีกตัวที่พ่นน้ำได้

เมื่อมันถูกจับแยก มันก็ดูซึมลงคล้ายกับว่าป่วย

ไม่ได้ป่วยกาย แต่ว่าป่วยใจ

มันบินกลับไปที่ห้องหนังสือตัวเดียวและไม่ต้องการกินหรือดื่มใด ๆ แม้ว่าโจวอี้จะมาหา มันก็กลิ้งไปมาเหมือนเด็ก ตะโกนว่ามันอยู่อย่างโดดเดี่ยวและน่าเบื่อเกินไปแล้ว

“ฮึ่ม! ยาที่ฉันอุตสาห์ใช้เวลาทำ” โจวอี้ยืนอยู่หน้ากรง

“ก็แค่ขนม!” นกแก้วกระโดดขึ้นและใช้ดวงตาเล็ก ๆ สองดวงจ้องมองโจวอี้

มันไม่รู้ว่ายานั้นคืออะไร

รู้แค่ว่าอร่อยดี

โจวอี้เชิดหน้าขึ้น ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเริ่มเผยรอยยิ้มชั่วร้าย

ไอ้นกนี่มันกล้าเถียง?

นกแก้วตัวนี้ดูเหมือนจะมีสติปัญญาสูงกว่าที่เขาคาดไว้

“ว่ากันว่าเลือดของนกและสัตว์วิเศษมีพลังวิญญาณ เลือดเพียงไม่กี่หยดสามารถปรับปรุงคุณภาพของเม็ดยาได้ ฉันอยากลองทดสอบเหลือเกินว่ามันจะจริงไหม” โจวอี้หันหลังกลับและเดินออกไปคล้ายกับพึมพำกับตัวเอง

เลือด?

ปรับปรุงคุณภาพยา?

นกแก้วถึงกับตกใจ มันกระพือปีกและตะโกนว่า “ฉันยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ฉันยอมเชื่อฟังแล้ว! มารักกันเถอะนะ มาปรองดองกันเถอะ! นกแก้วตัวนี้มีกำลังใจจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสดใสแล้ว!”

“แน่ใจนะ?” โจวอี้หยุดฝีเท้า หันมาและถามด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายอีกครั้ง

“แน่ใจ แน่ใจ! ฉันคิดได้แล้ว”

“ดีมาก! ต่อจากนี้ไป แกจะถูกเรียกว่านกแก้ววิญญาณ จงจำชื่อนี้ของแกไว้!” โจวอี้พูดจบก็เดินออกจากห้องหนังสือ

นกแก้ววิญญาณ?

ชื่อบ้าอะไรเนี่ย?

ช่างไร้การศึกษา!

นกแก้ววิญญาณนึกดูถูกเหยียดหยาม แต่เมื่อพิจารณาว่ายาที่โจวอี้ปรุงมานั้นทำให้มันเบิกสติปัญญาได้อย่างสมบูรณ์ ท้ายที่สุดมันก็ต้องยอมรับชื่อนี้

โจวอี้ไม่รู้ว่าเขาเพิ่งถูกนกแก้วดูหมิ่นมาหยก ๆ

เวลานี้เขามองลูกสาวสองคนที่กำลังนั่งพิงกันอยู่บนโซฟาเพื่อดูทีวี

อาจารย์ฉู่เทียนฮุ่ยพาถังเสี่ยวถังและจ้านฉีไปรับเลี้ยง และแม้แต่นกแก้วตัวหนึ่งก็ถูกพาไปด้วย โจวอี้ตัดสินใจแล้วว่าไม่เพียงแค่จะฝึกฝนลูกสาวทั้งสองคนให้ได้ดี แต่เขาจะฝึกฝนไอ้นกแก้วตัวที่อยู่กับเขาให้มันแข็งแกร่งด้วย

เขาจะแข่งขันกับอาจารย์ของตัวเองในทุกด้าน

มาดูกันว่าใครเป็นจะผู้ที่ฝึกสอนได้เก่งกว่ากัน

ขณะนี้การ์ตูนป๊อปอายกำลังฉายทางทีวี

“พวกลูก ๆ อยากมีพลังเหมือนป๊อปอายไหม?”

“หนูต้องกินผักโขมไหมคะ?” ถังเหมียวเหมี่ยวถามอย่างไร้เดียงสา

“พ่อสามารถทำให้ลูกมีพลังมากกว่าป๊อปอายอีกนะ ลูกจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ต้องกินผักโขม สนใจไหม?”

