บทที่ 254 : การเรียงร้อย
ฮู้ดหยุดลงทันทีราวถูกไฟดูด ทำให้ร่างของเขาชาสะท้านไปทั้งร่าง
ความคิดหนึ่งเด้งขึ้นมาในใจฮู้ดทันทีที่พวกเขาประสานสายตา
ตัวเขาไง!
แม้ว่าทั้งคู่จะถูกขวางกั้นโดยคนมากมายและอีกฝ่ายจะยืนหลบมุมอยู่ก็ตาม แต่รองประธานแอนดรูว์ก็ดูจะโดดเด่นเป็นพิเศษ
ถึงแม้ว่าตัวเขาจะชราลงบ้างแล้วก็ตาม แต่แอนดรูว์ผู้เคยเป็นหนุ่มเนื้อหอมเหมือนสมัยหนุ่มที่ยังดูดีอยู่ การที่เขามายืนอยู่ท่ามกลางเหล่านักวิชาการที่ปกติแล้วไม่ได้ใส่ใจรูปลักษณ์ของตนเองเลยนั้นหมายความว่าเขาเด่นขึ้นมาราวกับเป็นเล็บขบ
และอย่างที่สอง มันเหมือนมีโทรจิตลี้ลับบางอย่างที่ทำให้ฮู้ดสบตากับอีกฝ่ายได้ทันทีด้วย
ดวงตาลึกล้ำสีฟ้าของแอนดรูว์เผยแสงสว่างจาง ๆ ลอดออกมายามที่สองสายตาประสานกัน แล้วแผ่ปัญญามหาศาลออกมา แสงสว่างนี้เป็นสิ่งที่สามารถทำให้ผู้เห็นรู้สึกเลื่อมใสและกลัวอีกฝ่ายอย่างอธิบายไม่ได้
คนทั่วไปที่สบตากับแอนดรูว์คงตัวแข็งทื่อด้วยความกลัว ไม่ก็สลบ หรืออาจถึงขนาดเห็นภาพหลอนได้ ใครที่จิตอ่อน ๆ ก็อาจจะสติแตกไปเลยก็ได้
แม้ว่าเขาจะดูเล็กจ้อยต่อหน้าตัวตนระดับสูงกว่าอย่างเจ้าของร้านหลิน แต่นี่คืออิทธิพลจากอำนาจเหนือธรรมชาติของผู้อยู่ในระดับสูงสุดของระดับสัตว์ประหลาด
แค่ยืนเฉย ๆ เขาคนนี้ก็ ‘ฆ่า’ คนได้แล้ว
ทว่าฮู้ดกลับสัมผัสได้ว่าเนตรที่สามของตัวเองกำลังแผ่ความร้อนแผดเผาออกมาราวกับว่ากำลังเพรียกหาแอนดรูว์
ความรู้สึกโดยสัญชาตญาณนี้ราวกับการโพล่งออกมาว่าแอนดรูว์เป็นมิตร ไม่จำเป็นต้องสงสัยเขาเลย
อีกฝ่ายก็เป็นสาวกของพระเจ้าเช่นกัน!
ความรู้สึกที่ว่า ‘คนที่ไปเจอคนบ้านเดียวกันที่ต่างประเทศ’ ทำให้แอนดรูว์ทั้งตื่นเต้นและดีใจ
เดิมทีฮู้ดรู้จักกับแอนดรูว์ แต่เขาก็ไม่ได้มีความประทับใจในตัวรองประธานผู้นี้เท่าไรนัก
ประการแรกก็เพราะว่าแอนดรูว์ไม่ใช่ผู้แสวงหาความจริง และที่จริงเขาก็เกลียดอีกฝ่ายมาก ฮู้ดประณามความสุดโต่งของพวกเขาในการกล่าวสุนทรพจน์มาหลายครั้งแล้ว
แน่นอนว่านี่คือจุดยืนเพื่อส่วนรวมของสมาคมแห่งสัจธรรม และป้าของฮู้ด ประธานมาเรียก็ไม่สนับสนุนผู้แสวงหาความจริงเลย
จุดประสงค์เดิมของฮู้ดในการเข้าร่วมกับผู้แสวงหาความจริงนั้นไม่ใช่เพราะเขาเห็นด้วยกับอุดมการณ์ของพวกเขา แต่มันงอกเงยมาจากระยะต่อต้านในช่วงวัยรุ่นของเขา…ซึ่งนั่นทำให้ฮู้ดอยากรู้อยากลองในสิ่งที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์
แต่หลังจากเข้าร่วมมาได้สักพัก เขาก็หลอมตัวเองเข้าไปในวัฒนธรรมสุดโต่งไปเสียแล้ว
ประการที่สอง แอนดรูว์ผู้เป็นชายสูงศักดิ์นั้นวางตัวทุกขณะจิต เขาเรียบหรูและดูสง่างามเสมอ
ในสายตาวัยรุ่นไฟแรงและสุดโต่งอย่างฮู้ดแล้ว แอนดรูว์คือที่สุดแห่งความ ‘เลี่ยน’ และนั่นย่อมผลักเขาให้ออกห่าง
ทว่าในยามนี้ เขามีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น…
สหาย!
