“ทำไมล่ะ?” เฉินฮวนฮวนเห็นว่าเฟิงหานชวนห้ามตัวเอง จึงรู้สึกงง
เขากำลังจำกัดความอิสระของเธอเหรอ?
พอสบตากับเฉินฮวนฮวน เฟิงหานชวนค่อยรู้ตัวว่าใจร้อนเกินไป เขาจึงอธิบายว่า “เพื่อนที่ติดคุก? ยังนับเป็นเพื่อนอีกเหรอ? เข้าคุก ก็ต้องทำเรื่องไม่ดีๆมาแน่นอน รีบตัดขาดกับเพื่อนแบบนี้เถอะ”
ยังไม่กล้ารับประกันว่าความรู้สึกระหว่างพวกเขาหนักแน่น เฟิงหานชวนจึงไม่กล้าพูดเรื่องคืนนั้น
ถ้าพูดออกไป เฉินฮวนฮวนอาจจะไปจากเขาก็ได้
เพราะผู้ชายคืนนั้น ในสายตาเฉินฮวนฮวน เขาคือปีศาจ คือฆาตกรฆ่าข่มขืน
“เธอทำเรื่องที่ไม่ถูกจริง แต่เธอไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีกับฉัน ตอนที่ฉันลำบาก เธอช่วยฉันไว้ ฉันจะออกห่างเธอเหมือนคนอื่นไม่ได้”
นี่เป็นความในใจของเฉินฮวนฮวน
ถึงในใจคนอื่นหลิ่วเยว่เอ่อร์จะเป็นผู้หญิงขายบริการที่ต่ำต้อย แต่หลิ่วเยว่เอ่อร์ไม่เคยทำเรื่องไม่ดีกับเธอ
เธอช่วยอะไรหลิ่วเยว่เอ่อร์ไม่ได้ ทำได้แค่ไปเยี่ยม แล้วซื้อของกินไปให้
“คุณแน่ใจได้ยังไงว่าเธอไม่เคยทำเรื่องไม่ดีด้วย?” เฟิงหานชวนอยากฉีกหน้ากากหลิ่วเยว่เอ่อร์
แต่ว่า เขาทำไม่ได้ เขาทำได้แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้ แกล้งว่าไม่รู้จักหลิ่วเยว่เอ่อร์
ไม่งั้น เดี๋ยวเฉินฮวนฮวนต้องสงสัยแน่ๆ
“แต่ก่อนที่คุณยายป่วย เธอให้ฉันยืมเงินมารักษาคุณยาย” เฉินฮวนฮวนถอนหายใจยาวแล้วเอ่ย “ฉันแค่หวังว่าถ้าเธอออกจากคุกแล้ว จะกลับตัวกลับใจ”
หลิ่วเยว่เอ่อร์ก็ไม่ได้ทำเรื่องชั่วร้ายอะไร แค่ขายร่างกายตัวเองเพื่อเงิน ถ้าเธอออกจากคุกแล้วทำตัวดีๆ เฉินฮวนฮวนก็ยังจะคิดว่าเธอเป็นเพื่อนอยู่
“ฮวนฮวน เพื่อนคุณฟังแล้วก็ดูเป็นคนดี ทำไมติดคุกล่ะ? ทำเรื่องอะไรผิดเหรอ?” เฟิงเฉินเหยี่ยนไม่รู้จักหลิ่วเยว่เอ่อร์ที่เธอพูดถึง จึงถามอย่างสงสัย
“เธอ……” เฉินฮวนฮวนเคยได้ข่าวเกี่ยวกับหลิ่วเยว่เอ่อร์ จึงเม้มปาก แล้วส่ายหน้า
เฟิงหานชวนรู้ว่าเธอคิดอะไร เขาจึงพูดว่า “อาเหยี่ยน ให้คนมาห่อกลับ”
“ครับ ได้ครับ” เฟิงเฉินเหยี่ยนก็รู้ว่าเธอไม่ค่อยอยากพูด จึงไม่ได้ถามต่อ
รอเฟิงเฉินเหยี่ยนไปเรียกพนักงานแล้ว เฉินฮวนฮวนค่อยหันไปหาเฟิงหานชวน “อาหาน ตอนบ่ายคุณจะไปรับเพื่อนที่สนามบินไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวฉันโบกรถไปเรือนจำเอง เสร็จแล้วฉันก็กลับบ้านเลย”
ตอนที่เธออยู่ห้องรับรอง ได้ยินเฟิงเฉินเหยี่ยนพูดว่า ตอนดึกหลีซืออวิ๋นนัดพวกเขาไว้
