บทที่ 251 ร้ายกาจนัก

เจ้าของร้านพิศวง

บทที่ 251 : ร้ายกาจนัก

พรีม่าทำอะไรไม่ถูก

เจโรม…ตายไปแล้ว ชายที่อยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของมาร์กาเร็ต พี่สาวของพรีม่า และคนที่ส่งเอลฟ์ดำนักสะกดรอยมาตามล่าเธอ ตายไปง่าย ๆ แค่นั้นเหรอ?

ในชั่วขณะนั้น เธอรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างเป็นสิ่งเกินจริง แต่เธอก็รู้สึกสับสนกับ ‘ความทะเยอทะยานอันสูงส่ง’ ที่เธอคิดอยู่ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ทันจางหายไป

อยากปกป้องเจ้าของร้านหลินผู้จริงใจและรอยยิ้มอ่อนโยนของเขา… เพื่อให้โลกเป็นสถานที่ที่อ่อนโยนกว่า?

และในขณะที่เจ้าของร้านหลินเผยรอยยิ้มอ่อนโยน เจโรมก็ดับอนาถไปเงียบ ๆ ในห้องทำงานของเขา ร่างกายกลวงโบ๋เหลือแค่หนังมนุษย์แห้ง ๆ

ตัดสินจากเสียงสั่น ๆ ของแอนดรูว์แล้ว ฉากการตายของเจโรมนั้นน่าสยดสยองเสียจนรองประธานสมาคมแห่งสัจธรรมยังสั่นงันงกไปถึงแก่น

แน่ล่ะว่าคนตายสารภาพผิดไม่ได้

จากมุมมองหนึ่ง คำพูดของหลินเจี๋ยก็ไม่ได้ผิดตรงไหนเลย

คนอื่น ๆ อาจจะไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ก่อ ‘เหตุฆาตกรรมในห้องปิดตาย ณ สมาคมแห่งสัจธรรม’ แต่ทั้งสองที่เพิ่งได้เผชิญโทสะของเจ้าของร้านหลินจากการที่เจโรมพังประตูร้านหนังสือของเขานั้นกระจ่างแก่ใจดีมาก

พรีม่ารู้สึกว่าความคิดก่อนหน้านี้ของเธอช่างโง่เง่าและไร้เดียงสาจริง ๆ

โง่เง่าจริง ๆ เลย…

เธอรู้ว่ารอยยิ้มของเจ้าของร้านหลินอ่อนโยนมาก แต่เธอก็ลืมไปว่าตอนที่เขาชี้รูโหว่ที่ปะไว้โง่ ๆ บนประตูร้านเขาแล้วขอให้แอนดรูว์พาเจโรมมาเจรจาค่าเสียหาย เจ้าของร้านหลินก็ยิ้มอ่อนโยนเหมือนเดิมเปี๊ยบ

แล้วตอนนี้ก็พูดยากแล้ว…ว่าโลกนี้โหดร้ายกว่า หรือเจ้าของร้านหลินกันแน่ที่โหดร้ายกว่า…

พรีม่ารู้สึกสับสนอยู่ครู่หนึ่ง

หัวใจสาวน้อยของเธอที่อยากปกป้องบางอย่างนั้นรู้สึกผิดหวังหน่อย ๆ

นี่เหมือนกับการที่เจ้าหญิงมาช่วยเจ้าชาย แต่แล้วก็พบว่าคนที่เธอช่วยจริง ๆ แล้วคือมังกรร้ายที่ปลอมตัวมา

แต่ถึงอย่างไร ความคิดที่ว่าเจ้าของร้านหลินลงมือรุนแรงกับเจโรมเพราะเขาทำร้ายเธอกับมาร์กาเร็ต แม้ว่าประตูคงเป็นเหตุผลหลักก็ตาม ก็ไม่ได้ดูชวนให้รับไม่ได้อะไรเลย

แล้วก็…มันทำให้เธอรู้สึกดีใจจริง ๆ

ต…ต่อให้เขาเป็นตัวร้าย แต่เขาก็เป็นตัวร้ายที่ใจดีสุด ๆ นะ! อื้อ ตามนั้นแหละ!

