บทที่ 249 ปะทะเฮ่อเหลียนเวยเวย

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

ห​๊ะ​!

ผู้ชม​ต่าง​พากัน​แตกตื่น​ทันทีที่​นาง​พูด​เช่นนั้น​ออกมา​!

การ​ประลอง​แบบ​หนึ่ง​ต่อ​สิบ​นั้น​เข้าใจ​ได้​ไม่ยาก​นัก​ ​มัน​หมายถึง​การสู้​กับ​คน​สิบ​คน​ภายใน​รอบ​เดียว​ ​ผู้ท้าชิง​สามารถ​เลือก​ที่จะ​ร่วมมือ​กันต​่​อสู​้​ได้​ ​ในกรณีนี้​ ​หาก​พวกเขา​ชนะ​การ​ประลอง​ ​ก็​จะ​สามารถ​เข้าสู่​รอบ​ชิงชนะเลิศ​ได้​ทันที

แต่​เป็น​เพราะ​เงื่อนไข​ใน​การแข่งขัน​ที่​โหด​เอา​การ​ ​ดังนั้น​นอกจาก​องค์​ชาย​สาม​ผู้​เป็น​อัจฉริยะ​ที่​ได้​ประลอง​แบบ​สิบ​ต่อ​หนึ่ง​และ​สามารถ​ทำลายสถิติ​ไป​ได้​เมื่อ​สิบ​ปี​ที่แล้ว​ ​การ​ประลอง​รูปแบบ​นี้​ก็​ไม่เคย​มี​ใคร​พูดถึง​อีก​เลย

แต่​ใน​เวลา​เช่นนี้​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กลับ​เสนอ​ให้​ใช้​รูปแบบ​การ​ประลอง​ ​’​หนึ่ง​ต่อ​สิบ​’​ ​จริงๆ​ ​น่ะ​หรือ​!​?​ ​นาง​ไม่​รัก​ชีวิต​แล้ว​หรือ​ไร​ ​ช่าง​อวดดี​และ​โง่เขลา​ยิ่งนัก​!

เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ยก​ยิ้ม​แล้ว​หันไป​ขยิบตา​ให้​เฮ่อ​เหลียน​เหมย​ ​เฮ่อ​เหลียน​เหมย​พยักหน้า​ ​แล้ว​เดิน​ขึ้นไป​บน​เวที​ ​ตามมา​ด้วย​คุณชาย​จาก​ตระกูล​ขุนนาง​สอง​คน​ ​และ​คุณหนู​จาก​ตระกูล​ขุนนาง​อีก​เจ็ด​คน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​พวกเขา​หมาย​จะ​เอาชีวิต​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​!

สีหน้า​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไร้​การเปลี่ยนแปลง​ ​แต่​รอยยิ้ม​ที่อยู่​บน​มุม​ปากของ​นาง​กลับ​ดู​ชั่วร้าย​ขึ้น​เล็กน้อย

“​แม่นาง​ ​เจ้า​กำลัง​วางแผน​อะไร​อยู่​หรือ​”​ ​หยวน​หมิง​ปรากฏตัว​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยก​ริมฝีปาก​บาง​ของ​ตน​ ​”​นี่​เป็น​แค่​การ​ประลอง​ ​เจ้า​หมายความ​อย่างไร​ที่ว่า​ข้าวาง​แผน​อะไร​อยู่​”

