ตอนที่ 252 รอดพ้นอันตราย ริมแม่น้ำใต้แสงจันทรา (2)

หวนคืนชะตาแค้น

องครักษ์​โกรธ​อยู่​ไม่น้อย​เพราะ​จู่ๆ​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​กลับ​ไม่​ให้ความร่วมมือ​และ​แสดงท่าที​ต่อต้าน​ใส่​ ​ทว่า​ด้วย​สถานะ​ของ​เขา​จึง​ไม่​สามารถ​สร้าง​แรงกดดัน​ใด​ให้​มู่​หร​งอ​วี​้​ได้​ ​เขา​ทำได้​แค่​ข่มใจ​กัดฟัน​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​กระหม่อม​จะ​ทูล​รายงาน​ท่าน​อ๋อง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

มู่​หร​งอ​วี​้​แค่น​เสียง​เบา​ที​หนึ่ง​ ​“​แบบนี้​ก็ดี​”

“​เช่นนั้น​กระหม่อม​ทูล​ลา​”​ ​องครักษ์​คน​นั้น​ประสานมือ​ทำความเคารพ​แล้ว​หมุนตัว​จากไป​ ​เขา​ต้อง​รีบ​กลับ​ไปรา​ยงา​นพฤ​ติกร​รม​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​ให้ท่า​นอ​๋​อง​ทรง​ทราบ​ ​เพื่อให้​ท่าน​อ๋อง​สามารถ​หา​แผน​ตั้ง​รับได้​ทันท่วงที

จากนั้น​ก็​เหลือ​เพียง​มู่​หร​งอ​วี​้​นั่ง​เหม่อลอย​จับจ้อง​จดหมาย​บน​โต๊ะ​ตรงหน้า​ภายใต้​แสงเทียน​ใน​ห้อง​หนังสือ​โดดเดี่ยว​ลำพัง​ ​เขา​รู้​ว่า​หรง​เหยี​่​ยน​ตัดสินใจ​ถูกต้อง​ ​เพราะ​มู่​ชิง​อี​ฉลาด​เป็น​กรด​และ​รู้มาก​เกินไป​ ​หาก​นาง​มีชีวิต​อยู่​ย่อม​เป็น​ภัย​คุกคาม​ยิ่งใหญ่​สำหรับ​เขา​ ​แต่​…​ครั้น​นึกถึง​ดวงตา​ที่​สงบ​เรียบ​นิ่ง​ของ​หญิงสาว​ชุด​ขาว​ ​ฉับพลัน​มู่​หร​งอ​วี​้​ที่​คิด​ว่า​คน​ใจ​เหี้ยม​ไร้ค​วาม​เมตตา​อย่าง​ตน​กลับ​ฆ่า​นาง​ไม่​ลง​เสีย​แล้ว

เขา​ยัง​จำได้​ว่า​เมื่อ​สี่​ปีก่อน​…​มี​หญิงสาว​ใบหน้า​งดงาม​เหนือ​ใคร​เฉกเช่น​เดียวกัน​มอง​เขา​จาก​ด้านนอก​ประตู​จวน​กง​อ๋อง​ ​รอยยิ้ม​ที่​มัก​แฝง​ไป​ด้วย​ความสงบ​และ​งดงาม​กลับ​ฉายแวว​ตกตะลึง​และ​ผิดหวัง​พาด​ผ่าน​สอง​ดวงตา​ ​เขา​ยัง​จำได้​ว่า​ดวงตา​ที่​มัก​สงบนิ่ง​ของ​สาว​ใน​ชุด​แดง​งดงาม​ดั่ง​ดาว​จรัส​ฟ้า​ที่​หอนาง​โลม​ชุ่ย​หง​เมื่อ​สอง​ปีก่อน​แฝง​ไป​ด้วย​ความเคียดแค้น​และ​แตกต่าง​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ว่า​ตน​ทน​เห็น​สอง​ดวงตา​เศร้าหมอง​และ​ผิดหวัง​ที่​คล้ายคลึง​กัน​เช่นนี้​ไม่ได้​อีกต่อไป