พรีม่าคิดสะระตะแล้ว แล้วสายตาของเธอก็มุ่งมั่นขึ้นกว่าเก่า

ท่านหญิงวัลเพอร์กิสผู้ปกครองยามค่ำคืนไม่มีทางผิดพลาด และเจ้าของร้านหลินผู้ถือครองแหวนแห่งพันธสัญญาก็สังหารเจโรมตามคำขอของเธอ

และตอนนี้คือเวลาที่เธอควรตอบแทนบุญคุณแล้ว

เจ้าของร้านหลินคงอยากฝึกเธอแน่ ๆ ในตอนที่เขามอบคัมภีร์โอสถอาถรรพ์ให้เธอ เธออ่อนแอเกินไปในตอนนี้ กระทั่งจะเอาชนะนักสะกดรอยระดับสัตว์ประหลาดยังทำไม่ได้ มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่เธอจะทำอะไรตอบแทนตัวตนระดับเจ้าของร้านหลินได้เลย

เธอต้องดูดซับความรู้ทางเภสัชกรรมจากหนังสือให้ดีและเร็วที่สุด เพื่อที่เธอจะมีประโยชน์ต่อเจ้าของร้านหลิน และสามารถใช้มันตอบแทนเขาได้

สาวน้อยที่ยืนนิ่งกับที่ได้สติของเธอกลับมา แล้วแนวความคิดของเธอก็เปลี่ยนไปนิดหน่อยอีกครั้ง

เราก็คงต้อง…สวามิภักดิ์ต่อมังกรร้ายนี่?

เสียงจากอุปกรณ์สื่อสารดังต่อ “เจโรมตายแล้ว…แต่ที่อยู่ของมาร์กาเร็ตยังไม่ทราบ และเรากำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบร่องรอยคาถาครับ แต่ว่ายังไม่ได้รับผลอะไรในตอนนี้ ส่วนมือสังหาร…เอ่อ มีอำนาจเกินจินตนาการ ตัดความเป็นไปได้ที่จะฆ่าตัวตายไปได้เลยครับ”

“เป็นไปได้สูงมากว่าเป็นฝีมือบุคคลระดับเหนือนภาครับ”

น้ำเสียงของแอนดรูว์ลังเลเล็กน้อยในตอนที่เขาพูดคำว่า ‘มือสังหาร’ และพรีม่าก็เข้าใจความนัย

เห็นได้ชัดว่าเขามีคนที่เดาไว้ในใจและนั่นคงจะเป็นความจริง เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่รู้จะใช้คำยังไง

แอนดรูว์พูดต่อ “โอสถของเจโรมที่ซ่อนไว้ถูกพบแล้วครับ และมีโอสถระดับสูงที่มีอิทธิพลต่อจิตใจที่ถูกใช้ในสมาคมแห่งสัจธรรมเกือบทั้งหมดอยู่ด้วยจริง ๆ ครับ”

แล้วเขาก็ลดเสียงลง “พอผมมาย้อนคิด มันก็น่ากลัวจริง ๆ นะครับ… เขาเกือบควบคุมสมาคมแห่งสัจธรรมได้ทั้งสมาคมโดยแทบไม่ต้องส่งเสียงสักแอะ และทุกคนก็จะทำงานให้บุคคลที่สามโดยไม่รู้อะไรเลย”

“ผมจินตนาการไม่ออกจริง ๆ ครับว่าถ้าไม่มีคุณ สมาคมแห่งสัจธรรมจะกลายเป็นอะไรไป”

แอนดรูว์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ “นอกจากนั้น วัตถุเหนือธรรมชาติผิดกฏหมายจากหอการค้าแอชบางชิ้นก็ถูกพบด้วยครับ ซึ่งจากรายงานข่าวก่อนหน้านี้ พวกมันคงเป็นการได้มาผ่านสมาชิกของวิถีแห่งดาบอัคคี คอนกรีฟจากตระกูลแชปแมนที่ไวลด์ฆ่าตายไปก่อนหน้านี้ครับ”

“หรือสั้น ๆ ก็คือ…เราพบไส้ศึกแล้วครับ”