หยวน​หมิง​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ไม่เชื่อ​นาง

และ​ใน​ตอนนั้น​นั่นเอง

คน​ทั้ง​สิบ​ก็​เริ่ม​ใช้​พลัง​ปราณ​ทั้งหมด​ใน​ร่าง​ของ​ตน​ ​ดวงตา​ของ​พวกเขา​จับจ้อง​อยู่​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​พร้อมกับ​พุ่ง​เข้าใส่​นาง​ ​ภาพ​นี้​ทำให้​ขันที​ซุน​ถึงกับ​เหงื่อ​แตก​พลั่ก​แทน​นาง​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มักจะ​ใช้การ​ต่อสู้​แบบ​ประชิดตัว​อยู่​เสมอ​ ​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​นั้น​จะ​สามารถ​ใช้​กระบวน​ท่าที​่​ดีที​่​สุด​ได้​ก็ต่อเมื่อ​เป็นการ​ประลอง​แบบ​ตัวต่อตัว​ ​แต่​ถ้า​เผชิญหน้า​แบบ​หนึ่ง​ต่อ​สิบ​ ​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​มี​แต่​จะ​ทำให้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ตาย​เร็ว​ขึ้น​เท่านั้น

ทุกคน​กลั้นหายใจ​ ​ใน​ดวงตา​ของ​พวกเขา​เต็มไปด้วย​ความตึงเครียด​ที่​สะท้อน​อยู่​ใน​ตอนที่​มอง​การต่อสู้​บน​เวที

แต่​สิ่ง​ที่​ทุกคน​คาดไม่ถึง​ก็​คือ​การ​ที่​หมัด​ของ​คน​ทั้ง​สิบ​ ​รวมถึง​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เหมย​นั้น​อัด​ได้​เพียง​อากาศ​!

เฮ่อ​เหลียน​เหมย​จ้อง​ที่​มือ​ของ​ตัวเอง​ด้วย​ความตกใจ​ ​เมื่อ​นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​มา​หยุด​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​นาง​อย่างรวดเร็ว​ ​แล้ว​ถีบ​นาง​จน​กระเด็น​ตก​เวที​ไป​เสีย​แล้ว​ ​ทันทีที่​เห็นภาพ​นี้​ ​ผู้เข้าแข่งขัน​คนอื่นๆ​ ​ก็​พยายาม​รวบรวม​พลัง​ปราณ​ทั้งหมด​ภายใน​ร่าง​ของ​ตน​ ​แต่​พวกเขา​กลับ​พบ​ว่า​ไม่​อาจ​ทำได้​!

เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่

คนที​่​เหลือม​อง​หน้า​กัน​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่​รอ​ให้​พวกเขา​ได้​แลกเปลี่ยน​บทสนทนา​กัน​ ​เพราะ​นาง​ย่น​ระยะ​เข้าไป​อยู่​ท่ามกลาง​พวกเขา​ราวกับ​กระบี่​ที่​ถูก​ชัก​ออกจาก​ฝัก​ ​แล้ว​คว้า​แขน​ของ​หนึ่ง​ใน​นั้น​ด้วย​เรี่ยวแรง​อัน​มหาศาล​…

กร​็​อบ​!

ในเวลาเดียวกัน​กับ​เสียง​กระดูก​แตก​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​หมุนตัว​กลับ​ทันที​ ​เส้น​ผม​สีดำ​ของ​นาง​สะบัด​พลิ้ว​ ​แล้ว​นาง​ก็​ยก​ขา​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ ​ภายใน​ชั่วพริบตา​ ​นาง​ก็​ถีบ​ชาย​ที่อยู่​ถัดจาก​นาง​ลอย​ออก​ไป​หลาย​จั้ง​!

ตูม​!​ตูม​!​ตูม​!

แค่​ภายใน​เวลา​สั้น​ๆ​ ​ทุกคน​ที่มา​ท้า​ชิง​ก็​ลง​ไป​นอน​กระจัดกระจาย​กัน​อยู่​ทั่ว​เวที​ ​พวกเขา​กุม​ท้อง​ด้วย​ความเจ็บปวด​ ​นอกจาก​รู้สึก​ว่า​ร่างกาย​ของ​ตน​ไร้​เรี่ยวแรง​แล้ว​ ​พวกเขา​ก็​ไม่ได้​สังเกต​เลย​ด้วยซ้ำ​ว่า​ตัวเอง​กำลัง​สูญเสีย​พลัง​ปราณ​ไป​เรื่อยๆ