“เดี๋ยวผมไปส่ง แล้วไปสนามบินพร้อมกัน ตอนดึกมีงานเลี้ยง เดี๋ยวเราไปด้วยกัน” เฟิงหานชวนคิดไว้แล้ว
งานเลี้ยงตอนดึก มีคนชนชั้นสังคมพวกเขา เขาจึงจะใช้โอกาสนี้แนะนำเฉินฮวนฮวนกับทุกคน
แต่ที่เขาคิดไม่ถึงคือ เฉินฮวนฮวนจะปฏิเสธ
“อาหาน ฉันไม่ไปดีกว่า ฉันเพิ่งลองใช้ชีวิตกับคุณ อะไรหลายๆอย่างยังไม่แน่นอน อาจจะไม่ค่อยสะดวก แล้วพรุ่งนี้ฉันต้องตื่นเช้าด้วย……” เธอเม้มปากแล้วเอ่ยปฏิเสธ
เธอไม่รู้จักคนที่เขารู้จักเลย อาจจะแค่รู้จักหรงจิ่นซิวกับเฟิงเฉินเหยี่ยน คนอื่นไม่เคยเจอหน้าเลย
ตอนนี้ เธอยังไม่ใช่ภรรยาของเฟิงหานชวน งานเลี้ยงแบบนั้น เธอไม่ค่อยอยากไป
เห็นสีหน้าเธอลังเล เฟิงหานชวนจึงเดาออกคร่าวๆ เขาก็ไม่อยากบังคับเธอมาก
เขายื่นมือไปตบหลังมือเธอเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “งั้นเดี๋ยวผมให้คนไปส่ง”
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ฉันโบกรถไปเองได้” เฉินฮวนฮวนรีบส่ายหน้า
“ถ้าเจอโรคจิตล่ะ? คุณโบกรถไปคนเดียว ไม่กลัวเหรอ?” เฟิงหานชวนจงใจแกล้งเธอ
ความจริง หลังจากผ่านเรื่องครั้งนั้น เฟิงหานชวนเป็นห่วงเธอมาก เลยคิดจะหาคนขับรถให้เธอ
“คือ……” วิธีนี้ใช้ได้ผลกับเธอ สีหน้าเธอจึงลังเลมาก
กลัวรบกวนเฟิงหานชวน แล้วกลัวเจอโรคจิตด้วย
ตอนที่เธอกำลังลังเล เฟิงหานชวนก็โทรไปหาซูอวี่แล้ว
“ซูอวี่ ตอนนี้มาร้านกาแฟ แล้วส่งภรรยาฉันไปเรือนจำสามหนึ่งสาม” เขาเอ่ยสั่ง
หลิ่วเยว่เอ่อร์โดนคนของเขาสั่งสอนไปตั้งนานแล้ว อะไรที่ไม่ควรพูดก็น่าจะไม่กล้าพูด เขารู้ว่าฮวนฮวนเคยไปเยี่ยมเธอแล้ว
ครั้งนี้ที่อนุญาตฮวนฮวนไปอีกครั้ง อย่างแรกคือไม่อยากให้เธอสงสัย อย่างที่สองคือเขารู้ว่าหลิ่วเยว่เอ่อร์ไม่กล้าพูดอะไรแน่นอน
เฉินฮวนฮวนได้ยินที่เฟิงหานชวนพูด
ภรรยาฉัน……
คำคำนี้ ทำให้หน้าเธอแดงทันที
เธอรู้ว่าซูอวี่เป็นผู้ช่วยเฟิงหานชวน เคยเจอกันที่พอยเซิน ตอนนั้นเธอแค่เอาแต่ถามหลิวตงรุ่ย แล้วในห้องวีไอพีก็มืดมากด้วย เธอจึงไม่ได้สังเกตซูอวี่
ตอนที่เธอกำลังคิดเรื่องนี้ เฟิงหานชวนวางสายไปแล้ว เขาจับมือเธอมาที่ริมฝีปาก แล้วจูบหลังมือเธอ
เฉินฮวนฮวนตกใจแล้วรีบดึงมือกลับมา แล้วเอาแต่จ้องไปที่หน้าประตู “เดี๋ยวถ้าอาเหยี่ยนกลับมา คุณ……”
“กลัวอะไร ในสายตาเขา เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว” เฟิงหานชวนขยับไปใกล้เธอ แล้วขยับปากพูดว่า “ระหว่างสามีภรรยา โดยเฉพาะคู่ที่เพิ่งแต่งงานกัน หวานกันหน่อยก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?”
“แต่เราแค่ลอง……” เฉินฮวนฮวนเพิ่งรู้ว่าเขาหน้าด้านมาก
ไม่อายปากเลยสักนิด!
“ลองดู ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง?” เฟิงหานชวนกำลังเล่นเกมคำพูด
เฉินฮวนฮวนรู้ตัวว่าเธอพูดไม่เคยชนะเขาเลย
ตอนที่เธอกำลังอายจะเป็นบ้า เฟิงเฉินเหยี่ยนก็พาพนักงานมา ในมือพนักงานมีกล่อง แล้วรีบจัดของให้เฉินฮวนฮวน
ทั้งสามคนนั่งไปอีกสักพัก พอซูอวี่มาถึงแล้ว พวกเขาค่อยออกจากร้านกาแฟ
เฟิงหานชวนกอดเอวเฉินฮวนฮวนไว้ พาเธอไปที่รถของซูอวี่ แล้วพูดย้ำว่า “ห้ามนั่งข้างคนขับ ไปนั่งข้างหลัง”
“หา?” เฉินฮวนฮวนทำหน้างง
“ต้องอยู่บนรถผมถึงจะนั่งข้างคนขับได้ ข้างคนขับเป็นตำแหน่งของหวานใจเจ้าของ รู้ไหม?” เฟิงหานชวนก้มลงไปเอ่ยข้างหูเธอ
เฉินฮวนฮวนหน้าแดงมาก แล้วพยักหน้าเบาๆ “รู้แล้ว”
ซูอวี่ลงจากรถ วิ่งอ้อมไปหาทั้งสอง แล้วโค้งทักทาย “ประธานเฟิง คุณหญิง”
เฉินฮวนฮวนเงยหน้ามองซูอวี่ อยู่ๆก็รู้สึกคุ้นหน้าเขา อาจจะเพราะเคยเจอกันที่พอยเซิน
“สวัสดีค่ะ” โดนเรียกคุณหญิง เฉินฮวนฮวนยังไม่ค่อยชิน
“คุณหญิง เชิญครับ” ซูอวี่เปิดประตูหลังรถให้เธอ
เฉินฮวนฮวนโบกมือกับเฟิงหานชวน แล้วเข้าไปในรถ จนกระทั่งเธอเงยหน้า ค่อยเห็นโลโกที่พวงมาลัยรถ
จากนั้นเธอจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง ซูอวี่หันหลังให้เธอ เหมือนกำลังรายงานอะไรบางอย่างกับเฟิงหานชวน
หลังของเขา บวกกับการแต่งตัวแบบนี้ โลโกรถนี้ แล้วรถรุ่นนี้ด้วย……
ซูอวี่เป็นคนที่ส่งหลิ่วเยว่เอ่อร์ไปเรียนเช้านั้น เขาเป็นผู้ชายที่เธอเจอ!