ตอนที่ 314 มหัศจรรย์
ตอนที่ 314 มหัศจรรย์
หลิวเสวียข่ายเดินไปยังด้านหน้าสุดและนำทาง เขาเห็นฉินมู่หลานยืนอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ จากนั้นขยิบตาให้กับหล่อนและต้องการเอ่ยเตือนสักสองสามประโยค แต่กลับไม่มีโอกาสได้พูด
เดิมทีกลุ่มของพวกเขาวางแผนค่อยๆเดินดูแต่ละเคาน์เตอร์ แต่ลูกค้าต่างชาติกลับมีสายตาเฉียบแหลม เมื่อเห็นการจัดวางของเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง สายตาพลันถูกดึงดูด ดังนั้นกลุ่มของพวกเขาจึงเดินตรงมายังทางนี้
“คุณเจนนี่ นี่คือเคาน์เตอร์เครื่องสำอางของห้างโหยวอี้ของพวกเรา เป็นแบรนด์เครื่องสำอางของประเทศพวกเรา”
ล่ามที่อยู่ตรงนั้นคอยแนะนำผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินอยู่ด้านหน้าสุด
คุณเจนนี่ได้ยินคำพูดนั้นกลับไม่ได้มองดูเครื่องสำอางบนเคาน์เตอร์ แต่กลับมองดูการจัดวางสไตล์จีนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ “พวกคุณจัดวางเคาน์เตอร์นี้ได้สวยและมีรสนิยมมาก”
ล่ามได้ยินคำพูดนี้ก็พลันยิ้ม แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยแนะนำอย่างไร เพราะนี่คือเคาน์เตอร์แบรนด์เครื่องสำอาง ลูกค้าต่างชาติคนนี้ไม่สนใจแบรนด์เครื่องสำอาง สนใจเพียงแค่การจัดวางเท่านั้น
ขณะนี้ฉินมู่หลานก้าวเท้ามาด้านหน้าและใช้ภาษาอังกฤษเอ่ยแนะนำอย่างคล่องแคล่ว “คุณเจนนี่คะ เคาน์เตอร์เหล่านี้ตกแต่งตามวัฒนธรรมดั้งเดิมของประเทศของพวกเรา คุณสามารถดูได้เลยค่ะ สิ่งนี้คือนกเฟิ่งหวง พวกเราจัดวางออกมาในรูปแบบที่เรียกว่าร้อยวิหคคำนับพญาหงสา ส่วนทางด้านนี้จัดวางแบบสิบสองเทพบุปผชาติ”
จากนั้นเธอก็เล่านิทานปรัมปราของประเทศจีนด้วยรอยยิ้ม สุดท้ายก็เอ่ยถึงเครื่องสำอาง
“เครื่องสำอางมู่เสวี่ยจัดทำขึ้นโดยการอ้างอิงจากเรื่องราวเหล่านี้ ถ้าคุณสนใจก็สามารถเลือกดูได้เลยนะคะ” เมื่อเอ่ยคำพูดสุดท้าย ฉินมู่หลานชี้ไปยังใบหน้าของตนเองพลางเอ่ย “วันนี้ฉันใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ มันสามารถปกปิดจุดด่างพร้อยบนผิวหน้าของฉันได้อย่างเรียบเนียนเชียวล่ะค่ะ”
เดิมทีเจนนี่ไม่ได้สนใจเครื่องสำอางเหล่านี้เลย ด้วยคิดว่าเครื่องสำอางของประเทศจีนนั้นไม่ได้ดีเท่าประเทศของพวกเขา แต่ได้ยินเรื่องเล่าของฉินมู่หลานและได้เห็นการแต่งหน้าของเธอ สุดท้ายก็รู้สึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อย
“เครื่องสำอางของพวกคุณนั้นอ้างอิงจากเรื่องราวในตำนานจริงเหรอ ไม่อย่างนั้นให้ฉันลองดูสักหน่อย”
“ได้เลยค่ะ”