นี่​เป็น​ฤทธิ์​ของ​ผง​สลาย​พัง​ ​ซึ่ง​สามารถ​ทำลาย​พลัง​ปราณ​ใน​ร่าง​ของ​พวกเขา​ได้​โดยที่​เจ้าของ​ร่าง​ไม่รู้สึกตัว​ ​แต่​ใช่​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​ไม่​สังเกตเห็น​เรื่อง​นี้

หยวน​หมิง​ปะติดปะต่อ​เรื่องราว​เข้าด้วยกัน​ ​ความเข้าใจ​ฉาย​ชัด​อยู่​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ ​”​เข้าใจ​ล่ะ​ ​แม่นาง​ ​เจ้า​รู้​ว่า​พวกเขา​ถูก​วางยา​ ​เจ้า​ก็​เลย​ปล่อย​ให้​พวกเขา​โจมตี​เข้ามา​หา​เจ้า​พร้อมกัน​หรือ​”

“​พวกเขา​อุตส่าห์​พยายาม​ร่วมมือ​กัน​สอน​บทเรียน​ให้​ข้า​เสีย​ขนาด​นี้​ ​แน่นอน​ว่า​ข้า​ย่อม​ต้อง​ตอบแทน​น้ำใจ​ของ​พวกเขา​อยู่​แล้ว​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้ม​เย็นชา​ ​เหมือนกับ​ปีศาจ​ที่​ลืมตา​ขึ้น​มาจาก​นรก

หยวน​หมิง​เอง​ก็​หัวเราะ​เช่นกัน​ ​”​ข้า​ประเมิน​ดูแล​้ว​ ​คาด​ว่า​ภายใน​เวลา​ครึ่ง​ก้านธูป​ ​พวกเขา​จะ​ต้อง​ทนทุกข์​จาก​ฤทธิ์​ของ​พิษ​นั้น​อย่างเต็มที่​แน่นอน​ ​หึๆ​ ​คง​น่ามอง​ทีเดียว​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยืน​ตัวตรง​ ​ผู้ตัดสิน​จับมือ​ข้าง​ซ้าย​ของ​นาง​ยกขึ้น​เป็นการ​แสดงให้เห็น​ว่านาง​เป็น​ผู้ชนะ​อย่างแท้จริง

ผู้ชม​ต่าง​พากัน​แตกตื่น​!

พวกเขา​ทำตา​โต​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ที่อยู่​บน​เวที

หนึ่ง​ต่อ​สิบ​หรือ

นาง​เอาชนะ​ได้​จริงๆ​!

คน​ทั้ง​แผ่นดิน​กล่าว​กัน​ว่า​บุตรสาว​คนโต​ของ​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​นั้น​ทั้ง​หน้าตา​อัปลักษณ์​และ​เป็น​คน​ไร้ค่า​ ​นอกจาก​เดินตาม​มู่​หรง​ซื่อ​จื่อ​แล้ว​ ​นาง​ก็​ทำ​อะไร​ไม่​เป็นโล้เป็นพาย​สัก​อย่าง​ ​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ความอัปลักษณ์​ ​แม้แต่​พฤติกรรม​ของ​นาง​ก็​น่ารังเกียจ​เสีย​จน​ไม่มีใคร​ทน​นาง​ได้

แต่​วันนี้​ทุกคน​กลับ​ได้​เห็น​กับ​ตา​ตัวเอง​แล้ว​ว่า​แท้จริง​แล้ว​ผู้หญิง​คน​นี้​เป็น​อย่างไร​กัน​แน่​ ​นาง​ทั้ง​เด็ดเดี่ยว​ ​และ​มิได้​ต่ำต้อย​ ​ซ้ำ​ยัง​ดูดี​กว่า​คน​ทั่วไป​มาก​ทีเดียว​!

