บทที่ 314 สู่สังเวียน

บทที่ 314 สู่สังเวียน

หลังเห็นอู๋ฝานคล้ายไตร่ตรองมาดีแล้ว ทั้งยังไม่ได้ตื่นเต้นไปกับความร้อนแรงของบรรยากาศ หวังจื่อหมิงจึงไม่พูดห้ามปรามอีก แต่ก็ยังเอ่ยออกมาว่า “ถ้างั้นก็ระวังตัวด้วย เมื่อไหร่ที่รู้ตัวว่าสู้ไม่ได้ ประกาศยอมแพ้ให้ชัด ๆ มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย”

“ครับ” อู๋ฝานพยักหน้ารับ

หลังจากนั้น อู๋ฝานก็เดินออกไปจากห้องส่วนตัว และมุ่งตรงไปยังสังเวียน

การปรากฏตัวของอู๋ฝาน เป็นการทำให้บรรยากาศยิ่งปั่นป่วน

ตอนนี้กับช่วงที่ไหน่ไชปะทะกับอู๋ฝานนั้นเพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน หลายคนในที่นี้ต่างก็อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วยเช่นกัน ไหน่ไชแสดงศักยภาพออกมาได้ดีเยี่ยม ขณะที่ชายหนุ่มก็สามารถน็อกเอาต์อีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย กระทั่งทำให้คนมากมายต้องสูญเสียเงินเดิมพัน หลายคนในที่นี้จึงจำเขาได้ขึ้นใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายปรากฏตัว พวกเขาจึงรู้ได้ในทันที

ปาซงอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว ทั้งยังแสดงศักยภาพได้ดียิ่งกว่าที่ไหน่ไชเคยทำเอาไว้ ความจริงที่ว่าเขาท้าอู๋ฝานเพื่อล้างแค้นให้กับลูกศิษย์ของตนเองนั้น มันเป็นประเด็นที่หลายคนเฝ้ารอที่จะได้เห็นศึกนัดล้างตาดังกล่าว

แต่หลายวันที่ผ่านมา อู๋ฝานกลับไม่ปรากฏตัว หลายคนที่รอคอยศึกดังกล่าวอย่างใจจดจ่อ ต่างก็ต้องผิดหวังกันถ้วนหน้า บางคนกระทั่งคาดเดากันไปว่า หลังอู๋ฝานได้เห็นความแข็งแกร่งของปาซงก็เกิดหวาดกลัวที่จะแสดงตัว แน่นอนว่าหากเปลี่ยนเป็นตัวพวกเขาเอง ก็คงจะเลือกแบบเดียวกัน

ขณะที่กลุ่มคนคิดกันไปว่าคงไม่มีทางได้เห็นศึกนัดล้างตาดังกล่าวแล้ว อู๋ฝานกลับปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ทำให้คนในที่นี้ต่างต้องแสดงอาการตื่นเต้นยินดีกันออกมา

การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือที่แข็งแกร่งสองคน ย่อมเป็นตัวกระตุ้นความกระหายของผู้คน และปาซงที่มาเพื่อล้างแค้นโดยเฉพาะ ศึกที่กำลังจะปะทุต้องเข้มข้นอย่างไร้ข้อกังขาแน่นอน!

อาการตอบสนองของคนในที่นี้ ปาซงก็ทราบเช่นเดียวกัน เขามองตามสายตาของกลุ่มคน พร้อมได้พบอู๋ฝานที่กำลังเดินเข้ามายังสังเวียน

ปาซงไม่รู้จักอู๋ฝาน แต่จากสายตาของกลุ่มคนในที่นี้ที่มองด้วยความร้อนแรง ในใจเขาย่อมรู้ได้ว่าผู้มาเยือนจะต้องไม่ใช่คนธรรมดา

“แกเป็นใคร?” ปาซงถามเสียงดังทันทีที่อู๋ฝานขึ้นสังเวียน

“ก็ตามหาตัวฉันอยู่ไม่ใช่รึไง? ตอนนี้ฉันมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว ยังไม่รู้ตัวอีกงั้นเหรอ?” อู๋ฝานถามกลับ

“แกคืออู๋ฝาน?!” ปาซงเผยสายตาดุร้ายขึ้นมาในพริบตา ประหนึ่งเสือร้ายที่พร้อมขย้ำเหยื่อ สายตาที่จ้องอู๋ฝานหมายฆ่าฟัน ตอนนี้กำลังรอคำตอบที่แน่ชัด

“ไม่เลว” เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาดุดันกินเลือดเนื้อของปาซง อู๋ฝานกลับไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่น้อย “ได้ยินมาว่าหาตัวฉันเพื่อขอสู้ด้วยงั้นเหรอ?”

