ใด​ใด​ใน​โลก​ ​จะ​สูงส่ง​เท่ากับ​การศึกษา​ตำรา​ ​นี่​เป็นความ​รู้ความ​เข้าใจ​ที่​ฝัง​ลึก​ใน​ใจ​ของ​ทุกคน​ใน​ราชวงศ์​ต้า​โจว​แม้แต่​โจรผู้ร้าย​ก็​เห็นด้วย

องครักษ์​จิ​่น​หลิน​ไม่น่า​ตกใจ​หรือ​ ​น่า​ตกใจ​จะ​ตาย​!​ ​หากว่า​จวน​ใด​มี​คน​เป็น​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​ ​บรรดา​เพื่อนบ้าน​แปด​ทิศทาง​เมื่อ​พบ​กับ​คนใน​จวน​นั้น​ล้วน​ต้อง​เก็บ​เขี้ยวเล็บ​และ​เจียมตน​ ​แต่​เบื้องหลัง​ความ​น่าเกรงขาม​นั้น​ ​ทุกคน​ล้วน​พากัน​ถุยน้ำลาย​ใส่

องครักษ์​จิน​อู๋​ไม่มี​ศักดิ์ศรี​อย่าง​งั้น​หรือ​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​มีศักดิ์ศรี​น่า​ชื่นชู​เช่นกัน​ ​แต่​องครักษ์​จิน​อู๋​โดยมาก​แล้ว​จะ​เป็น​บรรดา​คุณชาย​ ​ไม่มี​อะไร​ให้​น่าอิจฉา

ทางเดียว​คือ​การศึกษา​ตำรา​ ​นั่น​เป็น​ทางออก​ที่แท้​จริง​ ​เปรียบ​เป็น​ปลา​ที่​กระโดด​ขึ้น​จาก​บ่อน้ำ​และ​กลายเป็น​มังกร​ได้​ ​แม้แต่​ลูกหลาน​ของ​ตระกูล​ผู้สูงศักดิ์​หาก​สามารถ​ผ่าน​การคัดเลือก​ ​ทาง​ตระกูล​ก็​ยินดี​ยิ่งนัก​ ​เหตุผล​ง่ายดาย​ ​เพราะ​การ​รับราชการ​เป็น​ผู้มีอำนาจ​สูงสุด​ล้วน​มาจาก​ผู้​ที่​สอบ​เคอจ​วี่

ส่วน​คนอื่นๆ​ ​ไม่ได้​เก่งกาจ​อัน​ใด​นัก​ ​เปรียบเสมือน​ปลา​เล็ก​ปลา​น้อย

เซียว​ซื่อ​ใน​บัดนี้​เรียก​เจียง​จั้น​ว่า​เป็น​ปลา​เล็ก​ปลา​น้อย​เพื่อที่จะ​ได้​ปลอบใจ​ตัวเอง​ ​เพียงแต่ว่า​ปลา​ตัว​นี้​เป็น​ปลา​ที่​ไร้ความสามารถ​ ​ไม่ว่า​ผู้ใด​ก็​คิด​ว่า​เขา​ไม่เอา​การ​เอางาน​ ​เมื่อ​คิดได้​ดังนี้​ใน​ใจ​เซียว​ซื่อ​ก็​รู้สึก​ขมขื่น​ขึ้น​มา​ ​รอ​ไป​ก่อน​เถิด​ ​รอ​ให้​รายชื่อ​ชิว​เหวย​ประกาศ​ออกมา​แล้ว​ ​ผู้ใด​ก็​อย่า​หวัง​จะ​ได้​เข้ามา​ขัดขวาง​ความรุ่งโรจน์​ของ​บุตรชายคนโต​นาง

“​พี่​รอง​ ​ชุด​ของ​พี่​ช่าง​งดงาม​เหลือเกิน​ ​พี่​เป็น​องครักษ์​จิน​อู๋​จริง​หรือ​”​ ​คุณชาย​สี่​เจียง​เจ๋อ​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​เอ่ย​ถาม

