“อาหาน อาหาน”คำนั้นของเฉินฮวนฮวน มีเสน่ห์บางอย่างที่แตกต่าง
สรุปแล้ว เฟิงหานชวนรู้สึกว่าบนมือของตัวเองมีผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว
เขากอดเฉินฮวนฮวนเอาไว้แน่น และจูบเธออย่างละเมียดละไม มีความอ่อนโยนอย่างไร้ขีดจำกัดบางอย่าง
เฉินฮวนฮวนตึงไปทั้งตัว สองมือของเธอถูกกอดเอาไว้ ไม่มีหนทางที่จะขัดขืนได้ เธอรู้สึกว่าเฟิงหานชวนเป็นอันธพพาลที่อยู่ภายใต้ของแสงอาทิตย์ที่เปลี่ยนไป
แต่ จูบนี้กับจูบเมื่อกี้นี้ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง
จูบในครั้งนี้ มีความอ่อนโยนและอบอุ่นมาก ไม่เหมือนกับจูบที่รุนแรงเมื่อกี้นี้ มีความรู้สึกที่แตกต่าง
ตอนที่เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะซึมเข้าไปอยู่ในวังวนแห่งความรักนั้น เฟิงหานชวนก็ปล่อยเธอทันที
ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้า น้ำตาเปียกดวงตาทั้งสองข้าง สะท้อนความน่าสงสารออกมา เขาแทบอยากจะ………….
แต่ ตอนนี้พวกเขาแค่อยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อวานเขาได้รับปากเธอเอาไว้ว่าจะไม่สามารถทำการกระทำที่ล่วงเกินต่อเธอ ดังนั้นต่อไปถ้าเขาคิดเรื่องนั้นขึ้นมา ก็จะรีบปล่อยเฉินฮวนฮวนทันที
“คุณ…คุณจูบฉันสองครั้งแล้ว คุณไม่รักษาสัญญา” แก้มทั้งสองข้างของเฉินฮวนฮวนแดง ราวกับจะปะทุควันออกมา
แต่เธอนึกถึงคำพูดที่เฟิงหานชวนรับปากกับเธอไว้เมื่อวาน ก็ทำไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะฟ้องขึ้นมา
พูดกันเอาไว้แล้วว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข เฟิงหานชวนยัง……..
“ฮวนฮวน ผมขอโทษ เมื่อกี้ผมเสียการควบคุมไป” เฟิงหานชวนจับมือของเฉินฮวนฮวนเอาไว้แน่น แล้วยกมาไว้ด้านหน้าของปากตัวเอง แล้วเป่าลมร้อนลงบนมือเล็กๆของเธอ
เฉินฮวนฮวนถูกการกระทำแบบนี้ของเขาทำให้ตกใจ เธอรีบดึงมือกลับคืนมา และพูดด้วยความตกใจว่า “คุณ คุณทำอะไร”
การกระทำเมื่อกี้ของเฟิงหานชวน ช่างคลุมเครือเสียจริงๆ
เฉินฮวนฮวนรู้สึก….เฟิงหานชวนช่างเกี้ยวพาราสีผู้หญิงเป็นจริงๆ
เขาไม่เคยมีความรักจริงๆเหรอ? เขาไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงจริงๆเหรอ?
ไม่จริงมั้ง
เฉินฮวนฮวนพบเห็นทันทีว่าตัวเองละเลยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆไป
เมื่อวานเฟิงหานชวนสารภาพว่าเขาเองไม่เคยมีความรักมาก่อน และไม่เคยมีแฟนและยิ่งไม่เคยมีรักแรก ดังนั้นในหัวของเธอคิดว่าเฟิงหานชวนเป็นผู้ชายบริสุทธิ์
บนความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น เฟิงหานชวนเคยเปิดเผยมาก่อนว่าเขาเคยมีประสบการณ์อยู่ครั้งหนึ่ง
แต่ในเมื่อเฟิงหานชวนไม่เคยคบหาผู้หญิงมาก่อน ทำไมถึงมีครั้งแรกล่ะ?
หรือว่า……เป็นการนัดมีอะไรกัน?
เรื่องนี้ มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง ถ้าไม่มีครั้งที่สอง ชี้ชัดได้หรือเปล่าว่าระยะเวลาครั้งแรกกับตอนนี้นั้นไม่นาน?
