บทที่ 288 ที่ดินของผม

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 288 ที่ดินของผม

พิธีแต่งตั้งเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์และไม่อาจลบหลู่ได้สำหรับชาวเมียนมา เพราะถือเป็นของขวัญจากสรวงสวรรค์และเป็นอำนาจอันสูงส่งของประธานาธิบดี ทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงของประชาชน

เพราะฉะนั้นพิธีแต่งตั้งจึงมีความสำคัญมาก!

เจ้าหน้าที่ทางการพาไป๋เยี่ยไปเปลี่ยนชุด ส่วนคนอื่นๆ ก็กำลังเฝ้ารอพิธี

ประเทศเมียนมาไม่ได้จัดพิธีแต่งตั้งยศข้าราชการมาเป็นเวลานานแล้ว อีกทั้งครั้งนี้ยังเป็นการมอบตำแหน่งให้ชาวต่างชาติด้วย จึงมีตัวอย่างให้เห็นค่อนข้างน้อย

หลี่หมิงและคนอื่นๆ ตื่นเต้นกับพิธีมาก พวกเขาต่างคว้าโทรศัพท์มือถือออกมาเตรียมถ่ายรูป

พิธีแต่งตั้งจะออกอากาศในช่วงเวลาประกาศข่าวด่วนของประเทศเมียนมา อย่างไรเสียงานนี้ก็ถือเป็นงานใหญ่สำหรับประเทศเมียนมา

มีเพียงผู้ที่มีผลงานดีเด่นและได้รับการยอมรับจากประชาชนเท่านั้นที่จะได้รับเกียรติยศและรางวัลดังกล่าว

อาคามอสและโมลโดเองก็พลอยตื้นตันใจและมีความสุขไปด้วย ปู่ของโมลโดเป็นชาวอังกฤษ ทั้งยังเป็นบารอน[1] ทำให้แนวคิดแบบชนชั้นสูงที่เขาได้รับการปลูกฝังมาแต่ไหนแต่ไรมีอิทธิพลต่อตัวเขามาก

แม้ว่าในปัจจุบันชนชั้นสูงจะเริ่มมีบทบาทน้อยลง แต่การได้รับตำแหน่งเป็นขุนนางก็ยังคงเป็นเกียรติยศของวงศ์ตระกูล

ทุกคนกำลังรอคอยช่วงเวลาที่ไป๋เยี่ยจะได้รับการแต่งตั้ง

ทั้งรอคอยการถือกำเนิดของข้าราชการผู้มีเกียรติอันรุ่งโรจน์และยิ่งใหญ่

ไป๋เยี่ยเปลี่ยนชุดบนรถบัสเสร็จแล้วก็เตรียมตัวเดินออกมา ทว่าท่านประธานาธิบดีกลับเป็นฝ่ายเดินมาหาเขาเอง

รถบัสคันนี้แตกต่างจากรถบัสธรรมดาอย่างสิ้นเชิง ภายในรถมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างและมีการออกแบบแตกต่างจากรถทั่วไป คงจะเป็นรถที่สั่งผลิตขึ้นพิเศษ

ทันทีที่ไป๋เยี่ยเห็นประธานาธิบดีเดินเข้ามา เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วจึงโค้งคำนับลงเล็กน้อย

ท่านประธานาธิบดีโบกมือพลางส่งยิ้มให้ ก่อนจะเชิญให้ไป๋เยี่ยนั่งลง ส่วนเขาก็นั่งลงข้างๆ

“ผมมีข้อเสนอให้คุณ ลองฟังดูสักหน่อยก็ได้นะ” ท่านประธานาธิบดีกล่าวอย่างยิ้มแย้ม

ไป๋เยี่ยค่อนข้างงุนงงจึงยิ้มแห้งๆ กลับไป “เสนอมาได้เลยครับท่าน”

ท่านประธานาธิบดีหัวเราะเบาๆ “คุณคิดยังไงกับเมียนมา”

ไป๋เยี่ยตอบ “ประเทศเมียนมาเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วไม่กี่ประเทศในเอเชีย มีสภาพแวดล้อมที่ดีมากทั้งในด้านภูมิศาสตร์และมนุษยศาสตร์ครับ…”

สิ่งที่ไป๋เยี่ยพูดนั้นล้วนเป็นความจริงทั้งนั้น จีดีพีต่อหัวของประเทศเมียนมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี มีระบบอุตสาหกรรมที่พัฒนา จึงมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจไม่น้อยเลย

ไม่อย่างนั้นผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกคงจะไม่ถูกดึงดูดให้เดินทางมาท่องเที่ยวหรือตั้งถิ่นฐานที่นี่

ท่านประธานาธิบดีได้ฟังก็อดเบิกบานใจไม่ได้ “แล้วคุณคิดยังไงกับการถือสัญชาติเมียนมา”

หัวใจของไป๋เยี่ยเต้นระรัว ถือสัญชาติเมียนมา?

