ตอนที่ 221

My Disciples Are All Villains

แม้ว่าเล้งลั่วจะภูมิใจในความแข็งแกร่งที่มี แต่ในตอนนี้พลังวรยุทธของเขาก็ยังไม่ฟื้นตัวมาเต็มที่ ตัวเขาไม่สามารถที่จะทดสอบพลังของเวทมนตร์คาถาที่อยู่ในสวนแห่งนี้

ฝานลี่เทียนนั้นยิ่งกว่า

ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าลู่โจวจะเป็นคนเคลื่อนไหวต่อไป…

โฮ๊ก!

เสียงคำรามของสัตว์ร้ายได้ดังออกมาจากป่าที่อยู่ติดกับสวนแห่งนี้

ทุกๆ คนต่างก็หันไปสนใจกับเสียงคำรามที่เพิ่งจะดังขึ้น

“บี่เอี๊ยน! “

บี่เอี๊ยนเป็นหนึ่งในสัตว์ขี่ของลู่โจว

หยวนเอ๋อและต้วนมู่เฉิงทั้งคู่ต่างก็รู้สึกคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้ตกใจเมื่อได้เห็นบี่เอี๊ยนที่กำลังพุ่งเข้าใส่เหล่าผู้ฝึกยุทธ

เล้งลั่วและฝานลี่เทียนกลับมีท่าทีที่ตกตะลึงและหวาดกลัวแทน ทั้งสองล้วนแต่เป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังอยู่ในยุทธภพแห่งนี้ แม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือแต่การที่จะหาสัตว์ขี่ในตำนานแบบนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย การจะพบสัตว์ขี่ได้จะต้องพบมันโดยบังเอิญที่ป่าแห่งม่านหมอกเท่านั้น นอกเหนือจากนี้การจะจับสัตว์ขี่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งสัตว์ขี่ดุร้ายมากแค่ไหน การที่จะฝึกฝนมันจนสามารถใช้งานได้จึงยิ่งยากตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้เองทั้งสองคนจึงรู้สึกตกใจมากเมื่อได้เห็นสัตว์ขี่ในตำนาน

ลู่โจวได้สั่งการสัตว์ขี่ “ตามหาเจ้านั่นซะ” บี่เอี๊ยนได้คำรามตอบรับคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย มันได้หมุนไปรอบตัวก่อนที่จะเหยียบย้ำก้อนเมฆทั้งหลายเพื่อที่จะพุ่งทะยานไปยังสวนด้วยความเร็วดุจดั่งสายฟ้า

ทันทีที่บี่เอี๊ยนกระโดดลงไปที่อาคารเบื้องล่าง กำแพงทั้งหลายรวมไปถึงเศษหินก็ได้ปลิวว่อนไปทั่วทุกหนทุกแห่ง

เล้งลั่วและฝานลี่เทียนต่างก็จับตามองสัตว์ขี่ด้วยความประหลาดใจ

“ข้าขอทราบได้ไหมว่าท่านปรมาจารย์เจอสัตว์ขี่ตัวนี้มาจากที่ไหนกัน? ” เล้งลั่วได้ถามออกมาอย่างนอบน้อม

ลู่โจวเหลือบไปมองที่เล้งลั่วและฝานลี่เทียน ในตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองคนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาทั้งคู่จะรู้สึกสงสัย การหาสัตว์ขี่ในตำนานเจอเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก เป็นธรรมดาที่พวกเขาทั้งสองคนอยากที่จะมีสัตว์ขี่ในตำนานเช่นกัน ผู้ฝึกยุทธทั่วไปรู้ดีว่าการจะหาสัตว์ขี่แบบนี้เจอได้เป็นเรื่องของโชคชะตา เพราะแบบนั้นจึงไม่มีใครที่คิดจะตามหาสัตว์ขี่แบบนี้โดยตั้งใจ ลู่โจวได้ตอบกลับไปอย่างเฉยชา “ข้าได้เจอที่ป่าแห่งม่านหมอก ในตอนนั้นข้าได้ใช้เวลาไปกว่า 300 วัน สังหารสัตว์ร้ายไปนับหมื่นตัว ในท้ายที่สุดข้าก็ได้พบกับบี่เอี๊ยน ข้าได้ใช้เวลาฝึกฝนจนทำให้มันเชื่องได้โดยใช้เวลาอีกหลายเดือน”

