ตอนที่ 251 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 22

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 251 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 22
ตอนที่ 251 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 22

“โอ้!” สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้ถามอะไรมากนัก “นายเอาของฝากไปไว้ที่ไหน?”

เธอจดจำเป็ดโกดักได้ ต้องเพียงแค่เนื้อเป็ดเท่านั้น! หึหึ! พอคิดว่าจะได้กินเป็ดย่างแล้วก็อดไม่ได้ที่จะน้ำลายไหล!

“ของฝากเหรอครับ?” ชาร์ลตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนที่จะระลึกขึ้นได้ องค์หญิงสามหมายถึง ‘เป็ดกุนดักสินะ’ แล้วจึงพยักหน้า “มันอยู่ข้างหลังผมครับ!”

เดิมทีเขาจะเอามันใส่เข้าไปในปุ่มมิติกักเก็บ แต่หลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน ไม่ดีกว่า! ควรจะถือไว้ข้างนอกนั่นแหละ!

เขานำของฝากมาส่งให้องค์หญิงสามอย่างซื่อตรง เพราะฉะนั้นจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดไม่ได้!

สวี่หลิงอวิ๋นตะตะลึงไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มตอบสนองเมื่อเห็นรถบรรทุกลอยฟ้าขนาดมหึมาที่อยู่ด้านข้างของเขา

“นายเอามากี่ตัว?” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองรถบรรทุกลอยฟ้าด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะเอ่ยถาม

“กี่ตัว? สามตัว!” ชาร์ลทำท่าชูสามนิ้วและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“สามตัวเชียวเหรอ!” สวี่หลิงอวิ๋นคิดคำนวณว่าไม่สามารถส่งสิ่งของพวกนี้ไปยังสถาบันได้! ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้ว่าเจ้าเป็ดพวกนี้จะเข้าไปอยู่ในกระเพาะของใครบ้าง!

“รีบส่งเป็ดสามตัวนี้กลับไปที่วังซะ!” สวี่หลิงอวิ๋นนึกบางอย่างออกหลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จำนวนคนในวังมีน้อยนิด ไม่ว่าใครจะลงมือทำอะไร เธอก็ย่อมจับได้อย่างแน่นอน!

“ครับ!” ชาร์ลรู้สึกไม่เต็มใจอย่างยิ่ง

ในที่สุดเขาก็ตามหาองค์หญิงสามเจอแล้ว แต่ทำไมถึงยังถูกส่งไปที่วังอีก? แล้วเขาจะทำภารกิจให้ลุล่วงได้อย่างไร?!

“องค์หญิงสาม ผมเอาปุ่มมิติกักเก็บมาด้วย!” ชาร์ลจำได้ว่าตนเองนำบางอย่างติดตัวมาด้วย และรีบนำสิ่งของใส่เข้าไปในปุ่มมิติกักเก็บของเขา ก่อนจะยิ้มกว้างจนเผยให้เห็นฟันขาวซี่ใหญ่

สวี่หลิงอวิ๋นกุมขมับ “ก็ได้ ๆ ฉันจะให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูให้นาย”

ตราสัญลักษณ์ประจำหัวหน้าของสวี่หลิงอวิ๋นออกคำสั่งกับเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูโดยตรง และหุ่นยนต์เจ้าที่เฝ้าประตูก็เปิดประตูให้ชาร์ลเข้าไป

ชาร์ลรู้สึกตื่นเต้นกับการได้กลับมาเยือนที่แห่งนี้

เขาเดินตามไปยังทิศทางขององค์หญิงสามโดยไม่หยุดนิ่ง

ขณะนี้เป็นเวลาขึ้นแสดงของจักรวรรดิเอเดน

นักเรียนจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อยคนจากจักรวรรดิเอเดนอยู่ระหว่างครึ่งทางการขับบรรเลงเพลง นักเรียนมากกว่าครึ่งถึงผลักลงไป มีเพียงนักเรียนในระดับหกดาวหรือมากกว่านั้นที่ยังเหลือรอด

เมื่อบทเพลงดำเนินไปถึงสามนาที นักเรียนจำนวนมากกว่าแปดสิบคนก็ถูกผลักออกไป เฉกเช่นเดียวกับนักเรียนจากจักรวรรดิชิงเหย้า

