ตอนที่ 226 ไล่ฆ่า

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 226 ไล่ฆ่า
เสิ่นชิงจู๋กัดฟันพยักหน้า ขี่ม้ามุ่งหน้าไปยังเนินเขาสูงชัน

ไป๋ชิงเหยียนที่นั่งอยู่บนหลังม้าศึกกวาดสายตามองไปยังค่ายหู่อิงและทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่งที่กำลังทยอยหนีขึ้นมาบนภูเขา หญิงสาวกุมบังเหียนแน่น หยุดนิ่งอยู่กลางเนินเขาสูงด้วยท่าทีสงบนิ่ง

บนเนินเขาสูง ธนูนับร้อยดอกพุ่งผ่านหลังของไป๋ชิงเหยียนไปทางด้านหน้า ที่ที่ธนูตกลง…เต็มไปด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของทหารซีเหลียง

ขบวนของหลี่จือเจี๋ยยังไปไม่ถึงชิวซานกวนก็ได้ยินเสียงต่อสู้ดังกระหึ่มมากจากในเมือง เหมือนจะเห็นเปลวไฟลอยขึ้นฟ้าอีกด้วย

แม่ทัพซีเหลียงที่นำอยู่ด้านหน้าสุดของขบวนรีบหยุดขบวนลงทันที เขาขี่ม้าวกกลับไปหาหลี่จือเจี๋ย ตะโกนบอก “ท่านอ๋อง เหมือนจะเกิดเรื่องขึ้นในเมืองพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องรออยู่ที่นี่ก่อนนะพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะพาคนไปสำรวจสถานการณ์ก่อน!”

ขบวนไม่ได้ตรงเข้าไปในเมืองแต่กลับหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน ลู่เทียนจัวสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ ชายหนุ่มมองดูหลี่เทียนฟู่ที่ร้องไห้จนผล็อยหลับไปแวบหนึ่ง แหวกม่านของรถม้าออก จากนั้นขี่ม้าตรงไปหาหลี่จือเจี๋ย “ท่านอ๋อง เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ!”

หลี่จือเจี๋ยได้ยินว่าเกิดเรื่องในเมืองจึงลงมาจากรถม้าเรียบร้อยแล้ว เขาเตรียมไปตรวจดูสถานการณ์พร้อมกับทหารของซีเหลียง เมื่อเห็นลู่เทียนจัวขี่ม้าตรงเข้ามา เขาก้าวขึ้นไปบนหลังม้าพลางตะโกนบอก

“ไปดูด้วยกันเถิด!”

ประตูเมืองถูกเปิดออก ทหารหน่วยกล้าตายของหลี่จือเจี๋ยที่ถูกขังอยู่ในเมืองรีบถลาเข้าไปหาหลี่จือเจี๋ย

“ท่านอ๋อง มีคนมาชิงตัวคนไปพ่ะย่ะค่ะ!”

มือที่กุมบังเหียนของหลี่จือเจี๋ยกระชับแน่น “ผู้ใด!”

“กองทัพไป๋ ค่ายหู่อิงพ่ะย่ะค่ะ!”

“คนล่ะ! สกัดไว้ได้หรือไม่!” หลี่จือเจี๋ยเบิกตาโพลง มือกำบังเหียนแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ครั้งนี้หลี่จือเจี๋ยไม่ได้ใช้ทายาทของตระกูลไป๋ผู้นั้นเป็นข้อต่อรองในการเจรจาสงบศึก เพราะเขาต้องการใช้คุณชายไป๋เป็นเหยื่อล่อไป๋ชิงเหยียนออกมาสังหาร ทว่า หากคุณชายไป๋ถูกช่วยออกไปได้หรือเสียชีวิตลงเสียก่อน เช่นนั้นแผนการที่เขาพาตัวคุณชายไป๋ผู้นี้มาไกลเช่นนี้ก็เป็นอันล่มจมแล้ว

“กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ!” ทหารหน่วยกล้าตายของหลี่จือเจี๋ยก้มหน้า

“ใต้เท้าเหยียนต๋าสั่งให้กระหม่อมมารายงานท่านอ๋อง ทว่า ประตูเมืองชิวซานเปิดไม่ออก กระหม่อมออกไปไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!”