เมื่อได้ยินแบบนั้นคนอื่นๆ ก็ได้แต่จ้องมองลู่โจวด้วยความเคารพนับถือ

เล้งลั่วได้คารวะลู่โจว ตัวเขาไม่จำเป็นจะต้องพูดชมเชยลู่โจวโดยใช้คำพูดเลย

ทุกๆ คนรู้ได้ทันทีว่าบี่เอี๊ยนน่ากลัวขนาดไหน เพียงแค่ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายของมันเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำลายสิ่งก่อสร้างของสวนแห่งนี้ได้แล้ว

หลังจากที่ลู่โจวได้คิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา บี่เอี๊ยนไม่ใช่สัตว์ขี่ที่มีความสามารถพิเศษเหมือนกับวิซซาร์ด มันเป็นสัตว์ร้ายที่แสนจะน่ากลัวและมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ถ้าหากบี่เอี๊ยนปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา แม้แต่ผู้ฝึกยุทธขั้นศักดิ์สิทธิ์เองก็ยังไม่อาจที่จะรับมือมันได้ แม้ว่าจะมีความสามารถในการโจมตีความสามารถในการป้องกันของมันก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน แม้ว่าจะพุ่งชนสิ่งก่อสร้างไปมากมายขนาดไหนบี่เอี๊ยนก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเลย

จนถึงตอนนี้ลู่โจวไม่มีโอกาสที่จะทดสอบพลังที่แท้จริงของบี่เอี๊ยนเลย ตัวเขาได้แต่คาดการณ์กับสิ่งที่สังเกตได้เท่านั้น ถ้าหากลู่โจวใช้สัตว์ขี่ตัวนี้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจริงๆ บางทีตัวเขาอาจจะเสียสัตว์ขี่ที่แสนล้ำค่าตัวนี้ไปเลยก็เป็นได้ นั่นจะต้องเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่สำหรับตัวเขา บางทีหลังจากที่ลู่โจวแข็งแกร่งมากกว่านี้ตัวเขาเองอาจจะทดสอบพลังความแข็งแกร่งของบี่เอี๊ยนเอง

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!

บี่เอี๊ยนที่พุ่งถึงพื้นได้หยุดตัวเองกลางคัน มันยืนนิ่งอยู่บนสวนแห่งนี้ราวกับว่ากำลังตามล่าเหยื่อ

“มีจมูกที่ดีอย่างงั้นสินะ”

จมูกของบี่เอี๊ยนได้ขยับไปมาในขณะที่ดมกลิ่น ในที่สุดมันก็หันไปทางทิศตะวันตกของสวนแห่งนี้

เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ผู้ฝึกยุทธทุกคนต่างก็หวาดกลัวบี่เอี๊ยน ผู้ฝึกยุทธหลายคนได้วิ่งออกมาจากสิ่งก่อสร้างในขณะที่เอามือชี้ไปยังบี่เอี๊ยน

โฮร๊ก!

ในตอนนั้นเองร่างของบี่เอี๊ยนก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสีฟ้า มันเป็นแสงที่ดูเหมือนกับพลังของกระแสไฟฟ้า

พรึ๊บ! พรึ๊บ! พรึ๊บ!

ดาบของผู้ฝึกยุทธกว่าหลายเล่มได้เสียบแทงไปที่มัน

“ช่างเป็นพลังป้องกันที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้”

“ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของสัตว์ขี่ในตำนานจะเป็นของจริงอย่างงั้นสินะ? “

เล้งลั่วและฝานลี่เทียนที่เห็นแบบนั้นก็ได้กล่าวชมเชยออกมา

ลู่โจวเองไม่คาดคิดมาก่อนว่าบี่เอี๊ยนจะมีพลังป้องกันที่ร้ายกาจมากขนาดนี้

มีผู้ฝึกยุทธที่มีพลังขั้นศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่กี่คนในเหล่าสาวกของสำนักแห่งความบริสุทธิ์ที่ออกมาโจมตี พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่ใช้พลังร่างอวตารในการต่อสู้กับบี่เอี๊ยน แม้ว่าจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของพวกเขาแต่ถึงแบบนั้นมันก็เป็นแค่เพียงการยั่วโมโหบี่เอี๊ยนเพียงเท่านั้น สัตว์ขี่ตัวนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว

เหล่าสาวกคนอื่นๆ ที่เห็นแบบนั้นต่างก็ได้หันหลังก่อนที่จะเริ่มวิ่งหนี

เมื่อเหล่าสาวกออกวิ่ง บี่เอี๊ยนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที มันได้ใช้กรงเล็บที่มีกวาดไปที่ผู้ฝึกยุทธคนแล้วคนเล่าที่กำลังวิ่งอยู่ ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายแม้ว่าจะบินหนีก็ตามแต่พวกเขาก็ถูกจัดการจนตกลงสู่พื้น! ผู้ที่ไม่สามารถหลบการโจมตีได้ต่างก็ถูกกรงเล็บของบี่เอี๊ยนเข้าบดขย้ำ

อ๊ากกกกกกกก!