“ความนิยมของผมและการยอมรับผมกลับตาลปัตร สิทธิ์ที่ถูกระงับหลายอย่างถูกฟื้นคืน และกว่าการประชุมครั้งหน้าจะถูกจัดขึ้น เกียรติของผมก็คงสูงยิ่งกว่าเดียมันเต้แล้ว…”

แล้วแอนดรูว์ก็ลดเสียงลงอีก และเค้าลางความยินดีก็ดังปนมากับเสียง “สมาคมแห่งสัจธรรมจะเป็นสมาคมแห่งสัจธรรมที่แท้จริงได้ก็ต่อเมื่ออยู่ภายใต้การชี้นำของคุณครับ”

ถึงตอนนี้ พรีม่าก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองหลินเจี๋ยที่รับรู้ถึงสายตาของเธอแล้ว

หลินเจี๋ยพบว่าความนัยจากสายตานั้นดูแปลก ๆ มันเหมือนกับว่าสาวน้อยคนนี้กำลังพยายามหาความนัยบางอย่างจากการมองหน้าเขา ดังนั้นเขาจึงเลิกคิ้วขึ้นแล้วถามอย่างงุนงง “เกิดอะไรขึ้นครับ? ไม่ดีเหรอ?”

เขาขมวดคิ้วแล้วถามอย่างกังวล “ในฐานะรองประธาน แอนดรูว์คนเดียวก็น่าจะจัดการกับรองหัวหน้าฝ่ายคนนี้ได้แล้วนะครับ…”

เอาอีกแล้ว…

พรีม่าอดไม่ได้ที่จะพองแก้ม คุณหลินนี่เอาแต่ตีหน้าซื่อตลอดเลย ชอบทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ

ร้ายกาจนัก!

ถึงแม้ว่าพรีม่าจะไม่ได้รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้างก็ตาม แต่รองประธานแอนดรูว์ต้องเคยรับคำสั่งจากเจ้าของร้านหลินให้ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของเขาแล้วนำสมาคมแห่งสัจธรรมมาอยู่ภายใต้ร้านหนังสือแน่ ๆ

องค์กรยักษ์ใหญ่ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแทบทุกคนในนอร์ซินขณะนี้ดูราวกับกำลังจะหล่นลงมาในกำมือของเจ้าของร้านหลินแล้ว

เจโรมตายสนิทไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว และคนที่ต้องรับผิดชอบก็นั่งแอ๊บกังวลอยู่ว่าแอนดรูว์จะจัดการกับศพได้ไหมอยู่ตรงนี้…

ใครมันจะไปเชื่อวะคะ?

พรีม่าที่โดน ‘ต้ม’ มาก่อนหน้านี้เบ้หน้าเล็กน้อยแล้วสรุปว่าเธอจะไม่เชื่อใน ‘ความเมตตาและความอ่อนโยน’ ของเจ้าของร้านหลินอีกแล้วในชาตินี้

แต่ว่าไป มันดูเหมือนว่าเจ้าของร้านหลินจะวางแผนใช้เหตุการณ์นี้อยู่นานแล้ว ไม่ใช่แค่เพื่อสังหารเจโรม แต่ยังเปิดช่องให้รองประธานแอนดรูว์ฉวยโอกาสแก้วิกฤติของตัวเขาเองด้วย…

พรีม่าส่ายหน้า ปรับสภาพจิตใจแล้วสรุปออกมา “ทุกอย่างปกติดีค่ะ ทุกอย่างราบรื่น รองประธานแอนดรูว์บอกว่าเจโรมตายแล้วค่ะ แล้วปรากฏว่าคนนี้เป็นไส้ศึกของวิถีแห่งดาบอัคคีด้วย เขารู้สึกขอบคุณที่คุณช่วยให้เขาได้พลิกสถานการณ์ด้วยค่ะ”

“แล้วก็ มี…เอ่อ…ศิลานักปราชญ์ชิ้นหนึ่งวางอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย เขาจะนำมาให้คุณทีหลังนะคะ”

ศิลานักปราชญ์?

หลินเจี๋ยขมวดคิ้ว เขาตระหนักแล้วว่าเรื่องนี้ซับซ้อนกว่าที่เขาจินตนาการ