“ใช่!” หลังปาซงได้รู้ตัวตนของอู๋ฝานเรียบร้อยแล้ว ออร่าก็พลันพวยพุ่งออกจากกายของเขา มันยิ่งทำให้ตัวเขาดูอันตรายมากขึ้น “แกทำร้ายลูกศิษย์ฉัน! ทำลายการฝึกฝนของเขา ฉันจะให้แกต้องชดใช้ด้วยราคาอันสาสม!”

“โห? เป็นราคาแบบไหนกันล่ะ?” อู๋ฝานถามกลับเสียงเรียบเฉย

“ตาย!” ออร่าของปาซงพวยพุ่งออกมามากขึ้น สายตาของเขาจ้องอู๋ฝานไม่กะพริบ ทันใดนั้นจิตสังหารจากร่างนั้นก็คล้ายจะแข็งกร้าวขึ้นมา

มันเป็นจิตสังหารของจริงที่แผ่พุ่งเข้าหาอู๋ฝาน

“ฆ่าฉัน?” ไม่เพียงอู๋ฝานไม่หวาดกลัว แต่ยังเผยยิ้มบางออกมาด้วยซ้ำ “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่านายมีความสามารถหรือเปล่า! ลูกศิษย์ที่ไม่ได้มีความสามารถอะไร คนที่สอนลูกศิษย์ไร้ค่าแบบนั้นได้ ก็ไม่น่าจะมีอะไรต่างกัน!”

“รนหาที่ตาย!” ปาซงตะโกนดังด้วยเสียงเดือดดาล

“ไม่ใช่ว่าฉันรนหาที่ตาย” อู๋ฝานยังคงตอบกลับ “ในเมื่ออยากสู้ ฉันก็จะสู้ด้วยแล้วกัน หวังว่าจะมีฝีมือกว่าศิษย์นะ”

ปาซงเผยสายตาฆ่าฟันมองอู๋ฝาน ทันทีที่นึกถึงศิษย์ที่ตนรักเลี้ยงดู กับสภาพที่ถูกอู๋ฝานเล่นงานจนแทบจำไม่ได้ ในใจเขาก็เปี่ยมไปด้วยโทสะ เขาไม่อาจอดใจรอคอยได้ฉีกทึ้งร่างของอีกฝ่ายเป็นชิ้น ๆ ซะที่นี่

ตอนนี้เองที่เจ้าหน้าที่ของคลับขึ้นมาบนสังเวียน ให้ทั้งสองฝ่ายทำสัญญาเป็นตาย ไม่ว่าอู๋ฝานหรือปาซง ต่างก็พร้อมจรดปากกาลงนามโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

คนทั้งสองเริ่มอุ่นเครื่อง ขณะที่กลุ่มคนเริ่มวางเดิมพันตามความคิดของตนเองบราวนี่ออนไลน์

“คิดว่าใครชนะ?”

“ปาซงก็ต้องได้เปรียบอยู่แล้ว คิดดูสิว่าที่ดูมาตลอดหลายวันนี้เขาแข็งแกร่งขนาดไหน!”

“ฉันไม่คิดว่าอู๋ฝานจะอ่อนแอหรอกนะ อย่าลืมว่าเขาจัดการไหน่ไชนั่นในชั่วพริบตาเลยด้วยซ้ำ!”

“ไหน่ไชก็แค่ลูกศิษย์ของปาซง ความแข็งแกร่งของเขาต้องด้อยกว่าปาซงแน่นอน แค่เพราะอู๋ฝานเอาชนะไหน่ไชได้ ไม่ได้หมายความว่าจะเอาชนะปาซงได้!”

“ฉันเองก็รู้สึกแบบนั้น ถึงอยากให้อู๋ฝานชนะ จะได้สั่งสอนปาซงที่อวดดีนั่นซะบ้าง แต่ความแข็งแกร่งของปาซงก็ไม่ใช่อะไรที่จะเอาชนะได้ง่าย ๆ เลย ก่อนหน้านี้เขาเอาชนะยอดฝีมือไปได้กี่คนแล้วล่ะ? อู๋ฝานไม่น่าใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่ ฉันแทงข้างปาซงชนะห้าหมื่นแล้วกัน!”

“ที่พวกนายพูดก็มีเหตุผลอยู่ แต่ฉันก็ยังคิดว่าอู๋ฝานเอาชนะได้ ดูสิ เขายืนต่อหน้าปาซงแล้ว ทว่าท่าทีกลับไม่ได้ดูอ่อนแอกว่าสักนิด ในใจเขาต้องมีความมั่นใจไม่มากก็น้อย”

“ท่าทีไม่ได้ดูอ่อนแอกว่าแล้วยังไง? คู่ต่อสู้ก่อนหน้านี้ของปาซงมีใครเผยท่าทีอ่อนแอรึไงกัน? สุดท้ายก็ถูกปาซงน็อกเอาต์กันจนหมด อู๋ฝานอายุยังน้อย ประสบการณ์เทียบกับปาซงไม่ได้อยู่แล้ว ฉันเลือกวางข้างปาซงชนะด้วยคน!”