แต่​…​มู่​ชิง​อี​คือ​ศัตรู​ของ​เขา

มู่​หร​งอ​วี​้​ถอนหายใจ​อย่าง​ปวดใจ​ภายใน​ห้อง​หนังสือ​เพียงลำพัง

“​ชิง​ชิง​”

ระหว่าง​สะลึมสะลือ​ ​มู่​ชิง​อีก​็​รู้สึก​เหมือน​ตน​เห็น​ใบหน้า​อัน​คุ้นเคย​ ​นาง​อด​ขมวดคิ้ว​ไม่ได้​พลาง​ปัด​ป่าย​ใบหน้า​นั้น​ไป​ด้าน​ข้าง​ตาม​ความเคยชิน

“​ชิง​ชิง​”​ ​เหมือน​เสียง​นั้น​จะ​แฝง​ไป​ด้วย​ความน้อยใจ​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​มู่​ชิง​อี​เบิกตา​โพลง​ตาม​สัญชาตญาณ​ ​จากนั้น​ก็​เห็น​หรง​จิ​่​นกำ​ลัง​นั่ง​กะพริบตา​ปริบๆ​ ​มอง​นาง​ด้วย​ท่าที​น้อยใจ​อยู่​ข้าง​เตียง

“​องค์​ชาย​เก้า​มา​อยู่​ที่นี่​ได้​เช่นไร​กัน​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ถาม​เสียง​เบา​พลาง​ตกใจ​ยกใหญ่

หรง​จิ​่​นรี​บสำ​รวจ​ดู​ว่า​มู่​ชิง​อี​บาดเจ็บ​หรือไม่​ก่อน​จะ​เอ่ย​คาดโทษ​เสียง​เบา​ ​“​ชิง​ชิง​ใจร้าย​นัก​ ​ข้า​รบราฆ่าฟัน​ ​ฝ่าอันตราย​มาช​่วย​เจ้า​แท้ๆ​ ​แต่​เจ้า​กลับ​ปัด​ข้า​ออก​เสีย​ได้​”

รบราฆ่าฟัน​หรือ​ ​มู่​ชิง​อี​มอง​ใคร​บางคน​ที่​สวม​ชุด​สีดำ​งามสง่า​ ​กระทั่ง​แม้แต่​รอย​กลีบ​ชุด​ยัง​ไม่​ยับ​ด้วยซ้ำ​ด้วย​ความสงสัย

หรง​จิ​่น​หัวเราะ​เหอะ​ๆ​ ​ที​หนึ่ง​ก่อน​จะ​ย่อ​ตัว​อุ้ม​มู่​ชิง​อี​ขึ้น​มา​พร้อม​รอยยิ้ม​ ​“​เมื่อ​ครู่​ไม่ได้​รบราฆ่าฟัน​กัน​ก็​จริง​ ​แต่​ตอนนี้​คง​ต้อง​มี​แล้ว​ล่ะ​”

มู่​ชิง​อี​ยัง​ไม่ทัน​กล่าวโทษ​พฤติกรรม​หุนหันพลันแล่น​ของ​เขา​ ​ประตู​ด้านนอก​ก็​ถูก​คน​ถีบ​เข้ามา​อย่างแรง​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​ยืน​อยู่​ด้านนอก​พลาง​มอง​มู่​ชิง​อี​ที่​ถูก​บุรุษ​ชุด​ดำ​สวมหน้ากาก​คน​หนึ่ง​อุ้ม​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ด้วย​สีหน้า​ถมึงทึง

“​เจ้า​เป็น​ใคร​อีก​เล่า​”​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​เอ่ย​เสียง​เข้ม

หรง​จิ​่น​เลิก​คิ้ว​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​เจ้า​ไม่มี​สิทธิ์​รู้​ว่า​ข้า​เป็น​ใคร​ ​ส่วน​สาวงาม​ผู้​นี้​ ​ข้า​ขอ​แล้วกัน​”​ ​หรือ​เพราะ​สวมหน้ากาก​อยู่​เลย​ทำให้​น้ำเสียง​อัน​เย่อหยิ่ง​รู้สึก​ฟัง​ดู​แปลกหู​และ​ทุ้ม​ต่ำ​มากกว่า​เดิม​ ​ทว่า​กลับ​ยิ่ง​แตกต่าง​จาก​เสียง​ของ​หรง​จิ​่น​ใน​ยาม​ปกติ

