–วันต่อมา–

ไม่สามารถต้านบรรยากาศช้าๆผ่อนคลายๆที่ลอยอยู่ทั่วข้างในยาน ผมผ่อนคลายบนโซฟาข้างในพื้นที่พัก มีมี่นั่งอยู่บนพื้นใต้ผม พิงท้องผม ระหว่างพี่น้องช่างขนาบผมสองข้าง พูดถึงสาวๆ เมย์กำลังกอดคอผมหลังโซฟา ดังนั้นเองที่รู้สึกนุ่มใส่หัวค่อนข้างดี

“……ไม่ใช่พวกเธออึดอัดกันเหรอ?

เอลม่า ที่กำลังดื่มเบียร์ตอนกลางวันเหลือกตาใส่ตอนเธอนั่งห่างจากเรานิดหน่อย

“เอ่อ ไม่อ่ะ”

“มันเพราะดิฉันปรับความร้อนให้สบายสำหรับท่าน นายท่าน”

ถูกต้้อง ร่างเมย์โดนหลังหัวและคอผมเย็นสดชื่น มันดูเหมือนระบบทำความเย็นที่อยู่ในตัวกำลังวิ่งเต็มที่ อย่างที่คาด เธอเป็นแม่บ้านสมบูรณ์แบบ เธอทำอะไรที่แม่บ้านปรกติทำไม่ได้

พูดถึงเรา ตอนนี้เรากำลังปาร์ตี้ดูหนังเก่าข้างในพื้นที่พักโดยใช้ชิปข้อมูลที่ผมเก็บๆมา มันดูเหมือนมีหนังผีอยู่เยอะข้างในและตอนดูชิปข้อมูลอันนี้ที่เราลอง เราทั้งหมดเรียงแถวกันบนโซฟาแล้วดูกันปรกติธรรมดาตอนแรก แต่ก่อนรู้ตัว พวกเธอติดผมหนึบ

พูดถึงตัวหนัง หนังที่กำลังเล่นเป็นหนังผีแบบทำให้อารมณ์ค้างเหมือนผีจะออกหรอไม่ซึ่งในหนังลูกเรือยานอวกาศถูกฆ่าทีละคนระหว่างเดินทางเส้นทางอวกาศขั้นสูงสุด

ลูกเรือที่เหลือสงสัยกันเองว่าเป็นฆาตกร ในตอนท้าย พวกเขาจัดโหวต คนนั้นที่โดนโหวตมากที่สุดถูกโยนออกไปนอกเส้นทางอวกาศขั้นสูงสุด และแน่นอน ถ้าคนหนึ่งแหลมหน้าออกไปในเส้นทางอวกาศขั้นสูงสุดนอกยาน คนนั้นจะตายหรือถูกตีว่าหายตัว โดยไม่มีผู้ใดรู้ชะตาสุดท้าย

“ฆาตกรควรเป็นคุณน้ำเงิน เขาพิสูจน์ตัวเองเกินไปว่าเขาไม่ใช่ฆาตรนะ”

“หืมม พี่ไม่คิดว่ามันคุณเขียวเป็นเหรอพี่สาว? เพราะคุณน้ำเงินอยู่กับคุณดำเมื่อฆาตกรรมครั้งสุดท้ายถูกมั้ยล่ะ?”

“แต่ไม่ใช่มันน่าสงสสัยที่คุณดำตั้งใจมากอยากลดจำนวนลูกเรือหลังคุณม่วงโดนไล่ไปเหรอ?”

“ใช่ มันรู้สึกจริงเหมือนเขาจะไล่ลูกเรือคนอื่นแหลกเลย เขาปิดปากเมื่อคุณม่วงถูกไล่ออกจากยาน แต่มันดูเหมือนเขาซ่อนรอยยิ้มแทนจะเศร้าเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด”

“เธอสังเกตรายละเอียดเล็กๆด้วย…… ฉันไม่เห็นรู้สักนิดเลย”

“ไม่ใช่เพราะเธอเมาเบียร์แล้วเหรอไง……?”

