หมอหลวงไม่เข้าใจว่าทำไมท่านอ๋องต้องโมโหขนาดนั้น? ไม่เข้าใจการนับหรือ?
ตั้งครรภ์เดือนสิบ นับเดือนที่แล้วก็สิบเอ็ดเดือนไม่ใช่หรือ? ตามจริงต้องสิบสองเดือน แต่เมื่อเห็นหน้าเขาก็ลดลงมาให้ตั้งหนึ่งเดือนแล้ว
ทังหยางเข้าใจ จึงรีบเร่งหมอหลวง “ท่านพูดต่อเลย”
หมอหลวงเหลือบมองทังหยางแล้วพูดต่อ:”ข้อสองก็เป็นสิ่งสำคัญ พระชายาไม่สามารถทำกิจกรรมได้ ต้องนอนพักนิ่งๆ เท่านั้น และต้องทานยาป้องกันการแท้งบุตรที่ข้าน้อยจัดให้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ได้ ข้าจำไว้แล้ว” ทังหยางตอบรับ
“ข้อสาม……” หมอหลวงเฉาเริ่มเคร่งขรึมขึ้นมา เหลือบมองทุกคนในห้อง กล่าวเบาๆ :”ข้อนี้ก็สำคัญ จำให้แม่น อาหารของพระชายาทั้งหมดต้องได้รับการดูแลจากคนที่ไว้ใจได้ กำจัดเครื่องหอมทั้งหมดภายในห้อง ของที่ใครให้มาก็ต้องตรวจซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้กระทั่งของกำนัลจากในวัง เพราะทางจากวังหลวงมาอาจไม่ทันระวัง ก็ต้องทำการตรวจสอบ นอกจากอาหารในจวนแล้วพระชายาต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มาจากผู้อื่น จำไว้ให้ดี”
ท่าทีของหยู่เหวินเห้าเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมา
คำพูดสุดท้ายของหมอหลวง เขาเข้าใจว่าจะสื่อถึงอะไร
หากมีมิตรภาพธรรมดา หมอหลวงคงไม่พูดเช่นนี้
เขาปรับอารมณ์แล้วยกมือคำนับ:”หมอหลวงเฉา เรื่องยาซุปทั้งหมดในนี้ให้ท่านเป็นผู้รับผิดชอบ ข้าต้องเข้าวังไปพบเสด็จพ่อ ท่านได้โปรดอยู่จวนชั่วคราว
“พ่ะย่ะค่ะ!” หมอหลวงตอบรับมองหยวนชิงหลิง พลางถอนหายใจ:”ฝ่าบาทต้องทรงดีใจมากแน่ ๆ ข้าน้อยจะพยายามสุดความสามารถเพื่อปกป้องรัฐทายาท”
หยวนชิงหลิงมองทุกคนในห้อง ทุกคนล้วนดูเคร่งเครียด นึกถึงแผนการที่วางเอาไว้ก็รู้สึกละอายและรู้สึกผิดมาก
“ขอบใจ!” หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างแผ่วเบา
ภายในใจรู้สึกสับสน
แม่นมสี่มองไปที่หมอหลวง “เรื่องพระชายากำลังตั้งครรภ์ควรประกาศต่อสาธารณชนหรือไม่?”
“ประกาศไม่ประกาศอยู่ในความตัดสินใจของท่านอ๋องและพระชายาพ่ะย่ะค่ะ แต่เรื่องนี้อย่างไรก็ปิดไม่ได้ อย่างไรก็ต้องแจ้งวังหลวง ข้าน้อยไม่คิดว่าในวังจะใจเย็นไม่ส่งคนมาที่จวนอ๋อง อีกทั้งหลายๆ คนมีสายตาที่เฉียบคม ไม่มีทางที่จะมองสถานการณ์ไม่ออก
แม่นมสี่ใจห่อเหี่ยว “แต่ถ้าเรื่องนี้ประกาศออกไป……”
แม้แม่นมสี่จะกล่าวไม่จบ แต่ทุกคนล้วนเข้าใจดี
พระชายามีครรภ์เป็นเรื่องใหญ่เพียงใด?
แล้วยิ่งมีเรื่องการตั้งครรภ์ปลอมของพระชายาอ๋องฉีเองก็วุ่นวายเสียจนในวังมีทั้งคนยินดีและรู้สึกเฉยๆ
หมอหลวงกล่าวขึ้น:”ที่มามาบอกว่าพระชายาดื่มน้ำจื่อจิน ทำไมเราไม่ลองพูดเรื่องนี้สู่ภายนอกดู”
“ถ้าเป็นเช่นนี้ ผู้คนภายนอกก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยพระชายาทำอะไรผิด เหตุใดจึงได้ใช้น้ำจื่อจิน” แม่นมสี่คิดเผื่อหยวนชิงหลิง น้ำจื่อจินนี้ใช้เพื่อทรมานนักโทษ
“แล้วก็หาข้อแก้ตัว ความผิดหรืออย่างอื่นก็ได้ เพราะเหตุผลไม่ได้จริงจัง ขอเพียงแค่ให้พวกเขาให้ความสนใจถึงความไม่แข็งแรงของทารกก็พอ”
ความอ่อนแอนี้แท้จริงเพื่อแลกกับการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
เรื่องที่พระชายาตั้งครรภ์จะถูกประกาศในวันรุ่งขึ้น ทุกสายตาจะจ้องมาที่จวนอ๋องฉู่
ถ้าหากมีข่าวว่าสถานการณ์ของพระชายาไม่ค่อยดีอาจจะทำให้มีคนรู้สึกดีอยู่บ้าง ทำให้มองข้ามเรื่องความเสี่ยงนี้ว่าเด็กไม่มีทางรอด
กล่าวคือตอนนี้สถานการณ์ไม่ชัดเจน ยิ่งปล่อยข่าวมากเท่าไหร่ยิ่งสับสนวุ่นวาย แต่ภายในจวนจะยิ่งสงบ
แม่นมสี่กล่าวกับทังหยางทันที:”ใต้เท้าทัง เมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้นต้องสั่งข้ารับใช้ทุกคนในจวนอย่างเข้มงวด นอกจากข่าวที่เราจะปล่อย ที่เหลือห้ามคุยอะไรข้างนอก ถ้าจับได้ว่าพูดอะไรออกไปจะถูกส่งออกจากเมืองหลวง”
ทังหยางตอบ:”มามาไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้เช้าข้าจะเรียกข้ารับใช้ทุกคนมา”
แม่นมสี่กล่าวต่อ:”ผู้อยู่ปรนนิบัติข้างกายพระชายาคือแม่นมฉี แม่นมเฉียน ลู่หยา ฉี่หลอ แล้วก็ข้า นอกจากพวกข้าห้าคนข้ารับใช้อื่นภายในจวนไม่สามารถเข้าใกล้พระชายาได้”
หยู่เหวินเห้าออกคำสั่ง:”สวีอี ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเจ้าไม่ต้องติดตามข้า ให้อยู่ดูแลความปลอดภัยที่จวน จำไว้ว่าถ้าหากมีผู้มาเยือนให้แจ้งใต้เท้าทังกับแม่นมสี่รับรู้ พวกเขาอยู่ทั้งสองคนจึงจะได้รับอนุญาตให้เข้ามา แต่เจ้าจำให้ดีไม่ใช่ทุกคนที่จะให้เข้ามาได้”
ถ้าหากเริ่มมีข่าวการตั้งครรภ์แพร่ออกไป เหล่าพระชายา เหล่าเจ้าหญิง และเหล่าเครือญาติที่จวนเจ้าพระยาจิ้งคงแห่มากัน
คนเยอะจนละการป้องกันไม่ได้
“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ!” สวีอีตอบเสียงดังฟังชัด
ทังหยางมองไปที่เขา กล่าวเตือน:”ครั้งนี้เจ้าอย่าทำผิดพลาดล่ะ เข้าใจไหม?”