ยิ่งกว่านั้น ฮู้ดกำลังคิดอยู่พอดีเชียวว่าเขาต้องการใครสักคนที่มีอำนาจและอิทธิพลเพื่อสนับสนุนการเติบโตของ ‘ผู้แสวงหาความจริง’
แล้วตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่ปรากฏต่อหน้าเขาในวินาทีต่อมาก็บังเอิญเป็นสาวกร้านหนังสือเหมือนกันด้วย
นี่ไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญไปได้แน่นอน นี่ต้องเป็นการเรียงร้อยของเจ้าของร้านหนังสือ และเจตจำนงของพระเจ้าผู้แข็งแกร่งแน่ ๆ!
แอนดรูว์ที่อยู่สุดปลายอีกฝั่งหนึ่งก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าฮู้ดจะกลายเป็นสาวกของร้านหนังสือไปก่อนหน้าเขาแล้ว!
แอนดรูว์คนเก่ามุ่งร้ายต่อร้านหนังสือมาโดยตลอด การแพร่งพรายข้อมูลเพื่อปลุกปั่นผู้แสวงหาความจริงให้ไป ‘ขโมย’ ความรู้จากร้านหนังสือนั้นทำให้แอนดรูว์ต้องมาเผชิญวิกฤติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเขา
การถูกริบสิทธิ์และถูกจับตามองหมายความว่าโลกทั้งใบของแอนดรูว์ถูกพลิกกลับด้าน มันก็คือการกักบริเวณไว้ในบ้านดี ๆ นี่เอง ในระหว่างที่ต้องทัณฑ์นั้น แอนดรูว์ต้องฝืนแบกรับทุกอย่างในขณะที่จ้องหาโอกาสโจมตีกลับ และเขายังได้ตระหนักถึงพลังของร้านหนังสือในระหว่างนั้นด้วย และนั่นทำให้เขาอยากแก้ตัวใหม่
แต่เมื่อเขาสั่งให้พวกผู้แสวงหาความจริงหยุดทุกปฏิบัติการลง คำสั่งก็ถูกเจโรมขัดขวางและไม่ถูกส่งลงไป
แอนดรูว์หดหู่มากและในระยะนั้นก็ตกต่ำยากแค้น แต่หลังจากได้รู้ว่าพวกผู้แสวงหาความจริงนำโดยฮู้ดกลับมาแล้วอย่างปลอดภัย เขาก็ไม่กังวลเรื่องนี้อีก
มีข่าวลือมาว่าเจ้าเด็กพวกนี้แปลกไปนิดหน่อย พวกเขามักจะซุบซิบอะไรกันในหมู่พวกเขา ในขณะที่ในหมู่ผู้แสวงหาความจริงเกิดปัญหาภายในกันขึ้นมา
แต่เดิมแอนดรูว์คิดว่าพวกเขาคงถูกเจ้าของร้านหนังสือสั่งสอนเข้าให้แล้ว แต่เขาก็ต้องแปลกใจที่ตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าพวกเขาถูกเปลี่ยนเป็นสาวกของร้านหนังสือ!
สองสาวกผู้ภักดีของร้านหนังสือที่อยู่ท่ามกลางผู้คนดูจะรู้สึกสนิทสนมกันขึ้นมาทันที
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม…แอนดรูว์ครุ่นคิด
เขาเพิ่งได้รับโอกาสแก้ตัวหลังจากระบุตัวไส้ศึกได้และเปิดโปงเรื่องที่เขาถูกใส่ความ แล้วเขาก็ยังได้เหน็บแนมเดียมันเต้เป็นการเอาคืนไปนิดหน่อยและชิงอำนาจการสืบสวนเหตุการณ์นี้กลับมาอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
ทว่าเขาก็ยังต้องใช้เวลาเพื่อฟื้นเกียรติยศของเขากลับมา
ในระหว่างนี้ หากจู่ ๆ ทั้งสองที่ไม่เคยติดต่ออะไรกันมาก่อนกลับสนิทสนมกันขึ้นมา นั่นจะนำไปสู่ความเคลือบแคลงของคนอื่น ๆ โดยเฉพาะเดียมันเต้ที่จะคว้าโอกาสนั้นเล่นตุกติกทันทีถ้าเขาเห็นเข้า
อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็ทำตัวสนิทกันต่อสายตาสาธารณชนไม่ได้
ในเสี้ยววินาทีที่สองสายตาสบกัน ทั้งแอนดรูว์และฮู้ดก็ต่างดูเหมือนจะเข้าใจเจตนาของอีกฝ่าย
ฮู้ดกดนิ้วไปที่หน้าผากของตัวเอง แล้วเนตรที่สามก็กะพริบ จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ถอยหายไปในฝูงชนพร้อมรอยยิ้มมีเลศนัย
เมื่อเห็นเช่นนั้น แอนดรูว์ก็หันไปพูดกับคนอื่นสองสามคำเพื่อออกคำสั่งให้พวกเขาสลายฝูงชน ต่อมาเขาก็สั่งให้คนอารักขาทางเข้าไว้ ในขณะที่เขาเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู
แอ๊ด…! ปัง!
