ตอนที่ 109: ผมขยะแขยงคุณมากกว่าอีก 2
ในตอนนั้นเอง ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาและมองหน้าเสี่ยวเฉิง “เจ้าหน้าที่เสี่ยวเฉิง?”
เสี่ยวเฉิงพลันหันหลัง อันที่จริง เขาจําชายคนนี้ได้ ชายคนนี้เป็นหนึ่งในนักพนันมือโปรที่ติดห้าอันดับแรกของโลก เขาคือไมค์ที่หลี่เชาว์พูดถึงก่อนหน้า ถึงกระนั้น เสี่ยวเฉิงก็พลันแสร้งทําเป็นสับสน
ทันใดนั้น เซินเหยาก็ใช้โอกาสนี้เพื่อเดินห่างออกไป
เสี่ยวเฉิงมองไปยังไมค์ด้วยความสงสัยและถามขึ้น “อะไรนะครับ?”
ไม่นานนัก นายน้อยฉันก็พลันเดินเข้ามาและเผยยิ้ม “เจ้าหน้าที่เสี่ยวเฉิง ไม่รู้จักนักพนันระดับโลกอย่างคุณไมค์ได้ยังไงกัน?”
“ทําไมล่ะ? ฉันควรรู้จักเขาหรือยังไง? อีกอย่าง พ่อแม่ที่ไหนอยากให้ลูกตัวเองผูกมิตรกับนักพนันกัน? เอ่อ… คุณไมค์ครับผมขอโทษด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่าคุณนะ ผมแค่อยากจะสื่อกับคุณฉันว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าถ้ามนุษย์เราตั้งใจทํางานหนักและยืนอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องอย่าคิดแต่จะรวยทางลัดเสมอไป”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของไมค์และนายน้อยฉันพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทั้งสองไม่คาดคิดเลยว่าเสี่ยวเฉิงจะพูดจาตรงไปตรงมาขนาดนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ อย่างน้อย คนอื่นก็คงจะพยายามใช้คําพูดอ้อม ๆ แต่ทว่าเสี่ยวเฉิงกลับพูดจาขวานผ่าซากออกมาเลย
ไมค์พลันวางแก้วไวน์ลงและมองไปยังเสี่ยวเฉิง “คุณเสี่ยวเฉิงครับ คุณคิดว่าการพนันเป็นเหมือนการหลอกลวงงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้น ผมขอถามหน่อยเถอะ เจ้าหน้าที่ตํารวจอย่างคุณสามารถหาเงินได้เท่าไหร่กันล่ะ?”
เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับ “ก็ไม่เยอะมากเท่าไหร่หรอกครับ แค่เดือนละสามหมื่นหยวนเอง”
ทันใดนั้น ไมค์ก็พลันตอบกลับด้วยความรังเกียจ “ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะดูถูกผมแบบนั้น! คุณรู้อะไรไหม? ผมได้เงินเดือนละหนึ่งแสน หน่วยเป็นดอลลาร์นะ ไม่ใช่หยวน! ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณรู้สึกว่าตัวเอง เหนือกว่าขนาดไหนถึงได้กล้าพูดกับผมแบบนั้น อันที่จริงพูดตามตรงเลย ผมค่อนข้างผิดหวังกับเมืองนี้และ ทัศนคติของคุณนิดหน่อยนะ”
เสี่ยวเฉิงพลันหัวเราะ “ถ้าอย่างนั้น ผมก็คงจะตอบกลับได้แค่อย่างเดียว… ใครก็ตามที่จ้างคุณมาที่นี่คงต้องตาบอดแน่! ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณเอาความมั่นใจผิด ๆ มาจากไหนกับเรื่องเงินเดือนที่สูงขนาดนั้น หรือเป็นเพราะว่าคุณแค่เล่นพนันเก่ง? แค่นั้นเหรอที่ทําให้คุณมั่นใจในตัวเองขนาดนี้?”