มู่​ชิง​อี​ยื่นมือ​ไป​บิด​เอว​ใคร​บางคน​อย่าง​หัวเสีย​สื่อ​ว่า​ให้​วาง​นาง​ลง​ ​ถึงแม้​วิทยา​ยุทธ​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​จะ​ไม่ธรรมดา​ ​แต่​คน​มากมาย​ขนาด​นี้​ ​ต่อให้​หรง​จิ​่น​จะ​ฝีมือดี​แค่ไหน​ก็​คง​ไม่​อาจ​ต่อสู้​พลาง​อุ้ม​นาง​ไป​พร้อมกัน​แบบนี้​ได้​หรอก

หรง​จิ​่​นวาง​นาง​ลง​พร้อม​ยิ้ม​ตาหยี​ ​ทว่า​อีก​มือ​ยังคง​โอบ​เอวบาง​ของ​นาง​ไว้​ใน​อ้อมอก​ตน​พร้อม​มอง​มู่​หร​งอ​วี​้​ตรงหน้า​ที่​มีสี​หน้า​ดูไม่ได้​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​จากนั้น​หรง​จิ​่​นก​็​ยิ้ม​เอ่ย​เสียงต่ำ​ ​“​ชิง​ชิง​ ​ต้อง​กอด​ข้า​เอาไว้​ให้​แน่น​ล่ะ​”

“​ข้า​ไม่สน​ว่า​เจ้า​เป็น​ใคร​ ​ปล่อย​นาง​เสีย​ ​แล้ว​ข้า​จะ​ไม่เอา​เจ้า​ถึงตาย​”​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​เอ่ย​เสียงเย็น​เฉียบ

หรง​จิ​่น​ยิ้มเยาะ​อย่าง​ไม่พอใจ​ ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ขี้โม้​หน้าไม่อาย​ ​ลำพัง​แค่​ทหาร​ธรรมดา​อย่าง​พวก​เจ้า​ก็​คิด​จะ​ขวาง​ข้า​ได้​แล้ว​หรือ​ ​คน​งาม​ ​เจ้า​เลือก​เขา​หรือ​ข้า​กัน​แน่​”

มู่​ชิง​อีก​ลอก​ตา​ใส่​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ ​สำหรับ​หรง​จิ​่น​แล้ว​ ​นาง​มัก​แสดงท่าที​ไม่น่า​มอง​เช่นนี้​อยู่​บ่อยครั้ง​ ​จน​แม้แต่​นาง​เอง​ยัง​พลอย​ชิน​ไป​ด้วย​เลย

มู่​หร​งอ​วี​้​ยิ้ม​เย็นชา​เอ่ย​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ก็​อย่า​หาว่า​ข้า​ใจ​เหี้ยม​แล้วกัน​!​ ​จัดการ​!​”

หรง​จิ​่น​โบกมือ​ซ้าย​กลางอากาศ​ที​หนึ่ง​ ​“​เข็ม​พิษ​ดอก​สาลี่​ต้อง​พายุ​วรุณ​!​”

ถึงแม้​เข็ม​พิษ​ดอก​สาลี่​ต้อง​พายุ​วรุณ​จะ​ไม่​ปรากฏ​ให้​เห็น​ใน​ยุทธ​ภพ​นาน​แล้วแต่​กลับ​เล่าลือ​ตำนาน​เรื่อง​ของ​มัน​มาต​ลอด​ ​อีก​อย่างที่​โชคร้าย​กว่านั​้​นก​็​คือ​ลูกน้อง​เหล่านั้น​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​เกิน​ครึ่ง​เป็น​คนใน​ยุทธ​ภพ​ ​เพราะ​แม้แต่​คนที​่​มู่​หร​งอ​วี​้​เลี้ยงดู​มา​เอง​ก็​ถือว่า​เป็น​คนใน​ยุทธ​ภพ​ครึ่งหนึ่ง​แล้ว