ฉินมู่หลานยิ้มพลางหยิบเครื่องสำอางออกมาเซ็ตหนึ่ง เธอเปิดตลับแป้งอัดแข็งเป็นอันดับแรก เห็นภาพนูนของดอกเหมยดอกหนึ่งสลักอยู่ด้านบน ประณีตละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก “คุณเจนนี่คะ นี่คือดอกเหมยที่เป็นหนึ่งในสิบสองเทพบุปผชาติ ตัวแป้งนั้นมีกลิ่นหอมบางเบาของดอกเหมย” ขณะกล่าวเธอก็โบกมือไปมาเพื่อให้ผู้คนสามารถได้กลิ่นหอมบางเบาของดอกเหมย
เจนนี่มองแป้งอัดแข็งตรงหน้าและเอ่ยอย่างอดไม่ได้ “สวยจริงๆ อย่างไรก็ตามเป็นเพราะว่าคุณนั้นสวยอยู่แล้ว ดังนั้นคงไม่ใช่ความดีความชอบของเครื่องสำอางเหล่านี้หรอกมั้ง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานยิ้มและเอ่ย “พนักงานขายอีกสองคนของพวกเราก็ใช้เครื่องสำอางเหล่านี้เช่นกัน คุณสามารถดูการแต่งหน้าของพวกหล่อนได้เลยค่ะ”
ขณะนี้เจนนี่สังเกตเห็นพนักงานขายอีกสองคนและพบว่าพวกหล่อนทั้งสองคนก็สวยมากเช่นกัน เพียงแต่สไตล์การแต่งหน้าบนใบหน้ากลับแตกต่างกันออกไป “การแต่งหน้าของพวกคุณนับว่าประณีตมาก แต่อาจเป็นเพราะว่าพวกคุณนั้นสวยมากอยู่แล้ว”
เจนนี่ยังคงรู้สึกว่าเครื่องสำอางของประเทศจีนยังไม่น่าดึงดูดเท่าใดนัก
ฉินมู่หลานมองไปทางล่ามที่อยู่ด้านหลังของเจนนี่อย่างอดไม่ได้ เป็นหญิงสาววัยกลางคนใบหน้าหมองคล้ำ เมื่อมองดูแล้วอายุประมาณสี่สิบถึงห้าสิบปี
“คุณเจนนี่คะ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะแต่งหน้าให้กับล่ามคนนี้เลย เมื่อถึงเวลานั้นพวกคุณก็จะเห็นได้กับตาของตนเองว่าเครื่องสำอางเหล่านี้นั้นดีหรือไม่”
ล่ามคนนั้นได้ยินพลันตะลึงงันอย่างอดไม่ได้ เจนนี่เองก็คาดไม่ถึงว่าฉินมู่หลานจะกล่าวเช่นนี้ เดิมทีวันนี้พวกเขาเองก็ตั้งใจมาเดินเที่ยวที่ห้างโหยวอี้ จึงมีเวลาตลอดทั้งวัน หล่อนพยักหน้าและเอ่ย “ได้เลย”
“ตกลงค่ะ งั้นรบกวนรอฉันสักสิบนาทีนะคะ”
ขณะที่ล่ามคนนั้นต้องการกล่าวอะไรบางอย่าง หล่อนก็ถูกหลิวเสวียข่ายดึงไปยังด้านหน้าของฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานมองสำรวจล่ามอย่างละเอียดรอบคอบ ทันใดนั้นก็คิดออกว่าจะต้องแต่งหน้าให้หล่อนอย่างไร “รบกวนคุณนั่งลงก่อนนะคะ”
“ได้ค่ะ”
เมื่อล่ามคนนั้นเห็นว่าไม่สามารถปฏิเสธได้ หล่อนก็นั่งลงทันใด
ฉินมู่หลานจัดการด้วยความเร็วเป็นอย่างมาก ภายในเวลาสิบนาทีก็แต่งหน้าให้กับล่ามคนนั้นอย่างประณีตและทำให้หล่อนดูอ่อนเยาว์ลงกว่าเมื่อสักครู่นี้ราวสิบปี
“โอ้……พระเจ้า น่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว”
เจนนี่เห็นสถานการณ์นี้ด้วยตาของตนเอง ใบหน้าพลันเต็มไปด้วยความตกตะลึง
……………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อยากรู้เคล็ดลับในเครื่องสำอางของมู่หลานเลย แต่งทีเหมือนเสกหน้าใหม่ได้ในพริบตา
ไหหม่า(海馬)