ไมค์พลันตอบกลับ “ใช่… ถ้าเรานั่งอยู่หน้าโต๊ะโป๊กเกอร์ ผมก็จะปั่นหัวคุณ และถ้าคุณกล้าลองดี คุณก็จะต้องสูญเสียทุกอย่าง แน่นอน สําหรับนักพนันมือใหม่ที่เอาแต่คุยโม้โอ้อวดอย่างกับเป็นนักเลงคีย์บอร์ด มันก็ไม่ควรค่าที่จะให้ความสนใจขนาดนั้น… แม้ว่าคุณจะพูดจาดูถูกและเหยียดหยามผม แต่ขอบอกไว้เลยผม ขยะแขยงคุณยิ่งกว่าอีก!”
ทว่า นายน้อยฉันก็พลันพูดกับไมค์ “คุณไมค์ครับ ผมคิดว่าสาเหตุที่กัปตันเสี่ยวเฉิงกล้าพูดจาอวดดีออกมา แบบนั้นน่าจะเป็นเพราะเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว เขาสามารถเปลี่ยนเงินหนึ่งร้อยหยวนเป็นหนึ่งแสนหยวนได้ภายในสามสิบนาทีน่ะครับ ผมคิดว่าความสําเร็จจากช่วงเวลานั้นคงทําให้เขารู้สึกมีความมั่นใจต่อหน้านักพนันมือโปร
ทุกคน”
“งั้นเหรอ?” ไมค์หรี่ตาลง “เจ้าหน้าที่เสี่ยวเฉิงก็เป็นมืออาชีพเหมือนกันงั้นสิ? ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน คุณเองก็น่าจะรู้วิธีเล่นแล้วด้วย งั้นไปเล่นด้วยกันสักรอบสองรอบไหมล่ะ?”
เสี่ยวเฉิงพลันจิบไวน์ “แล้วคุณอยากเล่นอะไรล่ะ?”
“แน่นอนว่าเราจะไม่เล่นกันด้วยเงิน เพราะผมรู้ว่าเงินเดือนของคุณช่างน้อยนิด” ไมค์พูด
“อีกอย่าง คาสิโนแห่งนี้ก็มีผู้คนมาเข้าร่วมตั้งเยอะด้วย เพราะฉะนั้น เรามาโชว์ทีเด็ดกันสักหน่อยไหมล่ะ?”
หลังจากนั้น ไมค์ก็หยิบไพ่หนึ่งสํารับออกมาจากกระเป๋าและกล่าวคําพูด “นี่คือไพ่หนึ่งสํารับ ผมจะโยนมันขึ้นไปบนฟ้า แต่ละคนต้องคว้าไพ่สี่ใบกลางอากาศ แล้วเรามาเทียบไพ่กัน มาดูกันว่าไพ่บนมือใครจะสูงกว่ากัน และถ้าคุณแพ้คุณต้องขอโทษฉันต่อหน้าทุกคน”
เสี่ยวเฉิงพลันมองไปยังไมค์และถามขึ้น “แล้วถ้าคุณแพ้ล่ะ?”
“ผมจะยอมสมัครใจลาออกจากโลกแห่งการพนันเลย! และในวันนี้ ผมก็จะโชว์ให้คุณเห็นถึงความแตกต่างระหว่างนักพนันมืออาชีพทั่วไปกับนักพนันมืออาชีพระดับโลกด้วย! เพราะนอกจากการท่องจําไพ่แล้ว ทักษะพื้นฐานอย่างอื่นของเราทั้งสองก็น่าจะอยู่ในระดับสูงไล่เลี่ยกัน”
หลังจากนั้น ไมค์ก็พลันสับไพ่ด้วยมือข้างเดียวพร้อมกับหลับตาลุ่มหยิบไฟเอซออกมา เขามองไปทางเสี่ยวเฉิงอย่างยั่วยุ
เสี่ยวเฉิงพลันหัวเราะ “ฮ่าฮ่า ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับคุณไมค์ ถ้าคุณแพ้ ผมแค่อยากให้คุณออกไปจากคาสิโนแห่งนี้เสีย แค่นั้นก็พอ”
“ก็ได้!” ไมค์พลันตอบกลับ