หาก​ได้ยิน​เข็ม​พิษ​ดอก​สาลี่​ต้อง​พายุ​วรุณ​แล้ว​ไม่มี​ปฏิกิริยา​ใด​คง​เป็น​ประเภท​คน​ถึงคราว​ตาย​ไม่​ก็​โง่เขลา​ ​ทว่า​คน​เหล่านั้น​ใน​เรือน​ย่อม​ไม่ใช่​ทั้งสอง​ประเภท​นี้​ ​ดังนั้น​ปฏิกิริยา​แรก​คือ​รีบ​หลบ​ ​คราวนี้​เลย​ทำให้​หรง​จิ​่น​สบโอกาส​ ​เขา​โอบ​ตัว​มู่​ชิง​อี​ไว้​แล้ว​กระโดด​ขึ้นไป​บน​หลังคา​ราวกับ​อีกา​ตัว​หนึ่ง​ที่​บิน​หาย​วาบ​ไป​ด้านนอก​อย่างรวดเร็ว​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่ลืม​ทิ้ง​น้ำเสียง​ดูแคลน​โอหัง​ไว้​ด้วย​ ​“​ฮ่า​ๆ​ ​พวก​โง่​ ​พวก​เจ้า​คิด​ว่า​เข็ม​พิษ​ดอก​สาลี่​ต้อง​พายุ​วรุณ​เป็น​เข็มปัก​ผ้า​ที่​มี​ขาย​ตาม​ท้องตลาด​หรือ​อย่างไร​กัน​”

ครั้น​ทุกคน​ถูก​ปั่นหัว​เช่นนั้น​ก็​หน้า​เขียว​ทีม​่​วง​ที​อย่าง​เดือดดาล​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​กัดฟัน​เอ่ย​ ​“​ตาม​ไป​!​ ​ฆ่า​ทิ้ง​เสีย​!​”

“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

ถึงแม้​หรง​จิ​่น​จะ​มี​วิทยา​ยุทธ​เก่งกาจ​เพียงใด​ ​แต่​หาก​มี​อีก​คน​ติดสอยห้อยตาม​มาด​้วย​ย่อม​เคลื่อนไหว​ช้า​ลง​เป็นธรรมดา​ ​อีกทั้ง​มู่​หร​งอ​วี​้​เอง​ก็​เสีย​หวัด​เบี้ย​ดูแล​เหล่า​นัก​สู้​ยอด​ฝีมือ​นี้​มา​ไม่น้อย​จึง​ไม่ใช่​คน​ไร้ประโยชน์​ ​กระทั่ง​หรง​จิ​่น​ยัง​มองออก​ว่า​หลาย​คนใน​นั้น​มีลูก​ศิษย์​คนเก่ง​ของ​สำนัก​ชื่อดัง​ใน​ยุทธ​ภพ​ด้วย​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​แอบ​รวมพล​คนใน​ยุทธ​ภพ​มา​ได้ขนาด​นี้​ก็​ยิ่ง​ทำให้​เห็น​ว่า​เขา​มีใจ​ทะเยอทะยาน​มาก​แค่ไหน

“​พวกเขา​ตามมา​แล้ว​”​ ​มู่​ชิง​อี​ถูก​หรง​จิ​่​นอุ​้ม​ไว้​ใน​อ้อมอก​พลาง​ถูก​ลม​ยามค่ำคืน​ใน​ฤดูร้อน​ปะทะ​ใบหน้า​ ​มู่​ชิง​อี​มอง​ไป​ทาง​ด้านหลัง​พร้อม​บอก​เสียง​ขรึม

หรง​จิ​่น​ไม่สน​ใจ​แล้ว​ยิ้ม​ตาหยี​กล่าว​ ​“​ข้า​ไม่​คุ้นชิน​กับ​ทาง​นัก​ ​ตอนนี้​พวกเขา​ไม่​อยาก​ให้​เรา​กลับ​เข้า​เมือง​แน่นอน​”​ ​หาก​กลับ​ถึง​เมืองหลวง​ ​ต่อให้​คน​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​จะ​มีมาก​แค่ไหน​ก็​คง​จนปัญญา​จะ​จัดการ​กับ​พวกเขา​ได้​ ​เวลานี้​มู่​หร​งอ​วี​้​วาง​คน​ดัก​โจมตี​ระหว่างทาง​กลับ​เมืองหลวง​ไม่น้อย​ ​หรง​จิ​่น​เอง​ก็​ไม่ได้​คิด​จะ​กลับ​ตอนนี้​ ​หาก​พาชิง​ชิง​กลับ​ไป​ในเวลานี้​คง​ถูก​คน​เห็น​เข้า​แน่นอน

“​ชิง​ชิง​ ​เจ้า​ว่า​พวกเรา​ไป​ทาง​ไหน​ดี​”​ ​หรง​จิ​่น​ใช้​วิชา​ตัวเบา​พลาง​เอ่ย​ถาม​ ​เขา​ไม่​คุ้น​เส้นทาง​ละแวก​เมืองหลวง​เลย​จริงๆ​ ​มิเช่นนั้น​คง​ไม่​ถูก​คน​พวก​นั้น​ตามมา​เร็ว​ขนาด​นี้​ได้

มู่​ชิง​อี​เอ่ย​อย่าง​เอือมระอา​ ​“​ไป​ทาง​ไหน​ก็​สาย​ไป​แล้ว​ ​ด้านหน้า​มี​คน​อยู่​”

เบื้องหน้า​ไม่ใช่​แค่​มี​คน​โผล่​มา​เท่านั้น​ ​แต่​เขา​คือ​มู่​หร​งอ​วี​้​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​มู่​หร​งอ​วี​้​ถูก​หรง​จิ​่น​ยั่วโมโห​จน​ไฟ​โทสะ​ปะทุ​ขึ้น​มา​แล้ว​จริงๆ​ ​ใน​มือถือ​ดาบ​ยาว​ที่​เคย​ใช้​ฆ่า​คนใน​จวน​ซู่​เฉิง​โหว​มา​แล้ว​ไม่น้อย​ ​เขา​จับจ้อง​หรง​จิ​่น​และ​มู่​ชิง​อี​ที่​กำลัง​มุ่ง​มาทาง​นี้​ด้วย​สีหน้า​ดุดัน

หรง​จิ​่น​โอบ​มู่​ชิง​อี​ไว้​พลาง​ดิ่ง​ตัว​แตะ​พื้น​อย่างรวดเร็ว​ ​เลิก​คิ้ว​กวาดตา​มอง​มู่​หร​งอ​วี​้​ ​“​องค์​ชาย​หก​ไล่​ล่า​ตาม​เรา​ไม่​ปล่อย​ขนาด​นี้​ต้องการ​สิ่งใด​หรือ​”

มู่​หร​งอ​วี​้​ใช้​ดาบ​ยาว​ใน​มือ​ชี้หน้า​พร้อม​เอ่ย​เสียงเย็น​ชา​ ​“​ข้า​ไม่สน​ว่า​เจ้า​เป็น​ใคร​ ​แต่​ปล่อย​นาง​แล้ว​ยอมรับ​ความตาย​เสียเถิด​”​ ​หรง​จิ​่น​เอง​ได้ยิน​แล้วก็​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ข้า​เอง​ก็​อยาก​เห็น​เหมือนกัน​ว่า​ใคร​จะ​ตาย​กัน​แน่​!​”

มีด​เล็ก​เล่ม​หนึ่ง​ไหล​จาก​แขน​เสื้อ​ลงมา​อยู่​ใน​มือ​ของ​หรง​จิ​่น​ ​มีด​ของ​หรง​จิ​่น​ไม่ได้​หนา​ใหญ่​เหมือน​มีด​ทั่วไป​ ​แต่​เห็นได้ชัด​ว่า​บางเบา​และ​กะทัดรัด​มาก​ ​ภายใต้​แสง​คบเพลิง​ที่​สาดส่อง​ลงมา​ทำให้​มองเห็น​ลวดลาย​ดอกไม้​บน​ด้าม​ ​ทว่า​บน​คม​มีด​กลับ​มี​ไอ​เย็นยะเยือก​แผ่​จาก​แสง​สะท้อน​คม​ดาบสี​แดงสด​อย่าง​ปิด​ไว้​ไม่​มิด​ซึ่ง​ทำให้​ต่าง​รู้ดี​ว่า​มีด​เล่ม​นี้​ไม่ใช่​ของเล่น​ที่​ใครๆ​ ​จะ​เล่น​ด้วย​ได้