บทที่ 305 อุปกรณ์สามชิ้น

บทที่ 305 อุปกรณ์สามชิ้น

กองกำลังที่โฉวหย่งเชาฟูมฟักขึ้นมาได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ บรรดาผู้ต่อต้านถูกพวกอู๋ฝานสยบเอาไว้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ส่วนคนที่เหลือรอดนั้น พวกเขาต่างคุกเข่าลงกับพื้นยอมจำนน เดิมมีคนที่คิดจะหลบหนีมีจำนวนไม่น้อย แต่หนิวเอ้อกับหลี่ว์ปินได้รับคำสั่งจากชายหนุ่มก่อนแล้ว กล่าวว่าไม่จำเป็นต้องฆ่าให้มากเกินไป เแค่ขัดขวางเส้นทางและปิดกั้นทางหนีเอาไว้ ทำให้มีผู้หลบหนีไปได้จำนวนไม่มาก

จากนี้คือช่วงสะสางสมรภูมิสู้รบ พวกหนิวเอ้อนำเชลยและผู้บาดเจ็บกลับไปยังลานกว้างของหมู่บ้านเพื่อรักษา

ส่วนอู๋ฝานไปสำรวจบริเวณพื้นที่สู้รบ

กองทัพกบฏในสายตาของคนอื่น ก็เป็นเพียงแค่กองทัพกบฏ เพียงแต่สำหรับอู๋ฝาน คนเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับมอนสเตอร์ ที่สามารถสังหารเพื่อตักตวงค่าประสบการณ์ได้ หลังฆ่าตาย ยังมีความเป็นไปได้ซะด้วยซ้ำที่จะดร็อปอุปกรณ์ออกมา

ค่าประสบการณ์ย่อมไม่ใช่สิ่งที่อู๋ฝานคาดหวัง ความยากลำบากของการเพิ่มเลเวลในโลกแห่งนี้ชายหนุ่มทราบดีแก่ใจมานานแล้ว แม้จะสังหารคนไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงโฉวหย่งเชาในระหว่างการศึกแล้วก็ตาม แต่ค่าประสบการณ์ที่ได้รับ ก็ยังไม่มากพอที่จะให้เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นไปเป็นเลเวลเก้า

ทว่าตอนนี้ก็ไม่ได้ไกลจากจุดที่สามารถเพิ่มเลเวลได้สักเท่าใด

ในเมื่อไม่ได้หวังเพิ่มเลเวล อู๋ฝานย่อมคาดว่าจะมีใครดร็อปไอเทมอะไรสักอย่างไว้ อย่างไรด้วยพรจากจี้หยกกระเรียนขาว ก็ช่วยเพิ่มอัตราการดร็อปไอเทมมากถึงสองในสิบส่วน

คนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดว่าจะดร็อปไอเทมออกมา ก็ต้องเป็นหัวหน้าของกลุ่มคนอย่างโฉวหย่งเชา ดังนั้นอู๋ฝานจึงตรงไปยังร่างของอีกฝ่ายทันทีที่การต่อสู้จบลง

ร่างของโฉวหย่งเชามีสภาพไม่ค่อยน่ารับชม นอกจากบาดแผลโดยลูกธนูและรอยกระบี่ทิ่มแทงของอู๋ฝาน ร่างนั้นยังปรากฏร่องรอยเหยียบย่ำจำนวนมาก ร่างกายเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ดิน และโคลน

อู๋ฝานพยายามยับยั้งความคลื่นไส้ในใจเอาไว้ ก่อนจะขยับร่างโฉวหย่งเชาให้พ้นทาง เพื่อที่จะได้สำรวจพื้นที่ใต้ศพ

และผลลัพธ์ก็ไม่ทำให้อู๋ฝานผิดหวัง เขาได้พบของหลายชิ้น

[ป้ายอัญเชิญ ระดับทองแดง สามารถอัญเชิญทหารกบฏ 5 คนเพื่อต่อสู้ สิ่งมีชีวิตอัญเชิญจะคงสภาพอยู่ได้ 5 นาที ระยะเวลาคูลดาวน์ 2 ชั่วโมง]

[ขาห่วงโซ่ เคล็ดวิชาตัวเบา (เทียบเท่าระดับโลกาของโลกความเป็นจริง) ประกอบด้วย 13 ขั้น | ขั้นที่ 1 เพิ่มความเร็ว 50% เพิ่มพละกำลัง 50% | ทุกขั้นที่เพิ่มขึ้น ความเร็วและพละกำลังจะเพิ่มขึ้นขั้นละ 10%]

