เฉินฮวนฮวนยังคงจำได้ว่าหลิ่วเยว่เอ่อร์เคยพูดว่าเขาคนนั้นคือแฟนใหม่ของเธอ ซึ่งเป็นคนสำคัญและเนื่องจากเธอต้องเก็บไว้เป็นความลับ จึงบอกเธอได้ในภายหลัง
แต่ภายในเวลาไม่กี่วันหลิ่วเยว่เอ่อร์ก็เข้าคุก
เมื่อเธอมาพบหลิ่วเยว่เอ่อร์ในคุก จู่ๆเธอก็เปลี่ยนคำพูดและบอกว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณ
ในเวลานั้นเฉินฮวนฮวนไม่เคยคิดเลยว่าชายคนนั้นจะเป็นเฟิงหานชวน
ถ้าเธอรู้เรื่องนี้เร็วกว่านี้ เมื่อคืนก่อนเธอก็จะไม่มีวันเห็นด้วยกับการทดลองแต่งงาน
“ช่วยฉันออกไปน่ะเหรอ? เหอะ”หลิ่วเยว่เอ่อร์หัวเราะอย่างเย็นชา
เธอถูกส่งเข้ามาโดยเฟิงหานชวน แล้วเขาจะมาช่วยทำไม?
“พวกเธอมีความสัมพันธ์เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวอย่างนั้นเหรอ? เขาช่วยเธอไม่ได้เหรอ? “เฉินฮวนฮวนต้องการรู้ว่าเฟิงหานชวนโกหกเธอหรือไม่?
เขาพูดครั้งเดียว สรุปแล้วใช่ครั้งเดียวหรือเปล่า
“ถ้าฉันบอกว่าเขาเป็นคนที่ส่งฉันเข้ามาล่ะ?”หลิ่วเยว่เอ่อร์สังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติไป เลยจงใจถามออกไป
เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาด เธอสัมผัสได้ว่าเฉินฮวนฮวนกำลังทดสอบเธออยู่
เป็นไปได้ไหมว่าเฉินฮวนฮวนรู้อะไรบางอย่าง?
“เธอพูดว่าอะไรนะ?”เฉินฮวนฮวนขมวดคิ้วและถามออกไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ: “ผู้มีพระคุณของเธอส่งเธอเข้าคุกอย่างนั้นเหรอ? ทำไมล่ะ!”
การใช้เงินเพื่อซื้อผู้หญิงแบบนี้ก็ถือได้ว่าเป็นความสมัครใจ ทำไมเฟิงหานชวนถึงส่งหลิ่วเยว่เอ่อร์เข้าคุกล่ะ!
หลังจากฟังสิ่งที่เฉินฮวนฮวนพูดแล้ว หลิ่วเยว่เอ่อร์ก็ตระหนักได้ทันทีว่าเฉินฮวนฮวนน่าจะยังไม่รู้อะไรเลย เพราะแม้แต่ชื่อของเฟิงหานชวนเธอก็ไม่ได้เอ่ยมันออกมา
เห็นได้ชัดว่าเฉินฮวนฮวนไม่รู้ว่าผู้มีพระคุณของเธอคือเฟิงหานชวน
“มันจะเป็นอะไรไปได้อีก? บริการไม่ดี เลยทำให้เขาไม่พอใจ! “ท่าทางของหลิ่วเยว่เอ่อร์ดูหดหู่
บริการไม่ดี เลยทำให้เขาไม่พอใจ…
การแสดงออกของเฉินฮวนฮวนเปลี่ยนไป เธอเดินเซถอยหลังไปสองสามก้าว
หลิ่วเยว่เอ่อร์รับรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าเฉินฮวนฮวนจะรู้อะไรบางอย่าง
เธอแอบเม้มริมฝีปากของเธอและอดไม่ได้ที่จะคิดเรื่องชั่วร้าย ไม่ว่าตอนนี้เฉินฮวนฮวนจะรู้หรือไม่รู้ แต่สุดท้ายยังไงเฉินฮวนฮวนก็ต้องรู้อยู่ดี
เฟิงหานชวนทำร้ายเธออย่างรุนแรง และเธอไม่ต้องการให้เฟิงหานชวนและเฉินฮวนฮวนมีช่วงเวลาที่ดี!