พูดแบบนี้แล้ว ตอนนี้เฟิงหานชวนขาดผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ?
ไม่น่าล่ะก่อนหน้านี้คุณท่านไม่กลับมา เขาไม่พูดความสัมพันธ์สามีภรรยาของทั้งสองคนเลย แต่ให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา
ดังนั้น เขาแค่อยากจะนอนกับเธอเท่านั้น ไม่ได้อยากจะเป็นสามีภรรยากับเธออย่างแท้จริง
“ทำไมถึงมองผมแบบนี้?” เฟิงหานชวนพบว่าแววตาของเฉินฮวนฮวนมีความผิดปกติ
จากความกระวนกระวายทำอะไรไม่ถูกและความเขินอายในเมื่อกี้นี้ จนถึงตอนนี้เต็มไปด้วยความผิดปกติและความครุ่นคิด เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?
เฉินฮวนฮวนอ้าปาก อยากจะถามเขาให้ชัดเจน แต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะถามหรือไม่ถามดี
เธอไม่ใช่ภรรยาที่แท้จริงของเฟิงหานชวน มีสิทธิ์อะไรที่จะไปถามเรื่องก่อนหน้านี้ของเฟิงหานชวนกันล่ะ?
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเฟิงหานชวนเพราะว่าขาดผู้หญิง ดังนั้นถึงได้พูดเรื่องการอยู่ก่อนแต่งกับเธอขึ้นมาใช่หรือเปล่า?
เหมือนก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ไม่ได้ถูกเปิดเผย เขาบอกว่าต้องการเธอมาเป็นผู้หญิงของเขา ก็เหมือนกับสาเหตุที่อยู่ก่อนแต่งนั้นแหละ
คำถามมากมาย ลอยอยู่ในหัวของเฉินฮวนฮวน
“คุณไม่ได้บอกเหรอว่า อยู่ก่อนแต่งแค่อยู่กันอย่างสันติสุข ทำไมเมื่อกี้……” คำพูดของเธอหยุดลง
“คุณโกรธเหรอ?” จูบของเฟิงหานชวนมีความระมัดระวัง
เขายอมรับว่าเมื่อกี้ตัวเองสูญเสียการควบคุมไป และไม่เคยขอโทษเฉินฮวนฮวนเลย หรือว่าเฉินฮวนฮวนไม่ยอมให้อภัยเขา?
“เฟิงหานชวน คุณอยากจะอยู่ก่อนแต่งกับฉันจริงๆเหรอ? หรือว่า……” เฉินฮวนฮวนสับสนมากจริงๆ เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะถามดีหรือเปล่า
ตอนนี้เฟิงหานชวนดีกับเธอ ยังช่วยเธอสั่งสอนคนตระกูลเฉิน แต่เธอไม่รู้ว่าการทำดีของเขา มีความหมายแบบไหนกันแน่
เห็นเฉินฮวนฮวนยังเรียกชื่อเต็มของตัวเอง ในใจของเฟิงหานชวนก็มีความไม่สบายใจจึงถามกลับไปว่า “คุณสามารถเรียกชื่อเล่นได้ แต่ทำไมถึงเรียกชื่อเต็มของผมทั้งที่ผมเป็นสามี?”
“ไม่ ไม่ใช่….”เมื่อกี้เฉินฮวนฮวนสับสนอยู่ จนลืมเปลี่ยนการเรียกชื่อ จึงได้เรียกชื่อผิด
เห็นสีหน้าที่หม่องหมนจนไม่มีอะไรเทียบได้ของเฟิงหานชวน ในใจของเฉินฮวนฮวนก็รู้สึกละอายใจ เธอยื่นมือเล็กๆออกไป จับที่แขนของเฟิงหานชวน
“อาหาน ที่จริงเมื่อกี้ฉันโกรธนิดหน่อย ฉันอยากจะถามคุณ ว่าคุณ….ว่าคุณขาดผู้หญิงดังนั้นถึงได้อยู่ก่อนแต่งกับฉัน ใช่หรือเปล่า?” เฉินฮวนฮวนรวบรวมความกล้าแล้วถามออกไป
เธออยากจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่างจริงๆ
ไม่อย่างนั้น การอยู่ก่อนแต่งของเธอก็จะไม่มีความชัดเจน
เฟิงหานชวนหลังจากได้ยินคำถามนี้ สีหน้าก็ยิ่งหม่นหมองขึ้น เขาลุกขึ้นมาแล้วเดินไปด้านหน้าของหน้าต่าง
ทั้งสองมือเท้าสะเอวเอาไว้ ทั่วร่างกายกระจายออร่าความน่ากลัวออกมา
เห็นเขาไม่พูดอะไร และยังมีท่าทีโกรธอยู่ เฉินฮวนฮวนรู้ว่าคำพูดของตัวเองนั้นผิดพลาดไปแล้ว แต่ใจก็ตัดสินใจความคิดของตัวเอง
เธอทายไม่ผิดหรือเปล่า เฟิงหานชวนถึงได้โกรธแบบนี้?