แต่​เรื่อง​ที่​น่าเป็นห่วง​ก็​คือ​การ​ที่​จุดอ่อน​ของ​นาง​ได้​ถูก​เปิดเผย​ออกมา​เสีย​แล้ว​ ​กระทั่ง​ถึง​ตอนนี้​นาง​ก็​ยัง​ไม่เคย​แสดงออก​มา​ให้​เห็น​เลย​ว่านา​งมี​พลัง​ปราณ​!

สำหรับ​ผู้ฝึก​ปราณ​แล้ว​ ​จุดอ่อน​นี้​ถือว่า​เป็น​สัญญาณ​ที่​ไม่ดี​นัก​ ​โดยเฉพาะ​เมื่อ​คู่ต่อสู้​นั้น​เป็น​ถึง​ยอด​ฝีมือ​ด้าน​พลัง​ปราณ​!

เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​สังเกตเห็น​จุดอ่อน​ข้อนี​้​ได้​อย่างชัดเจน​ ​นาง​ก้าว​ขึ้นไป​บน​เวที​ด้วย​รอยยิ้ม​บาง​ๆ​ ​ดูป​ระ​หม่า​และ​อ่อนแอ​ ​ภาพ​นี้​กระตุ้น​ให้​บรรดา​คุณชาย​ทั้งหลาย​ปรารถนาร​ที่จะ​ปกป้อง​นาง​ขึ้น​มา​ใน​ใจ​ ​ดังนั้น​ ​ทุกคน​จึง​เห็น​เพียงแค่​ว่านา​งบัง​เอิญ​เดิน​ขึ้น​มาบน​เวที​เท่านั้น​ ​และ​ไม่ได้​สังเกตเห็น​แผนการ​ร้าย​ที่ซ่อน​อยู่​ภายใต้​การกระทำ​นั้น​แม้แต่น้อย

“​พี่ใหญ่​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ถอนหายใจ​แล้ว​มอง​ไป​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ราวกับว่า​นาง​ทนไม่ไหว​อีกต่อไป​ ​”​ข้า​ไม่ได้​อยาก​จะ​ฉวยโอกาส​เอาเปรียบ​หรอก​นะ​เจ้า​คะ​ ​แต่​ด้วย​รูปแบบ​ของ​การ​ประลอง​ ​ข้า​จึง​จำเป็นต้อง​ขึ้น​มา​ในเวลานี้​ ​ถ้า​ตอนนี้​ท่าน​ต้องการ​ขอ​ยอมแพ้​ ​ก็​ยัง​ไม่​สาย​เกินไป​นะ​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​สามารถ​ไป​คุย​กับ​ผู้ตัดสิน​ ​แล้ว​ขอให้​พวกเขา​อนุญาต​ให้ท่า​นขอ​ยอมแพ้​ได้​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เยาะเย้ย​ขึ้นเสียง​ดัง​ ​”​ถ้า​เจ้า​ไม่ได้​อยาก​ฉวยโอกาส​จริงๆ​ ​เช่นนั้น​ทำไม​เจ้า​ถึง​ไม่​แม้แต่​จะ​ให้​เวลา​ข้า​ได้​ดื่ม​น้ำ​สัก​หยด​ก่อนที่จะ​ขึ้น​มาบน​เวที​ล่ะ​”

สีหน้า​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​เปลี่ยนไป​เพราะ​คำพูด​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​แม้แต่​รอยยิ้ม​ของ​นาง​ก็​แข็ง​ค้าง​ไป

สายตา​เคลือบแคลง​สงสัย​จาก​คนที​่​อยู่​ล่าง​เวที​ทำให้​นาง​หายใจเข้า​ลึก​ๆ

ตึง​!

เสียง​กลอง​ดัง​ขึ้น​!

ทันใดนั้น​ใบหน้า​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ก็​มี​รอยยิ้ม​กลับคืน​มา​ ​นาง​พึมพำ​ให้​ได้ยิน​เพียง​สอง​คน​เท่านั้น​ ​”​ครั้งนี้​ข้า​จะ​ฆ่า​เจ้า​ให้​ได้​!​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เดินผ่าน​นาง​ไป​ ​โดย​ไม่​แม้แต่​จะ​มอง​นาง​เลย​ด้วยซ้ำ

นัง​คนชั้นต่ำ​นี่​กล้า​ดี​อย่างไร​ถึง​ได้​เมิน​นาง​!

