“อืมถ้าอย่างนั้น เราจัดเตรียมแบบนี้มั้ย?”

“ใช่ ได้โปรด เรามีเงินพอถูกมั้ย?”

มันคือเช้าหลังจากเราใช้เวลาค้างคืนในบ้านใหญ่เผ่าวิลโรส เราตัดสินใจไปเมืองหลวงของดินแดนโดยเผ่าโรสเป็นคนเลี้ยง แน่นอนว่าเป้าหมายของเราคือซื้อชุดเจ้าหญิงฟูๆให้เอลม่าใส่ ผมใช้งานความแข็งแกร่งของพี่น้องผู้หญิงตระกูลเผ่าวิลโรสและคุณหนูทั้งหลายเพื่อที่จะลากเอลม่าไปด้วย

ผมตัดสินใจให้พวกคุณนายของผมตามสบายเพื่อที่พวกเธอมีความสุขกับเวลาซื้อของได้และตรงไปยังบริเวณรอของร้าน จากนั้นผมติดต่อกับสมาคมทหารรับจ้าง

“ใช่ว่าคุณมีมากกว่าพอและการจัดเตรียมพวกนี้จะต้องจ่ายเยอะนะ คุณไม่เป็นไรกับมันจริงๆเหรอ?”

“ฉันไม่ถือ ฉันจะทำให้ระดับทองคำขาวผิดหวังถ้าฉันไม่ได้ใช้ฟุ่มเฟือยมากเท่านี้เป็นอย่างน้อย”

“จริง…… รับทราบเราจะดำเนินการโฆษณาตามเงื่อนไขที่ตกลงถ้าอย่างนั้น”

“ฉันจะปล่อยให้คุณเลย”

“หลังจากได้ยินการยืนยันจากฝ่ายอื่น ด้วยนี่ เตรียมการเรียบร้อย

“ฮิโระซามะฮิโระซามะ! พี่คิดยังไง?”

“โอ้มันดูดีมากๆกับน้อง น่ารักมาก”

มันต่างจากที่ผมมีในใจ แต่ถึงอย่างนั้นผมชมมีมี่ที่ใส่ชุดน่ารัก อะไรที่ผมจินตนาการว่าเธอจะใส่คือชุดเจ้าหญิงน่ารักฟูๆ แต่สุดท้ายอะไรที่มีมี่ใส่ดูเหมือนกับเครื่องแบบมากกว่า มันค่อนข้างดูเหมือนมันออกแบบมาด้วยชุดเครื่องแบบทหาร

แต่มันค่อนข้างแน่น ดังนั้นเองมันเน้นหน้าอกมีมี่ไปเยอะ ใหญ่ มันดึ๋งดึ๋งเลยแหละพวก

“โมว แค่อะไรที่พี่มองอยู่กัน​?”

“อืม รู้มั้ย อดไม่ได้นอกจากจะดู”

“โมว〜 ฮิโระซามะลามก”

“พี่อดไม่ได้หรอก จริงๆ พวกผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่อดไม่ได้นอกเสียจากหลงใหลหน้าอกรู้มั้ย”

ผมยกมือและให้มีมี่ต่อยหน้าอกผมเบาๆ เธอต่อยผม แต่เธอไม่ได้ดูเหมือนโกรธอยู่ดี

“ทำไมมีมี่ได้ใส่บางอย่างแบบนั้นระหว่างสุดท้ายฉันใส่ชุดนี้?”

“มันไม่เป็นไรนะเน่ซัง มันดูดีกับพี่”

“พี่ดูเหมือนเจ้าหญิงมากๆ”

เอลม่าคร่ำครวญบ่นขณะเธอเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากับพี่น้องช่าง

“โอ้……”

“อะไรเล่า?”

“มันเหมาะกับเธอมากๆ ฉันหาคำมาพูดไม่ได้เลยว่าเธอใส่แล้วดูดีแค่ไหน เธอดูสง่าเอลม่า”

“……ชมฉันแบบนั้นไม่มีประโยชน์หรอกนะ”

หน้าเอลม่าเปลี่ยนเป็นแดงสดตอนเธอตอบเบาๆมองไปทางอื่น

เอลม่าที่ใส่ชุดสีเขียวหญ้าเปิดไหล่และมีเส้นที่คอค่อนข้างสุ่มเสียง แต่ผ้าคลุมทึบๆใสๆทำเป็นของปิดตรงนั้น…… ชุดค่อนข้างรู้สึกลึกลับ

“เฮ้เฮ้ แล้วเราล่ะบอส?”

“พี่สาว..​….”

ชุดที่ทีน่าและวิสเกอร์ใส่รู้สึกคล้ายกับเอลม่า พวกมันทำจากเนื้อผ้าเงาและดูนุ่ม แล้วก็เปิดไหล่และมีผ้าคลุมทึบๆใสๆด้วย

“พวกเธอสองคนดูน่ารักด้วยเหมือนกัน แทนพูดว่าน่ารัก ฉันว่าสวยจะเหมาะกว่ามั้ง?”

“เรียกว่าน่ารักก็ได้ไม่เป็นไร มาเร็วบอสพูดว่า ‘ทีน่าจังน่ารักที่สู้ด’ สักทีนะ?”

