ตอนที่ 110: นักพนันมือโปรอีกคนเข้าร่วมการแข่ง 2
ทันใดนั้น เสียงปรบมือก็พลันดังสนั่น นอกจากนี้ ช่างเทคนิคที่เฝ้าดูจากศูนย์บัญชาการถึงกับพลันอุทานออกมา “ให้ตายเถอะ! กัปตันทําได้ยังไงกัน?!”
“ฉันบอกนายแล้ว! กัปตันเสี่ยวเฉิงใช่คนธรรมดาที่ไหนกันล่ะ นายน่าจะได้เห็นคลิปที่กัปตันซัดกับพวกอันธพาลจากแก๊งเต่าดําทั้งห้าสิบคนนะ กัปตันโคตรเถื่อนเลย! อันที่จริง แค่เขายืนเฉย ๆ แล้วคํารามออกมาอีกฝ่าย ก็แทบจะรดกางเกงอยู่แล้วมั้ง!” สหายข้างกายพลันพูดขึ้น
“คุณแพ้แล้ว” เสี่ยวเฉิงพลันมองไปยังไมค์อย่างเฉยเมยและพูดขึ้น
“แก…”
ท้ายที่สุด ไมค์ก็ทําอะไรไม่ได้
เสี่ยวเฉิงขว้างไฟเอซทั้งสี่ใบออกไปข้างกายและกล่าวคําพูดกับไมค์ “ผมไม่ได้อยากให้คุณลาออกจากอาชีพของตัวเองหรอกนะ แต่ตามสัญญา ถ้าคุณแพ้ก็ออกไปจากคาสิโนแห่งนี้เสีย…”
ทั้งนี้ การที่นักพนันมืออาชีพหายไปหนึ่งคนนั้นก็มีความหมายไม่น้อย นั่นคือเซินเหยาจะได้ไม่ต้องเดิมพันเกมพนันกับไมค์ หรือถูกคนอย่างเขาปอกลอกจนหมดตัวท้ายที่สุดแล้ว เสี่ยวเฉิงก็เข้ามาที่นี่เพราะมีจุดประสงค์
ไมค์พลันรู้สึกว่ากําลังถูกสายตานับร้อยจับจ้อง เขารู้สึกอับอายขายขี้หน้าอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็แพ้จริง ๆ
ทว่า นายน้อยฉันพลันเป็นกังวล “คุณไมค์ครับ ผู้ชายคนนี้ต้องโกงแน่ ๆ เลย!”
ไมค์หันกลับมามองนายน้อยฉินทันที “ผมเป็นคนดึงไพ่ออกมาจากสํารับเอง ถ้าจะมีใครโกง คนนั้นก็ต้องเป็นผมคนเดียวนี่แหละ ตอนนี้ผมแพ้แล้ว และผมก็ยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเอง”
หลังจากนั้น ไมค์ก็พลันมองไปยังเสี่ยวเฉิงและกล่าวคําพูดเป็นครั้งสุดท้าย “ผมจะจําคุณเอาไว้ หวังว่าเราจะได้เจอกันที่ลาสเวกัสนะ! ไว้เจอกัน!”
ทันทีที่พูดจบ ไมค์ก็พลันเดินไปรับแจ็คเก็ตและออกจากคาสิโนไป
นายน้อยฉันเริ่มรู้สึกประหม่า นั่นเป็นเพราะเขาเชิญนักพนันมืออาชีพเหล่านี้มาช่วยเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจฟอกเงินจะดําเนินไปอย่างราบรื่น ทว่าหนึ่งในนักพนันมือดีที่เขาตั้งใจจ้างมาก็ได้จากไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เขาจะไม่รู้ สึกประหม่าได้ยังไงกันล่ะ?