[ยันต์เทเลพอร์ตกำหนดจุดหมาย สามารถใช้เพื่อกำหนดจุดหมายการเทเลพอร์ต (จุดหมายการเทเลพอร์ตจะต้องเป็นสถานที่ซึ่งผู้เล่นเคยไปมาแล้ว) และผู้เล่นสามารถทำการเทเลพอร์ตได้ในทันที จุดหมายการเทเลพอร์ตสามารถเป็นที่ใดก็ได้ (หมายเหตุ ผู้เล่นเลเวล 1 สามารถกำหนดจุดหมายการเทเลพอร์ตได้ 1 ตำแหน่ง หลังทุก 10 เลเวลจะสามารถเพิ่มจุดหมายการเทเลพอร์ตได้อีก 1 ตำแหน่ง จุดหมายการเทเลพอร์ตในโลกความเป็นจริงและในโลกแห่งเกมจะไม่ทับซ้อนกัน และสามารถเปลี่ยนจุดหมายการเทเลพอร์ตได้ 2 ครั้ง/วัน)]

ของดี!

เป็นของดีทั้งนั้น!

อู๋ฝานดวงตาเป็นประกายประหนึ่งหลอดไฟในตอนที่เห็นไอเทมทั้งสามชิ้น ของเหล่านี้ได้รับจากความตายของโฉวหย่งเชา ไม่ว่าชิ้นใดต่างก็ถือเป็นของดีทั้งสิ้น โดยเฉพาะกับสองชิ้นหลัง

บทบาทของป้ายอัญเชิญนั้นอู๋ฝานเข้าใจมานานแล้ว เพียงพกมันเอาไว้ ก็เทียบเท่ากับมีบอดี้การ์ดส่วนตัวพร้อมสนับสนุนในทุกเมื่อ แทบจะเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้เขาเลยก็ว่าได้

ส่วนที่ทำให้อู๋ฝานรู้สึกไม่ประทับใจไปบ้าง นั่นคือความแข็งแกร่งของทหารกบฏ หากเทียบกับนักรบโลกอสูรหรือว่ามอนสเตอร์ มันถือว่ายังห่างไกล

“แต่ก็เอาเถอะ ได้ก็ดีกว่าไม่ได้ ถ้าติดอาวุธและชุดเกราะดี ๆ ให้ ก็น่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ได้บ้าง” อู๋ฝานครุ่นคิดอยู่ในใจ

ทั้งนักรบโลกอสูรและมอนสเตอร์ต่างก็แข็งแกร่งขึ้นเพราะการผสานกันของป้ายอัญเชิญ ดังนั้นทหารกบฏก็ควรทำเช่นเดียวกันได้

ตำราวิชาขาห่วงโซ่ สำหรับอู๋ฝานมันถือเป็นวิชาเสริมการต่อสู้ที่ดี เป็นวิชาที่เขารู้สึกชอบไม่น้อย

วิชายอดศัสตราวุธที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ก็นับว่าเป็นของดี แต่อู๋ฝานไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ ชายหนุ่มไม่ชอบวิชาดาบ เพราะในโลกความเป็นจริง เขาไม่อาจพกพาดาบไปไหนมาไหนได้ แต่วิชาขาห่วงโซ่ไม่ใช่ มันสามารถใช้ขาเพื่อโจมตี จึงไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ ทั้งยังสามารถเก็บซ่อนไว้ได้อย่างแยบยล พละกำลังก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าวิชายอดศัสตราวุธ

แต่ที่ยังไม่ทราบคือ ไม่รู้เพราะอู๋ฝานในโลกความเป็นจริงเข้าไปเกี่ยวข้องกับบรรดาผู้ฝึกตนเข้าหรือไม่ ตอนที่ใช้วิชาตรวจสอบครั้งนี้ มันถึงกับแสดงการแบ่งระดับวิชาขาห่วงโซ่เปรียบเทียบกับโลกความเป็นจริงออกมาด้วย และระดับของมันก็ไม่ใช่ต่ำเตี้ย แต่เป็นถึงระดับโลกา มากพอแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของตัววิชา

ตอนงานปาร์ตี้วันเกิดของถังอวี่เฟย อู๋ฝานเพียงแค่นำวิชายอดศัสตราวุธที่เป็นระดับลึกล้ำออกมา ก็สร้างความตกใจให้กับผู้อาวุโสสำนักล้ำสวรรค์และผู้อื่นได้แล้ว ครั้งนี้ได้รับวิชาระดับโลกามาครอง ในโลกความเป็นจริงย่อมเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งกว่า เท่าที่ชายหนุ่มทราบ ทั่วทั้งสำนักล้ำสวรรค์มีเคล็ดวิชาระดับสูงสุดอยู่ที่ระดับโลกา อีกทั้งยังมีสำเนาเพียงแค่สองฉบับ!