แอนดรูว์สำรวจทั้งห้องแล้วก็ไม่ได้พบอะไรผิดแปลก มีเพียงโต๊ะและเก้าอี้ ชั้นวางของธรรมดา ๆ โซฟาหนังมาตรฐานของสมาคมแห่งสัจธรรม พื้นหินอ่อนเรียบ ๆ และพรมสีขาวอีกหนึ่งผืน
ไม่มีร่องรอยเลือดใด ๆ ที่ปรากฏบนพื้นหรือพรม ที่ด้านข้างมีรอยเขียนชอล์กรูปร่างคนซึ่งก็คือสถานที่ที่พบเจโรมเป็นครั้งแรก
ศิลานักปราชญ์ที่ใสกระจ่างก้อนหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน
ตัดสินจากฉากนี้แล้ว มันก็ดูเหมือนว่าคอของเจโรมถูกใครสักคนหักในพริบตา ก่อนที่จะแปลงพลังชีวิตของตัวเองทั้งหมดเป็นศิลานักปราชญ์
ใช่แล้ว…วัตถุดิบในการสร้างศิลานักปราชญ์ก้อนนี้ก็คือเจโรม
นี่คือความจริงที่น่ากลัว แต่ไม่ถูกสงสัยเลย
ดูเหมือนผู้กระทำการจะไม่ได้ใส่ใจเจโรมเลย จากที่เห็นว่าเขากลายเป็นกองผิวหนังและศิลานักปราชญ์ไปแล้ว ทั้งหมดดูจะเป็นการกระทำเพื่อความสะดวก และห้องทำงานนี้ก็ไม่ใช่จุดเกิดเหตุแรกด้วย บางทีเขาคงขาดวัตถุดิบในการทดลองแล้วตัดสินใจเปลี่ยนเจโรมมาเป็นวัตถุดิบก็เป็นได้
เมื่อแอนดรูว์ระลึกถึงคำพูดของเจ้าของร้านหนังสือที่สั่งเขาให้ ‘พาเจโรมมาชดเชยเรื่องประตูร้าน’ เขาก็พลันเข้าใจขึ้นมา
เขาหมายความว่าให้ใช้ตัวเจโรมเองเป็นสิ่งชดเชย!
ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่แอนดรูว์ติดต่อหาร้านหนังสือทันที และพูดว่าจะนำศิลานักปราชญ์ไปให้
ทั้งหมดนี้ต่างเป็นเจตจำนงของเจ้าของร้านหนังสือ!
ในตอนนี้ที่แอนดรูว์ไขว่ขว้าเพื่อกลับไปยืนตำแหน่งเดิมของเขาอยู่ เขาก็ต้องไปหาคนสนิทที่เชื่อใจได้กลุ่มใหม่มาแทนเพราะกลุ่มเก่าของเขาถูกกระจายออกไปกันหมดแล้ว
แล้วตอนนี้ฮู้ดก็นำพวกผู้แสวงหาความจริงพวกนั้นดิ่งตรงมาหาเขา
เจ้าของร้านหลินเรียงร้อยทุกอย่างไว้โดยสมบูรณ์แบบ!
“เฮะ”
เสียงของฮู้ดดังมาจากข้างหลังแอนดรูว์ เขาหันกลับไปแล้วพบว่าเด็กหนุ่มดึงตะแกรงท่อระบายอากาศออกแล้วกระโดดออกจากท่อเข้ามาในห้องทำงานของเจโรมด้วยใบหน้าที่แย้มยิ้มอย่างเจิดจรัส
“รองประธานแอนดรูว์ ผมว่าตอนนี้เราคุยกันได้แล้วนะครับ”
แอนดรูว์กางแขนออกด้วยรอยยิ้มแล้วมองเนตรที่สามบนหน้าผากของฮู้ด “ครับ เราควรคุยกันหน่อยว่าเราจะมอบสมาคมแห่งสัจธรรมให้กับนายผู้สูงส่งของเรายังไงดี…?”