“ได้ได้ ทีน่าจังน่ารักสุด”

“พูดเหมือนครึ่งๆกลางๆเลย”

“เธอน่ารักด้วยเหมือนกันวิสเกอร์ เธอดูเหมือนภูติตัวน้อยเลย”

“โอ้นี่น่าอายอ้ะ”

“ไปหวานกันระหว่างปล่อยฉันไว้ไม่ดีนะเธอสองคน”

เธอลูบหัวทีน่าที่ก้าวมาปิดระหว่างวิสเกอร์และผมพร้อมประท้วง เธอทำชุดยับโดยการกระโดดไปทั่ว แต่มันดูเหมือนเธอไม่ได้ถือสักนิด

หลังจากที่เล่นกันแบบนั้น เมย์มาจากหลังร้านเหมือนกัน

“ดิฉันขอโทษที่ให้รอค่ะนายท่าน”

“โอ้…… เธอดูน่าทึ่งด้วยเหมือนกันเมย์”

มันจะเหมาะที่เธอแต่งตัวในสีขอความมืดไหม? เธอใส่ชุดหรูที่ทำจากผ้าน้ำสีน้ำเงินดำ ชุดดำเกี่ยวข้องกับความตายและการไว้ทุกข์ แต่ชุดที่เมย์กำลังใส่เป็นชุดดูดี

ที่ฟูที่อยู่หลายส่วนของเสื้อผ้าพร้อมกับเครื่องประดับอัญมณีก็คล้ายกับดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืนและเสริมความสวยสง่าของเธอ

“แต่ดิฉันคิดว่ามันหรูไปสำหรับแม่บ้านนายท่าน”

“ไม่หรอกมันไม่เป็นไร เราจะซื้อมันแน่ๆ”

“อย่างนั้นเหรอคะ……? ถ้านั่นเป็นที่ท่านหวังไว้นายท่าน”

เมย์ปิดตาและวางมือบนอกตอบ มันดูเหมือนเธอยิ้มด้วยเหมือนกันเพราะมุมปากเธอยกขึ้นเล็กน้อย มันยากที่จะสังเกตความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของเมย์ถ้าไม่ได้สนใจมาก

หลังจากนั้น พี่สาวและคุณหนูของตระกูลวิลโรสมากันทีละคน คุณนายที่ยังโสดนั้นไม่เป็นอะไร แต่ผมรู้สึกเหมือนมันจะมีปัญหาถ้าผมชมคนแต่งงานแล้วมากเกินไป ดังนั้นได้โปรดยกโทษให้ด้วยที่ต้องสงวนตัวไว้ทุกคน ผมแน่ใจว่าสามีพวกเธอจะสาดคำชมไปมากกว่าพอเมื่อพวกเธอกลับไปที่บ้าน แต่ไม่ว่าอย่างไร เอลฟ์เป็นเผ่าที่มีแต่คนสวยจริงๆ

“ฮึ่ม…… หนูจะให้แน่ว่าผอมลงนิดนึงด้วย”

“ไม่ดีนะมีมี่ อย่าพูดบางอย่างแบบนั้น เธอจะทำให้ตะหงิดใจนะรู้มั้ย?”

“มู!?”

มีมี่ส่งเสียงตกใจสะดุ้ง อ๊ะ เธอไม่ไหวขึ้นมาไม่อยู่โดยคุณนายคนอื่นเหมือนที่ผมคิด…… เข้มแข็งไว้มีมี่

จริงๆแล้ว เอลฟ์ไม่ได้ดูเหมือนพัฒนามากเมื่อมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่ผมไม่บอกว่าส่วนไหน ใหญ่ก็ดี แต่มันไม่เหมือนธรรมดาก็ไม่มีข้อดีด้วยเหมือนกัน ผมไม่เลือกปฏิบัติเมื่อเป็นเรื่องหน้าอก

อุ้ย สุดท้ายผมพูดมัน

“ฟิ้ว…… พูดตรงๆนี่เหนื่อยนิดหน่อย”

“บางอย่างแบบนี้นานๆครั้งก็ดีนะ ฉันแน่ใจว่านี่จะเป็นความจำที่ดีในวันต่อๆไป”

“ทำไมอยู่ดีๆมาพูดเหมมือนลุงแก่ๆ? เธอไม่ได้แก่ขนาดนั้นนี่ถูกมั้ย?”

“ฉันว่า ไม่ไปร่วมกับพวกเธอด้วยเหรอเอลม่า?”

“ขอผ่าน ฉันเหนื่อยเต็มที่แล้ว มันดูเหมือนเธอลับๆล่อๆก่อนหน้านี้นี่ ไปทำอะไรมา?”

“ฉันไม่ได้ทำตัวลับๆล่อๆสักนิด ฉันแค่จัดเตรียมบางอย่างเพราะฉันว่าง”

“หืม? เธอหามาตรการป้องกันกับพวกนั้นได้แล้วเหรอ?”

เอลม่าเอียงมาหาผมเพื่อกระซิบ ผมพยักหน้ากับที่เธอถามและขยายความ

“ถ้าเรากำลังไม่พอเจอพวกเธอ ถ้าอย่างนั้นทั้งหมดที่เราต้องทำคือรับสมัครคนถูกป่ะล่ะ?”

“รับสมัคร…… เข้าใจแล้ว พอมาคิดแล้วเธอพูดถูก เราไม่ได้ต้องสู้พวกเธอด้วยตัวเอง”

“เป็นอย่างนั้นแหละ การปิดกั้นระบบดาวรีฟิลจะปลดในไม่นานแล้ว ดังนั้นคนพวกนั้นควรกลับกันมาเป็นกลุ่มใหญ่เมื่อพรมแดนเปิด พร้อมด้วยผู้คุ้มกัน”

ถ้ากำลังเราไม่พอเราแค่ต้องหาเพิ่มโดยวิธีอื่น ผมทำให้แน่ใจว่าเสนอรางวัลเยอะด้วย