เด็กหนุ่มยืนหยัดมาถึงจุดจบของบทบรรเลงเพลง

ก่อนจะถูกผลักออกไปเมื่อบทเพลงรอบที่สองขับขานได้เพียงสิบนาที

จากที่พิจารณาดู นอกเหนือจากจักรวรรดิชิงเหย้าแล้ว กลุ่มหัวหน้าจากจักรวรรดิเอเดนนั้นยอดเยี่ยมที่สุด

แลนเซล็อตรู้สึกค่อนข้างพึงพอใจ

เด็กหนุ่มผู้อัจฉริยะดึงดูดความสนใจของบุคคลรอบข้างเช่นกัน พวกเขาเอ่ยถามว่าเด็กคนนี้มาจากไหน แต่งงานแล้วหรือยัง?!

องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตอยู่ในท่าทีนิ่งสงบ เจ้าหน้าที่ผู้ติดตามก็อยู่ในท่าทีนิ่งสงบเช่นกัน

“เด็กหนุ่มที่คุณพูดถึงน่ะเหรอ? ก็เป็นลูกชายของน้องชายท่านจักรพรรดิยังไงล่ะ!”

สมาชิกราชวงศ์อีกคนสินะ!

วินเซอร์กำลังรู้สึกกระสับกระส่าย

ผู้คนรอบข้างกำลังพูดคุยกันถึงสุดยอดอัจฉริยะอย่างสวี่หลิงอวิ๋น

แม้ว่ามารยาทของเธอจะไม่ได้โดดเด่น รูปลักษณ์ไม่ได้อยู่ในระดับสูงส่ง แต่ในสายตาของเจ้าหน้าที่ผู้ติดตามทั้งหลาย เธอคือแบบอย่างที่สามารถเชื่อมต่อกับองค์ชาย องค์ชายรัชทายาท หรืออื่น ๆ ได้

วินเซอร์คิดมาตลอดว่าเธอคือดวงดาวที่เจิดจรัสที่สุดในบรรดาองค์หญิงทั้งหลาย ทว่าตอนนี้เธอค้นพบแล้วว่าไม่ใช่แค่เธอ!

องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตถึงกับอุทิศตัวในการตรวจสอบความสามารถที่โดดเด่นของแต่ละจักรวรรดิ ถึงกับเปิดคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมาวาดภาพและจดรายละเอียด

เจ้าหน้าที่ทั้งหลายกำลังพูดคุยเกี่ยวกับการดึงตัวอัจฉริยะพวกนั้นเข้ามา และบางคนถึงกับเรียกร้องนโยบายเกี่ยวกับความสามารถของทางจักรวรรดิ และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

เธอไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้เลย!

องค์ชายไคกีเองก็ยืนอยู่กับเจ้าหน้าที่ของจักรวรรดิเหมยรุ่ย และพูดคุยเกี่ยวกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

“ว่ากันว่าจักรวรรดิชิงเหย้าได้พัฒนาเกราะป้องกันพลังจิตให้กับเครื่องจักรกลใช่ไหม? ไม่รู้ว่าของพวกนั้นราคาเท่าไหร่บ้าง? พอจะขายให้ได้ไหม?”

สำหรับการถ่ายทอดนวัตกรรมทางเทคโนโลยีย่อมไปเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ใครจะใจกว้างพอที่จะเต็มใจถ่ายโอนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดให้อย่างง่ายดาย?

“ถ้าเกิดมีเทคโนโลยีแบบนั้นจริง ก็ให้นักการทูตและคนจากฝ่ายเทคนิคไปเจรจาซะ” องค์ชายไคกีรู้สึกสนใจเป็นอย่างมากทันทีที่ได้รู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีอันใหม่ล่าสุด และเอ่ยปากของเจ้าหน้าที่ผู้ติดตามติดต่อกับทางจักรวรรดิให้ส่งคนมาเจรจา

เหตุไฉนเขาถึงไม่เจรจาด้วยตนเอง…นั่นเป็นเพราะเขามาเยี่ยมญาติ

นอกจากนี้ ควรปล่อยให้คนเป็นมืออาชีพจัดการเสีย!