“เธอยังจำวันที่ฉันนอนโรงพยาบาลสองวันนั้นได้ไหม ที่บอกว่าป่วยน่ะ? อันที่จริงฉันถูกเขาทำมิดีมิร้าย”หลิ่วเยว่เอ่อร์ถอนหายใจและแสร้งทำเป็นพูดอย่างน่าสงสาร
“ทำ มิดีมิร้าย?”เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่ามือของเธอสั่น
หลิ่วเยว่เอ่อร์ที่เห็นว่าผู้คุมเพิ่งออกไป เธอก็จ้องไปที่มือที่สั่นเทาของเฉินฮวนฮวนและแอบหัวเราะเยาะเย้ย
“ใช่ ตอนนี้ร่างกายของฉันไม่ค่อยดีแล้ว แถมยังทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอีก ไม่อย่างนั้นถ้าเธอบอกว่าแค่ขายตัว ทำไมถึงถูกจับ ถูกไหม?”ตอนนี้หัวใจของหลิ่วเยว่เอ่อร์มีแต่ออร่าของความมืดมน
“เธอ……เธอถูกทำมิดีมิร้ายไปกี่ครั้งแล้ว?”คิ้วของเฉินฮวนฮวนแถบจะผูกติดกัน ใบหน้าของเธอซีดมาก
“กี่ครั้ง? นับไม่ได้หรอกว่ากี่ครั้ง! “หลิ่วเยว่เอ่อร์หัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า: “เรื่องของซูเสวี่ย เธอจำไม่ได้เหรอ? ฉันขอบอกเลยนะ ว่าฉันก็เจอแบบนั้นเหมือนกัน! แถมเขายังพาพี่น้องของเขาไปอีกด้วย ฮึ ฉันไม่มีทางเลือกเลย…”
“ฉันไม่สามารถทำให้พวกเขาพอใจได้ ตอนนี้ฉันก็เลยเป็นแบบนี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะขายบริการ ฮวนฮวน เธอเห็นใจฉันหน่อยได้ไหม?”
“ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอ ฉันรู้สึกเศร้าเหลือเกิน พอฉันเห็นเธอมีช่วงเวลาที่ดี แต่พอเมื่อฉันกลับมามองตัวเอง ฉัน…”
ขณะที่พูดหลิ่วเยว่เอ่อร์ก็เอามือปิดหน้าของเธอและเริ่มร้องไห้เสียงดัง
เมื่อได้ยินเสียงร้องของหลิ่วเยว่เอ่อร์ เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกว่าขาของเธออ่อนแรงและล้มกระแทกลงไปกับพื้นดัง “ตุ๊บ”
เฉินฮวนฮวนไม่เคยคิดเลยว่าเฟิงหานชวนจะไม่เพียงแค่หลอกเธอเท่านั้น แม้แต่หลิ่วเยว่เอ่อร์ที่นอนหลับอยู่เฉยๆก็ยังโดนเขากระทำเรื่องที่น่ากลัวเช่นนี้
เธอรู้สึกเพียงว่าตอนนี้มือของเธอสั่นตลอดเวลา ฝ่ามือของเธอเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อของเธอ แล้วเธอก็รู้สึกว่าหัวใจของเธอไม่สามารถเต้นได้อีกต่อไป เธอรู้สึกหายใจไม่ออกอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นท่าทางของเฉินฮวนฮวน หลิ่วเยว่เอ่อร์ก็รู้สึกมั่นใจจริงๆแล้วว่าดูเหมือนจะมีบางอย่างระหว่างเฉินฮวนฮวนกับเฟิงหานชวน ไม่เช่นนั้นเฉินฮวนฮวนคงจะไม่มีปฏิกิริยาเช่นนี้
“ฮวนฮวน เธอเป็นอะไรไป? ไม่สบายหรือเปล่า? ขอบคุณมากที่มาหาฉัน แต่รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ ”
“ขอโทษนะ ถ้าสิ่งที่ฉันพูดไปมันทำให้เธอรู้สึกเสียใจ ฉันพูดไปเพราะฉันอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ พาสต้าที่เธอทำมาให้ฉัน ฉันจะกินมันให้อร่อย”
หลิ่วเยว่เอ่อร์พูดจาให้รู้สึกน่าสงสาร ซึ่งทำให้เฉินฮวนฮวนรู้สึกเห็นอกเห็นใจเธอมากขึ้นกว่าเดิม
“เออใช่ ฮวนฮวน”มองๆดูแล้วเฉินฮวนฮวนน่าจะดูเชื่อเธอแล้ว หลิ่วเยว่เอ่อร์กระซิบเบาๆว่า: “เรื่องที่ฉันบอกเธอวันนี้ เธออย่าเอาไปบอกใครนะ รู้ไหม?”