ทันทีที่​เสียง​กลอง​สิ้นสุดลง​ ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ก็​กำมือ​ข้าง​ซ้าย​ของ​ตน​เอาไว้​แน่น​ ​นาง​หรี่​ตาลง​ ​จากนั้น​ทั่วทั้ง​ร่าง​ของ​นาง​ก็​มีแสง​สีทอง​เรืองรอง​ ​พลัง​ปราณ​ที่​สัมผัส​ได้​ใน​อากาศ​นั้น​รุนแรง​ราวกับ​คลื่น​มหาสมุทร​!

“​นั่น​ ​นั่น​มัน​…​”

ผู้คน​ที่อยู่​ใน​กลุ่ม​ผู้ชม​สูด​หายใจเข้า​ลึก​พร้อมกัน​ ​ปาก​และ​ตาของ​พวกเขา​ค่อยๆ​ ​เบิก​กว้าง​ขึ้น​ขณะที่​จ้องมอง​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ ​น้ำเสียง​ของ​พวกเขา​เต็มไปด้วย​ความประหลาดใจ​ ​”​ธาตุทอง​ระดับ​เก้า​!​”

“​ข้า​ไม่​อยาก​เชื่อ​เลย​ว่า​พลัง​ปราณ​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​จะ​ขึ้นไป​ถึง​ระดับ​นั้นแล​้ว​!​”

ทั่วทั้ง​จักรวรรดิ​ ​มี​คน​เพียง​โหล​เดียว​คน​เท่านั้น​ที่สามา​รถ​ทะลวง​ปราณ​ขึ้นไป​ถึง​ธาตุทอง​ได้​ ​โดยเฉพาะ​คนที​่​สามารถ​ทะลวง​ปราณ​ไป​จนถึง​ธาตุทอง​ระดับ​ห้า​ได้​นั้น​ก็​ยิ่ง​หายาก​อย่างมาก​ ​แต่​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​กลับ​ฝึกฝน​จน​ไป​ถึง​ระดับ​ที่​เก้า​ได้​แล้ว​!​ ​อีก​เพียง​ระดับ​เดียว​ ​นาง​ก็​จะ​ไป​ถึง​ระดับสูง​สุด​ของ​ธาตุทอง​!

“​นาง​ต้อง​เป็น​อัจฉริยะ​ใน​ตำนาน​อย่างแน่นอน​ ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​คู่ควร​กับ​การ​เป็น​พระ​ชายา​ในอนาคต​จริงๆ​!​”

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ย่อม​หมายความว่า​โอกาส​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​สามารถ​เอาชนะ​คู่ต่อสู้​ของ​ตน​ได้​นั้น​ช่าง​น้อย​นิด​ ​หาก​นาง​ไร้​ซึ่ง​พลัง​ปราณ​ ​ก็​เป็นไปได้​มาก​ที่นาง​จะ​ถูก​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​บดขยี้​จนตาย

เด็กสาว​สอง​คน​ยืน​เผชิญหน้า​กัน​อย่าง​เย็นชา​อยู่​บน​เวที​ ​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​ใน​วินาที​ถัดไป​นั้น​ ​ใคร​จะ​เป็น​ผู้ลงมือ​ฉีก​กระชาก​อีก​ฝ่าย​ออก​เป็น​ชิ้นๆ​ ​กัน​แน่​!

ทันใดนั้น​ ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ก็​ชักดาบ​ออกมา​ ​ก่อให้เกิด​คลื่น​พลัง​หลาย​ต่อ​หลาย​ชั้น

“​หมอก​เอ๋ย​ ​จงกลื​นกิน​ทุก​แสงสว่าง​!​”