นายท่าน​เจียง​ที่สาม​มีบุ​ตร​ชาย​และ​บุตรหญิง​อย่าง​ละ​หนึ่ง​คน​ ​บุตรหญิง​นาม​ว่า​เจียง​เชี่ยว​ ​ส่วน​บุตรชาย​คือ​เจียง​เจ๋อ​ ​ปีนี​้​อายุ​ได้​สิบ​ปี​ ​เป็นช่วง​อายุ​ที่​กำลัง​เรียนรู้​และ​ไร้เดียงสา

เจียง​จั้น​ปลด​ดาบ​ที่​แขวน​ไว้​ตรง​เอว​ออก​แล้ว​ยื่น​ออก​ไป​อวด​กับ​เจียง​เจ๋อ​ ​“​แน่นอน​สิ​ ​น้อง​สี่​ ​เจ้า​ดูรู​ปอิน​ทรี​บิน​ถลา​ที่​จารึก​บน​ฝัก​ดาบ​นี้​ ​มัน​คือ​สัญลักษณ์​ของ​องครักษ์​จิน​อู๋​อัน​แสน​พิเศษ​”

คุณชาย​สาม​เจียง​หยวน​ที่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​เห็น​ว่า​เจียง​เจ๋อ​เอา​มือ​ไป​ลูบคลำ​ดาบ​เล่ม​นั้น​อย่างชื่นชม​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​อิจฉา​ ​“​พี่​รอง​ ​ให้​ข้า​สัมผัส​มัน​ด้วย​ได้​หรือไม่​”

เซียว​ซื่อ​เหลือบตา​ไป​มองดู​เจียง​หยวน​ก่อน​จะ​แอบ​ด่า​อยู่​ใน​ใจ​ว่า​ไร้สาระ​ ​จากนั้น​นาง​จึง​กล่าว​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เจ้า​อย่า​ไป​แตะต้อง​ซี้ซั้ว​ ​หากว่า​ทำ​ของ​พี่​รอง​เสีย​คงจะ​ไม่ดี​ ​เจ้า​ดู​สิ​ ​บัดนี้​พี่​รอง​เอง​ก็​มี​งาน​ทำ​แล้ว​ ​นับจากนี้​ตัว​เจ้า​ก็​ต้อง​ขยัน​ศึกษา​ตำรา​ให้​มาก​”

สีหน้า​ของ​เจียง​หยวน​แย่​ลง​ทันใด​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ก็​ไม่​อยาก​ศึกษา​ตำรา​แล้ว​”

“​หุบปาก​ไป​เสีย​!​”​ ​เซียว​ซื่อ​ตวาด​ออกมา​ ​“​เจ้า​ไม่​เรียนหนังสือ​แล้ว​จะ​ไป​ทำ​อะไร​ ​เจ้า​จะ​โชคดี​ได้​เข้าไป​อยู่​ใน​หน่วย​องครักษ์​จิน​อู๋​เช่นเดียวกับ​พี่​รอง​ของ​เจ้า​หรือ​”

เจียง​จั้น​ได้​แต่​เหลือบตา​เหล่​มองดู

เขา​ใช้​ความสามารถ​ส่วนตัว​ใน​การผูก​สัมพันธ์​กับ​พี่​อวี​๋​ชี​ ​การ​ที่​เขา​สามารถ​คบ​สหาย​ที่​มี​ความสามารถ​เช่นนี้​ได้​นับว่า​เป็น​ที่​โชค​หรือ​ ​นี่​มันต​้​อง​อาศัย​ความสามารถ​ส่วนตัว​ต่างหาก​เล่า

“​พี่​รอง​ยัง​สามารถ​เข้าร่วม​เป็น​องครักษ์​จิน​อู๋​ได้​ ​แล้ว​เหตุใด​ข้า​จึง​เข้า​ไม่ได้​เล่า​ ​อย่างมาก​ก็​ให้ท่า​นพ​่อ​ช่วย​ใช้​ความสัมพันธ์​ส่ง​เข้าไป​ก็ได้​นี่​”​ ​เจียง​หยวน​เถียง​ออกมา​คอเป็นเอ็น

บัดนี้​เจียง​หยวน​อายุ​ได้​สิบ​สี่​ปี​แล้ว​ ​เขา​มี​ความคล้ายคลึง​กับ​เจียง​จั้น​มาก​ ​ล้วน​ไม่​ชอบ​ศึกษา​ตำรา​ ​ดูเหมือนว่า​จะ​ยัง​ไม่​เปิดโลก​ทัศน์​ ​เพียงแต่​เจียง​หยวน​ยังคง​อายุ​น้อย​ ​อีกทั้ง​ยัง​มี​ความ​ไม่เอาไหน​ของ​เจียง​จั้น​คอย​คุ้มกะลาหัว​เอาไว้​ ​จึง​ทำให้​ไม่​โดดเด่น​เท่าไร​นัก

“​ไร้สาระ​!​”​ ​เนื่องจาก​บุตรชายคนโต​ของ​นาง​ ​มี​ความสามารถ​ด้าน​การศึกษา​ตำรา​เป็น​ยิ่ง​ ​ใน​ใจ​ของ​เซียว​ซื่อ​ไม่มี​สิ่งใด​สำคัญ​ไป​กว่า​การศึกษา​ตำรา​อีกแล้ว

นายท่า​นร​อง​เจียง​มอง​ไป​ยัง​เจียง​จั้น​ที่​ยืน​สง่าผ่าเผย​อย่าง​มีความหมาย

บุตรชาย​คน​รอง​ต่าง​ไป​จาก​บุตรชายคนโต​ ​เขา​ศึกษา​ตำรา​มาตั​้ง​หลาย​ปี​แต่​ก็​เพียงแค่​อ่าน​ออก​เขียน​ได้​ ​หาก​สามารถ​ประพันธ์​กวี​ออกมา​ได้​สัก​บท​ก็​นับว่า​ไม่เลว​แล้ว​ ​แต่​เมื่อ​ตอน​อายุ​น้อย​แน่นอน​ว่า​จะ​ต้อง​ให้​เรียนหนังสือ​เพื่อ​ขัดเกลา​นิสัย​ ​เมื่อ​เติบโต​แล้วก็​ไม่จำเป็น​จะ​ต้อง​พยายาม​ฝืนทน​ร่ำเรียน​ตำรา​เพื่อ​สอบ​จอ​หงวน​หากว่า​ไม่มี​พรสวรรค์​ ​และ​องครักษ์​จิน​อู๋​ก็​เป็น​ทางเลือก​ที่​ไม่เลว

อายุ​เช่น​เจียง​หยวน​หาก​จะ​ให้​เข้าไป​ใน​หน่วย​องครักษ์​จิน​อู๋​คงจะ​ยัง​เด็ก​ไป​ ​ดังนั้น​นายท่า​นร​อง​เจียง​จึง​ไม่รีบร้อน​ ​เขา​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ศึกษา​ตำรา​ให้​ดี​ก่อน​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​จะ​เชิญ​อาจารย์​สอน​วรยุทธ์​มา​ให้​ ​แล้ว​ศึกษา​วิทยา​ยุทธ์​สัก​สาม​ปี​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”

“​ยอดเยี่ยม​ทีเดียว​ขอรับ​ท่าน​พ่อ​!​”​ ​เจียง​หยวน​ยกมือ​ขึ้น​คารวะ​ ​สายตา​ที่​มองดู​เจียง​จั้น​แน่นแฟ้น​กว่า​เดิม​มาก​ ​หลังจากนี้​ไม่​กี่​ปี​ ​เมื่อ​เขา​ได้​เข้าไป​ใน​องครักษ์​จิน​อู๋​ก็​จะ​มีพี​่​รอง​คอย​คุ้มกัน

เซียว​ซื่อ​ไม่พอใจ​กับ​ความคิด​และ​การตัดสินใจ​ของ​นายท่า​นร​อง​เจียง​ ​แต่​เมื่อ​อยู่​ท่ามกลาง​ผู้คน​มากมาย​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ไม่กล้า​กล่าว​สิ่งใด​ออกมา​ ​ช่างเถิด​ ​เดิมที​บุตรชาย​คน​รอง​ของ​ตน​ก็​ไม่ได้​ฉลาด​เท่าไร​นัก​ ​ในอนาคต​หาก​ได้​เป็น​องครักษ์​จิน​อู๋​ก็​ไม่เลว​ ​บิดา​มารดา​คนเดียว​กัน​ ​สอง​พี่น้อง​คน​หนึ่ง​มี​ความสามารถ​ด้าน​บู๊​อีก​คน​หนึ่ง​มี​ความสามารถ​ด้าน​บุ๋น​ ​เช่นนี้​จึง​จะ​สามารถ​ช่วยเหลือ​ซึ่งกันและกัน​ได้​อย่างแท้จริง