วินเซอร์ยังคงนั่งอยู่นาน และรู้สึกลุกนั่งไม่ติด

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่ามีใครบางคนมาสัมผัสหัวไหล่ของเธอ เธอรู้สึกตกใจและหันไปเห็นว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องที่นั่งอยู่ด้านข้างเธอ

เมื่อเห็นอีกฝ่ายมองมาที่เธอ เธอก็เอื้อมมือออกไปจับคางของอีกฝ่าย “โย่ คนสวย ทำไมทำหน้าเศร้าจังล่ะ? ฮ่า ๆ! นายน้อยจะเล่นกับพี่เอง!”

“ทำอะไร!” วินเซอร์ปัดมือที่ชั่วร้ายของสวี่หลิงอวิ๋นออก และร้องตะโกนขุ่นเคือง

ถึงแม้ว่าปากจะบอกว่ารังเกียจ แต่ในใจกลับรู้สึกผ่อนคลาย

ในที่สุดก็มีคนมาคุยกับเธอสักที! ถึงแม้ว่าลูกพี่ลูกน้องจะดูอันธพาลไปหน่อย แต่กลับช่วยแก้ไขความงุ่มง่ามของเธอได้

“น้องมาที่นี่ทำไม? ไม่ไปคุยกับคนพวกนั้นเหรอ?” วินเซอร์กล่าวถึงเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ดวงตาเป็นประกาย เจ้าหน้าที่เหล่านี้จับตามองสวี่หลิงอวิ๋นเป็นเวลานานราวกับว่าเธอเป็นขนมหวาน

“จะคุยกับพวกเขาเรื่องอะไรล่ะ?” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวออกไปอย่างเหลืออด “ฉันไม่ได้มีแผนจะโยกย้ายสักหน่อย แล้วฉันจะไปคุยอะไรกับพวกเขาได้? อีกอย่างจักรวรรดิของพวกเขาไม่เห็นจะมีหนุ่มหล่อให้เล่นด้วยเลย”

“ถ้าน้องอยากตามจีบหนุ่มหล่อนัก ยังไงพวกเขาก็จะสรรหาให้น้องได้เลือกตามใจชอบอยู่ดี!” วินเซอร์กลอกตา

“โอ้! พี่วินเซอร์คืบหน้าแล้วสินะ! รู้วิธีการกลอกตาด้วยแฮะ!” สวี่หลิงอวิ๋นตะโกนด้วยความประหลาดใจราวกับว่าเธอได้ค้นพบทวีปใหม่

“คืบหน้าอะไร!” วินเซอร์รู้สึกอายเล็กน้อย! เธอไม่สามารถสงวนท่าทีการกลอกตาได้! แน่นอนว่าเธอเป็นคนจำพวกซึมซับท่าทีจากคนรอบข้าง หลังจากอยู่กับลูกพี่ลูกน้องมานาน มารยาทอันดีงามของเธอก็ค่อย ๆ จางหายไป!

“แล้วพวกเขาหล่อเท่าโอคาซีหรือเปล่าล่ะ?” สวี่หลิงอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อนึกถึงภาพชายหนุ่มรูปงามที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเมื่อคืนนี้

แฟนหนุ่มของเธอน่ารักที่สุดในจักรวาล! เขาจะรู้สึกตื่นตระหนกทุกครั้งทันทีที่ที่เห็นเธออยู่กับองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อต ฮิฮิ!

ลูคัสพบกับหญิงสาวที่เขากำลังมองหา!

สวี่หลิงอวิ๋นกับวินเซอร์นั่งข้างกัน คนหนึ่งสง่างาม ส่วนอีกคนหนึ่งมอมแมม

“สวัสดีครับ!” ลูคัสมองดูหญิงสาวที่อยู่ด้านหน้าเขา และเขารู้ดีว่าหญิงสาวคนที่อยู่ตรงหน้าคือองค์หญิงสามจากจักรวรรดิชิงเหย้า!

สวี่หลิงอวิ๋นเหลือบมองเล็กน้อย และพบว่าชายหนุ่มกำลังยืนอยู่ด้านหน้าเธอ

“โย่ หนุ่มหล่อจากอีโน่นั่นเอง! มานั่งก่อนสิ!” สวี่หลิงอวิ๋นชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างเธอ และยกยิ้ม

ลูคัสขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะจ้องมององค์หญิงที่อยู่ด้านหน้า

องค์หญิงสามเป็นคนที่มีบุคลิกเฉพาะตัว! ผมของเธอเป็นสีบลอนด์ทอง นัยน์ตาสีดำ หางตาเชิดขึ้นเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณอันแรงกล้าของเธอ