ไป๋เยี่ยไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย!

ในฐานะที่เป็นประชาชนชาวจีนตั้งแต่กำเนิด แม้ว่าเถ้าแก่ไป๋จะเคยไปตั้งรกรากอยู่ที่อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ มาก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ไม่เคยลืมความเป็นชาวจีนของตนเองเลย

เช่นเดียวกับไป๋เยี่ย เขาก็ยังคงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเกิดเมืองนอนอยู่

แม้ว่าการได้ถือสัญชาติเมียนมาจะเป็นเรื่องยาก แต่ไป๋เยี่ยก็ไม่ได้มีความคิดที่อยากจะอยู่ต่อ

นอกจากนี้ ตามข้อกฎหมายว่าด้วยเรื่องสัญชาติของจีนนั้น ประชาชนชาวจีนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ถือสองสัญชาติ หากเลือกถือสัญชาติอื่น จะถือว่าสละสัญชาติจีนไปโดยปริยาย

ดังนั้นไป๋เยี่ยจึงเอ่ยปากปฏิเสธไปโดยไม่คิดมาก

ท่านประธานาธิบดีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาของไป๋เยี่ย ทว่าเขาก็ยังคงยิ้มให้พลางส่ายหัวไปมา “จิตใจบริสุทธิ์มาก ไม่เลว!”จตใ

หลังจากนั้น ประธานาธิบดีแห่งเมียนมาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย เขายืนขึ้นพร้อมกับตบบ่าไป๋เยี่ยเบาๆ “คุณพร้อมสำหรับการขึ้นรับตำแหน่งหรือยัง”

ไป๋เยี่ยตอบรับพร้อมกับพยักหน้าลง

การมอบตำแหน่งกับการให้ถือสัญชาตินั้นไม่เหมือนกัน เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน ในอดีตมีคนต่างชาติมากมายที่ได้รับตำแหน่งและรางวัลเกียรติยศต่างๆ ทว่ากลับไม่ค่อยได้รับส่วนแบ่งที่ดิน ส่วนใหญ่จะได้รับตราเกียรติยศมากกว่า

การแต่งตั้งตำแหน่งข้าราชการนั้นไม่จำเป็นต้องจัดพิธีการใหญ่โตนัก ว่ากันว่าในประวัติศาสตร์ยังเคยมีเรื่องเล่าการแต่งตั้งขุนนางแบบกะทันหันเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทางการในเครื่องแบบพิธีการก็ยังคงพยายามจัดฉากให้สภาพของเมืองดูไม่รกร้างจนเกินไป เพียงแค่ตกแต่งและตั้งเวทีสูงให้ดูเป็นทางการเท่านั้น

ไป๋เยี่ยสวมเครื่องแบบข้าราชการของเมียนมา เขาก้าวขึ้นไปยืนบนเวทีอย่างแพรวพราว

ส่วนท่านประธานาธิบดีซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ก็แต่งกายด้วยเครื่องแบบของเขาเตรียมมอบตำแหน่งข้าราชการให้ไป๋เยี่ย

บรรยากาศตรงหน้าอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งยุคสมัยดั้งเดิมและพิธีการอันศักดิ์สิทธิ์

ขั้นแรกของพิธีคือการมอบเหรียญเกียรติยศ จากนั้นก็จะเป็นการมอบตำแหน่งข้าราชการและปิดท้ายด้วยการปราศรัยจากท่านประธานาธิบดี

พิธีมอบตำแหน่งกินเวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมง

ไป๋เยี่ยคิดว่ามันไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์เท่ากับที่จินตนาการไว้ คงเป็นเพราะเขาไม่ใช้คนเมียนมา จึงสัมผัสไม่ได้ถึงความขลัง