“เอา ๆ! หนูอยากมีพลังเยอะ ๆ!” ถังเหมียวเหมี่ยวกระโดดโลดเต้นและปรบมือ

ถังเสี่ยวรุ่ยไม่พูดอะไร แต่แววตาของเธอดูสดใสขึ้นและเธอก็พยักหน้าอย่างหนัก

“เยี่ยม! ถ้างั้นเดี๋ยวคืนนี้ไปแช่น้ำยาต่อนะ!” โจวอี้ยิ้ม

“อา…”

“ไม่!”

“มันเจ็บ!”

ทันใดนั้นถังเหมียวเหมี่ยวก็ร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว แม้แต่ถังเสี่ยวรุ่ยก็ดูกลัวเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่ลืมความเจ็บปวดจากการแช่ยาในครั้งก่อน

“ไม่ต้องห่วง! ต่อไปจะไม่เจ็บแล้ว แต่จะสบายมาก เชื่อใจพ่อได้เลย” โจวอี้ยิ้ม

หลังจากผ่านไปพักใหญ่

โจวอี้ก็ต้มยามาสองถัง จากนั้นก็ให้ถังเหมียวเหมี่ยวและถังเสี่ยวรุ่ยถอดเสื้อผ้าและลงไปนั่งในถังยาตามลำดับ

“เอ๋? ไม่เจ็บจริง ๆ!” ถังเหมียวเหมี่ยวอุทานด้วยความประหลาดใจ

“พ่อไม่ได้โกหกลูกใช่ไหมล่ะ?” โจวอี้ยิ้ม

“อื้ม พ่อเก่งที่สุด!” ถังเหมียวเหมี่ยวหัวเราะและเล่นน้ำอย่างสบายใจ

“จากวันนี้ไป พ่อจะสอนสิ่งที่วิเศษให้ลูก ๆ” โจวอี้เอา ‘แผนผังเส้นชีพจรและจุดฝังเข็มของมนุษย์’ สองแผ่นที่เตรียมไว้ล่วงหน้าติดบนผนังด้านหน้าพวกเธอ จากนั้นก็กล่าวว่า “ให้จำเนื้อหาทั้งหมดในแผนผังนี้ นี่คือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เส้นชีพจร และตำแหน่งจุดฝังเข็ม…”

โจวอี้กำลังสอนลูกสาวทั้งสองคน และพวกเธอก็กำลังเรียนรู้

พวกเธอทั้งคู่กินยาเม็ดตื่นรู้ไปแล้ว ดังนั้นสมองของพวกเธอจึงดีมาก และความจำต่าง ๆ ของพวกเธอก็เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป

พวกเธอใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงในการจดจำสิ่งที่โจวอี้สอนทั้งหมด

“พวกลูกเก่งมาก เก่งกว่าพ่อตอนเด็ก ๆ ซะอีก” โจวอี้ยกนิ้วโป้งขึ้นและมองพวกเธอด้วยรอยยิ้มจริงใจ

“พ่อจะทดสอบลูกในวันพรุ่งนี้นะ ดังนั้นสิ่งที่พ่อสอนลูก ๆ ไปวันนี้ อย่าได้ลืมมัน ตราบใดที่ลูกไม่ลืม พรุ่งนี้พ่อจะสอนลูกถึงวิธีการเป็นคนที่แข็งแกร่ง”

“เราจะไม่ลืมค่ะ!” ถังเหมียวเหมี่ยวกล่าวอย่างมั่นใจ

“หนูก็จะไม่ลืม” ถังเสี่ยวรุ่ยตอบเบา ๆ

“จะลืมหรือไม่ ไว้พรุ่งนี้เราจะรู้กัน เอาล่ะ ตอนนี้อาบน้ำให้เสร็จและไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ตื่นเช้ามาวิ่งกับพ่อ” โจวอี้กล่าว

“ค่ะ!”

พวกเธอปีนออกจากถังแช่ตัวและเดินไปที่ห้องน้ำด้วยกัน

ไม่นานนัก ถังเหมียวเหมี่ยวก็แอบย่องเขามาในห้องอีกครั้ง เธอดึงแผนผังภาพทั้งสองแผ่นที่แปะบนผนังออกอย่างรวดเร็วและวิ่งกลับไปที่ห้องของถังเสี่ยวรุ่ย ทำตัวราวกับหัวขโมยตัวน้อย

เช้าวันรุ่งขึ้น

ก่อนรุ่งสาง โจวอี้พาถังเหมียวเหมี่ยวและถังเสี่ยวรุ่ยออกจากบ้าน

ขาของถังเสี่ยวรุ่ยหายดีแล้ว เธอไม่เดินกะโผลกกะเผลกอีกต่อไปแล้ว แต่ถ้าต้องวิ่ง เธอก็ยังคงมีอาการไม่ปกติอยู่บ้าง