คุณน้ำเงิน, คุณเขียว ละคุณดำเป็นชื่อตัวละคร หรือพวกมันเป็นชื่อในช่องสัญญาณ จริงๆแล้วมันจำค่อนข้างง่ายเพราะพวกเขาทั้งหมดใส่เครื่องแบบที่สีเหมือนชื่อรหัส

พูดถึงเมย์ เมย์ไม่เข้าเล่นบทนักสืบมือใหม่กับเราตอนเราตัดคนผิดจริงออกไป เพราะเมย์วิเคราะห์อะไรแบบนี้จริงจัง มีโอกาสดีที่เธอแก้ความลึกลับทันทีได้

พูดถึงพวกเขา ปรากฏว่าตอนพวกเขาเหมือนกำจัดคนผิดจริงได้ระหว่างโค้งสุดท้ายของหนัง มันเปิดมาว่ามีคนทรยศอีกคนในพวกเขา ฉากสุดท้ายให้เห็นฆาตกรกำลังฆ่าลูกเรือที่เหลือทีละคน หนังจบระหว่างฆาตกรไร้สีหน้าเดินออกไปพร้อมอาวุธในมือจะไปเก็บลูกเรือที่รอดคนสุดท้าย

“คุณดำเป็นคนทรยศเหมือนฮิโระซามาะว่าเลย”

“นั่นดี พวกเขาทำให้เห็นคุณเขียวเป็นตัวร้ายชัดที่คนที่เหลือกำจัดได้หลังช่วยต่อสู้ เพือแค่หักมุมตอนท้ายสุด”

“ฉากที่ลูกเรือฆ่ากันเองน่ากลัวอ่ะ และการร้องขอชีวิตของคนถูกไล่ก็สวมบทดีด้วย”

“บางทีพวกเขาถูกโยนออกเส้นทางอวกาศขั้นสูงสุดจริงระหว่างถ่ายทำรู้มั้ย และนั่นทำให้ทำไมมันสมจริงมาก”

“อย่ามาพูดบางอย่างน่ากลัว หนูขนลุก”

มันไม่ใช่หนังทำมือรู้ไหม…… อืม อุปกรณ์ถ่ายทำในในโลกนี้พัฒนาไปได้ไกลแล้ว ดังนั้นมันไม่ได้โยนไกลที่จะคิดว่าอะไรที่เรากำลังดูไม่ใช่หนังแต่เป็นเหตุการณ์จริงถูกตัดต่อ ไม่ว่าแบบไหน ตัดสินจากเครดิต นี่คือหนังแน่……

โอ๊ะ และผมก็ชอบฉากหลุดที่มาตอนเครดิตด้วย ใช่แล้ว

“เรื่องต่อไปอะไรเหรอ?”

“เอ่อ…… ชื่อเรื่อง ‘สยอง! แมงมุมอวกาศ!’ เห็นว่าน่ะ”

“ตัดสินจากชื่อเรื่องนะ มันเป็นหนังเกรด B งบต่ำ…… อีกที ฉันได้กลิ่นหนังเกรด C”

“บอกได้ไงโดยไม่ดูสักนิดก่อนพี่สาว?”

“อืม หนูไม่เก่งกับสัตว์น่ากลัวที่คลานหลายๆขาอ่ะ พูดตรงๆ……”

“เมื่อคิดดูแล้ว น้องตะโกนลั่นเมื่อเห็นกุระกลับไปเมื่อตอนเราหลงป่า ไม่ใช่เหรอมีมี่?”

กุระที่เอลม่าพูดถึงเป็นแมลงในรีฟิลที่สี่ มันใหญ่เท่างูลายสาบดอกหญ้าและคล้ายตะขาบ มันคลานไวมากโดยใช้หลายขา เหมือนตะขาบกลับไปที่โลก แต่เห็นว่ามันเป็นสัตว์มีประโยชน์ที่ไม่กัดคนหรือเอลฟ์ มันจะล่าสัตว์มีพิษในป่าแทน แต่ผมก็ไม่ไหวด้วยเหมือนกันเพราะมันน่าขยะแขยงสุดๆ

พูดถึงสิ่งน่าขยะแขยง หนังที่เพิ่งคุยกันจริงๆแล้วเป็นหนังรักข้ามสายพันธุ์ระหว่างตัวเอกมนุษย์และแมงมุมอวกาศ และปลอมตัวเป็นหนังสยองขวัญ ฉากที่พระเอกเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยแมงมุมอวกาศหญิงจากลูกเรือที่เหลือดูแล้วประทับใจมากๆ

พูดถึงหนังอีกครั้ง ตัวละครมนุษย์ทั้งหมดที่ไม่ใช่พระเอกตาย และเขาแม้แต่ทำการ ‘ตกผลึกแห่งรัก’ กับแมงมุมอวกาศหญิงในตอนจบ แค่อะไรกันที่จะออกมาเมื่อไข่ฟัก……?

“มันรู้สึกเหมือนนี่จะโผล่ในฝันสักพัก……”

“เอ่อ…… โทษนะ อย่างน้อยพวกเขารักบริสุทธิ์ถูกป่ะล่ะ?”

“……ก็แง่หนึ่งล่ะมั้ง”

“เธอพูดว่ารัก แต่พวกเธอไม่เป็นไรที่อัดกันแบบนั้นเหรอ? มันดูแน่นมากรู้มะ”

“ใช่ฉันสงสัยด้วยคน”

“หนังน่าสนใจ ดิฉันอยากลองดูเมื่อมีโอกาสจังค่ะ”

เมย์จ๋า มันไม่ได้ฟังดูเหมือนมุขเมื่อเธอพูด ดังนั้นหยุดเลย ฉันจริงจังเลย

“นายท่าน ผู้ดูแลระบบดาวพื้นที่ของรีฟิลอนุญาตให้ลงดาวที่รีฟิลที่สี่แล้ว

“จริงเหรอ? นั่นเร็วกว่าที่คาด เราลงเลยมั้ยถ้าอย่างนั้น”

แต่เดิมผมมีแผนที่จะลงเองในท่ายานอวกาศเผ่าโรสด้วยกฤษณะ แต่ผมเปลี่ยนใจและตัดสินใจว่าเราจะลงที่ท่ายานผสมที่เราใช้ก่อนหน้าด้วยบัวดำ

ส่วนใหญ่เพราะแมรี่ ผมตัดสินว่าถ้าแยกกันมันอันตราย ผมไม่คิดว่าพวกเธอจะเคลื่อนไหวใส่เราได้ง่าย แต่พวกเธออาจใช้วิธีที่ผมไม่ได้คาด ดังนั้นเอง กันเหนียวไว้ก่อน มันดีกว่าที่จะลงดาวด้วยบัวดำแทนกฤษณะ

เพราะถ้าเราตัดสินใจที่จะลงดาวด้วยกฤษณะลำเดียว เราจะต้องทิ้งบัวดำไว้ในโคโลนีรีฟิลไพร์ม เราจะแค่มอบโอกาสให้พวกเขาบุกบัวผ่านบางวิธี เพราะไม่สำคัญว่าเราเพิ่มมาตรการความปลอดภัยแค่ไหน ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะไม่มีช่องโหว่ที่พวกเขาชิงเปรียบได้

“ส่วนตัวฉันว่าเธอระวังเกินไป”

“ระวังเกินไปยังดีกว่าแม้สุดท้ายไม่มีอะไร นอกจากนี้ ศัตรูอาจถอยหลังจากเห็นเราระวังเยอะ”

ปัญหาคือการลงดาวในท่ายานทั่วไปผสมที่อาจเต็มไปด้วยเผ่ากราโดและเผ่ามินฟาอีกแล้ว…… อืม ครั้งนี้เรามาคืนเมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์และไปหาญาติเอลม่า ผมแน่ใจว่าเดี๋ยวเขาก็ปล่อยเราถ้าถามดีๆ ใช่

มั้งแหละ