หลังจากพิธีการจบลง เหล่าข้าราชการในเครื่องแบบก็เดินเข้ามาพร้อมกับแผนที่

ท่านประธานาธิบดีเอ่ย “ในฐานะที่เป็นข้าราชการของเมียนมา คุณจะได้รับส่วนแบ่งที่ดินผืนหนึ่ง จะรับไว้เองหรือจะยกให้ประเทศและได้รับเงินปันผลประจำปีจากทางการเมียนมาก็ได้ คุณเลือกแบบไหนล่ะ”

ทันใดนั้นไป๋เยี่ยก็นึกถึงคำพูดของต้วนเจ๋อหมิง จึงตอบไป “ผมจะรับที่ดินผืนนี้ไว้เองครับ”

ท่านประธานาธิบดีพยักหน้า หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพักก็เอ่ยปากขึ้น “เพราะว่าคุณได้อุทิศตนเพื่อเมียนมา ที่ดินผืนนี้ก็จะเป็นส่วนแบ่งของคุณไป หวังว่าคุณจะจัดการมันให้ดีนะ!”

ท่านประธานาธิบดีชี้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งบนแผนที่ ก่อนจะส่งคืนเจ้าหน้าที่ทางการแล้วหันหลังเดินจากไป

เจ้าหน้าที่หันมาทางไป๋เยี่ย “เรากำลังสร้างเมืองนี้ขึ้นมาใหม่ ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสร้างเสร็จ หลังจากนั้นเราก็จะแบ่งที่ดินผืนนั้นให้กับคุณ”

ไป๋เยี่ยเพ่งมองเข้าไปใกล้ๆ และพบว่าที่ดินตรงนั้นอยู่บริเวณชานเมือง

มันคือสถานที่เดียวกับที่ต้วนเจ๋อหมิงชี้ให้ดูนั่นเอง

อย่างไรเสียไป๋เยี่ยก็คงยังไม่ได้ไปที่นั่นเร็วๆ นี้ เพราะว่าการสร้างเมืองขึ้นใหม่นั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน ทว่าไป๋เยี่ยก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร

ถึงตอนนี้จะได้ที่ดินมาก็ไม่มีประโยชน์ แผ่นดินไหวเพิ่งจะสงบลง ใครจะไปรู้ว่าสถานการณ์ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง

ที่นั่นอาจจะกลายเป็นหลุมลึกไร้ก้นบึ้งไปแล้วก็ได้!

หรืออาจจะกลายเป็นเกาะที่ถูกล้อมรอบด้วยน้ำทะเลก็ได้ ไม่มีอะไรแน่นอน!

หลังจากที่ท่านประธานาธิบดีแต่งตั้งไป๋เยี่ยแล้วก็กล่าวชมเชยและขอบคุณทีมกู้ภัยพร้อมกับมอบเหรียญเกียรติยศให้ทุกคน

หลังจากที่ปลอบโยนทหารและพลเรือนในเมืองอยู่นาน ท่านประธานาธิบดีก็กลับไป อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงประมุขของรัฐ ย่อมมีกำหนดการที่ชัดเจน เขาจึงใช้เวลาอยู่ที่นี่นานเกินไปไม่ได้

ส่วนไป๋เยี่ยก็เตรียมเดินทางกลับประเทศพร้อมกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

แค่คิดว่าพรุ่งนี้จะได้กลับจีนแล้ว ไป๋เยี่ยก็ยิ่งตื่นเต้น คิดได้ดังนั้นเขาจึงส่งข้อความไปหาแม่

[แม่ ตอนนี้ลูกชายแม่เป็นข้าราชการแล้วนะ ภูมิใจไหม]

ทว่าพอนึกถึงใบหน้าเปื้อนน้ำตาของแม่ยามที่เขาจากบ้านมาก ไป๋เยี่ยกลับรู้สึกปวดใจเล็กน้อย

พ่อแม่ย่อมเป็นกังวลในยามที่ลูกต้องเดินทางไกล

ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น

[ติ๊ง! ยินดีด้วย ทักษะการแพทย์ฉุกเฉินของคุณเพิ่มขึ้นถึงเลเวล 7 แล้ว]

[1] บารอน คือ ยศขุนนางของประเทศอังกฤษ ถือเป็นยศขุนนางที่ต่ำที่สุดในสภาขุนนาง