ทันใดนั้น นายน้อยฉันก็พลันรู้สึกถึงภัยคุกคามสุดอันตราย ภัยคุกคามนั้นก็คือเสี่ยวเฉิงนั้นเอง! ทันทีที่คิดเช่นนั้น นายน้อยฉันก็พลันคิดว่าควรรีบไล่เสี่ยวเฉิงออกไปจากคาสิโนให้เร็วที่สุด! นายน้อยฉันพลันหวนนึกถึงวันที่เสี่ยวเฉิงเปลี่ยนเงินร้อยเป็นเงินแสนแทบจะทันที หากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นเป็นเพียงแค่การวัดดวงสิ่งที่เกิด ขึ้นในวันนี้ก็คงจะเป็นการประกาศกร้าวว่าเสี่ยวเฉิงไม่ใช่เพียยงแค่เจ้าหน้าที่ตํารวจเท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้ร่ําชองด้านการพนันอีกด้วย!
ด้วยเหตุนั้น นายน้อยฉันจึงปล่อยให้เสี่ยวเฉิงอยู่ในคาสิโนนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ด้วยความโมโหและความอับอาย นายน้อยฉันจึงเรียกบอดี้การ์ดทั้งแปดคนมาล้อมตัวเสี่ยวเฉิงเอาไว้ทันที “เจ้าหน้าที่เสี่ยวเฉิง หากคุณไม่มีธุระกงการอะไรที่นี่ คุณช่วยออกไปข้างนอกได้ไหม? คุณก็เห็นแล้วนะว่าพวกเรากําลังทําอะไรอยู่… หากคุณยังดื้อรั้นที่จะอยู่ต่อแล้วผมเผลอหลุดปากเปิดเผยต่อสื่อไปว่าคุณเป็นเจ้าหน้าที่ ตํารวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันก็อย่ามาโทษผมแล้วกัน”
เสี่ยวเฉิงพลันเผยยิ้มพร้อมกับยกแก้วไวน์ขึ้นมา “ไม่ต้องกังวลไปหรอก อันที่จริง ฉันแค่มาผ่อนคลายหน่อยน่ะ อะไรกัน? คาสิโนถูกกฎหมายแบบนี้มีกฎขับไล่ลูกค้าที่เข้ามาเล่นการพนันด้วยงั้นเหรอ? ถ้ามีกฎแบบนั้นอยู่จริง ก็ปิดคาสิโนทิ้งไปเถอะ!”
นายน้อยฉินพลันเดินเข้ามาใกล้และถามด้วยน้ําเสียงสุดจริงจัง “นายต้องการบ้าอะไรกันแน่?”
“ไม่เข้าใจคําพูดของมนุษย์คนหนึ่งหรือยังไง? ฉันบอกนายไปแล้วไง ฉันแค่มาหาที่ผ่อนคลายเอง อย่าประหม่าไปหน่อยเลยน่า”
“นายต้องการเงินเท่าไหร่? บอกฉันมา” นายน้อยฉันถามขึ้นอีกครั้ง
เสี่ยวเฉิงพลันเผยเสียงหัวเราะ “คิดว่าฉันต้องการเงินเนี่ยนะ?”
“ก็ได้! ถ้านายไม่ออก ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้านายกล้าเล่นพนันอีกฉันจะรายงานเรื่องนี้ต่อเบื้องบน”
“เอ่อ คุณเสี่ยวเฉิงครับ การประลองเกมคว้าไฟเมื่อครู่… มันน่าทึ่งจนผมตกใจเลยล่ะ ว่าแต่คุณคุ้นเคยกับเกมลูกเต๋บ้างไหมล่ะครับ? พอดีว่าผมอยากจะขอท้าคุณ…” ทว่า ในตอนนี้ ชายผู้ชื่อว่าเฉียนเย่ เจิ้นจากบริษัทเหว่ยเนชั่นก็พลันเดินเข้ามา
นักพนันมือโปรอีกคน?
ถึงแม้ว่าเสี่ยวเฉิงจะกําลังยิ้มอยู่ในใจ แต่ภายนอกเขาช่างดูสงบเงียบไม่น้อย
ระหว่างที่เห็นเฉียนเยเดินมา นายน้อยฉันก็พลันเห็นความหวังอีกครั้ง ไม่นานนัก นายน้อยฉันก็เดินไปกระซิบข้างหูเขาโดยตรง “คุณเฉียนเย่ครับ ช่วยรีบทําให้ไอ้หมอนี่แพ้ แล้วก็ไล่มันออกไปจากที่นี่หน่อยเถอะครับ”