บทที่ 253 ระบบก็มีอารมณ์โกรธ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 253 ระบบก็มีอารมณ์โกรธ

“เจ้าของเรือ ลูกน้องของท่านมีแต่คนมีความสามารถทั้งนั้น เสาดีๆมีตั้งมากมาย ข้าย้ายไปเพียงแค่สองต้นเท่านั้น ท่านเพิ่มเข้ามาก็ได้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เสาสองต้นนี้ตั้งอยู่ที่ท่านตรงนั้นก็ไม่ได้ใช้ทำการใดๆ สู้ให้เอามาให้ข้าทำให้พวกเขาได้ทำงานที่เกิดประโยชน์ที่สุดดีกว่า ท่านว่าใช่หรือไม่?”

“คำพูดเช่นนี้……ข้ากลับชอบที่จะฟัง คิดไม่ถึงว่าสองปีมานี่ เจ้าไม่เพียงแค่พัฒนาขึ้น รูปโฉมท่าทางก็เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจมาก”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยาที่อยู่หน้ากระจกทองแดง ชะงักเล็กน้อย จัดการกับเสื้อผ้าสีแดงเลือดของตัวเองกับกระจกทองแดง พูดอย่างสบายใจมาก :

“ข้าก็เป็นเสาดีๆที่อยู่ใต้บัญชาของท่านไง! เสาที่ดีมีการทำงานอย่างเต็มความสามารถ ท่านยังจะไม่ดีใจอีกหรือ?”

“เหอะ! เจ้าหน่ะ! หยอกล้อคนตรงจุดกลับไม่เคยเปลี่ยนสักนิด ดีแล้ว ข้าก็ควรกลับไปพักผ่อนแล้ว”

พักผ่อน?

ผลข้างเคียงของหานแสหายแล้ว?

ก็ถูก ตั้งสามปีแล้ว ถ้ายังไม่ดีขึ้นอีกนั้นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

เวลานี้!

หานแสก็ได้จุดเทียนเล่มสุดท้ายบนเชิงเทียน จากนั้นก็เขาก็แวบไปด้านหลังเชิงเทียน ปัดมือตามสบายด้วยท่าทางที่ทรงพลังครั้งหนึ่ง เทียนทั้งหมดก็ถูกดับไป……

หลานเยาเยาตกอยู่ในความมืดไปในทันที

เมื่อเสียงของหานแสดังขึ้นอีกครั้ง เสียงนั่นก็อยู่ด้านนอกในที่ไกลออกไปมากแล้ว : “หวังว่าเจ้าจะเป็นเสาที่ดีของข้าตลอดไป!”

หลานเยาเยายืนเงียบๆอยู่หน้ากระจกทองแดง นิ่งเงียบอยู่นาน

หลังจากนั้นก็เริ่มถอนหายใจเฮือกหนึ่ง!

“ไปก็ไปสิ! จะดับไฟทำไม? นางยังชื่นชมตัวเองไม่พอเลยนะ!”

จากนั้นหลานเยาเยาก็เอามุกเย่หมิงออกมา ครู่หนึ่งในห้องก็ถูกแสงสว่างโชติช่วงของมุกเย่หมิงเติมเต็ม

เงาของนางก็ปรากฏขึ้นในกระจกทองแดงอีกครั้ง

มองเห็นรูปร่างทรวดทรงองค์เอวที่ดีของตัวเอง แล้วมองดูหน้าตาที่สวยงามน่าทึ่งของตัวเอง นอกจากดวงตาคู่โตที่นัยน์ตาดำดั่งหมึก ก็ไม่มองไม่เห็นความบริสุทธิ์เดียงสาเช่นเมื่อก่อนของตัวเองอีกแล้ว

น่าเสียดาย……

ตอนนี้แม้ดวงตาคู่นี้ ก็ยังเคลือบไปด้วยความอาฆาตแค้น……

จากนั้น!

นางเอามีดสั้นออกมาจากระบบ บนมีดสั้นมีสีแดงเด่น

นี่คือเลือดของเย่แจ๋หยิ่ง……

ก่อนหน้านี้นางใช้มีดสั้นเล่มนี้ปาดที่มือของเขา

เย่แจ๋หยิ่ง……

เมื่อคิดถึงเขา หลานเยาเยาโบกมือจะเช็ดเลือดออกไป เพียงแต่ เมื่อคิดถึงท่าทางตอนที่เขากระอักเลือด นางก็เปลี่ยนความคิดขึ้นมากะทันหัน

นางกลับอยากดูว่า เขาเป็นโรคอะไรกันแน่?