เฉินฮวนฮวนแค่รู้สึกว่าในใจมีความกระวนกระวายขึ้นมา ถ้าเฟิงหานชวนตอบว่า “ใช่” แล้วเธอควรจะทำอย่างไร?
เธอจะรับปากหรือว่าไม่รับปากดีนะ?
ตอนที่ในหัวของเฉินฮวนฮวนสับสนอยู่นั้น ประตูของห้องพักผ่อนถูกเคาะดังหลายครั้ง
“ก๊อกก๊อกก๊อก…..”
ต่อมา น้ำเสียงของเฟิงเฉินเหยี่ยนก็ดังเข้ามา “อาสาม ฮวนฮวน พวกคุณอยู่ด้านในหรือเปล่า?”
เวลานี้ บรรยากาศในห้องพักผ่อนตึงเครียดมาก
เห็นเฟิงหานชวนไม่พูดอะไร เฉินฮวนฮวนเม้มปากเอาไว้ จากนั้นลุกขึ้นมาจากโซฟาแล้วเดินไปที่ประตู เปิดประตูออก
เวลานั้นที่ประตูเปิดออก เฟิงเฉินเหยี่ยนก็พุ่งเข้ามา
“พวกคุณสองคนคุยกันเสร็จหรือยัง?” ดวงตาทั้งสองข้างของเฟิงเฉินเหยี่ยนเต็มไปด้วยแสงสว่าง แล้วสังเกตทั้งสองคนที่อยู่ในห้องพักผ่อน
เฟิงหานชวนยืนอยู่ด้านหน้าของหน้าต่าง เฉินฮวนฮวนยืนอยู่ข้างประตู
“ช่าง ช่างมันเถอะ” เห็นเฟิงหานชวนไม่ตอบอะไร เฉินฮวนฮวนจึงได้แค่ตอบอย่างติดขัด
ที่จริงไม่ได้เกี่ยวกับคุยกันเสร็จหรือว่ายังไม่เสร็จ เธอกับเฟิงหานชวนไม่ได้คุยกันอยู่ แต่เธอถามคำถาม เฟิงหานชวนยังไม่ตอบคำถาม
“งั้นก็ดี โชคดีที่ฉันไม่ได้รบกวนพวกเธอ” เฟิงเฉินเหยี่ยนแอบยิ้ม จากนั้นเดินไปข้างเฟิงหานชวน แล้วยื่นโทรศัพท์ในมือส่งไปด้านหน้าของเฟิงหานชวน
เฟิงหานชวนเงยหน้ามองไปอย่างขมวดคิ้ว
“อาสาม ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะมารบกวนคุณ เป็นโทรศัพท์ของคุณซึ่งคุณอวิ๋นใช้โทรมา” เฟิงเฉินเหยี่ยนพูดรายงานตามความเป็นจริง “เธอกลับมาจากอเมริกาแล้ว กำลังเปลี่ยนเครื่องอยู่ที่ญี่ปุ่น วันนี้ตอนบ่ายก็ถึงสนามบินเมืองเป่ยเฉิง ให้คุณไปรับเธอและตอนเย็นคอยรับใช้เธอ ยังเชิญให้ผมไปด้วย”
“เธอเหมือนยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับฮวนฮวน” เขาเพิ่มเติมประโยคขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค
“เธอกลับมาแล้วเหรอ?” เฟิงหานชวนรับโทรศัพท์มา แล้วเปิดดูประวัติการโทร เพื่อยืนยันเหตุการณ์
ตอนนี้ เฉินฮวนฮวนที่อยู่ประตู ในใจนึกชื่อสองตัวนั้นอยู่
คุณอวิ๋น คงจะเป็นผู้หญิงสินะ?
เธอเป็นอะไรกับเฟิงหานชวน?