“งั้น… ฉันวางเดิมพันข้างอู๋ฝานแล้วกัน ฉันอยากให้เขาเอาชนะ แล้วสั่งสอนคนอวดดีนอกประเทศนั่นซะบ้าง”

กลุ่มคนที่รับชม ตอนนี้ต่างก็ตัดสินกันเองในแบบของตน หลายคนเชื่อว่าปาซงจะต้องชนะ แต่บางคนมองว่าอู๋ฝานยังมีโอกาส เพราะพวกเขาแต่ละคนก็มีเหตุผลในใจที่แตกต่างกันออกไป

แต่ปกติแล้ว คนที่เลือกวางเดิมพันข้างปาซงชนะย่อมมีมากกว่า ทำให้คนที่เชื่อว่าอู๋ฝานจะชนะได้นั้นจึงมีน้อยกว่าไปโดยปริยาย

อย่างไรในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ปาซงก็เอาชนะยอดฝีมือไปเกินกว่ายี่สิบแล้ว อีกทั้งยอดฝีมือเหล่านั้นก็เคยพิสูจน์ความแข็งแกร่งบนสังเวียนมาก่อน แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ให้ปาซงได้ ดังนั้นมันจึงมากพอที่จะเป็นหลักฐานบอกว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่ง

ขณะที่อู๋ฝานเคยสู้บนสังเวียนมาเพียงแค่ครั้งเดียว แม้สามารถเอาชนะมาได้อย่างง่ายดาย ทว่าข้อมูลก็มีน้อยจนเกินไป โอกาสที่จะเทียบได้มีสูงก็จริง แต่มันไม่สามารถเอามาวิเคราะห์ว่าจะชนะได้ไหม อีกทั้งเขายังอายุน้อย ในด้านประสบการณ์อย่างไรก็ต้องเสียเปรียบ รวมกับความจริงที่ว่า ทางคลับเปิดรับเดิมพันด้วยอัตราที่แตกต่างกัน หากเลือกเดิมพันข้างอู๋ฝานชนะก็มีโอกาสได้เงินมากกว่า เป็นการบอกว่าโอกาสที่อีกฝ่ายจะชนะได้นั้นมีน้อยกว่า หลายคนจึงไม่เชื่อว่าชายหนุ่มที่พวกตนเคยได้พบเพียงครั้งเดียว จะสามารถเอาชัยจากแมตช์ประลองครั้งนี้ได้

“ฉันซื้อข้างอู๋ฝานชนะสิบล้าน!” ภายในห้องส่วนตัว หวังจื่อหมิงบอกกับติงอวิ๋น

“ครับนายน้อยหวัง” ติงอวิ๋นตอนนี้ไม่คิดออกความเห็นอะไรกับหวังจื่อหมิงอีก เพราะเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายจะไม่เปลี่ยนสิ่งที่ตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้ว

“ติงอวิ๋น ทางที่ดีคุณควรหวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับอู๋ฝาน ไม่อย่างงั้นฉันจะเป็นคนถล่มที่นี่ให้ราบเอง!” หวังจื่อหมิงพูดอย่างเย็นชา

ในใจของหวังจื่อหมิงไม่ได้มั่นใจว่าอู๋ฝานจะเอาชนะปาซงได้ เพราะเขาเคยดูการแข่งขันมาแล้วหลายแมตช์ จึงรู้ว่าปาซงแข็งแกร่งเช่นไร การที่อู๋ฝานขึ้นประลองกับอีกฝ่าย จึงถือเป็นเรื่องอันตราย

“เรื่องนี้…” ติงอวิ๋นเผยสีหน้าขื่นขม ราวกับไม่ทราบว่าควรตอบกลับอย่างไรดี

ตอนที่อู๋ฝานเป็นฝ่ายออกหน้าสู้ด้วยตัวเอง ติงอวิ๋นก็นึกยินดีอยู่ในใจ เพราะไม่ว่าอู๋ฝานชนะหรือแพ้ ปาซงก็จะต้องไปจากที่นี่ ปัญหาของคลับจะได้คลี่คลายลง ไม่ว่าอย่างไรมันก็เป็นเรื่องดีกับทางคลับ

ทว่าตอนนี้หวังจื่อหมิงพูดออกมาแล้ว ทำให้ติงอวิ๋นต้องกังวลในใจ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับอู๋ฝานขึ้นมา อีกฝ่ายย่อมทำตามที่พูดไว้อย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าเขาปรามาสความสำคัญที่หวังจื่อหมิงมอบให้อู๋ฝานจนเกินไป