นางอาจจะสามารถเอาสิ่งนี้มาข่มขู่เขาได้ รอหลังจากที่นางล้างแค้นฆ่าราชครูสำเร็จแล้ว ค่อยฆ่าเขา

ด้วยเหตุนี้!

นางพูดกับระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยความคิดว่า : “เปิดระบบปัญญาประดิษฐ์”

“ติ้ง……”

“ระบบปัญญาประดิษฐ์เปิดแล้ว”

สำหรับการเปิดระบบปัญญาประดิษฐ์ หลานเยาเยาไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่กลับรู้สึกแปลกนิดหน่อย

เพียงแต่……

ทั้งๆที่ระบบปัญญาประดิษฐ์ได้เปิดแล้ว ทำไมระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บถึงไม่พูดล่ะ?

ก่อนหน้านี้เมื่อเปิดระบบปัญญาประดิษฐ์ เขาจะพูดว่า “เจ้านาย ดีใจที่ได้รับใช้ท่าน” หรือว่าเป็น “เจ้านาย ท่านต้องการอะไรให้สั่งมาได้เลย”

ตอนนี้กลับไม่พูดอะไรเลย

คงไม่ใช่เพราะโดนผลกระทบจากอุกกาบาตยังไม่หายหรอกนะ?

เป็นไปไม่ได้นี่!

อุกกาบาตเพียงทำให้มันได้รับผลกระทบ ไม่ได้สร้างความเสียหายให้มันสักหน่อย

อีกทั้ง……

สามปีก่อน เมื่อตอนที่นางไปถึงชนเผ่าหยินไห่ ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บก็ได้รับผลกระทบจากอุกกาบาตแล้ว นอกจากจะสามารถเอาของออกมาและเก็บเข้าไปได้ตามปกติแล้ว ความสามารถด้านอื่นๆก็รวนจนถึงขั้นล้มเหลว

ดังนั้นหลังจากที่ออกมาจากหุบเขาจิ้น นางก็ได้ปิดระบบปัญญาประดิษฐ์แล้ว

หรือว่าไม่ใช้งานหลายปีก็เลยเป็นสนิมไปแล้ว?

แต่ว่านางจัดการไปสักพัก ก็ยังไม่ได้ยินเสียงของเครื่องจักรดังขึ้นมา

ดังนั้น หลานเยาเยาจึงได้เปิดใช้งานอุปกรณ์ความปลอดภัย ตรวจสอบระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บอีกครั้ง สุดท้ายก็ไม่พบปัญหาใดใด แต่ว่าเครื่องจักรก็ยังไม่มีเสียงดังขึ้นมา

จึงอดไม่ได้ที่จะกลุ้มใจ……

เจ้าบ้าเอ้ย!

ช่างเถอะช่างเถอะ ไม่สามารถใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ได้ งั้นนางต้องทำด้วยมือ

ด้วยเหตุนี้!

“ปิด……”

“หึ!”

หืม? เสียงอะไร?

เหมือนกับเสียงของเด็ก ทั้งยังมีความฝืดของเครื่องจักรอีกด้วย

หลานเยาเยาลืมปิดระบบปัญญาประดิษฐ์ไปทันที และยังค้นหาที่มาของเสียงไปทั่ว

สุดท้ายพบว่า น้ำเสียงไม่พอใจที่เย็นชาเมื่อสักครู่ ก็คือออกมาจากระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

อดไม่ได้ที่จะหนักใจแล้ว!

“นี่ ถ้ายังไม่พูดอีก ข้าจะปิดระบบปัญญาประดิษฐ์จริงๆ และจะไม่เปิดอีกต่อไปแล้ว?” หลานเยาเยาพูดกึ่งข่มขู่

“หึ! เจ้านาย หากว่าท่านยังจะปิดระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บเป็นเวลานานละก็ ก็อย่าคิดว่าจะได้พัฒนาระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บอีก หลังจากนี้ก็อย่าคิดที่จะเป็นเจ้าของระบบสุดยอดอัจฉริยะที่ได้พัฒนาเหล่านั้นแล้ว หึ!”

มันที่เป็นระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บนี้ พอเจอเจ้านายเช่นนี้ มันก็แสดงความไม่พอใจมาก

ปิดครั้งหนึ่ง ก็ปิดมันไปตั้งสามปี

“……”

นี่ไม่ใช่เสียงของระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่นางได้ยินเมื่อสามปีก่อน

เสียงเด็กนี่มาจากไหนกัน?

หรือว่าระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บจะมีเสียงหลายแบบ สามารถเปลี่ยนได้ตามใจ?