ผู้ฝึกยุทธสองคนได้ถูกกรงเล็บของบี่เอี๊ยนฉีกกระชากร่างกาย

ด้วยพลังความสามารถในการต่อสู้ของบี่เอี๊ยนทำให้ทุกคนในตอนนี้ได้แต่สิ้นหวัง

“หยุดซะ! ” ในตอนนั้นเองมีเสียงอันหนักแน่นได้ดังขึ้นมา

เห็นได้ชัดว่าเจ้าของเสียงที่เพิ่งจะดังขึ้นมาเป็นเสียงของคนที่จะต้องตอบรับลู่โจว เขาคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น คนคนนี้คือม่อฉี เจ้าสำนักแห่งความบริสุทธิ์นั่นเอง แม้ว่าเสียงของเขาจะดังขึ้นมาแต่ในตอนนี้ตัวเขาก็ยังได้แต่ซ่อนตัวอยู่ดี

“เจ้าพวกศาลาปีศาจลอยฟ้าที่ชอบฉวยโอกาส! “

ต้วนมู่เฉิงรีบพูดสาปแช่งขึ้น “ตาแก่ที่แสนจะโง่เขลาเอ๋ย เจ้าไม่คิดว่าตัวเองก็เป็นพวกชอบฉวยโอกาสเหมือนกันอย่างงั้นหรอกหรอ? ในตอนนั้นที่พวกเจ้าเข้าโจมตีภูเขาทองน่ะ? พวกเจ้าเองยังฉวยโอกาสโจมตีผู้อื่นได้ ไหนเลยจึงทนเองแบบนี้ไม่ได้ซะล่ะ? ข้าไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าคนที่น่าสมเพชและต่ำต้อยอย่างเจ้าจะเป็นถึงเจ้าสำนักได้! “

“…” ม่อฉีเคยชินกับความสองมาตรฐานนี้แล้ว ตัวเขามักจะคิดว่ามีเพียงตนเองเท่านั้นที่มีสิทธิ์อยู่เหนือผู้อื่น

เสียงของม่อฉีได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง “ข้ายอมหักดีกว่ายอมงออยู่แล้ว! “

ในตอนนั้นเองเล้งลั่วก็ได้ชี้ไปยังทิศทางหนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาอย่างมั่นใจ “ทางนั้น”

ลู่โจวได้สำรวจทิศทางที่เล้งลั่วชี้ไปก่อนที่จะพูดออกมา “ดูเหมือนเวทมนตร์คาถาจะถูกเปิดใช้งานแล้วสินะ” ตัวเขาได้โบกแขนขึ้น ในตอนนั้นเองบี่เอี๊ยนก็ได้บินขึ้นไปบนอากาศ

ในตอนแรกลู่โจวต้องการที่จะใช้วิซซาร์ด ท้ายที่สุดแล้วพลังที่วิซซาร์ดมีสามารถทำให้พลังเวทมนตร์คาถาที่อยู่ที่นี่อ่อนแรงลงไปได้ แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำแบบนั้น เวลานี้เป็นเวลาที่จะเชือดไก่ให้ลิงดูนั่นเอง

ที่แม่น้ำเรียวบางในตอนนี้มีแต่ฟองอากาศ ฟองอากาศได้ปรากฏเหนือแม่น้ำทั้งสาย

ตู๊ม!

จู่ๆ อะไรบางอย่างก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ในตอนนั้นเองน้ำจากแม่น้ำก็ได้รวมตัวกันก่อนที่จะขึ้นสู่ท้องฟ้านั่นเอง

“ม่อฉีเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเวทมนตร์คาถาด้วยอย่างงั้นหรอ? ” เล้งลั่วได้ถามออกมาอย่างสงสัย

ฝานลี่เทียนได้ออกมาจากสำนักแห่งความบริสุทธิ์มานานแล้ว แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ได้มองไปที่แม่น้ำก่อนที่จะพูดออกมาด้วยความผิดหวัง “ช่างน่าผิดหวังซะจริง! เจ้ากำลังเดินอยู่ในเส้นทางที่ตกต่ำแบบนี้ได้ยังไงกัน ม่อฉี! “

“เส้นทางที่ตกต่ำอย่างงั้นหรอ? “

ฝานลี่เทียนได้อธิบายต่อไป “นี้เป็นเทคนิคแห่งการกลืนกิน มันเป็นเทคนิคที่แสนจะน่ารังเกียจที่สามาถรสูบพลังของผู้อื่นเพื่อเติมเต็มพลังของตัวเองได้! “

ม่อฉีได้กางแขนขึ้นมากลางอากาศ ในตอนนั้นเองเศษหินทั้งหลายก็ได้ลอยอยู่รอบตัวเขา พลังลมปราณที่ทรงพลังกำลังไหลเข้าตัวม่อฉีราวกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก พลังทั้งหมดได้ไหลเข้าสู่จุดตันเถียน

เล้งลั่วที่เห็นแบบนั้นก็ได้คารวะลู่โจวก่อนที่จะพูดออกมา “พวกเราถอยกันเถอะ”

“ถอยอย่างงั้นหรอ? ” ต้วนมู่เฉิงได้ถามออกมาอย่างตกใจ

“หลีกเลี่ยงความเสียหายถือเป็นหนทางที่ดีที่สุดเสมอ” เล้งลั่วได้พูดออกมาอย่างสงบเยือกเย็น

“ข้าเองก็เห็นด้วย” ฝานลี่เทียนพูดต่อ “เมื่อใช้เทคนิคนี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถหยุดพักได้จนกว่าจะต้องตายจากไป แม้ว่าม่อฉีกำลังแย่ แต่ถึงแบบนั้นพวกเราไม่ควรที่จะเสี่ยงกับสุนัขที่จนตรอกหรอกนะ”

คนอื่นๆ ต่างก็จ้องมองไปที่ลู่โจว ในตอนนี้ทุกคนได้รอการตัดสินใจของลู่โจวอยู่

ลู่โจวจ้องไปที่ม่อฉี

เวทมนตร์คาถาได้ถูกเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว เศษซากปรักหักพังทั้งหลายที่อยู่ในสวนต่างก็ถูกพลังงานบางอย่างยกขึ้นจากพื้นดิน พลังทั้งหมดได้โคจรรอบตัวของม่อฉี

ม่อฉีได้ลอยตัวอยู่ที่กลางอากาศ รอบตัวของเขาเป็นเหมือนกับพายุทอร์นาโด

ลู่โจวได้หันไปมองรอบๆ ก่อนที่จะพูดขึ้น “ต้วนมู่เฉิง เจ้าเห็นฝานซงบ้างไหม? “

“ไม่เลยครับ” ต้วนมู่เฉิงส่ายหัวปฏิเสธ

ฝานลี่เทียนยังคงนอนอยู่ที่ขอบรถม้าลอยฟ้า ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่พื้นดินอย่างไม่ละสายตา หลังจากที่มองไปได้สักพักตัวเขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะส่ายหัว

เสียงของม่อฉีได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง “ตั้งแต่ที่พวกเจ้าทุกคนมาที่นี่ ในตอนนี้ก็ไม่มีใครที่จะหนีไปไหนได้อีกต่อไป”

เล้งลั่วได้คารวะลู่โจวอีกครั้ง “เชื่อข้าเถอะ รีบถอยก่อน! “

ลู่โจวส่ายหัว สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ม่อฉีจะใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดได้ ‘ฉันคงจะปล่อยเจ้านี้อยู่ต่อไปอีกไม่ได้ ถ้าหากยังปล่อยมันไว้ เจ้านี้จะต้องสร้างปัญหาแน่ เพื่อช่วยทุกคนและเพื่อประหยัดเวลาฉันจะต้องจัดการเขาที่นี่! ‘ ลู่โจวได้ยกฝ่ามือข้างขวาขึ้นมา ในตอนนั้นเองการ์ดวิเศษก็ได้แตกเป็นเสี่ยงๆ ฝ่ามือของลู่โจวได้โบกสะบัดไปที่ด้านหน้า ฝ่ามือของเขาได้กลายเป็นแสงสีทองก่อนที่จะออกลอยไปบนอากาศ

เมื่อพลังฝ่ามือสุดยอดไร้ความกลัวปรากฏขึ้น ทุกคนต่างก็รู้สึกสบายใจและไม่กลัวอะไรอีกต่อไป!

พลังฝ่ามือของลู่โจวได้ทำลายพลังที่อยู่รอบตัวของม่อฉีไปอย่างง่ายดาย ในขณะที่พลังฝ่ามือสุดยอดไร้ความกลัวพุ่งไปหาม่อฉี เขาคนนี้ก็ยังคงสะสมพลังทั้งหมดที่ได้มาจากพลังโดยรอบตัวต่อไป