ลู่เทียนจัวสูดลมหายใจลึก ไม่รอคำสั่งของหลี่จือเจี๋ย ชายหนุ่มรีบควบม้าไปยังโรงเตี้ยมที่ใช้กุมขังคุณชายไป๋ในทันที

หลี่จือเจี๋ยขบกรามแน่น นำทหารมุ่งไปยังโรงเตี้ยมอย่างรวดเร็ว

ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็เห็นเปลวไฟที่ลุกโหมและกลิ่นคาวเลือดรุนแรงลอยปะทะจมูก พลธนูของซีเหลียงคุกเข่าอยู่ที่ตีนเขา สลับกันยิงธนูไปยังเนินเขาสูงอย่างไม่หยุดหย่อน

หลี่จือเจี๋ยพุ่งไปยังตีนเขา กระชากบังเหียนอย่างแรง ม้าศึกชะงักฝีเท้าอย่างกะทันหัน มันย่ำเท้าไม้มาเหมือนต้องการจะบุกขึ้นไปบนเนินเขาสูงเพื่อทำศึกกับคนที่อยู่บนหลังม้าศึกให้รู้แล้วรู้รอดกันไปข้างหนึ่ง

หลี่จือเจี๋ยกระตุกบังเหียนแน่น พยายามควบคุมม้าศึกที่กำลังพยศ นัยน์ตาดอกท้อของชายหนุ่มมองไปยังภูเขาสูงพลางเบิกตาโพลง ที่แท้คือไป๋ชิงเหยียน!

นางรู้ได้อย่างไรว่าคุณชายไป๋อยู่ที่นี่ เหตุใดนางถึงเดินทางมาช่วยคนด้วยตัวเอง แถมมาได้รวดเร็วปานนี้อีก!

ตอนแยกจากกัน เขาเห็นกับตาว่าหญิงสาวจากไปพร้อมรัชทายาทแห่งต้าจิ้น เหตุใดนางจึงมาถึงชิวซานกวนก่อนเขาอีก!

จู่ๆ หลี่จือเจี๋ยก็นึกถึงสาวใช้นาวว่าเชียนโจวขึ้นมาได้ หรือว่าสาวใช้ผู้นั้นคือสายลับที่ต้าจิ้นสั่งให้มาลอบสอดแนมซีเหลียง!

ไม่…ไม่ใช่!

ถึงแม้สาวใช้ผู้นั้นจะเป็นสายลับ ทว่า นางรู้ได้อย่างไรว่าเขาซ่อนตัวคุณชายตระกูลไป๋ไว้! นางรู้ได้อย่างไรว่าคุณชายไป๋อยู่ที่ใด! รัชทายาทแห่งแคว้นต้าจิ้นจะปล่อยให้ไป๋ชิงเหยียนมาช่วยคุณชายไป๋ได้อย่างไร! รัชทายาทไม่สั่งให้สายลับผู้นี้สังหารคุณชายไป๋ก็ดีเท่าใดแล้ว!

ใจของหลี่จือเจี๋ยเต้นรัว เหมือนเขาจะสัมผัสได้ว่าไป๋ชิงเหยียนกำลังจ้องมาที่เขา แววตาของนางเย็นชาและเต็มไปด้วยไอสังหาร

นึกถึงบาดแผลของเสี่ยวจิ่ว ไป๋ชิงเหยียนอยากจะฉีกร่างของหลี่จือเจี๋ยออกเป็นชิ้นๆ ทำให้หลี่จือเจี๋ยทรมานยิ่งกว่าที่เขาทำกับเสี่ยวจิ่วเป็นร้อยเท่า

ท่ามกลางพระจันทร์ดวงกลมโต ไป๋ชิงเหยียนผู้งดงามและหยิ่งทระนงชี้คันธนูเซ่อรื้อไปทางหลี่จือเจี๋ย แม้ไม่มีลูกธนู…ทว่า ไอสังหารราวกับปีศาจที่โผล่ออกมาจากขุมนรกทำให้หลี่จือเจี๋ยที่เป็นคนไวต่อสัมผัสรู้สึกได้ถึงไอสังหารที่เยือกเย็น ชายหนุ่มถอยหลังไปอย่างหวาดกลัวสองสามก้าว

ไป๋จิ่นจื้อนั่งซ้อนอยู่ด้านหลังไป๋ชิงเหยียน สองมือกอดเอวของพี่สาวแน่น มองดูทหารซีเหลียงที่ยิงธนูขึ้นมาไม่หยุดหย่อนและหลี่จือเจี๋ยที่ขี่ม้ามาหยุดอยู่ที่ตีนภูเขา สาวน้อยกล่าวขึ้น

“พี่หญิงใหญ่ เราไปกันเถิดเจ้าค่ะ!”

ได้ยินเสียงของเสี่ยวซื่อ นึกได้ว่าน้องสาวได้รับบาดเจ็บ ไป๋ชิงเหยียนจึงลดธนูเซ่อรื้อลง กระตุกบังเหียนอย่างแรง

หน้าอกของหลี่จือเจี๋ยสั่นไหวอย่างรุนแรง ทำได้เพียงมองดูม้าศึกที่ไป๋ชิงเหยียนขี่อยู่ส่งเสียงร้องแล้วควบเท้าจากไป

ลู่เทียนจัวขบกรามแน่น หันม้ากลับ

“ท่านอ๋อง ให้กระหม่อมนำทหารร้อยนายไล่ตามนางไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

หลี่จือเจี๋ยหลับตาลง เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งนัยน์ตาดอกท้อสงบนิ่งลงแล้ว