หากว่ามี ทำไมนางไม่รู้?

“ทำไมเสียงของเจ้าถึงเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้แล้ว?” หยิ่งผยองเหมือนแมวสีส้มที่หนักร้อยกิโล

ระบบก็อารมณ์เสียได้หรือ?

“เจ้านาย หรือว่าท่านคิดว่าหลังจากที่ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บพัฒนาแล้ว เป็นเพียงแค่การเปิดเครื่องใช้การรักษาโรคภัยไข้เจ็บขั้นที่สูงขึ้น?”

เห็นว่าเจ้านายของตัวเองไม่พูด ระบบก็ได้พูดต่อด้วยความไม่พอใจ :

“หึ เจ้านาย ท่านผิดแล้ว การพัฒนาระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บเป็นการพัฒนาโดยรวม ท่านภายในระยะเวลาอันสั้นเมื่อสามปีก่อน ทำให้ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บพัฒนามาสามขั้นติดต่อกัน

ดังนั้น ข้าก็ค่อยๆมีพัฒนาการจากเสียงของเครื่องจักร และจากนั้นยังสามารถ ค่อยๆปรากฏตัวในสมองของเจ้านายในรูปแบบของมนุษย์ได้”

ทีแรกมันคิดว่า ด้วยความเร็วในการพัฒนาที่รวดเร็วเป็นพิเศษเช่นเทพเซียนของเจ้านายนี้ ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งปี มันก็จะสามารถพัฒนาทั้งหมดได้สำเร็จ

น่าเสียดาย……

เจ้านายที่ทำอะไรโดยไม่คิดของมันนี้ คิดไม่ถึงว่าจะปิดมันไป และพอปิดครั้งหนึ่งก็ปิดไปสามปี

ดังนั้น ขนาดการพัฒนาเป็นคนของมันก็ประกาศไม่ได้แล้ว

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยาดวงตาเปล่งประกาย ดวงตาที่เฉลียวฉลาดก็ส่องแววแพรวพราวขึ้น

ว้าว!

สุดยอดขนาดนี้เชียว

เพียงแต่น้ำเสียงในพูดจาไม่ต้องหยิ่งผยองขนาดนั้นได้หรือไม่? นางไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก

“เจ้านาย นี่ท่านกำลังไม่พอใจตัวท่านเอง ข้าค่อยๆเปลี่ยนนิสัยไปตามนิสัยของท่านเจ้านายค่อยๆเปลี่ยนไปจนเป็นรูปแบบนี้ในตอนนี้ นิสัยในตอนนี้เป็นนิสัยตอนเด็กๆของท่าน

หลังจากนี้เส้นทางทั้งหมดในการพัฒนา นิสัยที่ก่อตัวขึ้นหลังจากนี้ของข้าก็จะเป็นนิสัยของท่านในปัจจุบัน”

ดังนั้น……

หลานเยาเยารู้สึกหนักใจขึ้นมาเล็กน้อย

การพูดจาของนางตอนเด็กๆสามารถทำให้คนโกรธและจากไปได้ง่ายเชียวหรือ?

ไม่ใช่มั้ง! นางพูดง่ายๆนี่?

ช่างเถอะ นางไม่เอาเรื่องกับระบบ

“ในเมื่อพูดแล้ว งั้นก็เริ่มทำงานเถอะ! ตรวจสอบเลือดบนมีดหน่อย”

หลานเยาเยามองไปที่เลือดที่อาบบนมีดสั้นอีกครั้ง จากนั้นก็วางลงไปในระบบอย่างไม่สนใจ ให้ระบบไปตรวจสอบเอง

จากนั้นนางก็มองตัวเองในกระจกอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง สีหน้าแสดงความไม่เข้าใจเล็กน้อย

แม้ว่าระบบจะอารมณ์เสีย แต่เมื่อทำเรื่องจริงจังขึ้นมา ก็จริงจังมากๆ

ไม่ถึงหนึ่งนาที

“ติ้ง……”

“เจ้านาย ผลตรวจสอบออกมาว่า เลือดชนิดนี้เป็นกรุ๊ปเลือดที่หายากมาก เป็นกรุ๊ปเลือดเดียวกับเจ้านาย ทำให้ร่างกายความแข็งแรง……”

“ เดี๋ยวก่อน … ” หลานเหยาเหยารีบตัดบท ระบบที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เสียงกึ่งเครื่องจักรที่เป็นเหมือนเด็ก จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เลือด……ไม่มีปัญหา?”

“ไม่มี!”

ไม่มี?

เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง?