หลิวจ์ เป็น ที่ปรึกษากองทัพ การที่เขาคาดการณ์เรื่องนี้พลาดไปถือว่ามีโทษร้ายแรง

ในความคิดของเขานี่เป็นความผิด ถ้าไม่ใช่เพราะโชคดีที่กองทัพพยัคฆ์ ของ แม่ทัพ เสี่ยวจือพบกับทัพมังกรเซียง และ จัดการได้ เกรงว่า เมืองเร้ดเมเปิ้ลคงจะถูกยึดครองไปแล้วตอนนี้

ส่วนผลลัพธ์ที่ตามมา

หลิวจ ม่อยากจะคิดถึงสิ่งนี้

เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินเขาก็สั่นศีรษะ”อาจารย์หลิวท่านจะไปมีความผิดอะไรกัน?”

“ไม่มีใครคิดหรอกว่าจักรพรรดิอู่เซียงจะกล้ามอบทหารมังกรคู่เซียงหนึ่งแนนายให้กับ จิ้งซีอหรง จิ้ง ๆ แม้แต่ จินยี่เหว่ย ยังไม่ได้รับข่าว เห็นได้ชัดว่าพวกอาณาจักรเชียงปกปิดความลับนี้ไว้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นท่านไม่ต้องรู้สึกผิดไป”

“กระหม่อม…”

“ไม่มีมนุษย์คนใดรอบรู้ทุกคนท่านก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น หากท่านคิดจะตําหนิตัวเองสู้เอาเวลา มาคิดแก้ไขปัญหาเพื่อรับมือกับทัพของศัตรูดีหรือไม่?” ลู่เฟิง มองไปที่ หลิวจ์ และกล่าวพูดอย่างเคร่งขรึม

“กระหม่อมรับบัญชา!”

หลิวอี้ ไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมรู้ว่าสถานการณ์อะไรควรไม่ควร

ในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกตื่นตัวมากขึ้น เขาตั้งใจว่าจะไม่สามารถแผนการของ จิ้งซื้อหรงและศัตรูในอนาคตอีกเด็ดขาด

แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเลี่ยงปมในใจไม่ได้ หากมันผิดพลาดขึ้นมาจริง กองทัพมังกรเชียงย่อมยึดครองเมืองเร้ดเมเปิ้ลไปแล้ว

เขาเป็นถึงที่ปรึกษา

แต่ไม่สามารถคาดการณ์แผนการของศัตรูออก

ตอนนี้ฝาบาทไม่ได้ถือความเอาผิดเขา แต่เขาจะต้องปรับปรุงตัวเองไม่ให้ผิดพลาดอีกต่อไป

หลิวจ์ ได้ครุ่นคิดและ กล่าวถาม”ฝ่าบาทพวกเราต้องกวาดล้างฆ่าศึกทั้งหมดเลยหรือไม่?”

ลู่เฟิง ไม่ได้ตอบทันที

กองทัพตอนนี้บวกกับทัพของเสียวคือมีทหารประมาณ 850,000 นาย

หากเขาต้องการฆ่าศัตรูในมือทั้งหมดย่อมสูญเสียทหารมากกว่า 200,000 นาย เป็นอย่างน้อย

กองทัพที่เหลือกําลังพลประมาณ 600,000 ย่อมตกที่นั่งลําบาก

เพราะถึงแม้กองกําลัง 1.2 ล้านนายด้านหน้าจะถูกทําลาย แต่ศัตรูก็ยังมีกองกําลังมากกว่า 2 ล้านนายใกล้ ๆ นี้

หืม

ลู่เฟิง ได้สูดลมหายใจเข้าลึก” ช่างมันฆ่าให้หมด!”

แม้กองกําลังจะลดลงแต่หากสังหารศัตรูและกําจัดรากตั้งแต่เนิ่น ๆ ย่อมดีกว่า

ลู่เฟิง ไม่มีวันเมตตาให้กับกองทัพเหล่านี้ เพราะถ้าหากอาณาจักรหนานหยานพ่ายแพ้การต่อสู้ขึ้นมาจริง ๆ คนเหล่านี้ ก็อาจจะรอดและบดขยี้ทําลายอาณาจักรหนานหยาน จนไม่เหลือซาก

นี่คือสิ่งที่เขาไม่มีวันยอม!

หลิวจี้ รู้สึกโล่งใจ เมื่อได้ยินคําพูดของ ลู่เฟิง เขากังวล ว่าลู่เฟิง จะยอมจํานนเรื่องทหารเหล่า

ในฐานะที่ปรึกษาทางกองทัพ หลิวจี้ รู้ว่าอะไรควรไม่ควร

หากไม่มีกองกําลังของข้าศึกคอยให้พะวงหน้าพะวงหลัง ทหารของอาณาจักรหนานหยานทุกคนย่อมระเบิดพลังออกมาได้มากกว่าเดิม

แต่หากรับเอาทหารที่ยอมจํานนของศัตรูเข้ามาเกรงว่าประสิทธิภาพของทหารอาณาจักรหนานหยานตอนนี้จะลดลงไปมากกว่าครึ่ง

ด้วยความน่าจําเป็นที่สามารถตีเป็นค่าตัวเลขได้ หลิว ไม่กล้าที่จะเสี่ยง

เขาได้เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว หาก ลู่เฟิง ต้องการ ที่จะละเว้นทหารเหล่านี้ เขาก็จะแสดงผลลัพธ์ที่ดีกับผลลัพธ์ที่เลวร้ายออกมา

โชคดีที่ ฝ่าบาท เลือกได้ถูก ทําให้ หลิวอี้ ชื่นชม ลู่เฟิงมากขึ้น

“กระหม่อม รับบัญชา!” หลิวจ์ ได้คุกเข่าลงกับพื้น

“ตั้ง ตรวจพบค่าความภักดีของ หลิวจ์ ที่มีต่อโฮสต์เพิ่มขึ้น 3 แต้ม ปัจจุบันค่าความภักดีคือ 98 แต้ม

เสียงเตือนของระบบได้ดังขึ้นในใจของลู่เฟิง

ลู่เฟิง ได้ยินดังนั้น เขาก็ดีใจเป็นอย่างมาก ค่าความภักดีของ หลิว เพิ่มขึ้นถึง 98

ดูเหมือนว่า เวลาเขาทําอะไรเขาจะต้องคํานึงถึงความเป็นไปได้ เกี่ยวกับ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาทุกคน เพราะมันอาจจะส่งผลต่อค่าความภักดีทั้งหมด

“อาจารย์หลิว ลงไปจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด ห้ามให้มีข้อผิดพลาดในศึกนี้!”ลู่เฟิง สั่งการ

“ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย กระหม่อม จะไม่มีทางยินยอมให้เกิดความผิดพลาดใด ๆ ในการต่อสู้ครั้งนี้”

ลู่เฟิง ได้พยักหน้า และปล่อยให้ หลิวอี้ ไปจัดการ

เมื่อคําสั่งผ่านไปกองทัพก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที

กองทหารหลายแสนนายได้เดินขบวนไปยังค่ายทหารขนาดใหญ่ของอาณาจักรอู่เซียง

เกาชุน ที่นํากองพันทหารค่ายออกมาเตรียมการอยู่บนไปเหลียนโป เขาได้เฝ้ามองกองกําลังของศัตรู หากศัตรูบุกเข้ามาที่นี่ เขาจะใช้ กองพันทหารค่าย ของเขาจัดการศัตรูอย่างสาหัส

บนไปเหลียนโป เตียวฮั่น เองก็แบ่งรูปขบวนออกเป็นลูกศร สองส่วน

ส่วนหนึ่ง ให้เตรียมพร้อมสําหรับการสนับสนุนการซุ่มยิงศัตรูที่ผ่านมา

อีกส่วนหนึ่งคือป้องกันการลอบโจมตีของศัตรูที่อยู่ด้านหลังค่าย

บนภูเขาติงจิ้ง เสี่ยวจือ ได้รับคําสั่งจาก ลู่เฟิง ให้แบ่งทัพออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่ง ป้องกันการสนับสนุนกองทัพจากเมืองเป็งหยวนอีกส่วนหนึ่ง ป้องกันไม่ให้ทหารของอาณาจักรอู่เซียงหนีรอดไปจากภูเขาทิ้งลิ้งได้

ภายในค่ายทหารอาณาจักรอู่เซียง

แม่ทัพหลายคนได้อยู่ที่นี่

พวกเขา เป็นเพียงแม่ทัพส่วนหนึ่งของกองทัพ 1.2 ล้านนาย สําหรับแม่ทัพคนอื่น ๆ ได้ติดตามจิ้งซื้อหรงอยู่บนภูเขาติงจิ้ง

“หม, จิ้งซื้อหรง คิดจะให้พวกเราทําอะไรกันแน่ 2 กองกําลังของศัตรูรุกคืบเข้ามา แต่ยังไม่มีคําสั่งลงมาอีก” แม่ทัพคนนึ่งเต็มไปด้วยความโกรธ

“จิ้งซื้อหรง ผู้นี้ อาศัยความโปรดปรานของฝาบาท ถึงได้แสดงท่าที่เหิมเกริมเช่นนี้ออกมา”แม่ทัพอีกคนก็กล่าวเช่นเดียวกัน

พวกเขาในตอนนี้หารู้ไม่ว่าค่ายบัญชาการบนภูเขาติงจิ้ง ถูกทําลายไปแล้ว

เพราะ เสี่ยวจือ ได้ให้ทหารพยัคฆ์ล้อมค่ายทั้งหมดเอาไว้และสังหารทหารทุกคนที่อยู่ที่นี่

“รายงานท่านแม่ทัพ หน่วยสอดแนมของกองทัพพบศัตรูจํานวนมากบนภูเขาติงจิ้ง”

ในเวลานี้ มีทหารคนนึ่งวิ่งเข้ามารายงาน

“อะไร, มีศัตรูบนภูเขาติงจิ้ง ได้อย่างไร ที่นั่นคือ ที่ตั้งค่ายบัญชาการ จะมีศัตรู ลงมาจากที่นั่นได้อย่างไร ไปตรวจสอบดูให้แน่ชัด หากเจ้ากล้าพูดจาไร้สาระอีก ศีรษะได้หลุดออกจากบ่าแน่!”

“ท่านแม่ทัพ ผู้น้อยมิกล้า เป็นทหารของอาณาจักรหนานหยาน พวกเขาถือธงของอาณาจักรหนานหยาน ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน!”

เมื่อแม่ทัพหลายคนได้ยินเช่นนี้ การแสดงออกของพวกเขาก็รีบเปลี่ยนไปและรีบไปยืนอยู่บนแท่นสังเกตุการณ์

พวกเขาทั้งหมด ล้วนเป็น ยอดฝีมือ ดังนั้นวิสัยทัศน์จึงค่อนข้างกว้างไกลและมองเห็น ทหารบนภูเขาติงจิ้ง

ดูจากตัวเลขมีจํานวนห้าถึงหกพันหรือน้อยกว่า

“นี่เป็นไปได้ยังไง กองกําลังข้าศึกบนภูเขาติงจิ้ง พวกมันขึ้นเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทําไมพวกเราไม่ได้รับข่าว?”

“แม้ว่าข้าศึกจะบุกโจมตีค่ายแตก แต่ก็น่าจะมีข่าวคราวมาบ้าง แต่ทําไมพวกเราถึง ไม่รู้เลยล่ะ?”

“หม,เจ้าลืมไปแล้วหรือยังไงว่าแม่ทัพของพวกเราก็มาจากประเทศนั้น”