เมื่อ​นึกถึง​บุตรชายคนโต​ ​เซียว​ซื่อ​ก็ได้​เกิด​ความกังวล​ขึ้น​มา​ ​หลังจาก​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​หยา​ซิน​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​บ่นพึมพำ​กับ​นายท่า​นร​อง​เจียง​ว่า​ ​“​อากาศ​ร้อน​เช่นนี้​ ​ไม่รู้​ว่า​ชัง​เอ๋อร​์​จะ​ไหว​หรือไม่​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​ใน​ห้อง​ที่​พวกเขา​ใช้​สอบ​กัน​นั้น​ ​ไม่มี​แม้แต่​ที่จะ​ยืด​แข้ง​ยืด​ขา​”

สถานที่​ซึ่ง​เรียกว่า​ห้อง​สอบ​นั้น​ ​ก็​คือ​ห้อง​เล็ก​ๆ​ ​เตี้ย​ๆ​ ​ซึ่ง​ผู้​เข้า​สอบคัดเลือก​จะ​ต้อง​อาศัย​อยู่​ระหว่าง​การ​ทำ​ข้อสอบ​ ​การ​สอบคัดเลือก​ระดับ​ท้องถิ่น​แบ่ง​ออก​เป็น​สาม​สนาม​ ​สนาม​หนึ่ง​ใช้เวลา​สาม​วัน​ ​ใน​สาม​วันนี้​ผู้​เข้า​สอบ​จะ​ต้อง​กิน​ดื่ม​นอน​พักผ่อน​ใน​ห้อง​เล็ก​ๆ​ ​นี้

นายท่า​นร​อง​เจียง​เคย​ผ่าน​การ​สอบ​ชิว​เหวย​และ​ชุน​เหวย​มา​แล้ว​ ​สถานภาพ​อัน​ย่ำแย่​ใน​ห้อง​สอบ​เขา​รู้ดี​เป็น​ที่สุด​ ​แต่​ก็​เพียง​กล่าว​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ทุกคน​ล้วน​เป็น​เช่นนี้​”

“​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่าที่​ห้อง​สอบ​นั้น​มี​ฝน​รั่วไหล​ได้​ด้วย​ ​หากว่า​ชัง​เอ๋อร​์​ถูก​จัด​ให้​ไป​อยู่​ห้อง​เช่นนั้น​…​”

“​หุบปาก​เสีย​!​”​ ​นายท่า​นร​อง​เจียง​จ้องมอง​ไป​ทาง​เซียว​ซื่อ​อย่าง​รำคาญใจ

หากว่า​ถูก​จัด​ให้​อยู่​ใน​ห้อง​ที่​ฝน​รั่ว​จริงๆ​ ​เมื่อ​ฝนตก​กระดาษ​ก็​จะ​เปียก​ ​ดังนั้น​ผล​คะแนน​ก็​คงจะ​สูญเปล่า

เซียว​ซื่อ​รู้ตัว​เอง​ว่า​ปากพล่อย​ไป​ ​จึง​ได้​กล่าว​อย่างรวดเร็ว​ว่า​ ​“​แต่​ชัง​เอ๋อร​์​ของ​เรา​โชคดี​แต่ไหนแต่ไรมา​ ​เขา​จะ​ต้อง​ถูก​ส่ง​ไป​อยู่​ใน​ห้อง​สอบ​ที่​ดีที​่​สุด​เป็นแน่​ ​ข้า​กังวลใจ​ไป​เอง​จริงๆ​”

นายท่า​นร​อง​เจียง​ได้​แต่​ชักสีหน้า​ออกมา​อย่าง​ไม่น่า​มอง

สตรี​ผู้​ไร้ค​วาม​คิด​!​ ​ห้อง​สอบ​ฝน​รั่ว​ก็ช่าง​ปะ​ไร​ ​หากว่า​ถูก​ส่ง​ไป​อยู่​ห้อง​ใกล้เคียง​กับ​ห้องส้วม​ ​กลิ่น​จาก​ใน​ห้อง​นั้น​แม้แต่​จะ​ทำการ​ตอบคำถาม​ก็​คงจะ​ลำบาก