“ฉันขออยู่อย่างเงียบๆสักครึ่งเดือนก่อนที่จะได้ออกไป ในตอนนั้นคนๆนั้นก็น่าจะปล่อยฉันไปแล้วแหละ แต่ถ้าหากเขารู้ว่าฉันพูดเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับเขาล่ะก็ เขาต้องลงโทษฉันอย่างรุนแรงแน่นอน ฉันกลัว”
“ฮวนฮวน อย่าบอกใครนะ โอเคไหม? สัญญากับฉันสิ!”
หลิ่วเยว่เอ่อร์เพิ่งคิดออกว่าถ้าเฉินฮวนฮวนไปหาเฟิงหานชวนเพื่อช่วยเธอล่ะก็ เรื่องที่เธอเพิ่งสร้างขึ้นจะต้องถูกเปิดเผย
ดังนั้นเธอจึงกลอกตาและออกคำสั่งเน้นย้ำกับเฉินฮวนฮวนเป็นพิเศษว่าอย่าบอกใคร
“ฉัน……ฉันสัญญา”เฉินฮวนฮวนพยักหน้ารัวๆ
เพื่อความปลอดภัยของหลิ่วเยว่เอ่อร์ เธอคงไม่สามารถบอกเฟิงหานชวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่ามันจะเป็นแบบนี้ เฟิงหานชวนกลายเป็นปีศาจที่น่ากลัว!
เกือบแล้ว เธอเกือบตกหลุมพรางของเฟิงหานชวนเข้าซะแล้ว
ถ้าเธออยู่เคียงข้างเขาอีกสักสองสามวัน เขาก็คงจะปฏิบัติกับเธอเหมือนหลิวเยว่เออร์หรือเปล่า?
น่ากลัวเกินไปแล้ว….
ผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัวเกินไปจริงๆ!
ใบหน้าของเฉินฮวนฮวนซีดมาก เหงื่อมากมายผุดอยู่บนหน้าผากของเธอ การแสดงออกทั้งหมดของเธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์
หลิ่วเยว่เอ่อร์เห็นทุกอย่างผ่านสายตาของเธอ มันทำให้เกิดความสุขขึ้นในใจของเธอ
เธอรู้ว่าเฉินฮวนฮวนเป็นผู้หญิงที่โง่มากและเชื่อคำพูดของคนอื่นได้ง่าย
ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินฮวนฮวนโง่ เธอก็คงไม่เป็นเพื่อนกับเฉินฮวนฮวนหรอก
“ฮวนฮวน เธอรีบไปเถอะ! อยู่นานไปไม่ดีเท่าไหร่ ผู้คุมที่นี่ก็ถูกคนนั้นซื้อไปเหมือนกัน น่ากลัวมาก ชู่ว! “หลิ่วเยว่เอ่อร์ทำท่าทางส่งสัญญาณบอกให้เงียบๆ
เมื่อได้ยินว่ามีการซื้อตัวผู้คุมในเรือนจำ ทันใดนั้นเฉินฮวนฮวนก็จำฉากที่เฟิงหานชวนให้บอดี้การ์ดสั่งสอนตระกูลเฉินในวันนี้ขึ้นมาทันที
ผู้ชายคนนั้นมีอำนาจมาก อำนาจล้นฟ้าที่จะทำอะไรก็ได้
เธอ…ยังหนีทันไหม?
“เยว่เอ่อร์ ฉันกลับก่อนนะ”เฉินฮวนฮวนยังคงอยู่ในภวังค์: “ฉันอาจใช้โทรศัพท์มือถือไม่ได้ในระหว่างการเข้าฝึก เมื่อฉันฝึกเสร็จฉันจะติดต่อเธอไปนะ”
หลังจากพูดจบ เฉินฮวนฮวนก็เดินไปที่ประตูอย่างอ่อนแรง
หลังจากแน่ใจว่าเฉินฮวนฮวนออกไปแล้ว หลิ่วเยว่เอ่อร์ก็หยิบกล่องที่ใส่พาสต้าปาไปที่กำแพงอย่างรุนแรง
“ปัง–” กล่องข้าวตกลงพื้นและแตกเป็นชิ้นๆ
ซอสเหนียวๆและเส้นพาสต้ากระจายไปทั่ว
“ฮ่าๆๆๆ…”
เสียงหัวเราะที่แหลมคมของหญิงสาวดังก้องในห้องขัง