ตอนที่ 168

Earth’s Best Gamer

ตอนที่ 168 ทรัพยากรระดับวิสามัญของมนุษย์อินทรี

“เอาล่ะ ไปสํารวจทรัพยากรในอาณาเขตของมนุษย์อินทรีก่อน!”

พวกเขายังไม่ไปเมืองแห่งมนุษย์ในตอนนี้

เนื่องจากภูเขามังกรคู่จําเป็นต้องมีการวางแผนบางส่วนก่อนที่จะเข้าสู่เมืองแห่งมนุษย์

ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าสนามรบแห่งโชคชะตาจะเป็นสิ่งที่เขาต้องการเป็นหลัก แต่ก็มีคนอีกมากที่มีคุณสมบัติจะไปที่นั่นในครั้งนี้

ไม่เพียงแค่ผู้เล่นสายต่อสู้อย่างหยางจื้อ อู่ซง กงซุนเซิ่ง และหลี่ชิงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติแม้แต่ผู้เล่นที่ไม่ใช่สายต่อสู้อย่างซูนงยิ่ง ผู้อาวุโสเจี้ยว และซางเยี่ยนก็มีคุณสมบัติเช่นกันเพราะพวกเขามีส่วนร่วมมากพอที่จะเข้าสู่เมือง

ผู้บริหารเช่นอุ่นงยิ่งและซางเยี่ยนไม่สามารถตามพวกเขาเข้าไปในสนามรบแห่งโชคชะตาได้และพวกเขาส่วนใหญ่ก็รับผิดชอบการแลกเปลี่ยนทรัพยากร

จีเย่ได้ตัดสินใจหลังจากครั้งที่ผ่านมาว่าเขาจะนําผู้เชี่ยวชาญไปพบถิ่นฐานอื่นเพื่อทําธุรกิจ

ครั้งนี้สิ่งต่างๆ จะง่ายขึ้นสําหรับเขา

เนื่องจากเขาต้องการทําธุรกิจในครั้งนี้ เขาจึงต้องจัดการทรัพยากรทั้งหมดที่มีในตอนนี้

ถิ่นฐานมนุษย์อินทรีระดับวิสามัญอันดับ 4 มีทรัพยากรพิเศษอะไรบ้าง?

หวูดดด! หวูดดด! หวูดดด!

โดยการใช้การย่นระยะทาง จีเย่เดินขึ้นไปบนหน้าผาตามรังที่มนุษย์อินทรีสร้างขึ้น

“ลมแรงมาก!”

ขึ้นไปประมาณ 600 เมตร เขาสัมผัสได้ถึงแรงลม

และมันก็รุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อเขาขึ้นไปอีก ในตอนที่เขาขึ้นไปสูงประมาณ 700 เมตร จีเยก็พบกระดูกหลายชิ้นที่มีแสงสีเขียวอยู่ในรัง

[กระดูกลม]

[ระดับ : วิสามัญอันดับ 1]

[ขั้น : ทั่วไป]

[รายละเอียด : มนุษย์อินทรีนํากระดูกของสิ่งมีชีวิตที่พวกมันสังหารมาไว้ในรัง และวัตถุระดับวิสามัญนั้นถูกสร้างขึ้นหลังมันสัมผัสกับลมน้ําเงินที่มีพลังพิเศษ]

เห็นได้ชัดว่านี่คือวัสดุหลักที่มนุษย์อินทรีใช้ทําลูกศรของพวกมัน สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับมันก็คือมันสามารถต้านแรงโน้มถ่วงและแรงต้านของอากาศได้ด้วยแสงสีเขียว

อย่างไรก็ตามในทางเทคนิคแล้ว กระดูกไม่ใช่ทรัพยากรของมนุษย์อินทรี แต่มันเป็นลมน้ําเงินที่สร้างกระดูกเหล่านี้

กระดูกเป็นเพียงซากของสิ่งมีชีวิตทั่วไป และพลังระดับวิสามัญจะได้รับหลังจากที่พวกมันได้รับแสงสีเขียว จากการสัมผัสกับลมสีเขียวอย่างต่อเนื่อง

ยิ่งแสงสีเขียวหลอมรวมกับกระดูกมากเท่าไหร่ กระดูกก็จะยิ่งมีขั้นสูงมากขึ้นเท่านั้น

กระดูกลมที่เขาพบเป็นเพียงขั้นทั่วไป เพราะกระดูกลมขั้นสูงทั้งหมดถูกนําไปสร้างเป็นอาวุธสําหรับการต่อสู้กับมนุษย์