ใน​หน้าร้อน​เช่นนี้​คิดดู​เอาเถิด​ว่า​กลิ่น​จะ​เป็น​เช่นไร

นายท่า​นร​อง​เจียง​นึกย้อน​กลับ​ไป​เมื่อ​ปี​ที่​เขา​ทำการ​สอบ​ใน​ตอนนั้น​ ​เพื่อนร่วมห้อง​คน​หนึ่ง​ถูกจับ​ไป​อยู่​ข้าง​ห้องส้วม​ ​เขา​ทน​ได้​อยู่​เพียงแค่​หนึ่ง​วัน​ก็​เป็นลม​เสีย​จน​ต้อง​ถูก​หาม​ออก​ไป​ ​ช่าง​น่าสมเพช​เหลือเกิน​ ​แต่​ห้อง​ที่อยู่​ติดกับ​ห้อง​ถ่าย​หนัก​เช่นนี้​ก็​น้อย​นัก​ ​หากว่า​ถูก​จัด​ไป​ให้​อยู่​ข้าง​ห้อง​นั้น​คงจะ​โชคร้าย​เหลือ​เกิ​ ​แน่นอน​ว่านาย​ท่าน​รอง​เจียง​ไม่​คิด​ว่า​บุตรชาย​ของ​ตน​จะ​โชคร้าย​สัก​เพียงนั้น​ ​เมื่อ​คิดได้​ดังนี้​ ​ความวุ่นวาย​ใน​ใจ​ก็​สงบ​ลง​ไม่น้อย

เวลา​ผ่าน​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​ในไม่ช้า​ก็​มาถึง​วันที่​สิบเอ็ด​เดือน​แปด​ ​เป็น​วันสุดท้าย​ของ​การ​สอบ​ระดับ​ท้องถิ่น​ ​เมื่อ​เวลา​โพล้เพล้​มาถึง​ ​ผู้​เข้า​สอบ​ทุกคน​ใน​สนาม​แรก​ก็​จะ​ทยอย​เดินทางออก​มา​ ​เจียง​ชัง​ที่​อาศัย​อยู่​บริเวณ​ใกล้เคียง​จึง​ไม่จำเป็น​จะ​ต้อง​ไป​พัก​ที่​โรง​เตี​๊​ยม​ ​เขา​ควร​เดินทาง​กลับ​จวน

เมื่อถึง​เวลา​บ่าย​ ​ทุกคน​ใน​จวนปั​๋​วก​็​พากัน​ตื่นเต้น​และ​รอคอย​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​นายท่า​นร​อง​เจียง​และ​ภรรยา​ ​รู้สึก​กระวนกระวาย​ยิ่งนัก​ ​นายท่า​นร​อง​เจียง​เคย​เข้า​สอบคัดเลือก​เช่นนี้​มาก​่อน​ ​เขา​รู้ดี​กว่า​ใคร​ว่า​สนาม​สอบ​สนาม​แรก​นั้น​สำคัญ​ยิ่ง

การคัดเลือก​โดยมาก​แล้ว​จะ​ให้ความสำคัญ​ใน​สนาม​สอบ​แรก​ ​หาก​ใน​สนาม​แรก​สอบ​ได้ดี​ ​อีก​สอง​สนาม​ที่​เหลือ​หาก​ผ่าน​ไป​ได้​ก็​คงจะ​ได้​เป็นจ​วี่​เห​ริน​ ​กล่าว​ได้​ว่า​ข้อสอบ​ใน​สนาม​แรก​นั้น​เป็นการ​ตัดสิน​อนาคต​ของ​ผู้​เข้า​สอบ​อย่างแท้จริง

หาก​สามารถ​ผ่าน​สนาม​นี้​ไป​ได้​ ​ก็​เท่ากับ​ว่า​มีโอกาส​เข้า​สอบ​ชุน​เหวย​ใน​ปีหน้า