จึงเชื่อว่าตำราวิชาขาห่วงโซ่นี้ หากมันปรากฏในโลกความเป็นจริง ย่อมสร้างความปั่นป่วนได้ครั้งใหญ่

แต่อู๋ฝานไม่คิดใช้ตำราวิชานี้เพื่อสร้างความวุ่นวายอะไรอยู่แล้ว หลังอ่านคำแนะนำเบื้องต้นของไอเทมเสร็จเรียบร้อย เขาก็เลือกที่จะตกลงเรียนรู้มันทันที ถัดจากนั้น ตำราวิชาจึงกลายเป็นธารแสงไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของชายหนุ่ม ทำให้เขาได้เรียนรู้วิชาขาห่วงโซ่ได้ในชั่วพริบตา แต่เป็นเพียงแค่ขั้นที่หนึ่ง

มันคือความได้เปรียบของการเป็นผู้เล่น ตราบใดที่ได้รับตำราวิชามาครอบครอง อู๋ฝานก็ไม่จำเป็นต้องอ่านท่องจำเพื่อเรียนรู้ ทั้งยังไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องพรสวรรค์ เขาสามารถเรียนรู้มันได้ทันที จากที่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวข้องกับมัน ขอเพียงเรียกใช้งานบ่อย ๆ ก็สามารถรีดเค้นประสิทธิภาพของมันออกมาให้ได้มากยิ่งขึ้น

หากคนอื่นทราบว่าอู๋ฝานสามารถเรียนรู้เคล็ดวิชาใด ๆ ก็ตามได้ง่าย ๆ ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะอิจฉาจนคลุ้มคลั่งเช่นไร

ส่วนไอเทมชิ้นที่สามจากโฉวหย่งเชา มันมีทั้งประโยชน์และความสำคัญกับอู๋ฝานอย่างเห็นได้ชัด

ไม่ว่าจะที่โลกความเป็นจริงหรือว่าโลกในเกม ต่างก็มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล อู๋ฝานจำเป็นต้องใช้เวลาเดินทางจากที่หนึ่งสู่อีกที่หนึ่งนานมาก แต่ด้วยยันต์เทเลพอร์ตกำหนดจุดหมาย มันจะช่วยประหยัดเวลา แม้การใช้งานจำเป็นต้องกำหนดจุดหมายปลายทางที่เขาเคยไปมาแล้ว ถึงมีข้อจำกัดดังกล่าว ก็หาได้เป็นการลดคุณค่าของมันลงไป

เพิ่มเลเวล ต้องเพิ่มเลเวล!

หลังอู๋ฝานอ่านคำแนะนำของยันต์เคลื่อนย้ายกำหนดตำแหน่งเรียบร้อย จึงตั้งมั่นอยู่ในใจว่าจะต้องหาทางเพิ่มเลเวลให้มากขึ้น เห็นได้ชัดว่ายันต์เทเลพอร์ตกำหนดจุดเคลื่อนย้ายนี้ มันสามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ จำนวนจุดหมายที่สามารถเทเลพอร์ตได้นั้นจะสัมพันธ์กับเลเวลของเขา จึงเป็นอีกครั้งที่เลเวลกลับมามีบทบาทสำคัญ

เมื่อรวมเข้ากับเรื่องความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตอัญเชิญจากป้ายอัญเชิญ จะสัมพันธ์ไปตามเลเวลของเขาด้วยแล้ว เลเวลจึงยิ่งมีบทบาทที่สำคัญยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ

[ติ๊ง]

เสียงจักรกลอันคุ้นเคยดังในหูของอู๋ฝาน เมื่อได้ยินเสียงดังกล่าว ชายหนุ่มก็พอจะทราบได้ว่าจากนี้มันจะแจ้งอะไร

[ตรวจสอบพบไอเทมสองชิ้นในกระเป๋าหลังที่สามารถผสานเข้าด้วยกันได้ ต้องการผสานหรือไม่]

เหมือนที่คิดเอาไว้ เมื่อป้ายอัญเชิญอีกหนึ่งไปวางรวมกัน ข้อความเสนอการผสานจึงปรากฏขึ้น เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้ว อู๋ฝานจึงไม่ลังเลที่จะตอบรับในทันทีที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือน

ผสาน!