ตัวอย่างเช่น มีกระดูกขั้นเหนือชั้นหลายชิ้นในแหวนว่างเปล่าของเขา

“มีกระดูกลมจํานวนมากในแหวน มีโลหะบางชนิดที่มีแสงสีเขียวและแม้กระทั่งวัสดุอื่น กล่าวคือลมในถิ่นฐานมนุษย์อินทรีสามารถใช้ขัดเกลาวัตถุได้”

“บางทีเราอาจลองนําโลหะบางส่วนในถิ่นฐานของมนุษย์โลหะมาที่นี่ สร้างพวกมันให้เป็นทองแดงลมและเหล็กลมกระสุนและกระสุนปืนใหญ่ที่ทํามาจากโลหะดังกล่าวน่าจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น!”

ความคิดหนึ่งเข้ามาในใจของจีเย่

ตามทฤษฎีแล้ว กระสุนที่ทํามาจากโลหะดังกล่าวควรมีความแม่นยําและรวดเร็วมาก

ปัญหาเดียวน่าจะเป็นขนาดของกระสุน ลูกศรของมนุษย์อินทรีมีความยาวมากกว่า 130 ซม.ซึ่งเป็นสามเหตุ ที่ทําให้พวกมันยังคงมีแสงสีเขียวหลังจากพุ่งออกไปได้ 500 เมตร กระสุนก็เบาเกินไปเช่นกัน…

“ดูเหมือนว่าเราจะต้องทํางานกับกระสุนที่มีขนาดใหญ่ เราสามารถนําโลหะมาที่นี่เพื่อดูว่าโลหะชนิดไหนสามารถดูดซับลมสีเขียวได้มากกว่ากัน”

จีเย่วางกระดูกลมกลับเพื่อให้มันรับลม

เขายังมีความคิดอื่นอีก

เนื่องจากวัสดุที่หลอมรวมกับลมมีคุณสมบัติในการต้านแรงต้านของอากาศและแรงโน้มถ่วงบางที่พวกเขาอาจสามารถสร้างเครื่องบินต้านแรงโน้มถ่วงในตํานานได้

หากไม่ได้ อย่างน้อยเครื่องบินรบทั่วไปก็น่าจะเป็นไปได้

“รอก่อน ลมสีเขียวนี้ยังสามารถขัดเกลาสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพื่อเพิ่มพลังจิตได้งั้นเหรอ?”

เมื่อเย่เดินต้านลมสีเขียวอันแข็งแกร่งต่อไปจนกระทั่งเขาขึ้นสูงได้ประมาณ 800 เมตร จีเยก็พบบางสิ่ง

ลมสีเขียวนี้สามารถถูกดูดซับโดยกระดูกแข็งและแม้กระทั่งวัสดุ ดังนั้นแน่นอนว่ามันสามารถดูดซับโดยร่างกายมนุษย์ได้ หลังจากอยู่ในนั้นมาสักพัก จีเย่ก็ตระหนักว่าพลังจิตระดับวิสามัญอันดับ 6 ของเขาเพิ่มพลังเล็กน้อย

ยิ่งเขาอยู่ใกล้เท่าไหร่ ลมก็ยิ่งแรงขึ้นเท่านั้น และการพัฒนาสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ยิ่งชัดเจน

นั่นคือเหตุผลที่สมาชิกที่แข็งแกร่งของมนุษย์อินทรีจะอาศัยอยู่ในที่ที่มีลมแรงที่สุด

“ฟูววว… มนุษย์อินทรีเป็นเผ่าที่ยืดหยุ่นจริงๆ”

จีเดีใจที่ได้เรียนรู้เรื่องนี้ แต่เขาก็ถอนหายใจด้วยความประหลาดใจเช่นกัน

ควาผู้สึกของลมสีเขียวบนหนังนั้นไม่น่าพึงพอใจนัก เขารู้สึกราวกับว่ามีเข็มเล็กๆ แทงเข้าไปในกระดูกของเขา

เขาขึ้นไปสูงเพียง 800 เมตร และเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นนานนัก ในทางกลับกันมนุษย์อินทรีเหล่านั้นอยู่ในรังเหล่านี้ตลอดทั้งวัน อดทนต่อลมสีเขียวที่แข็งแกร่ง

ไม่เหมือนกับมนุษย์ มนุษย์อินทรีไม่ได้มีทรัพยากรที่เพียงพอจากมหาสมุทร พวกมันไม่ได้รับสมาชิกระดับวิสามัญที่มีอัตราส่วนใกล้เคียงกับมนุษย์โดยความบังเอิญเพียงอย่างเดียว พวกมันยังมีชั้นยอดกับกิ่งผู้บัญชาการระดับวิสามัญอันดับ 4 และอันดับ 5 จํานวนมาก

“ถ้าจําเป็น เราสามารนําผู้เล่นใหม่ที่ดื้อรั้นมาที่นี่เพื่อ “ฝึกฝน” พวกเขาเล็กน้อย”

“พวกเขาจะติดอยู่ที่นี่ และลมแรงก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยืนได้ คนส่วนใหญ่จะต้องยอมแพ้!”