“ต่อให้เจ้าไล่ตามไปก็สังหารไป๋ชิงเหยียนไม่ได้หรอก มีแต่ส่งคนเหล่านี้ไปตายด้วยน้ำมือของไป๋ชิงเหยียนมากขึ้นเท่านั้น! อาจัว…เจ้าต้องอดทน หากสองแคว้นเปิดศึกกัน ซีเหลียงมีแต่จะเดือดร้อนเท่านั้น”

ใจของลู่เทียนจัวเต้นอย่างรุนแรง หันกลับไปมองทางเนินเขาสูงแวบหนึ่ง “ทว่า…”

“ตามฆ่าไม่ได้ แต่เราใช้วิธีอื่นได้!” สีหน้าของหลี่จือเจี๋ยเคร่งขรึม มองดูศพที่เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น ในนั้นมีทหารของค่ายหู่อิงและทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่งอยู่ด้วย ชายหนุ่มหรี่ตาพลางกล่าวขึ้น

“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าไป๋ชิงเหยียนจะกล้าบอกรัชทายาทแห่งต้าจิ้นว่านางมาช่วยคุณชายไป๋ นางต้องลอบนำคนมาช่วยอย่างลับๆ แน่นอน! นำศพของค่ายหู่อิงและทหารหน่วยกล้าตายของต้าจิ้นบรรจุให้เรียบร้อย! ข้าจะนำศพเหล่านี้ไปขอคำอธิบายจากรัชทายาทแห่งแคว้นต้าจิ้นเดี๋ยวนี้!”

กล่าวจบ หลี่จือเจี๋ยโน้มกายดึงมีดสั้นของทหารค่ายหู่อิงที่ปักอยู่บนศพของทหารซีเหลียงออกมา จากนั้นปักลงที่แขนของตัวเองอย่างแรง

“ท่านอ๋อง!”

“ท่านอ๋อง!”

ทหารซีเหลียงตกตะลึงจนหน้าถอดสี

หลี่จือเจี๋ยขบกรามพลางดึงมีดออกแล้วโยนให้ลู่เทียนจัว เขากุมบาดแผลที่แขนของตัวเองไว้ เลือดสดไหลทะลักออกมาจากซอกนิ้ว เจ็บจนเส้นเลือดปูดขึ้นที่ใบหน้าของชายหนุ่ม

“ตามหมอทหารมาเร็ว!” หลี่จือเจี๋ยกล่าวกับลู่เทียนจัวเสียงเย็น

“แบกศพของทหารต้าจิ้นเหล่านี้ตามข้าไปที่โยวหวาเต้า ไปถามแม่ทัพไป๋ว่าเหตุใดนางต้องส่งคนมอบลอบสังหารข้าทั้งๆ ที่สองแคว้นเพิ่งลงนามทำสัญญาสงบศึกกันเสร็จเช่นนี้!”

เรื่องที่เขาแอบซ่อนตัวคุณชายไป๋เอาไว้ ในเมื่อเขาไม่ได้บอกออกไปตอนเจรจาสงบศึก เขาก็ไม่อาจแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปได้ ดังนั้นหากไป๋ชิงเหยียนไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยคน เช่นนั้นนางก็ต้องมาที่นี่เพื่อลอบสังหาร…หลี่จือเจี๋ย เหยียนอ๋องแห่งซีเหลียง!

ความเชื่อใจระหว่างจักรพรรดิและขุนนางของแคว้นต้าจิ้นล้วนเปราะบางอยู่แล้ว ราชวงศ์ต้าจิ้นเอาแต่หวาดระแวงในตัวตระกูลไป๋อยู่ตลอดเวลา

รัชทายาทจะไม่คิดว่าไป๋ชิงเหยียนกลัวถูกยึดตราทัพ กลัวสูญเสียอำนาจทางทหาร จึงยุงแยงให้สองแคว้นแตกแยกจนทำสงครามกันหรืออย่างไร

ต่อให้วันนี้รัชทายาทแห่งต้าจิ้นจะไม่ลงโทษไป๋ชิงเหยียน ทว่า เขาจะฝังหนามลงไปในใจของราชวงศ์ต้าจิ้น ให้ราชวงศ์ต้าจิ้นได้รับรู้ว่า แม้วันนี้ไป๋ชิงเหยียนมีเพียงกองทัพไป๋แค่หนึ่งหมื่นนาย นางยังกล้าสั่งให้กองทัพไป๋ลอบมาสังหารเหยียนอ๋องแห่งซีเหลียงซึ่งลงนามทำสัญญาสงบศึกกับต้าจิ้นแล้วลับหลังรัชทายาท! หากภายภาคหน้ากองทัพไป๋แข็งแกร่งขึ้น ไป๋ชิงเหยียนย่อมกล้าทำเรื่องที่ราชวงศ์ต้าจิ้นหวาดกลัวที่สุด!