ซูอันตรวจสอบบริเวณโดยรอบอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากหุบเขาทั่วไปนอกจากความจริงที่ว่าอากาศเย็นและสดชื่นจนผิดปกติ
“อาซู เราจะทำยังไงต่อไปดี?” จี้เสี่ยวซีถาม
“เรารออยู่ที่นี่เฉย ๆ กันก่อนดีกว่า ข้าว่าพวกหนูดูกลัวหุบเขานี้เกินไป อาจจะมีอะไรแปลก ๆ ก็ได้” ซูอันยังไม่เห็นสิ่งผิดปกติแต่เขารู้สึกว่าถ้าระมัดระวังตัวไว้ก่อนมันน่าจะปลอดภัยกว่า
จี้เสี่ยวซีพยักหน้าเห็นด้วย นางหยิบขวดน้ำจากกระเป๋าคาดเอวของนางขึ้นมาดื่ม นางเหนื่อยและเสียเหงื่อมากหลังจากวิ่งมาเป็นระยะเวลานาน
หลังจากดื่มน้ำแล้วนางก็ส่งขวดน้ำให้ซูอันและถามว่า “ท่านอยากดื่มด้วยมั้ย?”
ซูอันส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ ขวดน้ำเล็ก ๆ ของเจ้าข้ากระดกไม่กี่ครั้งก็หมดแล้ว เจ้าเก็บไว้กินเองเถอะ”
“เจ้าไม่ต้องกลัวว่ามันจะหมด นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่พ่อของข้าให้ปรมาจารย์ด้านอักขระสร้างขึ้น แม้ภายนอกจะดูเล็ก แต่แท้จริงแล้วมันสามารถเก็บน้ำได้มากกว่าที่ท่านคิด มันเพียงพอสำหรับเราสองคนแน่นอน”
“คลังเก็บของขนาดพกพาเหรอนี่!” ซูอันรู้สึกประทับใจ
เขาหยิบขวดขึ้นมาตรวจดู แต่ไม่เห็นอะไรที่แตกต่างจากปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขายกขึ้นดื่ม เขาก็รู้ว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่ภายในนั้นแทบไม่มีจุดสิ้นสุด
จี้เสี่ยวซีอดไม่ได้ที่จะสังเกตว่าซูอันกำลังดื่มจากขอบขวดโดยตรง ซึ่งทำให้ใบหน้าของนางแดงขึ้น ในตอนแรกนางคิดว่าเขาจะเทมันเข้าปากเสียอีก นี่มันไม่ได้หมายความว่าจูบทางอ้อมหรอกเหรอ…?
อย่างไรก็ตาม นางสงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วและพูดว่า “มันเก็บได้แต่น้ำเท่านั้น”
ซูอันพยักหน้าอย่างเข้าใจ “อืม…พวกสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถเก็บของได้เยอะ ๆ ทั้ง ๆ ที่มันมีขนาดเล็กมันมีอยู่ในตำนานเท่านั้นใช่ไหม?”
“จะบอกว่าพวกมันมีอยู่ในตำนานเท่านั้นคงไม่ได้ แต่มันค่อนข้างหายาก มีเพียงปรมาจารย์ด้านอักขระระดับแนวหน้าเท่านั้นที่สามารถสร้างของพวกนั้นขึ้นมาได้ และพื้นที่จัดเก็บก็มีจำกัด”
“กินอะไรหน่อยมั้ย? พ่อของข้าเตรียมอาหารเอาไว้ให้ข้าค่อนข้างมาก” ขณะที่พูด จี้เสี่ยวซีหยิบอาหารออกจากกระเป๋าใบเล็ก มีทั้งของหวาน ขนมปัง หรือแม้กระทั่งผลไม้…
“ว้าว เจ้าคือโดราเอมอนปลอมตัวมาใช่มั้ย!” ซูอันรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง กระเป๋าใบเล็ก ๆ ทำไมจุของได้เยอะขนาดนี้!
“นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์อีกชิ้นหนึ่งที่พ่อของข้าให้ปรมาจารย์อักขระสร้างให้ข้า หรือถ้าจะพูดให้ถูกนี่คือสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถเก็บของจำนวนมากได้ตามที่ท่านถามถึง” แก้มของนางมีสีแดงจาง ๆ ขณะที่นางพูด ทำให้นางดูน่ารักอย่างเหลือเชื่อ
“…” ซูอัน
เมื่อครู่ที่แล้วเจ้าบอกข้าว่าสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถกักเก็บของได้เยอะ ๆ นั้นหายากมาก แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้ามีมันอยู่กับตัวสองอันเนี่ยนะ? เจ้าพยายามจะอวดข้าอยู่รึเปล่า?
“เค้กนี่อร่อยมาก เป็นเค้กดอกพีชซึ่งเป็นของขึ้นชื่อจากเมืองใกล้เคียง แต่ถ้าท่านไม่ชอบอาหารหวาน ข้าก็มีถั่วด้วยเหมือนกัน…” จี้เสี่ยวซีเริ่มแนะนำอาหารทีละอย่าง ประกายในดวงตาของนางแสดงให้เห็นว่านางตื่นเต้นที่จะอวดของเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง
ซูอันกลายเป็นพูดไม่ออก “รู้สึกเหมือนเจ้ามาที่นี่เพื่อชมธรรมชาติ มากกว่าที่จะสำรวจมิติลับนะเนี่ย”
จี้เสี่ยวซีเกาศีรษะอย่างเขิน ๆ “ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาของมากมายติดตัวมาด้วย แต่พ่อของข้ากังวลว่าข้าอยู่ในนี้จะไม่มีอะไรกิน เขาจึงยัดอาหารทั้งหมดนี้มาในกระเป๋าของข้า”
“…” ซูอันนิ่งงัน
ว้าว…! ไม่รู้มาก่อนเลยว่าจี้เติ้งถูจะเป็นพ่อที่น่ารักขนาดนี้
ว่าแต่ทำไมตระกูลฉู่ถึงไม่เตรียมอะไรมาให้ข้าเลย? ช่างแตกต่างกันเสียจริง แต่ลองคิดดูอีกทีดูเหมือนว่า ฉู่ชูเหยียนก็ไม่เห็นจะนำอะไรติดตัวไปด้วยเช่นกัน ข้าเดาว่าตระกูลฉู่คงเข้มงวดกับสมาชิกในตระกูลมาก พวกเขาคงคิดว่าการเข้ามาในมิติลับมันเป็นการทดสอบอย่างหนึ่ง
ซูอันพยายามคิดในแง่ดีเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น
มีความคาดหวังในดวงตาของจี้เสี่ยวซีขณะที่นางยื่นขนมให้เขา ซูอัน จึงรู้สึกว่าไม่อยากจะทำให้นางผิดหวัง เขาลองชิมเค้กพีช จากนั้นดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาทันที
“มันหอมมากเลย!”
ในขณะเดียวกัน กองทัพหนูปีศาจขนทองซึ่งยังคงเฝ้าอยู่นอกหุบเขา ต่างพากันโกรธแค้น
บัดซบเอ๊ย! พวกเราก็เหนื่อยเหมือนกัน! พวกเจ้ารู้มั้ยว่าคอของเราคอแห้งแค่ไหนหลังจากวิ่งติดต่อกันหลายชั่วโมง? พวกเจ้ามานั่งกินของอร่อยตรงหน้าเราได้ยังไง!?
—
ท่านยั่วยุหนูปีศาจขนทองสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +6 +6 +6…
—
ดวงตาของซูอันเป็นประกาย ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับคะแนนความโกรธแค้นจากหนูแต่ละตัวไม่มากนัก แต่อย่าลืมว่าจำนวนของหนูพวกนี้มีเป็นกองทัพ!
เมื่อรู้ว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะกอบโกยคะแนนความโกรธแค้นจากพวกมัน เขาจึงหันไปหากองทัพหนูและทำท่ากระดิกนิ้วเรียกพวกมัน
“โอ้…พวกเจ้าหยุดอยู่ตรงนั้นทำไมล่ะ? ไม่คิดจะเข้ามาแบ่งขนมกับเราบ้างเหรอ?”
จี้เสี่ยวซีที่อยู่ด้านหลังกระพริบตาปริบ ๆ นางไม่เข้าใจว่าทำไมซูอันจึงยั่วโมโหกองทัพหนูแบบนี้ น้ำเสียงของเขายียวนจนแม้แต่คนที่ใจเย็นอย่างนางยังรู้สึกว่าอยากจะทุบเขาสักป้าบ!
สำหรับหนูแล้ว พวกมันไม่เข้าใจสิ่งที่ซูอันกำลังพูด แต่น้ำเสียงและท่าทางที่ยั่วยุของเขานั้นมากเกินพอที่จะเรียกคะแนนความโกรธแค้นจากพวกมัน
—
ท่านยั่วยุหนูปีศาจขนทองสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +6 +6 +6…
—
พวกมันบางตัวทนไม่ไหวและพยายามจะพุ่งเข้าใส่ แต่หลังจากก้าวเท้าเดินหน้าไม่กี่ก้าว พวกมันก็หยุดลงอย่างลังเลก่อนที่จะถอยกลับ…
เมื่อเห็นคะแนนความโกรธแค้นที่หลั่งไหลเข้ามา ซูอันก็ดีใจมาก นักเลงคีย์บอร์ดตัวจริงอย่างเขาย่อมไม่ทิ้งโอกาสที่จะปั่นประสาทพวกหนูให้มากขึ้น เขาเยาะเย้ยพวกมันต่อไปอย่างมีความสุข
—
ท่านยั่วยุหนูปีศาจขนทองสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +6 +6 +6…
—
ในที่สุด หนูหัวล้านก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป มันพุ่งเข้ามายังทางเข้าหุบเขาอย่างบ้าคลั่ง แน่นอนว่าเมื่อมีตัวนำ ที่เหลือก็ยอมจำนนต่อความโกรธของพวกมันอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้ามาเช่นกัน ขณะวิ่งเข้ามา พวกมันบางตัวก็พองขน เตรียมจะยิงขนหนามของพวกมัน
“ซวยแล้ว! ข้ายั่วพวกมันมากจนมันคลั่ง!”
ซูอันลุกขึ้นจะวิ่งออกไป แต่เขายังไม่ลืมที่จะคว้าข้อมือจี้เสี่ยวซีที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้นอย่างสบายและเคี้ยวขนมของนางไปด้วย ให้ออกวิ่งไปด้วยกัน
“อ๊ะ! ผลไม้ข้า! ข้ากำลังจะกินมันอยู่แล้วเชียววว!!!” จี้เสี่ยวซีจ้องไปที่ผลไม้ที่นางทิ้งไว้บนพื้นด้วยสายตาที่เสียดาย
“ออกจากมิติลับไป ข้าจะซื้อให้เจ้าเยอะ ๆ เลย!” ซูอันตะโกน
“ท่านพูดแบบเดียวกับที่ท่านยืมผ้าเช็ดหน้าของข้าครั้งล่าสุด แต่ตอนนี้ท่านยังไม่ได้ชดใช้ให้ข้าเลย!” จี้เสี่ยวซีบ่นอย่างไม่พอใจ
ซูอันหัวเราะอย่างเขินอาย เขาลืมเรื่องนั้นไปแล้วจริงๆ “เอาไว้ข้าจะจ่ายทุกอย่างคืนทีเดียวเลยก็แล้วกัน!”
หลังจากพุ่งเข้ามาในหุบเขาและเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนูปีศาจขนทองก็มีความกล้ามากขึ้น พวกมันยังคงไล่ตามซูอันและจี้เสี่ยวซีอย่างกัดไม่ปล่อย พวกมนุษย์ที่น่ารังเกียจ! เราต้องฉีกเนื้อของพวกมันและกัดแทะกระดูกของพวกมันเพื่อระบายความแค้นของเรา!