ความคิดใหม่เข้ามาในใจของจีเยู่ในขณะที่เขาก้าวขึ้นไปอีกครั้ง

ถึงอย่างนั้นเขาก็อาจจะไม่ได้ใช้วิธีนั้น

เนื่องจากผู้เล่นที่ท้าทายตายไปเป็นจํานวนมากในการต่อสู้กับมนุษย์อินทรี

นอกจากนี้การทิ้งพวกเขาอยู่ที่นี่ก็จะเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร

พลังระดับวิสามัญของลมแรงไม่ได้มีอย่างไร้ที่สิ้นสุด ไม่อย่างนั้นมนุษย์อินทรีสามารถนําสมาชิกของพวกมันทั้งหมดมาที่นี่แล้ว และพวกมันทุกตัวก็จะกลายเป็นระดับวิสามัญ

ในขณะที่จีเยเดินขึ้นไปอีกครั้ง เขาก็เริ่มเห็งแสงสีทอง

[ทองส่องแสง]

ระดับ : วิสามัญอันดับ 3]

[ขั้น : ยอดเยี่ยม (หายาก)]

[รายละเอียด : โลหะหายากที่สามารถเสริมคุณภาพของตัวเองได้โดยการดูดซับแสงแดดมีพลังเฉพาะตัวในการเปลี่ยนรูปร่าง]

ในโขดหินบนภูเขาที่มนุษย์อินทรีอาศัยอยู่ จีเย่พบวัสดุสีทองที่ดูเหมือนจะก่อตัวขึ้นจากแสงมันไม่ใช่สิ่งอื่นนอกจากโลหะหายากที่ใช้ทําธนูของผู้ทดสอบเบต้ามนุษย์อินทรี

โลหะนี้สามารถดูดซับแสงแดดเพื่อสร้างพลังระดับวิสามัญเฉพาะตัวซึ่งเป็นคุณลักษณะของแสง

เมื่อถูกควบคุมด้วยพลังจิต มันสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้

ในทางทฤษฎี อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นโดยทองส่องแสงสามารถใช้เป็นเกราะ โล่ คันธนู กระบี่หรือหอกในการต่อสู้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์จริง

อย่างไรก็ตามทองส่องแสงผลิตได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

มนุษย์อินทรีเติมทองส่องแสงเล็กน้อยบนปลายลูกศรของพวกมัน

แม้แต่สมาชิกระดับวิสามัญอันดับ 5 ก็ไม่ได้มีอาวุธทองส่องแสงทุกตัว

แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสําหรับมนุษย์

เนื่องจากถิ่นฐานของมนุษย์ได้เข้าสู่ระดับวิสามัญอันดับ 5 สิ่งที่พวกเขาต้องทําก็คือกลืนกินแกนกลางถิ่นฐานของมนุษย์อินทรี และพกวเขาก็จะสามารถเร่งการผลิตทองส่องแสงโดยใช้พลังแห่งโชคชะตา

ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ทุกคนจะมีอาวุธทองส่องแสง แต่ผู้บัญชาการวีรบุรุษทุกคนควรมีมันหนึ่งชิ้น

กระดูกลมและทองส่องแสงเป็นทรัพยากรหลักของมนุษย์อินทรี

เราสามารถบอกได้จากรูปแบบการต่อสู้ของพวกมัน ด้วยการบ่มเพาะกลิ่นอายต่อสู้ ทําให้มนุษย์อินทรีสามารถเลียนแบบคุณสมบัติของวัตถุต่างๆ แสงสีเขียวที่เปลี่ยนเป็นปีกเป็นการเลียนแบบของลมสีเขียวในขณะที่แสงสีทองระหว่างคิ้วของพวกมันเป็นการเลียนแบบของทองส่องแสง

อย่างไรก็ตามเมื่อจีเยอยู่สูงบนภูเขาประมาณ 999 เมตร และเกือบจะถึงยอด เขาก็พบสิ่งที่ไม่คาดคิด

มีแม้กระทั่งทรัพยากรหายากมาก