พวกเขาทั้งจ๊อกกิ้ง ชกมวย และออกกำลังกายต่าง ๆ

พ่อและลูกสาวออกกำลังกายเป็นเวลาสองชั่วโมง เมื่อโจวอี้พาลูกสาวทั้งสองกลับมาบ้าน เสื้อผ้าบาง ๆ ของพวกเขาก็ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ

ถังเหมียวเหมี่ยวตัวสูงขึ้นแล้ว และสมรรถภาพทางกายภาพของเธอก็ดีขึ้นมาก ส่วนร่างกายของถังเสี่ยวรุ่ยนั้น หลังจากได้รับการรักษาในช่วงที่ผ่านมา เธอก็มีสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม

หลังอาหารเช้า

โจวอี้มองไปที่ถังเสี่ยวรุ่ยและถามว่า “เสี่ยวรุ่ยลูกพ่อ ลูกอยากไปโรงเรียนไหม?”

ถังเสี่ยวรุ่ยตกตะลึง

เธอฝันไว้ว่าอยากไปโรงเรียนมาโดยตลอด

แต่ด้วยความยากจนและชีวิตที่ยากเย็นแสนเข็ญที่ผ่านมา เธอจึงทำได้เพียงแค่ไปโรงเรียนได้ในความฝันเท่านั้น

“เอาเป็นว่า พ่อจะส่งลูกไปเรียนที่โรงเรียนเดียวกับเหมียวเหมี่ยวดีไหม? ลูกได้เรียนรู้ความรู้มากมายมาแล้ว ดังนั้นลูกเข้าเรียนชั้นอนุบาลได้เลย เป็นไง?” โจวอี้ถาม

“ดีค่ะ!” ถังเสี่ยวรุ่ยพยักหน้า

โจวอี้ลูบศีรษะเล็ก ๆ ของเด็กน้อยด้วยความรักและพอใจกับลูกสาวของเขามาก

เขายังจำได้ว่าเมื่อจ้านฉีจากไป จ้านฉีแอบบอกสิ่งหนึ่งแก่เขาว่าถังเสี่ยวรุ่ย รู้สึกขอบคุณเขามาก และรับเขาเป็นพ่อของเธออย่างเต็มใจ

ถงหู่ขับรถไปที่โรงเรียนอนุบาลพร้อมกับโจวอี้และเด็กน้อยทั้งสอง

ถังเสี่ยวรุ่ยผ่านพิธีการรับเข้าเรียนอย่างราบรื่น โดยมีเฉินเยว่ฉินเป็นผู้อนุมัติเป็นการส่วนตัว และครูประจำชั้นเรียนที่ชื่นชมโจวอี้อยู่แล้วก็พาถังเสี่ยวรุ่ยเข้าไปในห้องเรียนเป็นการส่วนตัว

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนทุกอย่าง โจวอี้และถงหู่ก็ออกจากโรงเรียน

ทว่าแทนที่จะกลับบ้าน พวกเขาตรงไปที่ตลาดยา

โจวอี้ต้องการวัตถุดิบยาล้ำค่าจำนวนมาก

เนื่องจากเขาตัดสินใจที่จะฝึกฝนลูกสาวทั้งสองคนเพื่อทำให้พวกเธอประสบความสำเร็จในด้านการฝึกยุทธ์ เขาจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรเพื่อฟูมฟักพวกเธอ

และนกแก้ววิญญาณซึ่งปลุกพลังสายเลือดบรรพบุรุษของมันแล้วก็จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อให้มันเติบโตอย่างรวดเร็วและมีพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ

“ยังไงก็ตาม นกแก้ววิญญาณเป็นของขวัญสำหรับเหมียวเหมี่ยว”

“ส่วนเสี่ยวรุ่ยนั้น… ฉันควรเลือกสัตว์ตัวเล็ก ๆ ให้เหมือนกับที่ฉันให้เหมียวเหมี่ยวดีไหม?”

“ว่าแต่… ฉันควรเลือกสัตว์เล็กชนิดไหนดี?”

โจวอี้คิดกับตัวเอง

เพื่อลูกสาวที่รัก เขาจะต้องเลือกสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมที่สุดให้เธอ

สัตว์เลี้ยงที่เขาควรเลือกนั้น ไม่ว่าจะเป็นนกหรือสัตว์ชนิดไหน มันควรมีรากฐานสายเลือดที่ดีพอ เพื่อที่หลังจากเบิกสติปัญญาแล้ว มันจะสามารถกระตุ้นสายเลือดบรรพบุรุษ และมีความสามารถที่แข็งแกร่งอีกด้วย