เสียง​ฝีเท้า​อัน​รีบเร่ง​ดัง​ขึ้น​ดั่ง​สายฟ้า​ฟาด​ลงมา​กลาง​ใจ​ ​จู่ๆ​ ​นายท่า​นร​อง​เจียง​ก็​รู้สึก​ถึง​ลางสังหรณ์​ไม่ดี

เสียง​ฝีเท้า​อัน​รีบเร่ง​นั้น​ตรง​เข้ามา​ด้านใน​ ​พบ​ว่า​เป็น​ผู้ดูแล​ของ​เรือน​ด้านนอก​ ​เมื่อ​เขา​ก้าว​เข้ามา​ใน​ประตู​ก็ได้​ตะโกน​ออกมา​ว่า​ ​“​คุณชาย​ ​คุณชาย​ใหญ่​กลับมา​แล้ว​ขอรับ​!​”

นายท่า​นร​อง​เจียง​เบิกตา​กว้าง​ ​หัวใจ​ของ​เขา​จมดิ่ง​ลง​ไป​ที่​ตาตุ่ม

เพลา​นี้​ยัง​ไม่​ถึงกำหนด​การ​ส่ง​ข้อสอบ​ ​เหตุใด​ชัง​เอ๋อร​์​จึง​ได้​กลับมา​เล่า​!

“​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​”​ ​นายท่า​นร​อง​เจียง​รีบ​เอ่ย​ถาม​ด้วย​ความร้อนรน

ผู้ดูแล​คำสี​หน้าซีด​เผือด​ไม่น่า​มอง​ ​ก่อน​จะ​กล่าว​กลับ​ไป​ว่า​ ​“​คุณชาย​ใหญ่​เป็นลม​สิ้นสติ​ไป​ ​ถูก​หาม​กลับมา​ขอรับ​”

เมื่อ​เซียว​ซื่อ​ได้ยิน​ว่า​ชัง​เอ๋อร​์​กลับมา​แล้วก็​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ทันที​ ​แต่​เมื่อ​นาง​ได้ยิน​ประโยค​เมื่อ​ครู่​ ​ร่างกาย​อ่อนแรง​ทรุดนั่ง​ลง​บน​เก้าอี้​อีกครั้ง

“​ผู้ติดตาม​เล่า​?​”

ร่าง​เล็ก​ๆ​ ​ของ​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​คุกเข่า​ลง​สู่​พื้น​ ​เขา​ยกมือ​ขึ้น​ปาด​น้ำตา​บน​ใบหน้า​ ​“​คุณชาย​ถูก​จัด​ให้​ไป​อยู่​ที่​ข้าง​ห้อง​ถ่าย​หนัก​ขอรับ​ ​เมื่อ​ตอนที่​แบก​ออกมา​นั้น​ข้า​น้อย​จึง​ได้​รู้​ว่า​คุณชาย​ทนฝืน​อยู่​ถึง​สอง​วัน​ ​พอ​มาถึง​วันนี้​อาเจียน​อย่างหนัก​จน​ไม่​อาจ​ทน​ไหว​ ​กระทั่ง​เป็นลม​หมดสติ​ไป​จึง​ถูก​แบกหาม​ออกมา​ขอรับ​…​”

นายท่า​นร​อง​เจียง​ที่​ดำรงตำแหน่ง​ขุนนาง​ใน​ราชการ​มา​หลาย​ปี​ ​เขา​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​เวียนหัว​ขึ้น​มา

จาก​พื้นฐาน​ ​ประสบการณ์​ ​วิสัยทัศน์​และ​พรสวรรค์​ ​เขา​คำนวณ​ดูแล​้ว​มั่นใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ว่า​บุตรชายคนโต​ของ​เขา​จะ​ต้อง​ได้รับ​คัดเลือก​อย่างแน่นอน​ ​มี​เพียง​สิ่ง​เดียว​ที่​เขา​ไม่ได้​คำนวณ​นั้น​ก็​คือ​โชคชะตา

“​คุณชาย​ใหญ่​เล่า​!​”​ ​เสียง​ฝีเท้า​ของ​เซียว​ซื่อ​รีบ​พุ่ง​ออก​ไป​ทันใด