“เข้าใจพ่ะย่ะค่ะ ใต้เท้าทังอย่าได้กังวล สวีอีจะปกป้องนายน้อยด้วยชีวิต” ความรู้สึกอยากปฏิบัติภารกิจของสวีอีลุกโชนขึ้น นึกถึงพระชายาที่ตั้งครรภ์ก็รู้สึกเลือดพลุ่งพล่าน
ตื่นเต้นเสียกว่าภรรยาตนเองมีบุตร ถึงแม้เขาจะยังไม่มีภรรยาก็ตาม
หมอหลวงสลายคน เพราะพระชายาต้องพักผ่อน
ในที่สุดคนที่เต็มห้องก็ทยอยกลับไป หยู่เหวินเห้าเอนลงนอนข้างหยวนชิงหลิงแล้วกอดนางอย่างระมัดระวัง
มือค่อยๆ เลื่อนจากข้างกายนางไปวางไว้บนท้อง กล่าวอย่างแผ่วเบา:”เจ้าเหนื่อยหน่อยนะ”
หยวนชิงหลิงหันหน้ามามองเขาผู้นี้ที่เป็นคนระแวดระวังตัวจนน่าวิตก ไม่เคยเห็นเขาในตอนน่าเคารพศรัทธา
นางเอื้อมมือไปสัมผัสตาที่บวมช้ำขึ้นสีของเขา ถามอย่างไร้เสียง:”ท่านดีใจไหม”
“ไม่เพียงแค่ดีใจ ยิ่งกว่านั้นคือสงบใจ” หยู่เหวินเห้าจับมือนางไว้มั่นแปะลงบนริมฝีปากของตนเอง
“สงบใจ?” นางไม่เข้าใจ
หยู่เหวินเห้าหัวเราะ ยกคิ้วขึ้น “ใช่ สงบใจ รู้สึกว่าเจ้าจะหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”
“ทำไมข้าต้องหนี?” หยวนชิงหลิงไม่เข้าใจกว่าเดิม
หยู่เหวินเห้ามองนาง แววตาค่อยๆ ปรากฏความสับสน “ไม่รู้สิ ในใจข้ารู้สึกเช่นนั้น รู้สึกว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะไปจากข้า”
หยวนชิงหลิงประหลาดใจ “ทำไมท่านถึงรู้สึกเช่นนั้น?”
“บางทีอาจเป็นเพราะเจ้าจู่ๆ รู้ทักษะการแพทย์ จู่ๆ ก็มีกล่องยา แล้วจู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ที่จริงข้าก็ไม่ค่อยกล้าสืบเสาะเท่าไหร่ ตั้งแต่เราสองคนดีกัน เจ้าเห็นข้าถามซอกแซกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ไหม?”
“สองวันมานี้ก็มีถามบ้าง ท่านบอกว่าข้ามีเรื่องปิดบังท่าน เรายังโต้เถียงกันเรื่องยาเม็ดจื่อจินและกล่องยาด้วย” หยวนชิงหลิงตอบ
“งั้นก็ไม่กล้าขุดลึกแล้ว แค่ลองขุดลึกดู เพราะข้าอยากจะรู้ แต่ก็ไม่อยากรู้” หยู่เหวินเห้าถอนหายใจออกมา “แต่ตอนนี้ข้าวางใจแล้ว เจ้ากำลังมีบุตร มีพันธะเจ้าก็ไปไหนไม่ได้แล้ว ในหนังสือมีเขียนไว้ว่า หลังจากที่นางฟ้าลงมายังพื้นดิน ถ้าหากนางมีลูก นางก็ทนไม่ได้ที่จะจากไป ”
“อะไรของท่าน? ข้าไม่ใช่นางฟ้าสักหน่อย” หยวนชิงหลิงหัวเราะ
เขาเองก็หัวเราะออกมา “ไม่รู้ แค่มีบางครั้งที่ข้าคิดไปเรื่อยเปื่อย นี่อาจเป็นการคาดเดา แต่อย่างไรกล่องยาก็น่าทึ่ง”
“ท่านคาดเดาความเป็นไปได้มากมาย? หยวนชิงหลิงขยับเล็กน้อย รู้สึกว่าเขาต่อต้านตัวเองอยู่ตลอด ไม่คาดคิดว่าเขาจะเก็บเรื่องพวกนี้ไปคิดเองคนเดียว
“ใช่ ในยามที่สงบมักจะคิดเสมอว่าตกลงเจ้าเป็นใคร”
“ข้าก็คือหยวนชิงหลิงน่ะสิ!” นางตกใจชั่วครู่
เขามองนางอย่างลึกซึ้ง “ใช่แล้ว เจ้าคือหยวนชิงหลิง คือแม่ของลูกข้า”
หยวนชิงหลิงถอนหายใจในใจเงียบๆ เขาเชื่อหรือไม่เชื่อ?
ในใจเขาคาดเดาอะไรไว้บ้าง?
“ต่อไปก็ไม่ต้องคาดเดาอะไรไปเรื่อยแล้ว คิดจนหัวแตกก็ไม่ได้ความน่าจะเป็นอื่นนอกจากข้าคือหยวนชิงหลิง” หยวนชิงหลิงกล่าว
เขาหันหน้ามา “ถ้างั้น ไม่ใช่นางฟ้าจริงหรือ?”
นางตอบกลั้นหัวเราะ:”นางฟ้าอะไรเล่า? เพ้อเจ้อ!”
เขาถอนหายใจออกมา “ข้ารู้ว่าไม่ใช่ เจ้าก็คือเจ้า จะไปเป็นนางฟ้าได้อย่างไร? เกือบจะทำลายนางฟ้าที่ข้าจินตนาการไว้เสียแล้ว”